ไปเที่ยว ไปกินกันนะคะ ขอบคุณสำหรับเพื่อนๆทุกท่านที่แวะชมค่ะ
 
เที่ยวกรุงเบอร์ลิน วันที่ 9 กรกฎาคม ประเทศเยอรมัน (9-12 July 2013)

มาเที่ยวประเทศเยอรมัน 8 ครั้งแล้ว ฝันอยากมากรุงเบอร์ลินตั้งนาน
ปีนี้ได้สมหวังซักที พ่อบ้านจัดให้ตามฝันเลย ขอบคุณมากหลาย
เราไปกัน 2 คน ส่วนลูกโรบินมีแผลนไม่ต้องไปด้วย
เพราะพี่น้องฝ่ายพ่อบ้านขอไปเลี้ยง

พี่สาวคนที่สองเลยต้องลางานล่วงหน้า หลังจากที่เราวางแผนการณ์เที่ยว
อีกประเทศเราไปเนเธอร์แลนด์ น้องสาวของพ่อบ้านอยู่สวิสเซอร์แลนด์
ก็เตรียมลางานล่วงหน้าขอไปเลี้ยงที่สวิสเซอร์แลนด์เหมือนกันค่ะ

เอาล่ะ!! เราไปเบอร์ลินกันดีกว่า
เราเลือกสายการบิน Airberlin



เริ่มออกจากบ้าน ไปสนามบินสตุ๊ทการ์ท ใช้เวลาขับรถ 40 นาที
จากนั้นรถที่เราเช่ามาก็ต้องส่งคืน ไว้ขากลับค่อยมาเช่าใหม่
การส่งคืนก็ง่ายดายอะไรแบบนี้









มองเห็นโรงแรม Movenpick แต่ไกลชวนน้ำลายไหล
เช้านี้จะฟาดไอศครีมเป็นอาหารเช้า แต่รอไปเช็คอินก่อนดีกว่าค่ะ



เราเช็คอินด้วยตัวเอง ใช้รหัส E-ticket ใบยาวๆ Boarding pass
ก็จะออกมา แล้วเข้าไปที่เคาน์เตอร์ติดต่อเจ้าหน้าที่อีกครั้ง
เพื่อทำการส่งกระเป๋า มันสามารถลดย่นระบบไม่ต้องเข้าคิวนานได้ดี










=========================
ส่วนขาออกจากกรุงเบอร์ลิน มีระบบนี้ด้วยเช่นกัน แต่ต่อด้วย
เอากระเป๋าเช็คอินนั้นทำเองได้เลย ติดป้ายชื่อสายการบิน
ชื่อผู้โดยสาร บินไปไหน ไฟล์ทอะไร ระบุที่ป้ายมีกาวติดหูกระเป๋า
เหมือนที่พนักงานสายการบินตอนเช็คอินทำให้เรานั้นแหละ
เราทำเองหมดเลย จนกระเป๋าเลื่อนไหลลงไปเอง เราเห็นก็แปลกดี
ระบบเช็คอินที่ตู้แบบข้างบนที่สนามบินสุวรรณภูมิก็มี
แต่เรายังไม่เคยเห็นติดป้ายกระเป๋าด้วยตัวผู้โดยสารเอง
แล้วกดระบบเครื่องให้กระเป๋าไหลไปเองนี้ยังไม่เคยเห็นที่สุวรรณภูมิ
มีแต่พนักงานเช็คอินทำให้ค่ะ
==========================

ไปกินไอศครีมโมเวนพิคดีกว่า แค่เดินออกจากสนามบินแล้วข้ามถนน
หากท่านผู้อ่านบล๊อคอยากเห็นหน้าตาโรงแรมและไอศครีมเต็มรูปแบบ
ต้องเข้าไปในบล๊อค "กินเพื่ออยู่"
อันนี้บล๊อคเที่ยว ก็เลยอยากบอกว่าเราแวะไปทำอะไรบ้างก่อนไปเบอร์ลิน







