All Blog
แทกิล วันที่ 14 มกราคม 2555



“แน่นอน และทุกอย่างก็จะจบ ฮิ ๆ เมื่อถึงตอนนั้นพวกคนรวยทั้งหลายก็จะนอนหลับไม่สบาย ฮะ ๆ แคลองคิดถึงความสำเร็จ”

“แต่ว่า ข้ามีเรื่องนึง ที่อยากไปทำเป็นเรื่องแรก” อ๊บบ๊กพูดขึ้น

“เรื่องอะไร พี่ว่ามาเลย”

“เอ่อ คือว่า ข้าต้องไปช่วยคน ๆ นึงก่อน นางเป็นทาสอยู่ในบ้านอื่น”

“คืออย่างนี้ คนที่เราจะโจมตีวันนี้ เป็นคนที่ฝึกการสู้รบมาอย่างดี เขาคนเดียวสามารถตัดหัวทาสที่ได้รับการฝึก อย่างทหารตายไปห้าคน ถ้ากำจัดคนแบบนี้ได้ คนกลุ่มอื่น ๆ ก็จะมาเข้าร่วมกับเราด้วย”

“เอ่อ แต่สถานการณ์ของนางรอต่อไม่ได้แล้ว”

“คนที่ลำบากไม่ได้มีคนเดียว ถ้างานใหญ่สำเร็จเมื่อไหร่ คนที่ทุกข์ในตอนนี้ก็จะได้กลับกลาย มาเป็นนายในวันหน้า”

“เข้าใจแล้ว” อ๊บบ๊กพยักหน้าหงึกหงัก


“แต่ตอนนั้น..คนที่เจ้าคิดจะไปช่วยเป็นใครเหรอ?” กี๊ตบงถามอ๊บบ๊ก

“ก่อนหน้านี้มี เด็กผู้หญิงคนนึงเพิ่งถูกขายไปที่บ้านของเจ้า”

“มาบ้านข้า เด็ก ๆ ผู้หญิงที่เอามาแลกกับวัวนั่น เด็กคนนั้นน่ะเหรอ”

“ข้าทนดูต่อไปไม่ได้แล้ว ข้าจะจัดการเก็บเจ้านายของเจ้าก่อน”

“นายท่านของข้า อย่าฆ่านายท่านของข้าเลย เก็บไว้เป็นหน้าที่ข้า ให้ข้าฆ่า แต่ตอนนี้ ข้าจะแข็งตายอยู่แล้วเนี่ย ฮัดเช่ย”

หลังจากรอดพ้นจากพวกไล่ล่ามาได้แทกิล แทฮา และเฮวอนก็ออกเดินทางต่อ “ไปกันเถอะ ตอนกลางคืนแบบนี้เป็นเวลาหลบหนีที่ดีที่สุด” แทกิลบอก

“หนทางเราต่างกัน แยกกันเดินดีกว่า” แทฮาพูดขึ้น

“อย่าพูดอะไรพล่อย ๆ อย่างนั้นดีกว่า ถ้าองค์ชายอะไรนั่นถูกจับได้ พวกเราทุกคนก็จะถูกจับกันหมด ดังนั้นข้า ต้องพาพวกเจ้าไปหลบซ่อนในที่ที่ใครก็หาไม่เจอก่อน” แทกิลไม่เห็นด้วย

“ข้าไม่มีเหตุผลต้องทะเลาะกับเจ้า ถึงยังไงทางของเราก็ต่างกัน”

“ข้าก็ต้องไปแล้วเหมือนกัน” เฮวอนพูดขึ้นบ้าง

“เจ้าคิดจะไปที่ไหนล่ะ?”

“พี่ชายคงเป็นห่วงข้ามาก เมื่อกี้ข้าบอกกับท่านไปแล้ว ต้องให้พูดอีกครั้งหรือ?” เฮวอนตอบคำถามแทฮา

“เอาไว้คุยกันวันหลัง” แทกิลลุกออกไป

“การหลบไม่เผชิญหน้า ไม่สามารถแก้ปัญหาอะไรได้ ท่านเองก็คงรู้ดี และข้าก็เข้าใจมันดี ที่ผ่านมาเราแค่จงใจหนีเท่านั้น ไม่ใช่รึไง? ชื่อจริงของข้า ก็คือชื่อออนยอน”

“ข้าบอกแล้วว่าข้าไม่รู้จักคนชื่อนั้น”

