ไปเที่ยว ไปกินกันนะคะ ขอบคุณสำหรับเพื่อนๆทุกท่านที่แวะชมค่ะ
 
นัดเพื่อนไม่ได้เจอะกันมา 17 ปีที่อัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ (17/July/2013)

ป้าซิ่งมีเพื่อนคนไทยที่อยู่แถวศาลโลกของฮอลล์แลนด์
มาทริปยุโรปเที่ยวนี้ใช้เชงเก้นไปหาเพื่อนที่เนเธอร์แลนด์ดีกว่า
เรานัดหมายกันโดยไลน์คุยหากันตลอด จนวันนี้เป็นวันนัด
จึงรู้สึกตื่นเต้นสุดๆ เพราะไม่ได้เจอะกันมานาน 17 ปี
เธอเป็นเพื่อนป้าซิ่งสมัยเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย
เรานัดเจอะกันตอนเย็นเพื่อดินเนอร์ร่วมกันทั้ง 4 คน

ตอนสิบโมงเช้า ออกมาดื่มกาแฟมาเกียโต้ แถวนี้ก็เพลินดี
ผู้คนขวักไขว่ ดูแล้วมันก็แตกต่างแถวบ้านเราเน้อ











ดื่มกาแฟเสร็จ ก็เดินเล่นอีกเส้นทาง



เส้นทางห้างสรรพสินค้าของอัมสเตอร์ดัม
ห้างฯนี้มีโชว์มาดามทุชโซ่









เห็นรถสองชั้นเที่ยวรอบเมืองตั้งแต่วันแรกแล้ว
วันนี้ว่างๆอยากนั่ง

พอไปที่เคาน์เตอร์ ดูแผนที่เดินรถแล้วเหมือนจะเคยเห็นสิ่งที่สำคัญมาบ้าง
เหมือนเสียค่าทัวร์นี้แพงไป ก็เลยไม่เอาดีกว่า เอาเงินมาซื้อของที่ระลึก











ดูของที่ระลึก พวกเราสนใจซื้อเสื้อยืดคอกลม ตัวละ 10 ยูโร
ลายด้านหน้าจะบ่งบอกความเป็นเนเธอร์แลนด์ และ สัญญลักษณ์
เข้าร้านนี้กันค่ะ











ซื้อเสร็จนั่งรถรางรอบเมืองเล่นดีกว่า
เพราะมีการ์ดนั่งได้ตลอด 3 วัน ขึ้น ลง รถรางกี่ครั้งก็ได้
เห็นสถานที่นี้น่าถ่ายรูป มีร้านอาหาร มีไอศครีมแม๊คนั่มด้วย
เลยลงที่สถานี Rambrandt Plijn







อาหารมื้อกลางวันกินแถวนี้ เป็นร้านอิตาเลี่ยน
กินสปาเก็ตตี้กันคนละจาน กับ สลัดร่วมกัน







จากนั้นก็เดินไปร้านแม๊คนั่ม ที่อยู่ใกล้ๆฝั่งเดียวกัน เพียงแค่เดิน 20 ก้าว









มี Topping ให้คุณเลือก 3 อย่าง พอเขย่าผสมกันเสร็จ
ก็จะมาโรยบนแท่งไอศครีมที่เคลือบช๊อคโกแล็ตแล้ว
ถ้าต้องการเห็นวิธีทำ และ Topping มีอะไรบ้างให้เข้าไป
ที่กลุ่มบล๊อค"กินเพื่ออยู่"นี้นะคะ มีอีกเยอะ

//www.bloggang.com/mainblog.php?id=naomichankuro-bara&month=25-07-2013&group=3&gblog=28



เสร็จแล้วจะเอามาวางไว้บนแป้น เพื่อเก็บภาพไอเดีย
การออกแบบไอศครีมที่เราเลือกลิ้มรสในวันนี้
ค่าแม๊คนั่มจ่ายไปแท่งละ 4 ยูโร

อิ่มสำเริง สำราญเสร็จกลับที่พักนอนเล่นดีกว่า
เด๊ว ต้องเจอะเพื่อนซี้เย็นนี้ นัดตอนหนึ่งทุ่มครึ่ง
กินอะไรดียังไม่รู้ ไว้เจอะกันก่อนค่อยตัดสินใจร่วมกัน

=============================

19:00 น.เพื่อนไลน์มาแล้วว่าเกือบจะถึงที่หมายคือโรงแรม NH ที่เราพัก
นัดรอที่ล๊อบบี้ของโรงแรม พอทุ่มครึ่งไลน์บอกว่าตอนนี้จอดรถอยู่
เดี๋ยวจะไปล๊อบบี้นะ เท่านั้นแร๊ะ เราก็ตื่นเต้นวุ้ย !!! ไม่ได้เจอะกันนาน
พอเห็นหน้ากัน มองหน้ากัน แล้วกระโดดเข้าใส่ สวมกอดกัน
ไม่รู้ว่าน้ำตาจากไหนมันไหลออกมามากมาย ไม่ยอมหยุดสักที
ส่วนพ่อบ้านของแต่ละฝ่ายก็มองเมียของแต่ละฝ่ายด้วยความตื้นตัน
แล้วทำความรู้จักและทักทายแนะนำตัวกันไป
พ่อบ้านของเพื่อนเป็นคนไทยที่อยู่เนเธอร์แลนด์มานาน 20 กว่าปีแล้ว
บล๊อคนี้ขอไม่โชว์หน้าพ่อบ้านของเพื่อนนะคะ
โชว์หน้าเพื่อนเราแทน 5555 กับ ภาพพ่อบ้านของป้าซิ่งคนเดิม แล้วกัน





