The power of an authentic movement lies in the fact that
it originates in naming and claiming one's identity and integrity
-- rather than accusing one's "enemies" of lacking the same.
- Parker J. Palmer, The Courage to Teach
Group Blog
 
All blogs
 
The Stolen Child เทพนิยายสองโลก : Keith Donohue



สนพ.มติชน
ผู้แปลคือ อ.นพมาส แววหงส์

คำแนะนะจากเว็บสนพ.(จขบ.ขอปรับนิดหน่อย เพราะรู้สึกสปอยล์อะเลิร์ทชอบกล - -')

จากตำนานผีลักซ่อนของยุโรป สู่นิยายลี้ลับซับซ้อน การแสวงหาตัวตนที่แท้จริงในโลกสมัยใหม่ ที่เทคโนโลยีกำลังรุกล้ำทำลายดินแดนปรัมปรา จนสูญสิ้น

...

เทพนิยายสองโลก เป็นเรื่องราวของโลกสองโลกที่แบ่งแยกกัน คือโลกของมนุษย์ปัจจุบันและโลกของภูตตามวัฒนธรรมเก่าแก่ปรัมปราที่กำลังจะถูกรุกรานให้หมดไป จิตวิญญาณแห่งป่าเขาลำเนาไพรกำลังจะถูกทำลายด้วยการขยายตัวของเมืองและเทคโนโลยีสมัยใหม่ เป็นการเล่าผ่านเรื่องราวชีวิตสองชีวิต
หนึ่งคือเด็กชายเฮนรี เดย์อายุ 7 ขวบ
อีกหนึ่งคือผีลักซ่อนที่อาศัยอยู่ในป่า

เฮนรี เดย์ถูกจับตัวไป ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นเอนีเดย์ และต้องพยายามปรับตัวให้เข้ากับชีวิตในป่า ส่วนผีลักซ่อนที่ขโมยชีวิตของเขาไป ก็กำลังพยายามปรับตัวให้เข้ากับชีวิตในเมืองเช่นกัน
กระนั้น ความทรงจำเกี่ยวกับชีวิตเก่าก่อนที่จะมาเป็นผีลักซ่อน กลับตามมาหลอกหลอนเฮนรี เดย์คนใหม่ จนทำให้เขาต้องตัดสินใจว่าควรจะใช้ชีวิตแบบใดกันแน่

### ต่อไปนี้มีสปอยล์จ้า ###

เนื้อหาของเรื่องนี้อ้างถึงตำนาน "ผีลักซ่อน" (changeling) ที่เล่าขานกันมาว่า พวกภูตผีปีศาจนั้นนาน ๆ ทีก็มาลักเอาเด็กลูกมนุษย์ไป แล้วเอาพวกของตัวเองมาสับไว้แทน สมัยเด็ก ๆ จขบ.เคยอ่านนิทานอะไรทำนองนี้สองสามเรื่อง เกี่ยวกับแม่โชคร้ายที่ลูกหาย มีเด็กหน้าแก่พิลึกกึกกือมานอนในแปลแทน ส่วนเรื่องสมัยใหม่หน่อยที่เล่นธีมเรื่องนี้คือเรื่องชุดไทท์ (สนพ.เพนพอคเกต แต่เล่มสามของชุดย้ายไปฟิสิกเซนเตอร์ เล่มนี้แมวตัวนั้นเป็นคนแนะนำให้อ่าน)

อย่างไรก็ตาม นิยายเรื่องนี้ก็ตีความผีลักซ่อนไปอีกทางหนึ่ง คือเป็นกลุ่มสิ่งมีชีวิตเหนือกาลเวลาซึ่งคงรูปอยู่ในร่างกายของเด็กชั่วกาลนาน และวิธีเดียวที่จะเลิกเป็นผีลักซ่อนได้ก็คือ จะต้องไปสับแทนตัวเด็กอีกคนหนึ่ง เพราะอย่างนั้นวงจรของผีลักซ่อนจึงคลับคล้ายคลับคลาว่าจะเป็นวงจรอุบาทว์ อะไรทำนอง

