ไปเที่ยว ไปกินกันนะคะ ขอบคุณสำหรับเพื่อนๆทุกท่านที่แวะชมค่ะ
 
ไปออนเซ็น และ Mt.Hakodate / Japan ( 22/June/2016)

มาถึงสถานีรถไฟฮาโกะดาเตะก็เกือบบ่ายโมงแล้ว
เที่ยวตลาดเช้าที่วายไปแล้ว แต่ก็เดินมาดูตลาดได้ทุกวันเพราะที่พักอยู่ใกล้
กินอาหารมื้อกลางวัน เสร็จสิ้น ก็มาทำ one day pass 600 yen
ซึ่งเป็นบัตรขูดวัน เดือน ปี ที่ต้องการนั่งรถรางเที่ยวเมืองฮาโกะดาเตะ

จากนั้นเราก็เดินไปเช็คอินกับโรงแรม TOTERA Hakodate Ekimae
ถึงห้องก็พักผ่อนนอนแป๊บ แล้วก็คิดว่า วันนี้ขึ้น Ropeway ขึ้น Mt.Hakodate
ขึ้นกระเช้าหรือเคเบิ้ลคาร์ ไปดูพระอาทิตย์ตกดินดีกว่า



แต่ก่อนที่ป้าซิ่งจะไปขึ้นเขาฮาโกะดาเตะ มันมีเวลาเกือบ 2 ชั่วโมงกว่า
เลยคิดไปออนเซ็นให้สบายเนื้อ สบายตัวก่อนดีกว่า

ตอนอยู่ที่สถานีรถไฟ มีให้ศึกษาว่า เมืองฮาโกดาเตะ มีไรบ้าง
เห็นมีออนเซ็นอยู่หลายที่เหมือนกัน แต่ทางสะดวกคือ
นั่งรถรางไปลงสุดสาย ที่ป้าย Yachigashira แล้วเดินขึ้นไป
ป้าซิ่งไม่รู้ว่านั่งรถรางสุดสายไปเจอะอะไร แต่อย่างไรคนเจอะคนญี่ปุ่น
ไปถามเขาเอาดาบหน้าก็ได้ว่ะ ว่าออนเซ็นย่านนี้มันอยู่ตรงไหน


เดินออกจากโรงแรมมานั่งรถรางที่ป้ายรถราง Hakodate ป้ายที่ 17
เป้าหมายของเราคือ ป้ายสิ้นสุดที่ Yachigashira ป้ายที่ 26
ก่อนขึ้นต้องสังเกตุที่หัวรถรางก่อนว่า ไปสิ้นสุดที่ใด
เพราะมีจุดสิ้นสุดอยู่ 2 ที่ คือ
ป้ายที่ 23 Hakodate Dock-mae และ
ป้ายที่ 26 Yachigashira
หรือ คุณอยากมาลงป้ายที่ 20 Jujigai เดินเล่นก่อนก็ได้ค่ะ
เพราะเป็นจุดก่อนแยกทาง ก็สามารถเปลี่ยนเส้นทางรถได้ตรงนี้เช่นกัน









รถรางมาสิ้นสุดที่ ป้าย Yachigashira
มีร้านสะดวกซื้อ Lawson อยู่ทางซ้ายมือของรถราง





ป้าซิ่งก็ข้ามถนน เดินตรงขึ้นไปค่ะ ไปตามหาออนเซ็นกันค่ะ





ผ่านมาตรงดอกไม้สวยๆข้างทาง ถ่ายรูปซะหน่อย
แต่ถ้าท่านใดมาตรงนี้ช่วงหน้าหนาว ดอกไม้ นี้คงไม่มีนะคะ
เพราะป้าซิ่งมาช่วงหน้าร้อน ดอกไม้นี้จะมีตามฤดูกาล









แถวนี้เป็นย่านผู้คนพักอาศัยมากกว่าที่จะเป็นแหล่งท่องเที่ยว
เลยไม่ค่อยมีคนเดินเท่าไหร่ จะถามใครดีเนี่ย
ก็เดินไปสักระยะล่ะค่ะ เจอะแม่ยังสาว กับ เด็กอายุซัก 4 ขวบ
เดินมาแล้ว ป้าซิ่งก็เลยเดินเข้าไปถาม
สวัสดีค่ะ ดิฉันมาเที่ยวฮาโกดาเตะเป็นครั้งแรก
" Konnichiwa watashi wa hashimete Hakodate kita kara "
ออนเซ็น อยู่ตรงไหนคะ " Onsen doko desu ka "
เธอก็บอกว่า อึม งั้นไปด้วยกันดีกว่า อยู่ใกล้ๆแค่นี้เอง
" Em... iki mashou ii gana... honto chikai desu yo..."