พอพูดคุยถ่ายรูปกันเป็นที่ระลึก เราก็ต้องส่งรูปของพวกเราไปให้
เพื่อนนักเรียนรุ่นเรียนกับเราด้วย นัดหมายกันปีหน้าจัดงานสังสรรค์
อายุ 50 ปี พวกเรารอให้เพื่อนคนนี้มาเมืองไทยเมื่อไหร่
เตรียมงานกันล่วงหน้า

หลังจากนั้นดูทุกคนมีความสุข เราพร้อมที่จะกินมื้อดินเนอร์กันแล้ว
จะกินบาบิคิวดีหรือว่าจะกินอาหารไทยเพื่อเพื่อนที่อยู่ต่างแดนนานๆจะได้กินซักที
ส่วนเพื่อนก็ไม่รู้ว่าร้านไหนอร่อย ในที่สุด เราก็ตัดสินไปกินบาบิคิว

ช่วงระหว่างที่เดินไปร้านบาบิคิว มีคนเดินในเส้นทางเดียวกัน
ตามหลังมาเป็นผู้ชาย ได้ยินเราพูดภาษาไทยกัน
ก็เลยถามตามภาษาคนไทยด้วยกัน กันเป็นพักใหญ่เพราะเดินกันนาน
กว่าจะถึงร้าน คุยกันนานสรุปตอนท้ายว่าพวกเรากำลังหาร้านอร่อยๆกินกัน

แหะๆ สรุปผู้ชายคนนั้นเลยพาไปร้านอาหารไทย
ที่เขากำลังนัดเพื่อนกินกันที่ร้านนี้อยู่พอดี
พวกเราประเภทพวกใจง่าย เลยตามตูดเขาไปซะงั้น
( ทุกคนสรุปบาบิคิวไม่กินแล้ว)
แต่ดีใจมากที่เห็นหน้าตาร้านที่ดูทันสมัย และ รสชาติอาหารถูกปาก
เหมือนกินร้านอร่อยๆที่เมืองไทยเลยจริงๆ
เพราะร้านอาหารไทยบางร้านในต่างประเทศ ราคาแพงแต่ไม่อร่อย







ร้านมืดๆนิดนึง ภาพอาหารเลยไม่ค่อยสวย






หน้าร้านอาหารไทย Butterfly อยู่ใกล้แม่น้ำ



ขอขอบคุณเพื่อนของเราและพ่อบ้านของเพื่อน
ที่จ่ายค่าอาหารเลี้ยงเราและพ่อบ้านของเรานะจ๊ะ
และ ขอขอบคุณน้องผู้ชายคนนั้นที่แนะนำพามากินร้านอาหารไทยอร่อยๆ
ที่อยู่ย่านนี้ค่ะ ตามรูป เดินมาแถวๆสะพานข้ามแม่น้ำ



จากนั้นเราก็มาดื่มเบียร์และไวน์กันต่อที่บาร์
ตรงหน้าของเราก็คือตามรูปข้างบนนี้น่ะค่ะ
เพราะเรานั่งดื่มนอกร้าน เห็นปราสาทนี้กับลานสาธารณะกว้างๆอยู่ตรงข้าม
จากกันตอน 4 ทุ่ม เพราะเพื่อนต้องทำงานในวันรุ่งขึ้น
แถมต้องขับรถจากอัมสเตอร์ดัมกลับบ้านระยะเวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงอีก

ส่วนเราก็ต้องตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อเดินทางกลับเมืองสตุ๊ทการ์ท เช่นกัน

เช้าวันใหม่ 18 July 2013

ตื่นตีห้า แต่งตัวเสร็จ เช็คเอ๊าท์ออกจากโรงแรมตอนหกโมงเช้า
ลากกระเป๋าเดินทางใบหย่อม นั่งรถรางจากสถานี Spui
ไปลงที่ Amsterdam Centraal ไปที่รางรถไฟฟ้าช่องที่ 14
เป้าหมายไปสนามบิน



นั่งสายการบิน KLM เช็คอิน โหลดกระเป๋าด้วยตัวเองอีก เพิ่งทำครั้งแรก

วิธีทำ คือ เตรียมสัมภาระมาวางตรงที่ช่องโหลดกระเป๋า



มีโปรแกรมภาษาให้เลือก



มีรูปภาพประกอบที่เข้าใจง่าย
สุดท้ายจะมีใบกำกับชื่อเรา และ ติดแถบกาวที่หูกระเป๋าด้วยตัวเอง







มีแผ่นตะข่ายรูปโค้งเลื่อนลงมาปิดปากทางที่เราวางกระเป๋า
ที่จอทีวีด้านข้างก็จะบอกว่าเราทำเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว



เตรียมขึ้นเครื่องไปกับไฟล์ท KLM 1869 เพื่อไปลงที่ Stuttgart







ไว้พบกันใหม่เร็วๆนี้ ในหน้าบล๊อค" กินเพื่ออยู่"
วันอำลาญาติพี่น้องที่เยอรมนี ที่มีอะไรที่พิเศษๆรออยู่ในอนาคตค่ะ





Create Date : 16 สิงหาคม 2556
Last Update : 16 สิงหาคม 2556 17:13:17 น. 0 comments
Counter : 1696 Pageviews.
Share
 
 

ป้าซิ่ง Naomichan
Location :
นนทบุรี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 70 คน [?]

........หลังไมค์ถึงป้าซิ่งค่ะ.........
[Add ป้าซิ่ง Naomichan's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com