เป็นเด็กอยู่ดี ๆ >> ถูกสับตัวลักมา >> กลายเป็นผีลักซ่อน >> อยู่มาอีกนานหลายสิบปีจนกว่าจะถึงคิวตัวเองได้เปลี่ยนตัว >> ไปสับตัวกับเด็กคนใหม่ >> เด็กคนใหม่เริ่มวงจรต่อไป

เรื่องนี้ใช้วิธีการเล่าสับระหว่างบท เช่น บทแรกเป็นเรื่องราวของผีลักซ่อนซึ่งไปสับตัวกับเด็กชายชื่อ เฮนรี เดย์ และใช้ชีวิตของ "เฮนรี เดย์" ไปเรื่อย ๆ พอถึงบทที่สองก็จะเป็นเรื่องราวของเฮนรี เดย์ตัวจริง ซึ่งกลายไปเป็นผีลักซ่อน ใช้ชีวิตอยู่ในป่าเขากับเพื่อนพ้อง และได้รับชื่อใหม่ว่า "เอนีเดย์" บทที่สามก็กลับไปเล่าเรื่องของเฮนรี เดย์ อดีตผีลักซ่อนอีก สรุปคือ เป็นเรื่องของ "มนุษย์" ที่เคยเป็นผีลักซ่อน และ "ผีลักซ่อน" ซึ่งเคยเป็นมนุษย์

ท่วงทำนองการเล่า ส่วนตัวแล้วรู้สึกว่าเหมือนมีคนเล่าเรื่องให้ฟัง ไหลรื่น สนุกอย่างสงบ (สนุกมีหลายแบบ ทั้งแบบสงบ แบบอะดรีนาลีนกระฉูด และแบบหนุกแต่หยึย เช่นของสตีเฟน คิง) เรื่องราวของผีลักซ่อนกับมนุษย์เกาะเกี่ยวผูกพันกันแบบหลวม ๆ พาดทับผ่านกันไปมา ตัวละครทั้งสองตัวพัฒนาไปตามรูปแบบของตัวเอง มีชีวิตของตัวเอง เฉียดกรายแต่ไม่ได้สัมผัสถึงกันจนกระทั่งถึงช่วงท้ายของเล่ม ซึ่งเป็นบทสุดท้ายที่ทำให้จขบ.รู้สึกสงบปนปวดใจเล็กน้อย เพราะว่าในที่สุดแล้ว ถึงแม้ว่าทั้งสองคนจะ "ให้อภัย" และเลิกหวาดกลัว กันและกัน แต่ชีวิตก็ทำให้ทั้งคู่แยกห่างออกจากกันไปจนไม่สามารถเข้าใจอีกฝ่ายได้ และต่างฝ่ายก็ต่างตีความ "อีกคน" ไปตามที่ตัวเองคิดว่าควรจะเป็นอย่างนั้น ทั้งที่มันไม่ได้เป็นอย่างนั้นจริง ๆ (แต่บางทีความจริงมันก็ไม่ได้สำคัญขนาดนั้นไม่ใช่หรือ)

ส่วนตัวแล้ว ถึงแม้ว่าเรื่องราวในป่าดงพรไพรของ "เอนีเดย์" จะน่าสนใจ แต่กลับรู้สึกใกล้ชิดกับ "เฮนรี เดย์" ซึ่งพยายามจะเป็นมนุษย์ และเจ็บปวดกับความเป็นมนุษย์ของตัวเองมากกว่า ตอนที่ชอบเป็นพิเศษคือตอนที่เฉลยอดีตจริง ๆ ของเฮนรี เดย์ ก่อนจะมาเป็นผีลักซ่อน ซึ่งเรียกได้ว่าพลิกความคาดหวังทุกอย่างแบบเงียบ ๆ ...เงียบจนต้องใช้เวลาคิดอีกสักพักถึงจะค่อย ๆ รู้สึกตัวขึ้นมาช้า ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