“ที่ผ่านมาคนที่ชื่อ...ออนยอนได้ตายจากไปแล้ว และนางมีชีวิตใหม่ภายใต้ชื่อคิมเฮวอน ยังไงก็ถือว่าข้าหลอกลวงท่าน เพราะคำว่าทาส มันน่ากลัวเกินไป จนข้าไม่อาจจะพูดมันออกมาได้”

“ข้าไม่อยากจะฟังอีกแล้ว ข้าบอกแล้วไงว่าไม่รู้จักคนที่ชื่อออนยอน” แทฮาไม่ยอมรับความจริง

“แต่ตอนนี้ท่านรู้ความจริงแล้ว ข้าเคยบอกว่าข้ามีคนรัก ผู้ชายคนที่ แสนสูงส่งคนนั้นได้..เปลี่ยนโลกของข้าไปทั้งใบ โลกที่ไม่มีทั้งทาสและพวกชนชั้นสูงอยู่ เค้ามีความกล้าหาญ ที่จะเปลี่ยนโลกทั้งใบเพื่อผู้หญิงคนเดียว ข้าอาจเอื้อมเกินไปที่ไปรัก คนที่กล้าหาญแบบนั้น”

เฮวอนถอนหายใจอย่างหนักหน่วง “เข้าคิดว่าเค้าตายแล้ว แต่ก็ยังลืมเค้าไม่ลง จนกระทั่งได้มาพบกับท่าน เหตุผลที่ข้าแต่งกับท่าน ก็เพราะว่าท่านไม่ใช่พวกชนชั้นสูง ตอนนี้เมื่อท่านกลายเป็นชนชั้นสูง ข้าก็คงจำเป็นจะต้องไปจากท่าน ท่านคิดจะเปลี่ยนโลกใบนี้ หวังว่าโลกนั้น จะไม่ใช่โลกที่มี ชนชั้นไหนที่สามารถทรมานผู้คนด้วยกันได้อีก อย่าให้มีใครที่ต้องเป็นเหมือนกับข้าอีกเลย ตลอดเวลาที่ผ่านมา ข้าคงรบกวนท่านมากเกินไปแล้ว ขอให้องค์ชายน้อยทรงปลอดภัย” เฮวอนคิดจะไปจากแทฮา และคืนองค์ชายให้

“ไม่ใช่นายท่าน แต่เป็นสามีเจ้า” แทฮานึกถึงคำพูดที่เฮวอนเคยเรียกเขาว่านายท่าน แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจว่านางจะเป็นนางทาสมาก่อน

“ข้ากับพวกเจ้ากินข้าวหม้อเดียวกัน แต่ใจข้าก็ไม่เคยตกต่ำเหมือนพวกเจ้า ถ้าหากคนเราไม่เปลี่ยน โลกใบนี้ก็จะไม่เปลี่ยนไป ถ้าหากคนเราไม่เปลี่ยน โลกใบนี้ก็จะไม่เปลี่ยนไป เจ้าช่วยรอข้าได้มั้ย?” แทฮาถามนาง

“ให้ข้ารออะไรคะ?”

“ตอนนี้ประชาชนกำลังยากลำบาก ตัวข้าเองก็เคยคิด..ถึงโลกที่ไม่มีทาสอยู่เหมือนกันนะ”

“ท่านไม่ต้องเหนื่อยแบบนั้นหรอกค่ะ”

“ตัวข้าเองก็เคยเป็นทาส แต่กลับไม่ทันนึกถึงมัน ไม่ว่าจะใช้เวลาแค่ไหน เจ้าช่วยรอข้าหน่อยได้รึเปล่า รอข้ากลับมาหาเจ้าได้มั้ย เราสัญญากันแล้วนี่นาถ้าหากเจ้าจากไปอย่างนี้ ก็เท่ากับเจ้าไม่รักษาสัญญาแล้วสิ” แทฮาพยายามอ้อนวอนให้เฮวอนอยู่ต่อ

ขณะที่ซอลวุงและเสนาบดีกำลังพูดคุยกันอยู่ ลูกน้องของซอลวุงก็หน้าตื่นเข้ามารายงาน “ขออภัยด้วย ที่เข้ามาขัด”

“ไม่เป็นไร มีอะไรก็รายงานมา”

“ครับ ในขณะที่น้องสาวของคิมซองฮอนถูกจับกุม จู่ ๆ ก็ปรากฏคนสองคน บุกเข้ามาแล้วช่วยเหลือนางไปได้ครับ”

“แค่คนสองคนก็รับมือไม่ไหวแล้วเหรอ?”