เมืองสตุ๊ทการ์ท คือ สัญญลักษณ์"ม้า"ค่ะ
ส่วนกรุงเบอร์ลิน สัญญลักษณ์คือ "หมี" ค่ะ





คุณพ่อบ้านชอบกินช๊อคโกแล๊ตร้านนี้ แล้วก็ซื้อแต่รสชาติที่เห็นในภาพ





ผ่านดิวตี้ฟรี จริงๆมีร้านเยอะทั้งนอกและในหลังผ่านการเซ็นเซอร์สัมภาระ
แต่ถ่ายมานิดเดียว ขืนถ่ายหมดสนามบินต้องตกเครื่องแน่ๆค่ะ ฮี่ๆ











เพิ่งได้นั่งเครื่อง airberlin เป็นครั้งแรก ขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึกหน่อย
จากสตุ๊ทการ์ทไปกรุงเบอร์ลิน ใช้เวลาบินประมาณ 75 นาที
ประมาณว่า กรุงเทพฯ ไป เชียงใหม่ หรือ กรุงเทพฯ ไป ภูเก็ต




ส่วนมือถือเปิดโหมดบิน เพื่อไม่ให้มีผลกระทบกับคลื่นเครื่องมือของนักบิน
และระบบภายในตัวเครื่องบิน คือไม่ให้มีสายเรียกเข้าและออกแต่อย่างใด
แต่เราสามารถเล่นระบบต่างๆได้บนมือถือของเรา
โดยไม่มีผลกระทบ



ถึงสนามบินแล้วหาแท๊กซี่ไม่ยากเพราะมันเรียงคิว แท๊กซี่รถเบ็นซ์ด้วย
ไปโรงแรม Winters ย่าน Stadtmitte ถึงจุดหมายจ่ายไป 20 ยูโร






เกี่ยวกับโรงแรมนี้ จะทำบล๊อคถัดไปเพราะมีให้เพื่อนๆเก็บไว้เป็นข้อมูล
หากคุณๆมีโอกาสไปเที่ยวกรุงเบอร์ลิน
เพราะโรงแรมนี้ราคาไม่แพงมาก
ถือว่าเป็นแหล่งใกล้สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ
และการคมนาคมสะดวก อาหารการกินมากมายค่ะ

อากาศของวันนี้ที่กรุงเบอร์ลิน นับว่าเป็นอากาศกำลังดี
กลางวันจะร้อนนิดเดียว ตอนกลางคืนจะเย็นสบายๆ ค่ะ



ซื้อแพ็คเก็จทัวร์ เที่ยว 3 วัน รวมนั่งรถไฟ รถบัสตลอดที่อยู่ในเบอร์ลิน
ส่วนเที่ยวตามสถานที่สำคัญจ่ายเพิ่ม แต่ได้ส่วนลดพิเศษ









พอเช็คอินเข้าที่พัก ก็เช็คแผนที่กันก่อน
สรุปวันนี้เดินดูสถานที่สำคัญรอบๆนี้กันก่อน
พอดีออกจากโรงแรมตอนเที่ยงพอดี กินอาหารกลางวันกันดีกว่าค่ะ
แวะร้านนี้เลย MAREDO





















โรงแรมโรม




โบส์ถ






มหาวิทยาลัยกรุงเบอร์ลิน







ธนาคารด๊อยซ์หรือแบ็งค์ของเยอรมัน อยู่ในวิหาร



อนุสาวรีย์




ช่วงนี้ ทุกบริเวณใกล้ๆสถานที่สำคัญ กำลังก่อสร้างปรับปรุง
และ บางส่วนขยายเป็นบริเวณกว้าง ทัศนียภาพไม่ค่อยสวยบางเนื้อที่ค่ะ

