All Blog
แทกิล วันที่ 17 มกราคม 2555



แทกิลและแทฮาและเฮวอนมาจนถึงเขาวอรัก และดิ่งไปหาหูเดียว

“แม่ทัพ อ้า..พี่หูเดียว ฮะ ๆ”

“แทกิล ฮ่า ๆ ๆ ๆ”

“แทกิลมาที่นี่แล้ว”

“ลูกพี่มาแล้ว โอ้ย ๆ ๆ”

“มา ค่อย ๆ เดิน”

“ข้าว่าแล้วว่าเค้าต้องมา”

“เฮ้อ เจ้าหูเดียว ไม่เจอกันตั้งนาน”

“โอ้ย ท่านลูกพี่แทกิล ข้าคิดถึงเจ้าจะแย่อยู่แล้ว”

“คิดถึงข้าทำไม?”

“ก็หูเจ้าไงล่ะ ก็จะตัดหูเจ้าไง” หูเดียวประชดเพราะยังแค้นใจแทกิลไม่หาย

“ก็ตัดซะวันนี้เลย จะเอาข้างซ้ายหรือขวาล่ะ”

“ได้ทั้งนั้นแหละ”

“ว้าว พี่ใหญ่ของข้านี่โลภจริง ๆ” แทกิลหัวเราะ

“ฮิ ๆ ชีวิตของคนเรา ครึ่งนึงก็คือความโลภ อีกครึ่งชีวิตก็โลภเหมือนกัน”

“ย้าก พี่ใหญ่เท่ห์มาก ฮะ ๆ ๆ แล้วจะตัดเมื่อไหร่ จะตัดข้างไหนดีล่ะ?”

“ฮะ ๆ ๆ ดี ๆ ๆ งั้นตัดเดี๋ยวนี้เลย”

หูเดียวทำเป็นพูดจาสนิทสนม แต่ที่จริงยังแค้นแทกิลอยู่

หูเดียวซัดหมัดใส่แทกิลไม่ยั้ง ทั้งสองต่อสู้กันอย่างไม่ยอมกัน จนกระทั่งแทกิลพลาดท่า หูเดียวซัดแทกิลจนสะบักสะบอม หูเดียวหัวเราะอย่างสะใจ

“ทำไมต้อนรับกันแบบนี้ล่ะ?” แทฮาถามตรง ๆ

“อ้อ นั่นสิ ๆ ๆ แต่ว่าเจ้า...เป็นใครเหรอ?”

“แล้วเจ้ามีชื่อว่าอะไรล่ะ?” แทฮาถามกลับ ทำให้หูเดียวไม่พอใจ

“เฮ้อ พูดจาไร้มารยาทแฮะ ท่าทางจะเป็นคนที่เลือดร้อนไม่เบาด้วย นี่ไอ้หนู ถือดาบใหญ่ไม่ได้แปลว่าเก่งหรอกนะ ฮะ ๆ ๆ”

หูเดียวซัดหมัดเข้าใส่แทฮา แทกิลเห็นท่าไม่ดีจึงเข้าไปห้าม “เค้าเป็นพี่ชายข้า ชื่อพี่หูเดียว ว้าว แก่ลงไปเยอะเลยนี่ สู้เมื่อก่อนก็ไม่ได้ น้ำหนักหมัดก็เบาลงไปตั้งเยอะนะ”

“เจ้าเองก็อึดน้อยกว่าเดิมตั้งเยอะนี่”

“บอกหน่อยสิว่า พวกเจ้าสองคนเป็นอะไรกัน” แทฮาถามขึ้น

“มันต้องเป็นความสัมพันธ์ที่ดีสิ พอพี่ใหญ่ข้าตายเมื่อไหร่ ข้าตกลงกันแล้วว่าจะเป็นคนตอกตะปูโลงให้เค้าด้วยมือข้าเอง” แทกิลบอก

“ยามเกิดมีลำดับก่อนหลัง แต่ยามตายมันไม่มีลำดับเว้ย”

“ช่างมันเถอะ หาห้องให้พวกเค้าด้วย ช่วยจุดเตาผิงให้อุ่น ๆ รอไว้เลยนะ แล้วก็ย่างไก่มาสักตัว แล้วก็จับหมูป่ามาสักตัวด้วย ฮะ ๆ ๆ”

หูเดียวหัวเราะชอบใจ “ฮะ ๆ ๆ ได้เลย ๆ ๆ ตัดหูเจ้าก่อนค่อยว่ากัน”

“เรื่องของหูน่ะ ข้าไม่ควรทำแบบนั้น ตอนแรกคิดจะตัดออกมาทั้งหัว แต่มีดมันดันเบี้ยวไปโดนหู ก็เลยกลายเป็นแบบนี้ อย่าว่ากันนะ”

“จะเป็นความผิดเจ้าได้ยังไง ข้าดันไม่ยอมสอนเจ้าใช้มีด เป็นความผิดของข้า”

“เอาเป็นว่าบุญคุณความแค้น มันผูกกันจนเป็นปมก้อนโตไปแล้ว อย่ามัวไปเสียเวลา
แก้มันให้เหนื่อยแรงเลย ใช้ชีวิตบนโลกบ้า ๆ ให้สนุกเถอะ อากาศหนาวเข้าไปข้างในกันดี
กว่า”

