All Blog
แทกิล วันที่ 3 มกราคม 2555



“ถ้าหากข้ายังคงยืนกรานแบบนี้ต่อไป พวกตำแหน่งสูงกว่าท่านก็จะมาสอบสวนข้าด้วยตัวของพวกเค้าเองใช่มั้ย ตอนนั้นข้าจะพูดความจริงทุกอย่าง ข้าจะบอกพวกเค้าว่ามือปราบโอ เป็น
คนสั่งให้ข้าปล่อยข่าว ท่านสั่งให้ข้าไปหาเรื่องใส่ร้ายท่านเสนาฯ เผื่อว่าท่านมือปราบจะได้ฉวยโอกาส หาผลประโยชน์จากเรื่องนี้ได้ไง”

“ไอ้เจ้านี่ ไอ้ตัวแสบ” มือปราบโออารมณ์เสียเมื่อถูกจีโฮตลบกลับ

“เวลานี้ข้ายังต้องคิดถึงคนอื่นอีกรึไง ท่านเคยเห็นใครที่อุตส่าห์เอาเสบียง ใส่ในห่อผ้าให้สะใภ้ที่หนีออกจากบ้านรึ?”

“จนป่านนี้แล้วยังไม่ให้ความร่วมมือดี ๆ อีก”

“ไม่เอาน่า มือปราบโอ อย่าทำอย่างนี้เลย วันนี้เราสองคน ไปดื่มกันดีกว่า ข้าจะเลี้ยงท่านในฐานะพี่ชาย ข้ามีความตั้งใจที่จะรับท่านเป็นพี่ชาย ของข้าจริง ๆ นะ”

“นี่ เจ้าคิดว่าข้าทำไป เพราะต้องการให้เจ้าเลี้ยงเหล้าเหรอ?”

“มือปราบโอ ข้าคือชอนจีโฮนะ ชอนจีโฮ ฮิ ๆ ฮะ ๆ ๆ ยังไง เราก็ต้องร่วมหัวจมท้ายกันต่อไป” จีโฮหัวเราะที่มือปราบโอทำอะไรตนเองไม่ได้

แทกิลและแทฮายังต่อสู้กันอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเกือบจะหมดแรงด้วยกันทั้งคู่ แต่แทกิลอาศัยเพลงดาบที่เหนือชั้นกว่า จึงจับตัวแทฮาไว้ได้

“เจ้ามีเหตุผลอะไร ถึงต้องคอยตามล่าข้าแบบนี้” แทฮาถาม พร้อมหอบด้วยความเหนื่อย

“ตามล่าทาสต้องมีเหตุผลด้วยรึ? มีทาสหลบหนีก็ต้องตามจับกลับมาสิ” แทกิลเหนื่อยไม่แพ้กัน

“แล้วเจ้าได้รับคำสั่งมาจากใคร”

“ข้าไม่รับคำสั่งใครหรอก ข้ายอมรับแต่เงิน”

“ถ้างั้นเจ้าก็ฆ่าข้าซะสิ”

“มันแน่อยู่แล้ว แต่ก่อนฆ่า เจ้าต้องบอกว่าพี่น้องของข้าอยู่ไหน?” แทกิลเค้นถาม

“ข้าไม่รู้เรื่อง”

“ข้าถึงต้องฆ่าเจ้าไงล่ะ” แทกิลยังมั่นใจว่าแทฮาเป็นคนทำร้ายวังซอนและแม่ทัพเช

พี่อึนเจพยายามจะให้บังลงเอยกับน้องสาว แต่เกิดความผิดพลาด เพราะคนที่บังเข้าหาและอุ้มออกมากลับกลายเป็นพี่ของอึนเจ

“ข้าชักจะทนไม่ไหวแล้ว ฮิ ๆ จะทำยังไงดีนะ ฮิ ๆ นี่สาวน้อยจ๋า...ฮิ ๆ ๆ ข้าไม่ได้ตั้งใจจะทำอย่างนี้หรอกนะ เจ้าก็คิดซะว่ามันเป็นบุพเพสันนิวาสก็แล้วกัน เจ้าเข้าใจใช่มั้ย”