ผ่านร้านขายของที่ระลึก แวะเข้าไปถ่ายรูปมาฝากเพื่อนๆชาวบล๊อค
เผื่อคุณมีโอกาสไปเที่ยวได้จับจองแต่เนิ่นๆ
สำหรับผู้ที่ยังไม่มีโอกาส
ถ้าเพื่อนของคุณไปเบอร์ลินก็ก๊อปรูปฝากซื้อได้นะคะ อิๆ
บางรูปมีราคาระบุเสร็จสรรพ์













โปสการ์ดพาโนราม่า



ร้านนีเวีย ตลับครีมน่าสนใจดีค่ะ
มีรูปลักษณ์ของสถานที่สำคัญของเบอร์ลิน







ขวดนี้เป็นครีมอาบน้ำ สีน้ำเงินสำหรับอาบตอนกลางคืน
เพราะจะมีส่วนผสมของน้ำมันเยอะ เพื่อทำให้ผิวชุ่มชื้น
ส่วนขวดสีขาว ไม่ได้ถ่ายรูปมาใช้สำหรับตอนเช้า กลางวัน
วิธีใช้อาบน้ำให้ทั่วตัว แล้วเทครีมลูบตามร่างกายให้ทั่ว จะไม่มีฟอง
จากนั้นใช้น้ำชำระร่างกายให้ทั่ว ส่วนตัวใช้สีน้ำเงิน
น่าจะใช้สำหรับฤดูหนาวจะดีกว่า เพราะรู้สึกได้ว่าผิวเราชุ่มชื่นจริง





นั่งพักเหนื่อยริมฟุตบาธก่อน ดื่มกาแฟได้ดูผู้คนเดินขวักไขว่ เพลินๆดี



ไปตรงที่ประตูบรานเดนบวร์ก(Brandenburger Gate )
ตรงนี้ผู้คนนักท่องเที่ยวพลุ่กผล่านมากๆ มีทั้งรถ, ทหารนาซีปลอม
ดูเหมือนจะเป็นศูนย์รวมการบริการด้วย
มีรถนั่งหลายแบบ ทั้งรถม้า, รถสามล้อ, แท๊กซี่, รถสองชั้น, รถดอน

















มุดลงไปที่สถานีรถไฟใต้ดิน จะเจอะกับประวัติศาสตร์ของประตูบรานฯ









เดินขึ้นมาดูต่อค่ะ







วันนี้ซ้อมเดินทางรถไฟใต้ดิน หรือ หลงทาง กันแน่หว่า??

ขึ้นตรงนี้ไปโผล่ตรงโน้น แต่เส้นทางเดียวกันเลยกลับที่พักถูก

















กลับเข้าที่พักประมาณห้าโมงเย็น สลบไปหลายชั่วโมง
ตื่นขึ้นมาอีกทีสามทุ่มกว่านิดๆ รีบอาบน้ำออกไปหาอะไรกิน
ว้าววว ๆ สี่ทุ่มถนนมืด ผู้คนหายไปไหนหมด
เรานึกว่าอยู่ตรงสถานที่สำคัญน่าจะมีคนเดินยันโต้รุ่งแบบถนนสีลมไรงี้
ร้านรวงก็ปิดไปเยอะ มีอยู่ไม่กี่ร้านที่เปิดบริการ
แวะกินร้านนี้เลยดีกว่า















สั่งอาหารมา 3 อย่าง สลัด ซุปเห็ด และ เนื้อปลาทอด









มีบาร์ Newton อันเลื่องชื่อ อยู่ใกล้ๆที่พัก
ก่อนกลับไปดริ้งกันต่อดีกว่า ค่ะ





จบแล้วค่ะ






Create Date : 02 สิงหาคม 2556
Last Update : 2 สิงหาคม 2556 9:50:49 น. 0 comments
Counter : 2601 Pageviews.
 
 

ป้าซิ่ง Naomichan
Location :
นนทบุรี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 70 คน [?]




........หลังไมค์ถึงป้าซิ่งค่ะ.........
[Add ป้าซิ่ง Naomichan's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com