The power of an authentic movement lies in the fact that
it originates in naming and claiming one's identity and integrity
-- rather than accusing one's "enemies" of lacking the same.
- Parker J. Palmer, The Courage to Teach
Group Blog
 
All blogs
 
รวมมิตรคอมเมนต์หนังสือ (ขนาดสั้น)

พยายามเรียงตามลำดับเวลาที่อ่าน แต่บอกไม่ได้ว่าแม่นหรือเปล่า ส่วนที่ว่าทำไมถึงเป็นหนังสือชื่อนี้ ๆ ขอบอกตามตรงว่าเพราะเจอหนังสืออะไรน่าสนใจในร้านมือสองก็ได้หนังสือเล่มนั้น มันเลยปนกันทั้งเก่าทั้งใหม่ ทั้งมีชื่อเสียงทั้งไม่มีชื่อเสียง และทั้งคุ้นเคยทั้งไม่คุ้นเคย...แบบนี้แล

- The No.1 Ladies' Detective Agency: Alexander McCall Smith

เป็นชุดนักสืบหญิงแห่งบอตสวาน่า แอฟริกา เล่มแรกที่อ่านเพราะโปรเฟสเซอร์บอกให้อ่านสำหรับถกในชั่วโมงว่า "อะไรคือเบสเซลเลอร์" หลังจากนั้นก็เลยอ่านติดต่อมาอีกประมาณห้าเล่ม แล้วจึงได้เลิกไป รู้สึกว่าตอนนี้จะมีเจ็ดแปดเล่มแล้วมั้ง

ตามความเห็นส่วนตัว เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่อง "นักสืบ" แต่เป็นเรื่องในชีวิตประจำวันของคุณป้าน่ารักชื่อ Mma Ramotswe (Mma แปลว่า Mrs. ในภาษาอังกฤษ) เรื่องสืบ ๆ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องในชีวิตประจำวัน อาศัยคอมมอนเซนต์ช่วยก็แก้ไขได้ไม่ยาก ส่วนตัวชอบสำนวนการเขียนและวิธีเล่าเรื่องมาก ๆ เพราะมัน "ง่ายงาม" ตัวละครมีความเชื่ออย่างเรียบง่าย แต่ก็มีความลึกซึ้งในฐานะมนุษย์ เรียกว่าอ่านเอาสบายใจมากกว่าอ่านเอาความตื่นเต้นแบบนักสืบ (มันเป็น slice of life ที่ปลอมตัวเป็น detective)

เล่มที่ชอบที่สุดคือเล่มสาม Morality for Beautiful Girls ส่วนที่เลิกอ่านไป เพราะพอถึงเล่มหลัง ๆ "ง่ายงาม" มันกลายเป็น "ยังง่ายงามอยู่แต่หาเนื้อเรื่องไม่เจอแล้ว" คือว่าอ่านเรื่องที่ไม่มีเรื่องบางทีมันก็รู้สึก pointless น่ะนะ...

- The Key to the Lost Kingdom: Jay Ashton

หยิบมาจากร้านมือสองเพราะอยากอ่านแฟนตาซีแบบที่ไม่ต้องไปตามล้างตามเช็ดสามเล่มห้าเล่มถึงจบ และพบว่า...คิดผิด = ='' ตูคิดผิด ตูขอโทษ ตูผิดไปแล้ว T-T

เป็นเรื่องของอาณาจักรที่กำลังล่มสลาย เลยมีคณะสำรวจออกเดินทางไปหาอาณาจักรใหม่ แรก ๆ เหมือนเรื่อง boy growing up แต่ว่าอ่านไปได้ครึ่งเล่มก็กลายเป็นเรื่องเรียลลิสติกถึงขั้นเสียดสีแบบหาสาเหตุไม่เจอ เช่น ตาบอยนั่นกลายเป็นคนเห็นแก่ตัวแบบไร้ทางเยียวยา นางเอกโง่ ๆ ช่วงแรกเป็นเด็กผู้หญิงช่างฝัน แต่พอที่ฝันไว้ไม่ใช่ ก็ถีบคนเก่าไปหาคนใหม่ คณะสำรวจที่เหลือเป็นตัวละครแบนแต๊ดแต๋ที่ไม่เห็นต้องมีก็ได้ อ่านแล้วเศร้าจิตคิดไฉนสิ้นดี