สรุปแล้ว จขบ.คิดว่าเป็นเรื่องที่สนุก สงบ ชวนให้คิด และหวาน ๆ ขม ๆ (รสชาติชีวิตก็เป็นแบบนี้สินะ) ส่วนตัวรู้สึกว่าเหมาะจะอ่านตอนกลางคืนเงียบ ๆ ที่มีฝนตก ไม่รู้เหมือนกันว่าเกี่ยวอะไรกับฝนตก แต่มันได้มู้ดแบบนั้นดี

ป.ล.แต่หลังจากที่อ่านจบแล้ว ก็บอกได้ว่าไม่ใช่แมจิคัล เรียลลิสซึ่มอย่างที่คำนำบอกหรอก แต่น่าจะเป็น low fantasy (แฟนตาซีที่ยังปรากฏในขอบเขตของโลกแห่งความจริง ตรงกันข้ามกับ high fantasy ซึ่งเกิดขึ้นในดินแดนจินตนาการและอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ของโลกนั้นอย่างเต็มที่) หรือถ้าหากว่ากันอีกที ก็อาจจะเรียกได้ว่าเป็นเรื่อง borderline ระหว่างแฟนตาซีกับเรียลลิซึมละมัง


Create Date : 01 กรกฎาคม 2550
Last Update : 17 กรกฎาคม 2551 0:57:00 น. 17 comments
Counter : 882 Pageviews.

 
ยังไม่ได้ซื้อเล่มนี้เลย งือๆ

ปล. ธีมโมริโสะกับคิกโคโระน่ารักมากเลยคุณเคียว


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 1 กรกฎาคม 2550 เวลา:10:09:16 น.  

 
เล็งเล่มนี้เหมือนกันเลย ก็เลยไปยืนแอบอ่านมาจนจบ แต่ว่าไม่ค่อยอินเท่าไหร่ เพราะว่าไม่เคยมีความเชื่อที่แบบว่าผีเอาเด็กไปซ่อนแล้วก็เอาผีมาแทนที่

ชอบตอนที่เอย์นีเดย์แอบมอง เฮนรี่เดย์แล้วก็สงสารมากกว่าแค้น เพราะเขาดูแก่ ดู hopeless เหมือนเคยลืมว่าแต่ก่อนเป็นยังไง บลาๆๆๆ มันเหมือนกันกับเราที่เคยลืมไปว่าตัวตนเราเองเป็นยังไง มันมี immortality อยู่ในการเปลี่ยนแปลงเสมอ

ปล ช่วงนี้เพิ่งอ่าน 4 แผ่นดินจบอีกรอบแล้วอินกับที่พลอยกับช้อยพูดกันว่า ผ่านชีวิตกันมาก็นาน สรุปสุดท้ายที่รู้ก็คืออะไรๆ ก็ไม่ได้เป็นของเราเลยซักอย่า ผ่านมาแล้วก็ผ่านไปหมด

เฮ้อ อ่านแล้วปลงดี


โดย: Rung IP: 58.9.58.2 วันที่: 1 กรกฎาคม 2550 เวลา:12:10:45 น.  

 
อืมม ยืนยันว่าคนขาวเขียนเมจิกคัลเรียลิสซึมมะด้ายหรอก หมายถึงคนขาวที่เป็นคนขาวน่ะนะ คนขาวแบบโตมาอีกอย่างนี่ไม่นับ


โดย: ลูกสาวโมโจโจโจ้ (the grinning cheshire cat ) วันที่: 1 กรกฎาคม 2550 เวลา:19:01:47 น.  