เราโอเครก็เดินไปด้วยกัน ก็คุยกันไปถึงรู้ว่า
เธอมารับลูกชายจากโรงเรียนอนุบาล
เราก็คุยพร้อมถ่ายรูปที่เห็นระหว่างทาง





พอถึงสถานที่ออนเซ็น เธอก็ชี้ว่าไปทางนั้นเลยค่ะ





สถานที่ออนเซ็น ดูเหมือนคลีนิคญี่ปุ่นเลยค่ะ
แห๋ม ดูไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ แต่พอเข้าไปสัมผัสแล้ว
มันก็คือออนเซ็น ที่มีขึ้นเพื่อหมู่บ้านในย่านนี้เท่านั้นมากว่า
เพราะป้าซิ่งเห็นแต่ละคน ถืออุปกรณ์กันมาหมด
หิ้วตะกร้ามากันเลย ภายในมีผ้าขนหนู แชมพู ครีมนวด
ครีมอาบน้ำ ผ้าขัดตัว ถ้ามีมาแล้วเสียค่าบริการแค่ 400 เยนเองค่ะ

ป้าซิ่งไม่มีอะไรติดตัวมาเลย ปรกติก็ไม่มีอุปกรณ์ต้องเอาไปใช้
เวลาเราต้องไปออนเซ็นอยู่แล้ว เพราะทางสถานที่เขามีราคา
และอุปกรณ์การอาบน้ำ สระผม ผ้าขนหนู มีพร้อมอยู่ข้างใน
แต่ที่นี่เขาพกอุปกรณ์มากันหมด พอเข้าไปข้างในทุกอย่างไม่มีจริงๆ
ตรงที่อาบน้ำไม่มีแชมพู ครีมนวด อะไรให้เลยค่ะ
เพราะป้าซิ่งถามพนักงานก่อนเข้าแล้ว เขาบอกไม่มีอะไร
ป้าซิ่งต้องหยอดเหรียญตามที่ต้องการก่อน
และจะมีตั๋วกระดาษออกมาจากเครื่อง
แล้วเอาตั๋วไปแลกของที่เคาน์เตอร์
อาหารก็มีนะคะ



ว่าจะเอา แชมพู ครีมนวด เจลอาบน้ำ และ ผ้าขนหนู
ป้าซิ่งก็เอาผืนเล็กพอแหละ ผืนใหญ่มันแพง 1,000 กว่าเยน
ใช้เสร็จเราจะพกกลับอะไรงี้ ไม่เอาง่ะ
เลยคิดว่า จะเสียค่าอุปกรณ์และ
ค่าลงออนเซ็นประมาณไม่เกิน 1,500 yenพอค่ะ
รวมแล้วหยอดเหรียญไป 1,080 yen



ถ่ายตรงทางเข้าออนเซ็นมาได้แค่นี้ค่ะ
ตรงทางเข้าออกห้องฝ่ายชาย และ ฝ่ายหญิง
บรรยากาศเหมือนโรงอาบน้ำจริงๆ
คนเยอะนะ ที่เห็นผู้หญิงก็ประมาณ 50 คนได้ค่ะ
ไม่มีต้นไม้ตกแต่งสวยๆหรือโขดหินแนวญี่ปุ่น
ข้างในมีแต่คอนกรีตบ่อน้ำแบบง่ายๆ

ป้าซิ่งมีเวลาไม่มากค่ะ แค่ใช้บริการไปชั่วโมงกว่านิดหน่อย
จริงๆชอบรีแล๊กซ์ในนี้นานหน่อย
แต่เวลาต่อไปคือต้องขึ้น Mt.Hakodate แล้ว