- The Bridge of Madison County: Robert James Waller

คงไม่ต้องบรรยายมาก ที่จริงก็หยิบมาอ่านเพราะอ่านรีวิวบล็อคคนอื่นนี่เอง นับว่าไม่ผิดหวังจริง ๆ เป็นเรื่องรักที่เรียบง่าย สวย และเข้มข้นจริง ๆ

แต่รำคาญนิดหน่อยเวลาที่พระเอก (รวมทั้งคนอื่น) บอกซ้ำ ๆ ว่าพี่แกเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ คือเราเป็นพวกเห็นว่าลงได้เป็นปัจเจกขึ้นมาแล้ว มันก็ใกล้สูญพันธุ์ทุกคนนั่นแหละ

- Inkheart: Cornelia Funke

เรื่องของเด็กผู้หญิง ซึ่งมีคุณพ่อที่สามารถ "อ่าน" เอาตัวละครออกจากหนังสือได้ แล้วไพล่ไปอ่านเอาตัวร้ายสุดยอดออกมาจนเดือดร้อนกันไปทั่ว ส่วนตัวไม่ค่อยชอบหนังสือเล่มนี้เท่าไหร่ รู้สึกว่ายาวกว่าที่ควร ตัวร้ายที่ย้ำแล้วย้ำอีกว่าน่ากลัวก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกอย่างนั้น ตัว trickster ประจำเรื่องถึงแม้จะมีออร่า trickster ออกมาบ้าง แต่ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึก sympathize เป็นพิเศษ นางเอกก็เป็นเด็กกระนั้น ๆ แม้กระทั่งเวลาพูดถึงหนังสือยังรู้สึกแปลก ๆ อธิบายไม่ถูก = =''

ก่อนขึ้นต้นบทใหม่ทุกบทจะมี excerpt ตัดจากหนังสือเด็กหลายเล่มมาบทจะจึ๋งนึง ดูจาก excerpt ที่ตัดมาแล้ว รู้สึกแปลกใจ เพราะส่วนใหญ่เป็นหนังสืออังกฤษอเมริกา แต่คนเขียนเป็นเยอรมัน จริง ๆ คนเขียนแกอ่านหนังสืออังกฤษอเมริกาเยอะ หรือว่าพอแปลเป็นภาษาอังกฤษแล้วเลยต้องเปลี่ยนเรื่องด้วย คนอ่านทางนี้จะได้เก็ตกันแน่

- The Princess Bride: William Goldman

ซื้อมาเพราะเจอในร้านมือสอง และเพราะใน Inkheart มี excerpt จากเรื่องนี้เหมือนกัน อ่านแค่ excerpt ก็รู้สึกว่าน่าสนใจดี ไหน ๆ เจอแล้วเลยซื้อ

ดูปกกับอ่านไปได้สักพัก ถึงนึกได้ว่าเคยดูเป็นหนังสมัยก่อนนี่เอง

คนเขียนแกบอกว่าแกปรับปรุงจากนิยายของนักเขียน ศ.19 ชื่อ เอส.มอร์แกนสเทิร์น จริง ๆ เราอ่านแล้วยังคิดว่ามันเป็นหนังสือดี น่าจะแปล แต่ถ้าแปลแล้วน่าจะตัดตรงที่คนเขียนชอบมาคอมเมนต์สิ่งที่ "มอร์แกนสเทิร์น" เขียนแบบไม่ดูตาม้าตาเรือ ทำให้ตูเสียอรรถรส (หรือไม่งั้นก็แปลตรงจากฉบับของมอร์แกนสเทิร์นเลย) แต่พอไปค้นวิกิจริง ๆ ปรากฏว่าคนเขียนแกเขียนเองทั้งหมด ส่วนที่พูดถึงมอร์แกนสเทิร์นเป็นแค่ทริคหลอกคนอ่านว่าแกตัดต่อของเขาใหม่จริง ๆ

เลยรู้สึกว่าฉึกในหัวใจนิดหน่อยเหมือนตัวเองเกลียดตัวกินไข่เลยแฮะ - -''

ส่วนใหญ่ชอบเนื้อหาของเรื่องเกือบหมด แต่ไม่พอใจอยู่บ้างเวลาที่คนเขียนพูดถึงผู้หญิง เพราะแกดูถูกผู้หญิงออกมาชัดในน้ำเสียงเลย