บังยิ้มกริ่ม พี่อึนเจถูกเอาผ้าอุดปากไว้พยายามพูดแต่พูดไม่ออก มีแต่เสียงอู้อี้ บังยังพร่ำเพ้อต่อ “เดี๋ยว ๆ ๆ ๆ ข้าจะทำยังไงดี ฮะ ๆ เอาล่ะ ๆ มามะ ฮิ ๆ จากนี้ไปเจ้าก็..จะเป็นของข้าแล้ว บ้าเอ๊ย ข้าจะบ้าตาย อะไรกันเนี่ย”

บังตกใจเมื่อเห็นหน้าพี่อึนเจชัด ๆ พี่อึนเจโวยลั่น “ถุย ๆ กล้าเอาถุงเท้าเหม็น ๆ มายัดปากข้าเหรอ ถุย ๆ ๆ”

“เพิ่งใส่แค่สามวันเองนะ แต่นี่มันอะไรกันเนี่ย เจ้าไปอยู่ในห่อนี้ได้ยังไง?”

“ข้าวิ่งเข้าไปรึ แก้มัดให้ข้าเดี๋ยวนี้เลย เร็วเข้าสิ โอ๊ย แก่จนตาลายแล้วรึไงห๊า แค่นี้ก็แยกไม่ออกว่าเป็นใคร”

“ข้าไม่ได้ตั้งใจอุ้มผิดคนสักหน่อย ข้าก็ว่าอยู่ทำไมถึงหนักนัก” บังบ่น

“กับข้าวจัดไว้เต็มโต๊ะแค่หยิบช้อนตักก็ได้กิน แต่กลับคว่ำโต๊ะซะนี่”

“ก็ช้อนมันวางอยู่ข้างซ้ายหรือข้างขวา เจ้าก็น่าจะบอกข้าก่อนนี่ ไม่ยอมบอกข้าข้าจะไปรู้ได้ยังไง”

ระหว่างที่สองคนกำลังถกเถียงกันอยู่นั้น มือปราบโอและจีโฮก็มาเห็นเข้า “โอ๊ย นี่ใครกันเนี่ย นี่มันเถ้าแก่เนี้ยนี่ หึ”

“แล้วพวกเจ้า นี่” จีโฮทำหน้าแปลกใจที่เห็นสองคนอยู่ในบ้านเดียวกันในยามวิกาล

“มันไม่ใช่อย่างนั้น คือว่า ๆ นางมาเยี่ยมบ้านข้าแค่แป๊บเดียวเอง” บังพยายามปฏิเสธ

“เอ๊ะ เจ้าสองคนอยู่ที่บ้าน” มือปราบโอ หันไปมองหน้าจีโฮ ก่อนที่ทั้งสองคนจะหัวเราะเพราะเข้าใจว่าทั้งสองมีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งต่อกัน “เป็นค่ำคืนอันสวยงามจริง ๆ”

“ใน..คืนหิมะตกบรรยากาศอย่างนี้ พวกเจ้าสองคนอยู่ในบ้านด้วยกัน ฮะ ๆ”

“พูดอะไรบ้างสิ อธิบายเร็วเซ่” พี่อึนเจหันไปบอกบัง

บังอึกอักไม่รู้จะแก้ตัวอย่างไร “คือว่า ไม่มันไม่ใช่อย่างนั้นหรอก ข้าแค่ห่อนางกลับมาบ้าน

“หืม? ห่อกลับมา” จีโฮตาโต

“โอ้ จิตรกรบังทำเรื่องใหญ่ ทำเรื่องที่สุดยอดไปเลย ฮะ ๆ ๆ” มือปราบโอหัวเราะ เพราะยิ่งแก้ตัวก็ยิ่งยุ่งอีนุงตุงนัง

“ข้าไม่สนด้วยแล้ว” พี่อึนเจอารมณ์เสียเดินหนีไปเลย

“เถ้าแก่เนี้ย อะไรเนี่ย...มาช่วยกันอธิบายให้รู้เรื่องก่อนสิ”

“เจ้าก็ตามไปสิ” มือปราบโอรีบบอก บังรีบเดินตามไป

“ขอให้มีความสุขในยามค่ำคืนนะ”

“พูดอะไรของมันเนี่ย ฮิ ๆ ๆ มีความสุข มีความสุขสุด ๆ ฮิ ๆ ๆ ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ไปหาที่นั่งดื่มกันให้มีความสุขกับเค้าบ้างดีกว่า ฮิ ๆ ๆ”

“ข้าไม่มีเงินนี่”

