The power of an authentic movement lies in the fact that
it originates in naming and claiming one's identity and integrity
-- rather than accusing one's "enemies" of lacking the same.
- Parker J. Palmer, The Courage to Teach
Group Blog
 
All blogs
 
ทางไร้ดอกไม้ (๓)

เมื่อตอนเขียนจบบล็อคที่แล้ว ตอนแรกตั้งใจจะเขียนต่ออีกเรื่องหนึ่ง แต่เอาเข้าจริง ปรากฏว่าความคิดมันกลับแตกยอดแขนงไปอีกทาง ซึ่งแปลกดี แต่ที่จริงอาจจะไม่แปลกก็ได้ เพราะจขบ.อาจจะคิดเรื่องนี้อยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว ความคิดของคนเราไม่ได้เป็นหนึ่งต่อสองต่อสาม แต่มีลักษณะเป็นเครือข่าย เชื่อมโยงหากันอย่างซับซ้อน น่าจะเป็นแบบนี้กระมัง

เมื่อเขียนจบบล็อคที่แล้ว ไปนั่ง ๆ ต่ออีกหน่อยหนึ่ง ก็บังเกิดความเข้าใจขึ้นมาว่า ที่จริงแล้ว บล็อคทั้งปวงที่ปรากฏนั้นเป็น blessing ต่างหาก อาจจะฟังดูประหลาดหน่อย หรือบางทีอาจจะไม่ประหลาดก็ได้ เพราะคงมีคนหลายคนพูดแบบนี้มาก่อนจขบ. และคงมีคนอีกหลายคนพูดเรื่องนี้หลังจากที่จขบ.ตายไปแล้วหลายพันปี อย่างไรก็ตาม การเคยได้ฟังนั้นไม่เหมือนความเข้าใจ เมื่อจขบ.อ่านเรื่อง mastery (เช็คที่หัวข้อ "วิชาการ (aka มีสาระกระมัง)") เขาก็พูดอะไรทำนองนี้ แต่ตอนนั้น จขบ.ไม่เข้าใจหรอก ในใจจขบ.คิดแต่ว่าตูจะหลุดบล็อค ตูจะหลุดบล็อค เพราะบล็อคนี่มันทารุณสติของจขบ.มากและทำให้ชีวิตของจขบ.เน่า (มองภายนอกไม่เห็นหรอก มันอยู่ข้างใน) อย่างไรก็ตาม หลังจากบ่มมันดีแล้วในจิตใต้สำนึกเป็นเวลาหลายเดือน จขบ.ก็เกิดเข้าใจขึ้นมาแล้วว่า how a block becomes a blessing ได้ยังไง

เมื่อเราเจอบล็อค ไม่ว่าเป็นบล็อคอะไรก็ตาม ไม่ว่าด้วยวัย ด้วยเงินทองชื่อเสียง ด้วยอารมณ์ของเราเอง ด้วยความสุดโต่งของเราเอง หรือด้วยอะไรต่าง ๆ อีกล้านอย่างซึ่งจขบ.ไม่ทราบและไม่รู้ นั่นคือสัญญาณบ่งบอกว่าเรากำลังจะเติบโตขึ้นแล้วไม่ใช่หรือ ว่าเราไปพ้นจากสถานะเดิมแล้ว ไม่อาจทนทานมีชีวิตอยู่ในคราบเก่า ๆ ของเราได้ ในจังหวะที่สูญเสียแบบเก่าและหาแบบใหม่ไม่เจอ มันก็คือการติดบล็อค มันก็การเป็นวัยรุ่น มันก็คือการเปลี่ยนผ่านนั่นเอง

ชีวิตจะบังคับโดยอัตโนมัติให้เราเปลี่ยนแปลง อย่างที่คุณยาคูลท์ว่าเด็กจะเป็นผู้ใหญ่ หรือในความเป็นจริง เรื่องชื่อเสียงเงินทองจะเข้ามา และเรียกร้องให้เราปรับสภาพความคิดจิตใจของเรา เรียกร้องให้เราเข้าใจ ถ้าหากเราปฏิเสธที่จะเข้าใจตรงนั้น เราย่อมติดอยู่ตรงจุดเดิม แต่หากเมื่อไรที่เราก้าวข้ามไปได้ ก็จะเห็นว่าเราหลงจากถนนสายยาวไปอย่างไรบ้าง ก็จะกลับไปได้