- Angels and Demons: Dan Brown

เพิ่งได้อ่าน ไม่มีความเห็นมาก แต่รู้สึกว่าตาแดน บราวน์โหดร้ายกะชายชราไม่มีทางสู้จัง ฆ่าคนแก่แบบโหด ๆ ไปได้ไงตั้งสี่ห้าคน - -''

พูดถึงพวกหนังสือศาสนา ช่วงนี้กำลังอ่าน Screwtape Proposes a Toast ของ C.S. Lewis (โหมดศาสนา) รู้สึกว่าแกเป็นคนมีไอเดียแบบของแก อยากให้แกกะ Phillip Pullman เกิดร่วมสมัยกันจัง แบบว่าอยากดูมวยอะ (ยิงแสงใส่กันเลยค่ะป๋า)

- The Mysterious Flame of Queen Loana: Umberto Eco

เรื่องของนักค้าหนังสือเก่าที่เสียความทรงจำ อ่านแล้วจะได้อารมณ์ประมาณ...ป๋าเอโก สมองป๋าทำด้วยอะไรบอกมาเดี๋ยวนี้นะ - -' ที่จริงไอเดียมันคมคายมาก แต่อาจจะเป็นวิธีเล่าเรื่อง กับข้อมูลสิ่งพิมพ์ pop culture ที่ให้มาเยอะมาก เราไม่ใช่คนอิตาลีเองรับไม่ทัน ไอ้จุดที่ควรรู้สึกกระแทกอารมณ์มันเลยรู้สึกน้อยไปหน่อยน่ะนะ

แอบไปตามหาเรื่องของ Salgari (เป็นนักเขียนเรื่องผจญภัยผู้ชาย ๆ)ที่แกเอ่ยถึงไว้ในหนังสือ มีคนเอามาแปลเป็นภาษาอังกฤษแล้วนิดหน่อย แต่แพงมาก ๆ คงเพราะไม่ใช่หนังสือแบบที่ขายทั่วไปน่ะนะ

- Zorro: Isabelle Allende

ซื้อมาเพราะชื่อคนเขียน เธอคือคนที่เขียนเรื่อง "บ้านปรารถนารัก" ที่เราชอบมาก ๆ ซอว์โรเล่มนี้เป็นเรื่อง "กำเนิดซอว์โร" ค่ะ เล่าตั้งแต่ว่าพ่อแม่เจอกันได้อย่างไร จนกระทั่งซอว์โรเป็นซอว์โรในแผ่นดินเกิดครั้งแรก

ในเรื่องนี้ เทคนิคการเล่าเรื่องก็ยังดีอยู่นะ เหมือนมีคนมาเล่าเรื่องสนุก ๆ ให้ฟัง ตามอ่านไปได้ไม่เบื่อ แล้วคนเขียนก็ใส่ใจรายละเอียดดี มีเรื่องน่าสนใจร่วมสมัยของซอโรว์เยอะมาก น่าเสียดายอยู่อย่างคือแกไม่ได้ใส่อารมณ์ลงไปด้วยยังไงก็ไม่รู้ เหมือนแกไม่ได้เชียร์ซอว์โรอยู่ (แกใส่หัวใจให้ตัวละครอื่น ๆ มากกว่า) คือเวลาพูดว่าซอว์โรมีความยิ่งใหญ่ ก็พูดเหมือนพูดดาด ๆ พอให้เข้าใจว่าเป็นอย่างนี้ พอไม่ "รู้สึก" แล้ว ก็เลยไม่ได้เห็นความเติบโตเปลี่ยนแปลงของซอว์โร และซอว์โรก็เลยสูญเสียรัศมีวีรบุรุษไปโขทีเดียว

เป็นเรื่องที่่อ่านสนุกได้เหมือนอ่านนิยายมัน ๆ แต่ถ้าหวังว่าจะได้เห็นตัวตนและการเติบโตของซอว์โรก็ไม่มีหรอก - -''

- Maitre Mussard's Bequest: Patrick Suskind

เล่มนี้อยู่ในกระบะหน้าร้านมือสอง ขุดเจอแล้วดีใจแทบกรี๊ด มันเป็นเรื่องสั้นเล่มบาง ๆ ทำออกมาเป็นหนังสือเล่มเล็กแบบพกสะดวก บางกว่าเรื่องพิราบอีก