“เฮ้ เงินจะเป็นปัญหาอะไรเล่า คิดมากน่า ข้าจะจัดการให้ พวกเค้าลงบัญชีในชื่อเจ้าเอง เอาล่ะ ไปได้แล้ว แหมเจ้าจิตรกรบัง ช่วยให้เถ้าแก่เนี้ยไม่ต้องขึ้นคานได้แล้วมั้ง ฮิๆ ๆ”

“สักวันนึง ไม่เจ้าก็ตายก็ข้าอยู่ เราต้องคิดบัญชีแค้นกันแน่นอน ฮิ ๆ ๆ”

กี๊ตบงนำชายแปลกหน้าเข้ามาในที่พักของตนเองและลูกน้อง กี๊ตบงรีบนั่งคุกเข่าเพราะรู้ฐานะที่ตนเองเป็นทาส แม้ชายแปลกหน้าจะบอกให้นั่งตามสบายก็ตาม

“นั่งอย่างนี้สบายที่สุดแล้ว นั่งอย่างนี้มาตลอดชีวิต เกิดมาก็คุกเข่ามาเลยล่ะ”

“ต่อไปพวกเราคงไม่จำเป็นที่จะต้องนั่งคุกเข่าให้กับใครอีกแล้วล่ะ ใครกำหนดว่ามีแต่ชนชั้นสูงที่นั่งขัดสมาธิได้”

“ว้าว ยอดไปเลย” ทุกคนดีใจ

กี๊ตบงตวาด “อะไร พวกเจ้าสมองเลอะเลือนไปแล้วรึไง ทำไมข้านั่งอย่างนี้สบายออก จริงนะ สบายจะตาย”

“แต่ข้ารู้สึกอึดอัดนี่นา”

กี๊ตบงนั่งไปได้สักพักก็ต้องร้องออกมา “โอย.. ขาชา”

แคลองมองหน้าชายแปลกหน้าก่อนจะพูดออกมา “เฮ้อ.. คือว่า.. ท่านดูแล้วหนุ่มกว่าที่คิดไว้เยอะ”

“ทำงานใหญ่ไม่ด้วยวัยหรอกครับ”

“ว้าว จำกัดวัย ไม่เสียทีที่มีความรู้” กี๊ตบงชื่นชม

“ชุมนุมคติพจน์ หรือว่าเมิ่งจื่อข้าเคยอ่านมาหมดแล้ว”

“โอ้ว งั้นไปสอบเป็นขุนนางได้เลยสิ โฮะ ๆ ๆ ๆ เป็นทาสนี่นา”

“เจ้านายของข้าเกิดล้มละลาย พ่อแม่พี่น้องของข้าเลยถูกจับแยกกันเอาไปขาย ตอนนั้นข้าถูก ส่งไปขายให้ครอบครัวนายจ้างใหม่ พอข้าได้เข้าไปอยู่ในบ้านเศรษฐี ก็ต้องแบกเกี้ยวนายน้อยไปส่ง สำนักศึกษาทุกวัน เลยได้เรียนจากการฟังอยู่ข้างห้องเรียน ที่นั่นอยู่หลายปีน่ะ” ชายแปลกหน้าบอก

“ถ้าอย่างนั้น ตอนนี้ท่านอยู่ที่ฮันยางรึเปล่า?” อ๊บบ๊กถามขึ้น

“ตอนนี้ข้าท่องไปทั่วประเทศ และกำลังรวบรวมทาสอย่างพวกเราให้มารวมตัวกัน”

“เอ่อ ถ้างั้น ที่อื่นก็มีทาสที่ใช้ปืนอย่างพวกเราด้วยใช่มั้ย?”

“แค่ในฮันยางก็มีกว่าร้อยคนแล้ว ถ้านับรวมกันทั้งหมดน่าจะได้ถึงสองพันกว่าคน” กี๊ตบง อ๊บบ๊กและพวกถึงกับแปลกใจ

“แต่จะเปลี่ยนแปลงประเทศ มีคนแค่นี้ยังน้อยเกินไป ถ้าเรารวบรวมทาสได้ถึงหนึ่งหมื่นคนเมื่อไหร่ ตอนนั้นเราจะบุกไปถล่มวังหลวงก็ยังได้”

“ขอบคุณท่านมาก ขอบขอบคุณ ขอบคุณท่านมาก”