แต่งตัวเสร็จก็เดินไปที่อู่รถรางป้าย Yachigashira
เป้าหมายลงที่ป้าย Jujigai ไปแค่ 3 ป้ายก็ถึง







ต่อจากนั้น เดินขึ้นเนินตามลูกศรข้างทาง ที่แนะนำ
ว่า ไปทางขึ้นเคเบิ้ลคาร์ Mt.Hakodate













ถึงหน้าทางเข้าเคเบิ้ลคาร์แล้วค่ะ แต่ต้องเสียค่าผ่านประตูกันก่อน
มีใบแปะล่วงหน้าเสร็จ ว่าชั้นบนมีอาหาร ไอศครีม รออยู่นะจ๊ะ



บริเวณซื้อตั๋วขึ้นเคเบิ้ลคาร์ เป็นตู้หยอดเหรียญเอาบัตร Ropeway
อัตราราคามีป้ายบอกเสร็จเรียบร้อย
ป้าซิ่งซื้อแบบไปและกลับ ราคา 1,280 yen







ได้ตั๋วมาแล้ว ต้องเก็บไว้ให้ดีนะคะ
เพราะมันต้องใช้แตะสแกนทั้งขาขึ้นและขาลงค่ะ อย่าทำหาย







ได้บัตรแล้วขึ้นบันไดต่อไปตามแนวลูกศร
พอดีได้ยืนตรงหน้าทางเข้าคนแรกเลย





เอาบัตรแตะสแกนตรงนี้ค่ะ



เวลาที่เริ่มขึ้นไปดู 18:00





กลไกกำลังหมุนขึ้นไปกันแล้วค่ะ















ตรงนี้จุดแรกที่ลง แต่ก็สามารถขึ้นไปอีกชั้นต่อไปได้
โดยการเดินไปเรื่อยๆค่ะ
มีกล้องขยายให้ส่องดู เสียค่าส่อง 200 yen









ชั้นบนจะมีร้านอาหารอยู่ 2 ที่
มีเครื่องกดน้ำดื่มหยอดเหรียญ ร้านขายไอศครีม และ ของฝาก











ขึ้นมาก็พระอาทิตย์กำลังจะตกดิน
ชอบมาเวลานี้ เราจะได้เห็นเวลาที่ท้องฟ้ากำลังจะเปลี่ยนสี
ช่วงนี้ท้องฟ้ากำลังเป็นสีฟ้า ต่อไปก็เริ่มครึ้มๆ สิ้นสุดที่สีดำ
และภายใต้ท้องฟ้าสีดำ เบื้องล่างตามบ้านเรือนจะเปิดไฟฟ้า
ก็ดูสวยกันไปคนละแบบ

ซื้อของมาจากจุดซุปเปอร์มาเก็ตเล็กๆค่ะ



กาแฟลาเต้



ขนมผิงนุ่มๆกลิ่นกุหลาบ



ขนมเคี้ยวหนึบรสเมล่อนสีส้ม ซื้อไปฝากเพื่อนๆน้องๆ



ผ้าเช็ดหน้าหรือเช็ดมือดีคะ



ส่วนอาหาร รออีกหน่อยจะเข้าไปกินในห้องอาหารค่ะ
ตอนขึ้นมายังไม่หิว อยากกินตอนสักทุ่มหนึ่ง
ตอนนี้นั่งดื่มกาแฟลาเต้ไปพร้อมชมวิวทิวทัศน์ตรงหน้า
ใครนั่งด้านนอกต้องระวังพวกอีกาด้วยค่ะ
มันจะจ้องแล้วมาฉกของไปกิน











ห้องอาหาร ชั้นนี้เหมาะสำหรับคนมาเป็นกลุ่มถึงจะดีค่ะ
ถ่ายมาเฉพาะด้านนอกห้องอาหาร นะคะ