เมื่อก่อนจขบ.เคยเชื่อจริง ๆ ว่าตัวเองตกอยู่ในทางตันแล้ว เคยรู้สึกอย่างยิ่งว่าตัวเองเหมือนคนแก่ที่ไม่มีความหวังในชีวิต ควรจะตายไปได้ (บอกแล้วว่าฉันเคยเน่า) ทั้งหมดนี้อาจจะเข้าใจยากสักหน่อย แต่ที่จขบ.รู้สึกอย่างนี้ ก็เพราะจขบ.ไม่เข้าใจว่า purpose ในชีวิตของตัวเองคืออะไร จขบ.รู้มาตั้งแต่ต้นแล้วว่าตัวเป็นมนุษย์ประหลาด ว่าตัวไม่เคยยอมอยู่ในจุดที่ตัวไม่ต้องการ หากว่าจำเป็นต้องไปอยู่ในจุดนั้น จขบ.จะมีชีวิตอยู่เหมือนแมวแรคดอลถูกอุ้ม คือตัวนิ่มตัวอ่อนไม่มีกระดูก แกจะอุ้มก็อุ้มฉันไป ฉันไม่สนใจ เมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว ถ้าหากสูญเสีย purpose ในชีวิตไป จขบ.ย่อมรู้สึกหลงทางอย่างยิ่ง นี่เป็นความจริงปรกติธรรมดา

ที่จริงตอนนี้ จขบ.ก็ตอบทุกคนไม่ได้ว่า เป้าหมายในชีวิตของจขบ.คือการเขียนหนังสือหรือ เพราะตอนนี้จขบ.มิได้เห็นเป้าหมายเป็นเป้าหมายแล้ว แต่เห็นชีวิตเป็นถนนสายยาวที่ไม่รู้ว่าเป้าหมายอยู่ที่ไหน และที่จริง จขบ.ปราศจากความเสียใจที่ถนนนั้นไม่มีเป้าหมาย เพราะจขบ.เกิดเห็นว่าถนนนี้น่าสนุกอย่างยิ่ง น่าเดินไปอย่างยิ่ง แน่นอนว่าต้องมีจระเข้ มีงู แน่นอนว่าจะมีเรื่องอันตรายและเรื่องเสียใจ แต่แน่นอนว่าจะต้องมีดอกไม้ จขบ.แน่ใจถึงร้อยส่วนว่าจะมีดอกไม้ แต่บอกไม่ได้ว่าทำไมถึงแน่ใจอย่างนั้น

หลังจากนี้ก็คงติดบล็อคอีก คงมีตอนที่สับสนหลงทางอีก คงมีตอนที่เสียใจ จิตตก พูดจาไม่รู้เรื่อง ซื้อหนังสือมายัดไว้เต็มบ้าน กินอาหารญี่ปุ่นทุกมื้อ โละของทุกอย่างในห้องที่ไม่ใช้ทิ้งหมดจนห้องตูเกือบจะเป็นวิหารแห่งความเซน บ่นมากบ่นมายกับเพื่อนรอบตัวจนทุกคนเบื่อเต็มที และอาการอื่น ๆ อีกมากที่มนุษย์หลงทางติดบล็อคเขาเป็นกัน อย่างไรก็ตาม บางทีในอนาคต จขบ.อาจจะปลอบใจตัวเองได้ด้วยว่า นี่แล บล็อคมาแล้ว ถ้าข้าผ่านบล็อคนี้ได้ รับรองว่าข้าจะโตขึ้น ขยายร่างยี่สิบเท่า กลายจากงูเป็นมังกร (เว่อร์ขึ้นเรื่อย ๆ) บางทีตอนที่ยากลำบากมันก็อาจจะไม่ใช่ความยากลำบากจริง ๆ อีกต่อไป แต่เป็นแค่...ว่าอย่างไรดี...การสู้กับบอสเพื่อให้ไปถึงด่านต่อไป

สู้กับบอสในชีวิตจริงก็ต้องเจ็บตัวจริง แต่ที่ได้ในชีวิตจริงก็เป็นของจริงเหมือนกัน แบบนั้นละมัง


Create Date : 09 เมษายน 2552
Last Update : 3 มกราคม 2553 20:59:27 น. 12 comments
Counter : 580 Pageviews.

 
ยิ่งสนุกขึ้นทุกที

บางทีคุณเคียวอาจกำลังเขียนหนังสือว่าด้วยนักเขียนและชีวิตกระมัง ^^


โดย: wanderer IP: 125.25.102.142 วันที่: 9 เมษายน 2552 เวลา:18:49:52 น.  

 
สนุกขึ้นทุกที จริงๆ เป็นบทความชุดที่สุดยอดมาก ^^"

ตอนนี้เราก็รู้สึกประหลาดๆ รู้สึกแย่ คงจะติดบล็อกละมั้ง
แต่ว่า จริงๆนะ ทุกครั้งที่ผ่านช่วงแย่ๆ (ถึงแย่มากแบบอยากหลับไปแล้วไม่ต้องตื่นมาอีก) ก็โตขึ้นจากก่อนหน้านั้น

สงสัยตอนนี้คงได้เวลาที่ตัวเองจะเปลี่ยนอีกครั้งแล้วละมั้ง....