“ท่านไม่ควรมาขอบคุณข้า ควรจะขอบคุณพี่น้องทุกคนต่างหาก อีกไม่นาน ชนชั้นสูงกับชนชั้นทาสจะต้องเกิดการสลับขั้วกันขึ้นแน่นอน”

“โอ้ ขอแค่มีโลกแบบนั้นได้จริง ตาแก่อย่างข้ายินดีอุทิศร่างแก่ ๆ ให้เป็นประโยชน์ก่อนตาย” แคลองบอก

“เราควรจะวางแผนที่ใหญ่กว่านั้น ต่อไปจะเป็นยุคที่เราจะได้เป็นพระราชากันบ้าง”

“เจ้าบอกข้ามาเถอะ เจ้าว่านางเคยเป็นทาสของเจ้า หมายความว่ายังไงหะ?” แทฮาตะโกนถาม แม้จะเพลี่ยงพล้ำต่อแทกิงก็ตาม

“เมื่อก่อนข้าก็เคยเป็นชนชั้นสูง เจ้าจะสนใจเรื่องนี้ไปทำไม?”

“ภรรยาของข้าเคยเป็นทาสงั้นเหรอ?”

“แล้วจะเป็นอะไรเล่า ไม่ว่านางจะเป็นชนชั้นสูงหรือชนชั้นต่ำแล้วยังไง ขอแค่คนสองคนมีความจริงใจกันก็พอ”

“แต่ไม่ว่าจะยังไง รากของคนก็ไม่มีทางเปลี่ยนได้”

“เพราะมีคนอย่างเจ้าเป็นขุนนาง โลกมันถึงได้เป็นแบบนี้ไงล่ะ ถ้าไม่มีคนอย่างเจ้าก็คง ไม่จำเป็นต้องมีคนอย่างข้าอยู่” แทกิลบอก

“แต่ พวกเราทุกคนจะได้เป็นพระราชา มันฟังแล้วออกจะ...” กี๊ตบงชอบใจ

“หมายถึงไม่ว่าพวกเราใครได้เป็นพระราชา คนทุกคนที่มีชีวิตอยู่ในโชซอนต้องเท่าเทียมกันเหมือนเป็นพระราชา” ชายแปลกหน้าบอก

“แหม..คนอย่างพวกเราเนี่ยนะจะไป..ฮะ ๆ”

“ไม่ต้องพูดถึงการเป็นพระราชาหรอก ขอแค่ได้ชีวิตแบบบัณฑิตก็พอใจแล้ว” ทาสพรรคพวกกี๊ตบงบอก

“ไม่ต้องบัณฑิตหรอก ขอแค่ได้ใช้ชีวิตเหมือนกับคนพวกข้าก็พอใจแล้ว” อีกคนเห็นด้วยเช่นกัน

“วันแบบนั้นใกล้มาถึงแล้ว และเพื่อเป้าหมายนั้น เราจึงต้องยิ่งเร่งมือ คนที่พวกท่านลอบโจมตีคราวก่อน ที่จริงแล้วเป็นคณะทูตของต้าชิง”

“บรรลัยแล้ว เราดันไปแหย่พวกหางเปียนั่น..” กี๊ตบงตกใจ

“ศัตรูของเราไม่ได้มีแต่ชนชั้นสูงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงต้าชิงที่ จ้องมาปอกลอกบ้านเมืองเราด้วย” ชายแปลกหน้าบอก

“ถึงข้าจะไม่รู้ว่าเจ้าเดินทางไปเกาะเชจูเพื่ออะไร แต่ท้ายที่สุด เจ้าก็ยังอยากจะกลับไปอยู่ตำแหน่งเดิม คงต้องการแค่นี้สินะ เจ้าก็แค่อยากจะกลับไปใช้ชีวิตที่รุ่งโรจน์เหมือนเมื่อก่อน” แทกิลพูดกับแทฮา

“เจ้าคู่ควรจะพูดคำนี้กับข้าเหรอ ถึงปากจะบอกว่าเจ้าตามล่าทาสเพื่อรักษาระบอบสังคม แต่ถึงยังไงก็ต้องเคยทำให้ประชาชนบริสุทธิ์ต้องเดือดร้อน”




//www.dailynews.co.th



Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2555 13:32:30 น.
Counter : 286 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

มิกัง
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]