และมันต่างกับทั้งพิราบและน้ำหอม เพราะมันกวนประสาท - -'' คือว่ากวนประสาทมาก

(เล่มนี้ไม่อยากสปอยล์อะ ใครมีแผนจะอ่านก็ไม่ต้องอ่านต่อนะ)

เป็นเรื่องของตาลุงที่เชื่อว่าต่อไปโลกจะถูกฟอสซิลหอยกลืนกิน (เพราะแกขุดตรงไหน ๆ ก็เจอฟอสซิลหอยโบราณ) แล้วแกเลยหลอนเห็นเป็นทฤษฏี conspiracy ต่าง ๆ สุดท้ายแกก็ตายด้วยอาการเหมือนถูกหอยกลืนกินเสียด้วย ตรงหน้าเรื่องมี excerpt เขียนโดย "Rousseau" (แ่ต่สงสัยซึสคินท์แกล้งเขียนเอง)ว่า

Ceaselessly occupied with his curious discoveries, Mussard worked himself into such a fever over these thoughts that they would eventually have entangled his mind in madness, had not death torn him away from them by a strange and cruel illness: Luckily for his reason, but not for his sorrowing friends to whom he was dear and valued.

ตลกหน้าตายอะ เฮียขา - -''

###

นอกจากนี้อ่านสืบสวนยุคกลางอีกนิดหน่อย แต่ยังไม่เจอเล่มเจ๋ง ๆ เพราะงั้นก็เลยยังไม่พูดถึงแล้วกัน


Create Date : 28 มกราคม 2551
Last Update : 17 กรกฎาคม 2551 4:36:18 น. 22 comments
Counter : 739 Pageviews.

 
-ลงได้เป็นปัจเจกขึ้นมาแล้ว มันก็ใกล้สูญพันธุ์ทุกคนนั่นแหละ-
ชอบประโยคนี้น่ะ

มีทางไหม ที่คนเป็นปัจเจก ฯ จะไม่สูญพันธ์


โดย: grappa IP: 58.9.186.93 วันที่: 28 มกราคม 2551 เวลา:5:04:35 น.  

 
มี๊ หน่าเพิ่งอ่าน Belgariad เล่มสองจบล่ะ (กรี๊ด เล่มสามอยู่ไหนๆ เสียอรรถรสที่สุด!) เร็ววันนี้คงได้ฤกษ์ไปถล่มห้องพี่เอาหนังสืออีกแล้ว ฮี่ ฮี่...

อ่ะ... ไม่พูดถึง "อุ้ม ฉีกๆๆๆๆ" เหรอคะ? ฮา



โดย: parasite IP: 86.147.195.174 วันที่: 28 มกราคม 2551 เวลา:5:19:29 น.  

 
เฮ้ยยยยยยยยยยยย ยังอ่านไม่จบ ขอเม้นท์ก่อน ทำไมอิ๊งฮาร์ทฉบับภาษาไทยที่เราอ่านมันถึงไม่มี excerpt อ่าาาาาา แต่รู้สึกเขาจะแปลมาจากเยอรมันนะ


โดย: the grinning cheshire cat วันที่: 28 มกราคม 2551 เวลา:14:05:43 น.  

 
กร๊ากกกก ถูกต้อง อยากดูมวยคู่นั้นเหมือนกัลล์

เรื่องซอร์โรนั่น คนเขียนเขาตั้งใจจะ deconstruct คอนเซ็ปต์วีรบุรุษอ๊ะเป่า เล่มนี้เสียดายมาก ตอนมันมีไซด์บีก็ไม่มีตังค์ ตอนนี้มีแต่เล่มแมส ตัวยิบสุดๆ อ่านไม่ออก แล้วก็เหลือเทรดที่เอเชียบุคส์พารากอนเล่มนึง ราคาจับไม่ติดเลย

เออ เรื่องหนังสือตัวยิบๆ นี่ฝากถามปร็อฟให้หน่อยจิ เขามีเบื้องหลังอะไร ปล่อยออกมาได้ยังไง ไอ่คนจัดหน้าคิดอะไรอยู่ ทะเลาะกับแฟนที่เป็นนักอ่านมาหรือไงฟะ


โดย: the grinning cheshire cat วันที่: 28 มกราคม 2551 เวลา:14:12:30 น.  