ปล. นี่เป็นครั้งแรกที่เมนต์ในบลอคนี้ หลังจากขี้เกียจมายาวนาน ขอโทษนะคะ ^^"


โดย: rachan IP: 202.57.179.41 วันที่: 10 เมษายน 2552 เวลา:1:49:02 น.  

 
นี่แล บล็อคมาแล้ว ถ้าข้าผ่านบล็อคนี้ได้ รับรองว่าข้าจะโตขึ้น ขยายร่างยี่สิบเท่า กลายจากงูเป็นมังกร
^
^
เลเวลสุดท้ายของชีวิตนักเขียน คือกลายเป็นสัตว์ประหลาด?


เราว่าการเขียนด้วยใจรัก เขียนสิ่งที่อยากเขียน ก็คือดอกไม้ในตัวมันแล้วล่ะค่ะ


โดย: ยาคูลท์ วันที่: 10 เมษายน 2552 เวลา:4:04:29 น.  

 
สู้กับบอสเราต้องไปเป็นปาร์ตี้ จะได้ไม่ตายอย่างโดดเดี่ยวเดียวแด...
ฉันเป็นนักเวท คอยยืนบัฟ... รุ่นพี่แมวเคียวเป็นไนท์สายถึกถือโล่และหอก ลุยเข้าไปก่อน ฮุยๆๆ


โดย: แมวแป้ง^-"-^ (อสิตา ) วันที่: 10 เมษายน 2552 เวลา:4:33:14 น.  

 
เลเวลสุดท้ายของชีวิตนักเขียน คือกลายเป็นสัตว์ประหลาด?
ขำคุณยาคูลท์อะ

จริงๆ คิดว่าจะเป็นสายไหนในปาร์ตี้เมื่อสู้กับบอส แม้จะไม่ได้เอาตัวเข้าชนก็ต้องเจอแดมเมจ พลังปราณลดพอๆกัน เพราะบอสกระทืบตีนทีสะเทือนทั้งแมป(ใช้ภาษาเกมมากไป ยังเข้าใจอยู่ใช่ไหม)

สิ่งที่ตูต้องการมันก็ยากยิ่ง อยากเป็นนักเขียนนิยายประกอบภาพที่ทำทั้งสองอย่างได้ดีพอๆกัน ต่อจากนี้ไปก้คงติดบล็อคมากมาย
แต่บอกตัวเองไว้เลยว่าข้อยจะไม่ยอมล้ม...และไม่ยอมเลิกเด็ดขาด
แมวเคียวถ้าเหนื่อยก็จำไว้ว่ายังมีฉันนะ ที่เดินอยู่บนทางเส้นใกล้ๆ ที่ทอดขนานกันไป
ทางที่แม้จะไม่เหมือนกันซะทีเดียว แต่ก็คงมีสักวันเราอาจจะได้ทอดตามองความสวยงามของดอกไม้ดอกเดียวกัน ที่งอกคั่นอยู่บนเกาะกลางถนนได้กระมัง
สาธุ...


โดย: ตูมีสาระขึ้นมาอีกนิด(ปลื้ม...) (อสิตา ) วันที่: 10 เมษายน 2552 เวลา:4:44:51 น.  

 
อ่านแล้วนึกถึงตาโซลฯ
เจอปัญหา (ที่คนเขียนโยนใส่) ต่างๆนานา ให้คอยแก้ แก้ปัญหาไปตามวิธีของตัว มีคนยื่นมือมาช่วยบ้าง ถึงได้เติบโต จวนจะพัฒนาเป็นจอมมารได้อย่างทุกวันนี้

ปล. ไม่ได้ทวงเน่อ พี่ปัน ที่ถามถึง DD ในบล็อกก่อน คืออยากรู้ว่า เราควรจะเริ่มอ่านดีหรือยัง คือถ้ายังไม่เขียนต่อ เราจะได้ก้มหน้าก้มตาทำงาน ทำการบ้านของเราต่อไป (ฟังดูดีเนอะ ความจริงทำอะไรไม่รุ)

คือช่วงหลังๆไม่ค่อยได้เข้าไปถนนฯบ่อยนัก เลยแบบ ถ้าจะอ่าน DD ต้องตั้งใจ(อย่างยิ่ง ไม่งั้นลืม) คอยเช็กอ่ะ ว่ามายัง แต่ถ้ารู้ว่ายังไม่เขียน จะได้ไม่ต้องคอยตามหาไง


โดย: thaliana IP: 64.252.39.103 วันที่: 10 เมษายน 2552 เวลา:8:20:59 น.  

 
เรื่องไม่เกี่ยวข้อง....

