ไปเที่ยว ไปกินกันนะคะ ขอบคุณสำหรับเพื่อนๆทุกท่านที่แวะชมค่ะ
 
ไปและกลับโตเกียวด้วยสายการบินไทย 1-6 กันยายน ปี 2016 JAPAN

ค้างไว้นานเป็นเดือน เพิ่งจะมีเวลาทำบล๊อคเที่ยวบินไปโตเกียว
เดินทางเมื่อวันที่ 1-6 กันยายน ปี 2016 ไปช่วงดินฟ้าอากาศไม่ดี
ช่วงนี้สายการบินไทยถูกได้ราคา 18,000 บาทต่อคน
อีกทั้งมีการเลื่อนไฟล์ทบินอีกต่างหาก

ปรกติเราก็ชอบบินไฟล์ทตอนอีก 10 นาทีเที่ยงคืน
คือไฟล์ท TG 642 อยู่เป็นประจำ
รอบนี้กะว่าจะไปแบบชิลล์ๆเลยเลือกไฟล์ท TG 640 เครื่องออกประมาณสี่ทุ่ม
ไปถึงเช้าเหมือนกันประมาณ หกโมงเช้าเวลาท้องถิ่นของญี่ปุ่น
โต๋เต๋ไปเรื่อยเปื่อยซะหน่อย

พอวันไปถึงสนามบินวันที่ 1 กันยายน
ไฟล์ทบิน TG 640 กลับเลื่อนไปให้ออกเวลา 23:50 น.
นี่เวลาบินของ TG 642 นี่น่า.....

เราสงสัยเลยถามเจ้าหน้าที่ตรงเช็คอินที่เคาน์เตอร์ C
(เคาน์เตอร์ C เป็นเคาน์เตอร์เช็คอินของสายการบินไทย )
เช็คเฉพาะคนที่จะไปญี่ปุ่นและเกาหลี เท่านั้น

พนักงานบอกว่า ช่วงนี้ไม่ค่อยมีคนไป เขางดไฟล์ท TG 640
แล้วให้บินไปพร้อมกับไฟล์ท TG 642 เพราะคนที่ไปรวมบินไปด้วยกันได้
เวลาไปถึงสนามบินนาริตะ ก็ช้ากว่ากันชั่วโมงกว่าๆเอง
คนไม่มีจริงๆนะ ได้ครอบครองที่นอนเก้าอี้ที่นั่งบนเครื่องบิน 3 ที่นั่ง
นอนสบายทั้งขาไปและขากลับ เลยทีเดียวเชียว อิๆ




ป้าซิ่งไปญี่ปุ่นไม่กี่วัน เอารถมาจอดไว้ที่สนามบินสุวรรณภูมิดีกว่า
ไฟล์ทกลับเข้าไทยถึงไทยสี่ทุ่มครึ่ง ด้วย เลยตัดสินใจเอารถมาจอดค้าง
เสียค่าจอดวันละ 250 บาท
ปรกติจะกลับไฟล์ท TG 677 ประจำ มักจะเพิ่งพากับบริษัทแท๊กซี่ของ AOT
จากสุวรรณภูมิ มาแค่รามคำแหง ฝั่งมีนบุรี ใกล้ๆแค่นั้นเสีย 950 บาท
ช่วงกลางคืนนั่งแท๊กซี่ทั่วไปมันอันตรายเราเดินทางคนเดียวด้วย
จะใช้บริการของแท๊กซี่สนามบินมากกว่า บริการดี คนขับไม่ค่อยพูดมาก

ป้าซิ่งไม่ชอบคุยกับคนขับแท๊กซี่ทั่วไปน่ะ
ชอบถามโน้น ถามนี่ เหมือนไปสอบสัมภาษณ์
เราอยากนั่งรีแล๊กซ์ สบายๆมากกว่า

เที่ยวนี้เลยเอารถขับมาเอง จอดค้างไว้ เพราะคิดเสร็จสรรพ์
ทั้งขาไปสนามบิน และ ออกจากสนามบิน
ค่าเงินพอๆกัน แต่เลือกความสบายใจ