เมนูอาหารเยอะค่ะ









ไปอีกห้องอาหารอีกแห่ง อยู่ชั้นบน
ป้าซิ่งเลือกที่นี่เพราะมาคนเดียวก็สามารถใช้บริการได้
ถ้าสั่งอาหารจะต้องมีโต๊ะที่นั่งจองก่อน ไม่งั้นพนักงานไม่ให้สั่งอาหาร
แต่ถ้าใครสั่งดื่มก็สามารถซื้อได้เลย เพราะสามารถยืนดื่มได้



ป้าซิ่งไปที่เคาน์เตอร์แล้ว สั่งอาหารด้วย พนักงานเลยบอก
ให้ไปหาที่นั่งให้ได้ก่อน โดยเมื่อเห็นที่นั่งว่างข้างๆก็ถามคนในโต๊ะนั้นได้เลยว่า
ว่างไหม จะขอนั่งด้วยคน เพราะที่นี่ ไม่ต้องมาเป็นกลุ่มก็นั่งได้
เราก็เลยต้องเดินไปหาเก้าอี้ที่นั่งว่างๆ แล้วเอากระเป๋าวางจองไว้ค่ะ

ห้องอาหารชั้นนี้ อาหารมีไม่เยอะ มีเครื่องดื่มพอสมควร
และบริการด้วยตนเอง กินเสร็จเอาอุปกรณ์และขยะไปทิ้งตามที่ๆให้ไว้ทิ้ง









โต๊ะด้านหน้า จะเห็นวิวได้ถนัดเลยค่ะ
ป้าซิ่งนั่งไป กินไป ดื่มไป ดูวิวไป ตั้งแต่ท้องฟ้าเป็นสีฟ้า
และจนกระทั่งท้องฟ้าเป็นสีดำ เบื้องล่างบ้านเรือนเปิดไฟฟ้า
ป้าซิ่งชอบตอนท้องฟ้าสีฟ้าเข้มใกล้ๆจะดำมากกว่า

อาหารมาเสิร์ฟที่โต๊ะ คือ ปลาหมึกอบชีส อร่อยมากค่ะ
กับ น้ำเมล่อนโซดา สั่งอาหารตอนจ่ายจะได้ป้ายเลขตามอาหาร











เวลาไล่ๆเข้ามา ท้องฟ้าเปลี่ยนสี ไปเรื่อยๆ ค่ะ
มาคนเดียว ได้อารมณ์มองฟ้าเปลี่ยนสี ดีจริงๆเลยค่ะ
มันมีสมาธิ น่ะค่ะ








คนเริ่มเยอะ ก็คงต้องการอยู่ตรงด้านหน้าเหมือนเรา
ป้าซิ่งดูพอใจแล้ว เสียสละที่นั่งให้คนอื่นได้มาใช้ที่เราบ้างดีกว่า
นึกหัวอกเรา เราก็อยากดูอยู่ตรงหน้าเช่นกัน ก่อนนั้น




เดินออกมาชมบรรยากาศด้านนอกอีกรอบ
อุ๊ยยย อากาศหนาวเย็น แล้วค่ะ







ขาลงกระเช้า คนเพียบค่ะ คิวแน่นหนามาก
แต่ในขณะเดียวกัน คนที่สวนทางก็คือ คนที่กำลังเพิ่งมาดูทิวทัศน์ยามค่ำ



นั่งรถรางกลับที่พัก เกือบสามทุ่มค่ะ
เมืองฮาโกดาเตะเงียบมากตอนมืดค่ำ
ไม่เหมือนที่เมืองซัปโปโรที่ไปมา ช่วงสามทุ่มคึกคักดี



ไว้พรุ่งนี้ไปนั่งรถรางเที่ยวกันอีกนะคะ สนุกดีค่ะ
ยังมีสถานที่สำคัญของเมืองฮาโกดาเตะ รออยู่ จร้า




Create Date : 14 กรกฎาคม 2559
Last Update : 14 กรกฎาคม 2559 10:55:25 น. 0 comments
Counter : 1482 Pageviews.
 
 

ป้าซิ่ง Naomichan
Location :
นนทบุรี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 70 คน [?]




........หลังไมค์ถึงป้าซิ่งค่ะ.........
[Add ป้าซิ่ง Naomichan's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com