//www.nytimes.com/2009/04/09/opinion/09kristof.html?_r=1&em

พี่ปัน อีตา Mr. Bentham ของพี่นี่ ใช่คนเดียวกับที่พูดถึงในarticle นี้หรือเปล่า

พูดถึงประโยคเดียวแหละ แต่ว่าเห็นว่าชื่อคุ้นๆ

แถมอีกหนึ่ง article อันว่าด้วย
"morality ไม่ได้มาจาก reasoning" เขาว่างี้
//www.nytimes.com/2009/04/07/opinion/07Brooks.html?_r=1&em


โดย: thaliana IP: 64.252.39.103 วันที่: 10 เมษายน 2552 เวลา:9:41:05 น.  

 
ชอบบทความตอนนี้ทั้ง3ตอน พี่อ่านแล้วกระทบใจตัวเอง และเห็นว่าบล็อคที่ว่าคงไม่ได้เจอกับนักเขียนแต่คงเจอกันในชีวิตของทุกๆคน แต่อ่านของปันแล้วได้กำลังใจมากขึ้นที่จะสู้กับบล็อคนั้นค่ะ ^ ^


โดย: romancer IP: 58.8.79.39 วันที่: 10 เมษายน 2552 เวลา:16:52:46 น.  

 
อื้มมมมมม

ไม่รู้จะพูดอะไร

ได้แต่บอกว่า..ถ้าสามารถและเป็นไปได้ จะขอเป็นดอกไม้หนึ่งดอกให้บนเส้นทางสายของการเป็นนักเขียนของจขบ.แล้วกันนะคะ



โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 10 เมษายน 2552 เวลา:17:15:38 น.  

 
เค้าเป็นพรีสท์ละกัน คอยฮีล


โดย: the grinning cheshire cat วันที่: 10 เมษายน 2552 เวลา:19:21:57 น.  

 
สนทนาด้วยศัพท์ RPG นี้ข้าพเจ้ามิเข้าใจ

แต่ถ้าชีวิตเป็นการเดินทางแล้ว เป้าหมายก็คงไม่สำคัญเท่าประสบการณ์ระหว่างทางล่ะมั้ง


โดย: ทินา IP: 58.64.74.78 วันที่: 11 เมษายน 2552 เวลา:18:23:56 น.  

 
แม้แต่การเขียนด้วยใจรัก ด้วยสิ่งที่อยากเขียน ก็เป็นสิ่งที่เราจะต้องสูญเสียไปตามอายุและประสบการณ์ค่ะ หมายความว่าเราอาจจะสูญเสียสิ่งที่เคยรักที่จะเขียนไป และนึกไม่ออกอีกแล้วว่าทำไมเราถึงเคยรักสิ่งนั้น (เช่นเมื่อเด็กเคยเขียนเรื่องรักชอคกิ้งพิงค์ได้ แก่แล้วเกิดเห็นโลกมากก็เขียนไม่ได้)

ใช่แล้วละ นั่นคือตาลุงเบนทัม (ยิ่งอ่านอย่างนี้ยิ่งชอบแกแฮะ)


โดย: เคียว IP: 222.123.28.91 วันที่: 13 เมษายน 2552 เวลา:8:38:26 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ลวิตร์
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]




ลวิตร์ = พัณณิดา ภูมิวัฒน์ = เคียว

รูปในบล็อค
เป็นมัสกอตงาน Expo ของญี่ปุ่น
เมื่อปี 2005
น่ารักดีเนอะ

>>>My Twitter<<<



คุณเคียวชอบเรียกตัวเองว่า คุณเคียว
แต่ที่จริง
คุณเคียวมีชื่อเยอะแยะมากมาย

คุณเคียวมีชื่อเล่น มีชื่อจริง
มีนามปากกา
มีสมญาที่ได้มาตามวาระ
และโอกาส

แต่ถึงอย่างนั้น
ไส้ในก็ยังเป็นคนเดียวกัน
ไส้ในก็ยังชอบกินข้าวแฝ่ (กาแฟ ) เหมือนกัน
ไส้ในก็ยังชอบกินอาหารญี่ปุ่นเหมือนกัน
ไส้ในก็ยังชอบสัตว์ (ส่วนใหญ่)
ไส้ในก็ยังชอบอ่านหนังสือ ชอบวาดรูป
ชอบฝันเฟื่องบ้าพลัง
และชอบเรื่องแฟนตาซีกับไซไฟ
(โดยเฉพาะที่มียิงแสง )

ไส้ในก็ยังรู้สึกถึงสิ่งต่าง ๆ
และใช้ถ้อยคำเดียวกันมาอธิบายโลกภายนอก

ไส้ในก็ยังคิดเสมอว่า
ไม่ว่าเรียกฉัน
ด้วยชื่ออะไร

ก็ขอให้เป็นเพื่อนกันด้วย




Friends' blogs
[Add ลวิตร์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.