บอร์ดดิ้งพาส ด้านหน้าปรกติ แต่ด้านหลังเท่ห์ดีนะคะ มีตัวโฆษณาญี่ปุ่น
โหลดกระเป๋าไปใบเดียว

เช็คอินเสร็จ เซลฟี่ไปเรื่อยเปื่อย ไปคนเดียวชิลล์ๆเร้ย





ผ่านกองตรวจคนเข้าเมืองมาแล้ว ก็ถึงที่กวนมหาสมุทร



ซื้อของที่่ดิวตี้ฟรีแค่ ลิปสติก กับ อายไลเนอร์



รอบนี้บอกแล้วมาไฟล์ท TG 640 แต่ดันเล็ทเวลาไปกับ TG 642
จากแทนที่จะได้ออกสี่ทุ่ม ต้องออกเวลาเกือบเที่ยงคืน
เราเลยต้องใช้บัตรคิงส์เพาเวอร์ ไปนั่งเล้าจน์
ภายในเล้าจน์เงียบเชียว ไม่มีใครเลย
























นั่งในเล้าจน์เกือบจะหลับยาวแล้ว เดินดูของในดิวตี้ฟรี แก้เซ็งต่อดีกว่า
จากนั้นเดินไปรอขึ้นเครื่องประตู A5





เครื่องออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ ก็นอนยาว หลับสบายเลย
ที่นั่งเรา 3 ที่ติดกันไม่มีคน ครอบครองคนเดียวเลย
มีหลายคนค่ะ ที่ครอบครอง
ผู้โดยสารท่านอื่นๆก็นอนสบาย นอนยาวถึงเช้า
พนักงานบนเครื่องเรียกกินอาหารเช้า นั่นแหละถึงได้ตื่น
ว้าว.....เห็นฟูจิฝั่งซ้ายแล้วเหรอเนี่ย 555

ถึงสนามบินนาริตะแล้วเดินออกจากเครื่องบิน
ก็จะผ่านบริเวณเส้นทางเดิน กว่าจะไปถึงกองตรวจคนเข้าเมือง
ใช้เวลาเดินประมาณ 10 กว่านาที
ห้องน้ำจุดแรก คนเยอะๆ เพราะคนที่ไม่เคยมาญี่ปุ่น คงไม่รู้ว่า
ทางข้างหน้ามีห้องน้ำอีก 2-3 จุด
ป้าซิ่งจะไปใช้ห้องน้ำอันสุดท้าย ก่อนถึงทางเข้ากองตรวจคนเข้าเมืองประจำค่ะ







ระหว่างทางก็จะมี โซนทรานซีส สำหรับคนที่จะต่อเครื่องไประหว่างประเทศ
(ถ้าคนที่จะเดินทางภายในประเทศญี่ปุ่นจะต่อเครื่อง
ต้องผ่านตรงกองตรวจคนเข้าเมืองก่อน)









สิ้นสุดปลายทางนี้ก็จะถึงกองตรวจคนเข้าเมืองแล้ว



ผ่านกองตรวจคนเข้าเมืองเสร็จเรียบร้อย
ก็มารับสัมภาระที่สายพาน แล้วก็ผ่านศุลกากรตรวจกระเป๋า
ไม่มีของต้องสำแดงอะไร เราก็ผ่านฉลุย
ออกมาตรงจุดญาติมารอรับคน เราไม่มีใครรอ
เราเอากระเป๋าไปฝากแมวดำคาบลูก ส่งกลับบ้านดีกว่า
เดินมาทางขวามือ จะผ่านเช็คอินภายในประเทศของ
สายการบิน ANA และ สายการบิน Peach
สุดอาคารจะมีบริษัทส่งสัมภาระไปทั่วแคว้นแดนญี่ปุ่น