 
^
^
^
เห็นด้วยๆ มันคงทะเลาะกะนักอ่านมาก่อน
ตัวยิบหยีเป็น...มดเลย หุหุ



โดย: Boyne Byron วันที่: 28 มกราคม 2551 เวลา:14:37:07 น.  

 
มาอ่านรีวิวๆ ^^

พี่เคยอ่านแล้วสองเล่ม ((ชุด))

The No.1 Ladies' Detective Agency: Alexander McCall Smith ... พี่ชอบชุดนี้นะ โดยเฉพาะเล่มแรกๆ จำไม่ได้ว่าอ่านถึงเล่มไหน น่าจะซักเล่ม 4 แหละ ก็อ่านได้เรื่อยๆ นะ

The Princess Bride: William Goldman...ชอบหนังมากกว่าหนังสืออะ จบข่าว เอิ๊ก

^^


โดย: Clear Ice วันที่: 28 มกราคม 2551 เวลา:22:53:20 น.  

 
รู้สึกจะผิดหวังเป็นส่วนใหญ่นะคะ
แต่เรื่อง The Key to the Lost Kingdom: Jay Ashton ฟังดูแล้วไม่น่าอ่านจริงๆ ด้วย


โดย: แก้วกังไส วันที่: 29 มกราคม 2551 เวลา:3:44:57 น.  

 
พี่ grappa @ อืมมม.....
สงสัยต้องสร้างงานศิลปะหรือก่อเรื่องใหญ่โตจนไม่มีใครลืมลงทิ้งไว้ละมังคะ ^^''
นี่ไม่ได้พูดเล่นเน้อ เพราะคิดว่างานศิลปะเป็นเครื่องรักษา identity ของมนุษย์ได้ดีที่สุดน่ะค่ะ

หน่าจัง @ มาเอาหลังวันที่ 31 นะ ช่วงนี้ยังลูกผีลูกคนอยู่
เอ่อ...อุ้มฉีก - -''

คุณ LMJ @ เรื่องอิงค์ฮาร์ทไม่รู้เหมือนกันคับ บับอิงค์มันยัดเข้าไปเองหรือเปล่าก็ไม่รู้เหนอ - -''
เรื่องซอร์โร เท่าที่อ่านไม่ได้อารมณ์ดีคอนน่ะค่ะ ได้อารมณ์แต่ว่าคนเขียนแกไม่มีอารมณ์ร่วมกะตาซอร์โร (ส่วนตัวละครอื่นที่มีอารมณ์ร่วมด้วย แกก็ไม่พยายามเขียนให้เด่นขึ้นมาเป็นตัวเอกแทน) เป็นไปได้อีกอย่างคือเรื่องนี้สมาคมซอร์โรอะไรสักอย่างเป็นคนมาขอร้องให้แกเขียน ไม่รู้แกอยากเขียนเองแค่ไหน มันเลยออกมาเป็นแบบนี้เอง (แต่มันก็สนุกนะ)
อยากส่งเล่มที่มีนี่ไปให้จัง เป็นไซส์บีพอดีเลย เยินนิดหน่อยแต่พอรับได้
ส่วนตัวคิดว่าตัวหนังสือยิบ ๆ มันแบบว่าเบียด ๆ เข้าไปจะได้ขายถูก ๆ เล่มเบา ๆ พกสะดวกนะคับ เดาเอานะ ^^''

บอยน์ @ จริง ๆ อาจจะเป็นกลอุบายทางการตลาด ขายหนังสือแพ็คคู่กะแว่นขยายก็ได้นะ

พี่ไอซ์ @ เห็น McCall Smith เขียนอีกสองชุด แต่ยังไม่ได้ลองเลยค่ะ ไม่รู้ว่าดีหรือเปล่า
แล้วก็ชอบหนัง Princess Bride เหมือนกันค่า ^^


โดย: เคียว IP: 128.86.158.253 วันที่: 29 มกราคม 2551 เวลา:3:58:20 น.  