“หลังจากตรวจสอบพบว่า เป็นทาสแซ่ซง กับ นักล่าทาสชื่ออีแทกิลครับ”

“สองคนนั้นมันอยู่ด้วยกันเหรอ?”

“ไม่ใช่แค่สองคนครับ เพราะยังมีผู้หญิงที่อุ้มเด็กอายุสี่ขวบด้วยครับ”

“รีบไปสั่งให้เตรียมมือธนู 5 คน เดินทางไปยอจู” ซอลวุงสั่งลูกน้อง เสนาบดีหันมามองหน้าซอลวุง “ข้าสั่งให้เจ้าไปซูวอนไง”

“ข้าคงไปซูวอนไม่ได้”

“เจ้าจะขัดคำสั่งของข้ารึ?”

“ข้าได้ยอมทิ้งตำแหน่งและชื่อเสียงไปแล้ว ต้องจบศึกครั้งนี้ ถึงจะทวงศักดิ์ศรีคืนมาได้” ซอลวุงยืนยัน ทำเอาเสนาบดีอึ้งไป

ซอลวุงอยากรู้เรื่องแทกิลจึงเรียกมือปราบโอมาสอบถาม

“เรื่องของอีแทกิล...ข้าน้อยก็พอจะทราบอยู่บ้างนิดหน่อย”

“ไหนว่ามาสิ”

“ครับ แต่ว่าร่างกาย ท่านแข็งแรงดีแล้วใช่มั้ยครับ คืนวันนั้นที่เห็นใต้เท้าล้มฟุบลงไป โชคดีที่ข้าน้อยไปเห็นเข้า ข้าตัวคนเดียวรีบแบกท่านไปหาท่านเสนาบดี แล้วท่านเสนาบดีก็บอก ให้ข้าทิ้งชื่อเอาไว้ เพราะเป็นคำสั่งข้าก็เลย แหะ ๆ ๆ จำต้องทิ้งชื่อไว้ เพราะว่าไม่กล้าขัดใต้เท้า”

“เล่าเรื่องของอีแทกิลมาได้แล้ว”

“ครับ ท่านเสนาบดีสบายดีมั้ยครับ ถ้าจะไปเยี่ยมก็ต้องดูสีหน้าคนรอบตัว แต่ถ้าไม่ไปก็รู้สึกผิดกับใต้เท้า เหอะ ๆ ๆ เอ่อ คืองี้ คือว่าไอ้เจ้าอีแทกิล มันก็พักอยู่แถว...”

มือปราบโอชิ่งให้ซอลวุงไปถามกับจิตรกรบังแทน “พวกเจ้ามีความสัมพันธ์ กับนักล่าทาส อีแทกิลใช่รึเปล่า?”

“โอ้ว ใต้เท้า ไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกันเลย ไม่มีความสัมพันธ์ มีแค่พวกข้า..”

“หนอยแน่ะ..นี่พวกเจ้ากล้าล้อข้าเล่นรึไงห๊ะ?”

“ถ้ามีอะไรติดคอ ท่านก็ถ่มน้ำลายออกไปก่อนสิ กับเจ้าอีแทกิลนั่น พวกเราไม่ได้สนิทอะไรกันแค่ เคยเดินผ่านกันก็เท่านั้นเอง”

ซอลวุงไปสอบถามทุกคนที่รู้จักกับแทกิล ทำให้ทุกคนต่างก็ไม่พอใจ

“มือปราบโอทำแบบนี้ มันเกินไปแล้วนะ” อึนเจพุดด้วยความโมโห

“หุบปากไปให้หมด เพราะอีแทกิลกับ เจ้าซงแทฮาหายตัวไปกลางลานประหาร คนที่หายตัวไปพร้อมกับพวกเค้าในวันนั้น จะถูกตั้งข้อหาสมรู้ร่วมคิด ถ้ายอมบอกที่อยู่จะมีรางวัลให้อย่างงาม แต่ถ้ากล้าโกหกแม้แต่คำเดียว พวกเจ้าทุกคนก็จะต้องถูกลงโทษอย่างหนักไปด้วย เข้าใจรึยัง?” ซอลวุงขู่




//www.dailynews.co.th



Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2555 13:45:46 น.
Counter : 249 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

มิกัง
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]