“ทำไมถึงหน้าหงิกเหมือนกินขี้อย่างนั้นล่ะ แม่ทาสสาวที่ชื่อออนยอนหรืออึนยอน จนป่านนี้ยังตามหานางอยู่เหรอ?” หูเดียวพูดขึ้น ทำให้แทฮาและเฮวอนถึงกับอึ้งไป เพราะหูเดียวไม่รู้ว่าออนยอนและเฮวอนเป็นคน ๆ เดียวกัน

แทกิลต้องหัวเราะกลบเกลื่อน “ฮะ ๆ ๆ นี่ เจ้าหูเดียว ข้าโง่เหรอ ตามหาผู้หญิงอย่างนั้นจะได้สักกี่ตังค์”

“คนเราเวลาหลงก็จะทำให้จิตใจว้าวุ่น จงตัดใจซะ กลับมาอยู่กับพี่ดีกว่า ทาสสาวนั่น คงถูกใครหิ้วไปอยู่ไปดูแลให้แล้วล่ะ”

“ลูกพี่เรามาวัดฝีมือกันหน่อยมั้ย หูข้างที่เหลือข้าจะส่งมันไปทิ้งเอง”

“ฟังแล้วน่าดีใจกว่าได้ลูกสะใภ้ ที่หนีไปกลับมาซะอีก”

แม่ทัพเชและวังซอนวิ่งเข้ามาหาแทกิล อย่างรวดเร็ว ทั้งสามดีใจมากที่รู้ว่าต่างคนต่างมีชีวิตอยู่ และได้พบกันอีกครั้ง

“ลูกพี่”

“พวกข้าคิดถึงเจ้า” แม่ทัพเชยิ้มให้

“ฮือ ๆ ๆ ลูกพี่” วังซอนร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ แต่วังซอนถึงกับอึ้ง เมื่อหันไปเห็นเฮวอน “โอ๊ะ ๆ ๆ คนนี้มัน...นี่ ๆ ๆ นั่น ๆ ๆ ๆ หน้าตา หน้าตาแบบนั้น ลูกพี่ นั่นนาง...ลูกพี่”

แทฮาและเฮวอนถูกเชื้อเชิญไปที่ห้องพัก แทฮามองไปรอบ ๆ อย่างสังเกตแล้วก็เอ่ยขึ้น “ลักษณะภูมิประเทศปิดโดยธรรมชาติ ข้าเข้าใจแล้วว่าทำไมเค้าถึงให้เรามาที่นี่”

“ท่านคิดจะอยู่ที่นี่ไปอีกนานเท่าไหร่หรือคะ?”

“ต้องรีบไปเร็วที่สุด”

“ตอนนี้ท่านน่าจะบอกกับข้าได้แล้วใช่มั้ย ว่าทำไมท่านถึงได้กลับมาพร้อมกับเค้า”

“พวกเราเข้าใจผิดกัน แต่ก็คลี่คลายแล้ว เรื่องมันมีแค่นี้” แทฮาพูดตัดบท

ด้านหูเดียว พาแทกิลมาที่ห้องพัก “นี่เจ้ามากินฟรีอยู่ฟรีจนติดแล้วรึไง?”

“ถือซะว่าทำบุญทำทานอีกหน่อยจะได้ขึ้นสวรรค์ เอาเป็นว่าจากนี้ไปคงไม่มีใครมาเพิ่มอีกแล้วล่ะ”

“อา ได้เจอเจ้านักฆ่าซุงเรมุนบ้างมั้ย?”

“เจ้านักฆ่าซุงเรมุนนั่น มันไปบวชเป็นพระอยู่ในวัดแล้ว” แทกิลบอก

“ดีแล้วล่ะ ๆ เจ้าหมอนั่นยิ่งอยู่ในโลกโลกีย์นานเท่าไหร่ โลกก็ยิ่งวุ่นวายเท่านั้น ชอนจีโฮล่ะ”

“ไอ้หมอนั่นก็เบื่อจนจากไปไกลโพ้นแล้ว ไปแล้ว”

“หึ ๆ ๆ โบราณว่าตัวร้ายมักจะอายุยืน ช่างเป็นคำพูดที่พูดไม่ผิดเลย งั้นต่อไปก็เหลือแค่เราสองคนน่ะสิ”

“ใครว่าล่ะ เหลือข้าแค่คนเดียวหรอก ก็พี่หนีจากฮันยางมาตั้งแปดร้อยปีก่อนแล้วนี่”

“ทำไมข้าถึงต้องหนีมาจากฮันยาง เจ้ายังจำได้มั้ยแทกิล วันที่หิมะตกหนัก เป็นหน้าหนาวที่...”

“หน้าร้อนต่างหาก” แทกิลแย้ง

“อ้า ๆ ๆ นั่นสินะ ๆ ๆ ฮะ ๆ ๆ หน้าร้อน วันที่แสนร้อน เราสู้กันใต้ต้นซาง”

“ในป่าไผ่ที่มีลมพัดโชยอ่อน ๆ เอาเป็นว่าจำเรื่องพวกนั้นไป ก็รังแต่จะทำให้พี่ปวดแสบปวดร้อนใจเปล่า ๆ ที่นี่เหรอ?”

“ป่าไผ่เหรอ?” หูเดียวพึมพำ

“ที่เนี่ยเหรอบ้านพี่” แทกิลมองไปรอบ ๆ

“จะให้แทกิลของเราอยู่ไหนดี ข้าจัดโกดังตรงนั้นให้อยู่ดีมั้ย?”

“ไม่ต้องหรอก ที่นี่ไม่เลวแค่ชั่วคราวข้าอยู่ที่นี่ละ”




//www.dailynews.co.th



Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2555 13:53:00 น.
Counter : 239 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

มิกัง
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]