 
อ๊ะ มัวแต่เขียนตอบไม่ได้กดรีเฟรชเลยไม่ได้เห็นความเห็นล่าสุด

คุณแก้วกังไส @ ส่วนใหญ่ก็อ่านได้ แต่กรี๊ดมากน้อยตามลำดับน่ะขอรับ บางเล่มก็ดีจริง ๆ แต่ว่าข้าน้อยไม่มีปัญญา ^^''

ป.ล. Key to the lost kingdom นี่อ่านจบแทบจะเอาไปเผาทิ้งเลยค่ะ


โดย: เคียว IP: 128.86.158.253 วันที่: 29 มกราคม 2551 เวลา:4:00:43 น.  

 
สวัสดีค่ะ

โอ้..รีวิวเป็นแพ็คเลยแฮะ อิจฉาๆ


อ่า..เดอะบริดจ์ออฟเมดิสัน อยากลองอ่านเล่มอังกฤษดูเหมือนกัน

อ่านเล่มไทยแล้วไม่ชอบเลย ไม่รู้ว่าเพราะการแปลหรือเปล่า แต่เค้าทำให้เราอินไม่ได้

แต่พอดูหนังนี่ตายไปเลยค่ะ ตายไปเลย

เป็นเรื่องเดียวเลย (ในตอนนี้) ที่ชอบหนังมากกว่าหนังสืออะค่ะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 29 มกราคม 2551 เวลา:10:18:19 น.  

 
นึกว่าจะมาหาลิสต์ ปรากฎว่าไม่ได้สักเล่ม
แต่เล่มบาง ๆ ของ Suskind น่าสนดีแฮะ


โดย: ยาคูลท์ วันที่: 29 มกราคม 2551 เวลา:12:22:31 น.  

 
เคยอ่านอยู่เล่มเดียวค่ะ angel and demon อ่ะ

มันส์มากๆเลยนะ แต่ขอบอกว่าเซ็งตอนจบอ่ะ ทำกับตัวละครที่เราชอบที่สุดแบบนั้นได้ คนเขียนนะคนเขียน หักมุมแบบสุดๆไปเลยค่ะเล่มนี้

ว่าจะไปหารหัสลับดาวินชีมาอ่านต่อ ยังไม่ได้อ่านเล่มนั้นเลย


โดย: amy_de_alamode วันที่: 31 มกราคม 2551 เวลา:14:50:38 น.  

 
อ่า Inkheart ฉบับเยอรมันมี excerpt เน้อ
(เค้าอ่านฉบับนั้นล่ะ แบบว่าได้มาเป็นของขวัญ
ก็รู้เรื่องมั่งไม่รู้เรื่องมั่ง ว่าจะอ่าน eng ซ้ำเหมือนกัน)
ชอบบ้านของท่านป้า Elenor
ส่วนบ้าน Mo ก็น่าตาห้องข้าพเจ้าพิลึก

ที่มีแต่วรรณกรรมเยาวชนภาษาอังกฤษ
คงเพราะมันกว้างกว่ามั้ง แบบใครๆก็รู้จัก


โดย: ทินา IP: 203.107.202.76 วันที่: 31 มกราคม 2551 เวลา:23:24:56 น.  

 
ถามหน่อยค่ะ

Belgariad นี่จริง ๆ แล้วมีกี่เล่มคะ?
...อ่านแค่สามเรื่องแรกโดยไม่มีเล่มต่อเนี่ย จะแดดิ้นตายเพราะขาดหนังสือไหม?

ระหว่างการรื้อหนังสือครั้งล่าสุด พบว่าตัวเองมี Belgariad omnibus #1 อยู่เล่ม สงสัยมัวแต่รอเล่มสองจนลืมไปเลย มันมีขายในบุ้คกาซีนที่เดียวด้วยสมัยโน้น


โดย: ยาคูลท์ วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:1:05:39 น.  