ได้เวลาทันรถไฟ Keisei lines Morning liner ด้วยดีใจจัง
ตั๋วราคา 1,440 yen ตั๋วไม่ได้จองที่นั่งบนรถไฟ
แต่เราต้องไปหาที่นั่งเอาเองตามที่นั่งที่ระบุไว้บนตั๋ว
ว่าอยู่โบกี้อะไร และที่นั่งเบอร์อะไร
ไม่งั้นระหว่างทางจะมีคนขึ้นมาใช้บริการ
ถ้าเรานั่งตรงไหนก็ได้ถือว่าผิด เพราะคนที่นั่งเขาก็จะใช้สิทธิ์ที่นั่งของเขานะคะ







แผนผังโบกี้บนรถไฟ มีติดอยู่ที่เบาะที่นั่ง ทุกที่นั่งค่ะ เช็คดูได้



========== วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ============

ได้เวลากลับเข้าไทยในวันที่ 6 กันยายนแล้ว
เดินทางออกจากบ้าน เพื่อไปสนามบินนาริตะ









ออกจากบ้านมาก็มาขึ้นรถไฟขวัญใจคนจนที่ สถานี Nippori
รถไฟไปสนามบินนาริตะ 1,030 yen
เดินทางไปสนามบินนาริตะ สายการบินไทย ลงที่เทอร์มินอล 1
ชอบไปก่อนเวลาประจำ ก่อนที่เคาน์เตอร์จะเปิดบริการเช็คอิน
หาอะไรกินก่อน ชอบร้านนี้สไตร์ญี่ปุ่น ก็ต้องกินอาหารญี่ปุ่นก่อนกลับ
เพราะอาหารที่ญี่ปุ่นอร่อย ราคาถูกกว่าเมืองไทย เราต้องกินให้คุ้ม อิๆ
ร้านนี้อยู่โซน Plaza mall หน้าร้านอยู่ใกล้ๆคือร้าน Sanrio หรือ คิตตี้









กินให้สากับใจกับข้าวปั้นหน้าหอยเม่น หรือ อูนิ
ที่เมืองไทยขายคู่ละ 700 บาท
เราอยู่ญี่ปุ่นแล้วตรงนี้อร่อยคู่ละ 450 yen หรือราคาเงินไทย 140 บาท
หน้ากุ้งหวาน กับ หน้าไข่ปลาแชลมอน ราคาถูกกว่าหน้าหอยเม่น ค่ะ



จานนี้คือแผ่นเต้าหู้ 100% เวลากินก็ราดโชว์ยู และ ละเลงด้วยวาซาบิ
อืมมมมม.......อร่อยอ่ะ



กินเสร็จไปเดินเล่น ดูร้านอัฟเดท เข้ามาใหม่ๆกันค่ะ









ดูแต่ตา ไม่ได้ซื้ออะไรซักอย่าง เพราะเราตั้งใจไปซื้อขนมข้างในดิวตี้ฟรี นั่นเอง
ได้เวลาเดินไปเช็คอินที่เคาน์เตอร์สายการบินไทยแล้วค่ะ



ขาเข้าญี่ปุ่นเอามาใบเดียว ขากลับเข้าไทย ของเยอะ โหลดไป 2 ใบ
แถมเที่ยวบินไม่ค่อยมีคน เลยขอเจ้าหน้าที่เช็คอิน สอบถามว่า
เที่ยวบินนี้ A 380 อยากนั่งชั้นบน พอจะมีที่นั่งว่างไหมคะ? (พูดภาษาญี่ปุ่นนะคะ)
อยากเปลี่ยนไปนั่งชั้นบนบ้าง เจ้าหน้าที่ก็บอกว่า เที่ยวนี้นั่งได้ค่ะ
เที่ยวหน้าจองมาแล้ว เปลี่ยนที่นั่งไม่ค่อยจะได้นะคะ
ก็แปลว่า ได้นั่งชั้นบนแล้ว ป้าซิ่งเลยขอเลือกแถบที่มี 2 คนนั่งค่ะ
เจ้าหน้าที่ก็โอเคร ค่ะ



