All Blog
แทกิล วันที่ 29 ธันวาคม 2554




เฮวอนและแทฮาพูดคุยกัน “ความจริงแล้ว ความจริงแล้วข้า..”

“ถ้ามันพูดลำบาก ก็เก็บเอาไว้ก่อนเถอะ ระหว่างสามีภรรยา การจะมีความลับต่อกันบ้าง ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกนี่”

“ที่ผ่านมา.. ข้าคอยเลือกที่จะหนี ในวันแต่งงานก็หนีมา และก่อนหน้านั้น...ต่อให้หนีได้โลกนี้ก็ไม่มีทางเปลี่ยนไปหรอก”

“แต่ว่าข้าไม่มีกำลัง..ที่จะต้านทานมันได้”

“แต่เรื่องนั้นมันไม่ใช่ปัญหาหรอก ขอแค่เรามีใจที่เด็ดเดี่ยว ก็จะเกิดพลัง และเกิดปัญญาขึ้นมาได้ ถ้าเราไม่เป็นคนไปเปลี่ยน โลกก็ไม่มีทางเปลี่ยนไปได้”

“เพราะท่านไม่รู้อดีตของข้าถึงได้พูดอย่างนี้”

“ข้าไม่รู้จักอดีตของเจ้า ก็ไม่ต่างกับ ที่เจ้าไม่รู้อดีตข้าไม่ใช่หรือ อีกอย่าง เราต่างก็ไม่รู้อนาคต ไม่ว่าอดีตจะเป็นยังไง ก็คงไม่สำคัญเท่าสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นวันพรุ่งนี้”

“นี่ท่าน..คิดอย่างนั้นจริง ๆ เหรอ?”

“เพราะเรื่องถูกผิดในอดีต..มันไม่สามารถใช้ตัดสินอนาคตได้” แทฮาบอก

“ก่อนที่ข้าจะเข้ามาช่วยพระนัดดา ทุกอย่างมันยังชัดเจนอยู่เลย แต่พอเจอปัญหาตรงหน้า ข้ากลับรู้สึกเหมือน กำลังหลงอยู่กลางม่านหมอก” แทฮาสีหน้าสับสน “พวกคนที่ปากบอกว่า อยากจะสร้างอนาคตแบบใหม่ ความจริงแล้วกลับดื้อรั้นเคยชินในรูปแบบเดิม ข้าแบกรับงานใหญ่เข้ามา ในขณะที่ยังไม่ทันตั้งตัว ความโง่เขลาครั้งนี้ ข้าต้องปิดบังเจ้า และพวกลูกน้องของข้า เรื่อยมาจนถึงวันนี้”

“นับแต่โบราณกาลมามีคำกล่าวว่าไม่มีใครที่โง่ ไปกว่าคนที่ไม่รู้ข้อเสียของตัวเอง แต่สำหรับข้าใต้เท้าเป็นคนที่สมบูรณ์แบบอย่างไร้ข้อบกพร่องค่ะ”

“ข้าไม่ใช่ใต้เท้า แต่เป็นสามีของเจ้า” แทฮาจ้องหน้าเฮวอน

เฮวอนตั้งใจจะเป็นแม่ให้กับองค์ชายรัช ทายาท จึงอุ้มองค์ชายไว้ข้างกายตลอดเวลา แม้แต่เข้าไปทำอาหารในครัวก็ยังอุ้มเข้าไปด้วย แทฮาก็ให้การช่วยเหลือนางเป็นอย่างดี

“ทำไมท่านถึงชอบเข้ามาในครัวล่ะ”

“ทำไมเจ้าถึงพา พระนัดดาเข้ามาในครัว”

“เมื่อคิดจะเป็นแม่ของพระองค์ ข้าก็ต้องไม่ห่างแม้แต่นาทีเดียว อีกอย่างพอทุกคนออกเดินทาง ก็เหลือแต่ข้าที่คอยดูแลพระองค์

การที่เฮวอนนำองค์รัชทายาทติดตัวตลอดเวลา สร้างความไม่พอใจให้กับเหล่าบัณฑิตมาก เพราะถือเป็นการลบหลู่พระเกียรติองค์ชาย

“นางพาองค์รัชทายาทเข้าไปในครัว รัชทา ยาทไม่ใช่สามัญชน นางทำแบบนี้เท่ากับหลู่พระเกียรติ”

“พอผ่านวันนี้ไปเรื่องทุกอย่างก็จะจบ เจ้าจะไม่พอใจอะไรก็อดทนอีกหน่อยเถอะ” บัณฑิตซอได้แต่เตือนเหล่าบัณฑิตให้ใจเย็น ๆ เข้าไว้ หากทุกอย่างเป็นไปตามแผน นางจะไม่มีวันได้เกี่ยวข้องกับองค์รัชทายาทอีกต่อไป

“หนาวออกอย่างนี้ ไม่รู้ว่าพ่อหมอม้าจะเป็นยังไงบ้างนะ?” พี่อึนเจเดินออกมาที่ชานเรือน เห็นอึนเจนั่งเหม่ออยู่

“ตอนอยู่ที่นี่พอถึงหน้าหนาว ต้องมาเก็บขี้ม้าก็หน้าเหยเกทุกที ตอนนี้กลายเป็นทาสจะสบายได้ยังไง” อึนเจมองออกไปในความมืด

“ข้าเคยเตือนเค้าแล้วว่าอย่าได้เข้าไปยุ่งกับพวกขุนนาง แต่สุดท้ายกลับต้องมาถูกมือปราบที่รู้จักกันทำร้ายเอาได้”

“โบราณว่าคบคนเยอะเรื่องมาก เภทภัยและอันตรายก็จะตามมา จงใจวางกับดักอย่างนี้ ใครบ้างจะไม่ตกลงไป” บังบอก“แต่เมื่อไหร่แม่ทัพเชจะกลับมาสักทีนะ เค้าคิดจะกลับมาหลังหน้าหนาวรึไง”

“ที่รัก คนแบบนั้นเจ้าจะไปคิดถึงเค้าทำไม หืม?” บังพูดยิ้ม ๆ

“ที่รัก ข้ากลายไปเป็นที่รักของเจ้าเมื่อไหร่” อึนเจหันมาโวย

“แหม ๆ ฮิ ๆ ข้าก็แค่เรียกเล่น ๆ ไม่ได้คิดอะไรหรอก ฮิ ๆๆ เจ้าลองดูนี่สิ” บังส่งภาพวาดให้ดู อึนเจทำเป็นไม่อยากดู แต่บังคะยั้นคะยอ “เจ้าดูหน่อยเถอะน่า ข้าวาดทั้งคืนจนไม่ได้นอนเลยนะ”

“เหอะ ข้าไม่อยากดูนี่” อึนเจยืนยันคำพูดเดิม พี่อึนเจจึงดึงภาพวาดมาดู “เฮ้อ เจ้านี่จริง ๆ เลย ว้าว สวยจังเลย”

อึนเจเริ่มสนใจ ดูบ้าง “รูปนี่ เป็นใครเหรอ”

“ปัดโธ่ ฮิ ๆๆ เห็นแล้วยังไม่รู้เหรอ ก็เป็นเจ้าน่ะสิ” บังยิ้ม ๆ

“นี่เป็น รูปข้าเหรอ” “แน่นอน ใช่เลย ฮิ ๆๆ” “นี่วาด เหมือนข้าจริงเหรอ?” อึนเจขมวดคิ้ว




//www.dailynews.co.th



Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2555 11:17:03 น.
Counter : 229 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

มิกัง
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]