 
คุณสาวไกด์ @ นั่นอ่านมาตลอดห้าเดือนคับ^^'' (จริง ๆ มีมากกว่านี้ แต่บางเล่มไม่ได้พูดถึงนิ)

คุณยาคูลท์ @ เบลกาเรียดมีห้าเล่มค่ะ (และมัลลอเรียนอีกห้า) เราว่าอ่านขาดตอนก็ไม่แดดิ้นนะคะ เพราะเรื่องมันไม่ใช่สไตล์ engaging แต่เป็นสไตล์สนุกสนานตบตีกันเอง คือถ้าแดดิ้นก็อาจจะเป็นเพราะคิดถึงตัวละครมากกว่าเพราะเรื่องมันค้างกลางอากาศน่ะนะ

คุณ amy_de_alamode @ จริง ๆ แอบสงสัยตัวละครตัวนั้นอยู่แล้ว (อาจจะเพราะรู้กิตติศัพท์แดน บราวน์) เลยไม่ค่อยช็อคน่ะค่ะ ^^'

ทินาจัง @ แต่เรากลับรู้สึกว่าหนังสือในเรื่องนี้มันไม่ใช่ "หนังสือ" แบบที่เราคิดแฮะ คือเหมือนว่าเป็นปกหนังหายาก เป็นหนังสือมีคุณค่าหรือคลาสสิก อธิบายไม่ถูก ในเซนส์เวลาอ่านมันไม่เหมือนตอนอ่านค่ำคืนหนึ่งในฤดูหนาวฯ ซึ่งรู้สึกว่า เออใช่ นี่แหละโลกหนังสือที่ฉันรู้จัก ยังไงก็ไม่รู้
ทำนองนั้นน่ะนะ ^^''


โดย: เคียว IP: 128.86.158.253 วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:1:56:03 น.  

 
เห็นคห.13 แล้วลงไปดิ้นๆๆ เอามายืมม่างงงงงงง อะฮือๆ ฉบับภาษาไทยมันตัดไปเพราะกลัวเป็นการโฆษณาให้ชาวบ้านเปล่าวะ

คุณเคียวงับ อ่านอันนี้ยัง//www.faylicity.com/book/article/confess.html

คือเราก็ไม่ใช่พวกรักษาหนังสือเวอร์อะไรขไนขนาดนะ แต่ก็ไม่เห็นด้วยกับพวก "จงใจ" ทำให้หนังสือพังเร็วๆ น่ะ

คือจะโยงมาเรื่องนี้ มีนิยายเกี่ยวกับหนังสือโบราณหลายเล่มเลย ที่มันมีมุมมองเกี่ยวกับหนังสือไปอีกอย่างหนึ่ง ที่ไม่เหมือนกับของพวกเราน่ะ เรื่องแรกที่นึกถึงคือ The Club Dumas ของ Arturo Perez-Reverte สนุกดีเหมือนกันฮับ ชอบนักเขียนคนนี้ง่ะ


โดย: the grinning cheshire cat วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:13:17:29 น.  

 
เห็นด้วยกับคุณเคียวบางส่วน
เพราะหนังสือบางเล่มเราก็ไม่รู้จัก (ฮา)

แมวเหมียว : สงสัยเรื่องปัญหาลิขสิทธิ์เหมือนกัน (แล้วทำไมต้นฉบับไม่มีปัญหาล่ะ?) ถ้าว่างอ่านจะให้ยืมนะ

ยาคูลท์ : มารับเล่ม 4 กับ 5 ของภาคแรกที่หนูได้นะค้า (มีเล่ม 1 แล้วโดดไป 4 กับ 5 เลยอะ -_-")


โดย: ทินา IP: 58.64.70.84 วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:17:20:44 น.  

 
^
^
จริงป่าว? (ทำตาวิ้งๆ)
สิบปีผ่านไปก็ยังได้นะ??? แบบว่า..ยังมะรู้เลยว่าตูจะเริ่มอ่านวันไหนปีไหนน่ะ กำลังสองจิตสองใจว่าจะเอาแนวมนุษย์โลกธรรมดา หรือแฟนตาซีดี

เพิ่งรู้นะเนี่ยว่า Inkheart ฉบับแปลไม่มี excerpt

ขอบคุณจขบ. สำหรับข้อมูลค่ะ


โดย: ยาคูลท์ วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:3:23:46 น.  

 
^
^
คห. 17

ฮ่วย ดักคอ


โดย: ลูกสาวโมโจโจโจ้ IP: 58.9.16.36 วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:17:19:30 น.  