จากนั้นก็ทำตามขั้นตอน ผ่านเซนเซอร์ และ ผ่านกองตรวจคนเข้าเมือง
หาขนมในดิวตี้ฟรี กลับไทย
ชอบขนมตรงโซนประตูขึ้นเครื่องบริเวณส่วนกลาง 43-46 มากเลย
ต้องซื้อ





มารอบนี้มีไอศครีม Cremia มีให้กินที่เทอร์มินอลด้วย เย้
ห้ามพลาดค่ะ



โซนนี้เมื่อก่อน ดูไม่ค่อยดี ได้ทำการปรับปรุงใหม่ ดีขึ้นมาก
มีโซนขนมที่ดูดีกว่าก่อนมากๆ มีเคาน์เตอร์คิดเงินที่แยกจากเคาน์เตอร์อาหาร













ชอบมากที่สุด ถูกมากด้วย แม๊คมารอน ของคิตตี้
แพ็คละ 800 เยน ห่อละอันแพ็คสวยเก๋ บรรจุ 80 อัน
คราวหน้าไปอีกวันที่ 15-22 ธันวาคม จะซื้อมาซัก 10 แพ็ค
เตรียมให้ของขวัญช่วงปีใหม่ได้เลย เย้!





ส่วนร้านนี้ ANA อยู่ไม่ไกล จากบริเวณประตู 43-46
มีช๊อคโกแล๊ตสด ROYCE ให้ซื้อ
ไม่ต้องไปซื้อร้าน Akihabara ตรงดิวตี้ฟรีแรกๆก็ได้นะคะ
เพราะคนเยอะมาก คิวจ่ายตังค์ยาวมากค่ะ





ได้เวลาขึ้นเครื่องกลับไทยแล้วค่ะ





นั่งชั้นบนที่นั่งแบบตรงที่มี 2 ที่นั่ง







ภายนอกหน้าต่างฝนทำท่าจะตก



ข้าวบนเครื่อง เลือกกิน ข้าวราดแกงเขียวหวาน



กินแล้วก็นอนไปครึ่งตัว หัวกับตูด ส่วนขาห้อยไว้
เพราะเราเลือกแบบ 2 ที่นั่งตรงปีกชั้นบน
บางคนก็นอนยาวเลย เพราะมีที่นั่ง 3-4 ที่
เพราะไม่ค่อยมีคนเดินทางช่วงเดือนกันยายน ช่วงมีมรสุม

ถึงสนามบินสุวรรณภูมิก็ไปรับรถที่จอดค้างไว้ 5 คืน
ก็จ่ายไปคืนละ 250 บาท แต่ทำไมจ่ายไป 1,300 กว่าๆก็ไม่รู้
หรือว่า เรามาเกินอีกครึ่งวันฝะ ช่างมันปะไร ขี้เกียจคิดแร๊ะ
เอาแค่กลับบ้านอย่างโรมานซ์ยามค่ำ รถไม่ค่อยมีบนถนนก็พอ
กลับเวลาห้าทุ่ม ถึงบ้านเกือบเที่ยงคืน





ไว้พบกันใหม่ ทริปต่อไปวันที่ 12-16 ตุลาคม ไปไต้หวัน ( Little Japan )
กลับจากไต้หวันแค่ 2 วัน ไปจันทบุรี 18-21 ตุลาคม นอนที่ Sand dunes
วันที่ 28 ตุลาคม ไปงานปาร์ตี้ Oktoberfest ที่โรงแรมแชงการีล่า อีก
เดือนนี้บุ๊คกิ้งเยอะมาก จ่ายมาก






Create Date : 02 ตุลาคม 2559
Last Update : 9 ตุลาคม 2559 12:43:57 น. 0 comments
Counter : 3010 Pageviews.
 
 

ป้าซิ่ง Naomichan
Location :
นนทบุรี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 70 คน [?]




........หลังไมค์ถึงป้าซิ่งค่ะ.........
[Add ป้าซิ่ง Naomichan's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com