 
คุณ LMJ @ จริง ๆ ก็ไม่ใช่คนรักษาหนังสืออะไรขนาดนั้นเหมือนกันค่ะ แต่ก็มีเวลาที่ขี้เกียจแบกหนังสือหนัก ๆ แล้ว tempting อยากจะฉีกส่วนที่อ่านแล้วโยนลงถังผงเหมือนกัน - -'' (แต่ทำไม่ได้เพราะถูกสั่งสอนฝังหัวมาอย่างหนัก ขนาดนั่งทับหรือเหยียบหนังสือยังรู้สึกผิดเลยอะ)
ถ้าเป็นเรื่องหนังสือโบราณไปเลยจริง ๆ จะชอบมาก ๆ เลยค่ะ ชอบตัวละครที่เป็นอาลักษณ์หรือคนคัดลายมือสวยมาก ๆ ก่อนนี้เคยอ่านเรื่องนักบุญคนหนึ่งของไอร์แลนด์ที่ตอนดึก ๆ แอบไปก็อปปี้หนังสือที่ทางวัดไม่อนุญาตออกมาเผยแพร่ รู้สึกสุดยอดไปเลย > < (สุดยอดตรงไหนไม่รู้ แต่รู้สึกสุดยอดอยู่ดี)

ทินาจัง @ บางทีเขาอาจจะกลัวเปลืองกระดาษกะหมึกก็ได้นะ = =''

คุณยาคูลท์ @ แฟนตาซีคับ (ปิ๊ง ๆ)


โดย: เคียว (ลวิตร์ ) วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:6:48:16 น.  

 
อยากให้ดูหัวบล็อคก่อนปะโฆษณาจังเลยค่ะ

เจ้าของบล็อคตอนนี้ไม่อยู่ในสภาพจะไปเสรีเซนเตอร์ได้หรอกเน้อ


โดย: ลวิตร์ วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:18:41:10 น.  

 
the princess bride ใช่เรืองที่นางเอกเป็นสาวบ้านนอก มีคนรักเป็นไอ้หนุ่มคนหนึ่งที่ออกไปเสี่ยงโชคแล้วได้ข่าวว่าตายหรือเปล่า แล้วก็มีตัวร้ายเป็นเจ้าเมืองจะแต่งงานกับนางเอก แล้วก็มีการลักพาตัว ไอ้พระเอกก็กลับมาช่วย แต่ว่ายืมหน้ากากโซโรมาใส่ ทำให้นางเอกจำไม่ได้หรือเปล่า

ถ้าใช่ล่ะก็เป็นเรื่องที่กรี๊ดมากสมัยเด็กๆ อิอิ พระเอกหล่อดี มุกตลกในหนังก็เยอะดี ชอบ

^^


โดย: แอล IP: 203.118.97.239 วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:20:23:26 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ลวิตร์
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]




ลวิตร์ = พัณณิดา ภูมิวัฒน์ = เคียว

รูปในบล็อค
เป็นมัสกอตงาน Expo ของญี่ปุ่น
เมื่อปี 2005
น่ารักดีเนอะ

>>>My Twitter<<<



คุณเคียวชอบเรียกตัวเองว่า คุณเคียว
แต่ที่จริง
คุณเคียวมีชื่อเยอะแยะมากมาย

คุณเคียวมีชื่อเล่น มีชื่อจริง
มีนามปากกา
มีสมญาที่ได้มาตามวาระ
และโอกาส

แต่ถึงอย่างนั้น
ไส้ในก็ยังเป็นคนเดียวกัน
ไส้ในก็ยังชอบกินข้าวแฝ่ (กาแฟ ) เหมือนกัน
ไส้ในก็ยังชอบกินอาหารญี่ปุ่นเหมือนกัน
ไส้ในก็ยังชอบสัตว์ (ส่วนใหญ่)
ไส้ในก็ยังชอบอ่านหนังสือ ชอบวาดรูป
ชอบฝันเฟื่องบ้าพลัง
และชอบเรื่องแฟนตาซีกับไซไฟ
(โดยเฉพาะที่มียิงแสง )

ไส้ในก็ยังรู้สึกถึงสิ่งต่าง ๆ
และใช้ถ้อยคำเดียวกันมาอธิบายโลกภายนอก

ไส้ในก็ยังคิดเสมอว่า
ไม่ว่าเรียกฉัน
ด้วยชื่ออะไร

ก็ขอให้เป็นเพื่อนกันด้วย




Friends' blogs
[Add ลวิตร์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.