 
ซื้อแบบปะกิดปกแข็งมา นึกว่าคงไม่มีใครแปล
ยังไม่ทันอ่านเลย มีแปลเสียนี่
เกิดอาการชะงักงันทางความคิด จะหยิบอังกฤษที่มีแล้วมาอ่าน หรือซื้อไทยที่อ่านง่ายกว่าดี อือม์
(สรุป ไม่อ่านเลย )

ไม่เคยรู้เรื่องผีลักซ่อนของฝรั่งเลยค่ะ
หวังว่าพออ่านแล้วจะเข้าใจนะ

ถามหน่อยค่ะ ชุดไทท์นี่มีเล่มไหนอีกหรือคะ
(กำลังสงสัยว่าวาเลียนท์แหง แต่อีกเล่มล่ะ?)


โดย: ยาคูลท์ วันที่: 3 กรกฎาคม 2550 เวลา:0:43:31 น.  

 
คุณแพนด้า @ เนอะคับ^^
ดูไรฝุ่น (อุ๊บ) ปู่หลานนี่แล้วรู้สึกอารมณ์ดีจัง

รุ้งยี้ @ ปันว่าไม่ต้องมีความเชื่อก็ได้มั้ง ^^''
เรื่องตอนที่เอนีเดย์ไปมองเฮนรี่ เดย์เนี่ย ยังคุยกับแม่อยู่เลยนะ (แม่ก็อ่านเหมือนกัน) ว่าจริง ๆ แล้วเอนีเดย์เห็นอะไรกัน เพราะตอนนั้นเฮนรี่ก็ยังไม่แก่มาก สักสามสิบกว่า ๆ เท่านั้นเอง แล้วก็เริ่มปลงตกกับชีวิตแล้วด้วย ก็เลยคิดว่าเป็นไปได้อย่างนึงคือ เอนีเดย์เป็นเด็กตลอดเลยเห็นผู้ใหญ่ "แก่" ไปหมด ส่วนอีกอย่างคือเอนีเดย์มองทะลุไปเป็นตัวตนที่แท้จริงที่มีอายุหลายร้อยปีของเฮนรี เดย์
แต่พอรุ้งยี้บอกว่ามี immortality ในการเปลี่ยนแปลงเสมอนี่ขนลุกเลยแฮะ...จริงด้วย

คุณ LMJ @ ว่าจะหาคนถามเหมือนกัน นอกจากพวกละตินแล้วนี่ มีชาติอื่นที่เขียนแมจิคัลแล้วสนุกอีกมั้ยคับ

คุณยาคูลท์ @ อ่านเข้าใจรู้เรื่องดีคับ ไอเดียก็คล้าย ๆ กับที่ใช้ในเรื่องไทท์นั่นแล (แต่ไทท์อาจจะแลดูโรคจิตกว่าหน่อย)
เล่มสามของไทท์ชื่อ Ironside ค่ะ (ชื่อไทยก็ชื่อเดียวกัน) คนแถวนี้ชอบลืมเรื่อยเพราะเรียกว่าเรื่อง "พระเอกเป็นโต๊ะ" แทน
ส่วนทำไมพระเอกถึงเป็นโต๊ะ ต้องลองอ่านดูนิ...


โดย: เคียว IP: 124.120.147.228 วันที่: 3 กรกฎาคม 2550 เวลา:7:34:25 น.  

 
คนอินเดียสิเคอะ ลองอ่าน Midnight's Children ดู มันสุดๆ แนะนำให้เพื่อนคนหนึ่งอ่าน บอกว่าไม่สนุกให้มากระทืบ มันหยิบหมับเลย บอกว่าอยากกระทืบ ฮา

อีกชาติที่เราว่ามีโพเทนเชียลว่าน่าจะเขียนแล้วอ่านหนุกก็คือชาติไทยนี่แหละัฮับ ดูวิธีที่เรามองเจ้ามองผีดิ


โดย: ลูกสาวโมโจโจโจ้ (the grinning cheshire cat ) วันที่: 3 กรกฎาคม 2550 เวลา:9:52:13 น.  

 
อ๋า เรื่องนี้เคยเห็น
แต่ขอผ่านเพราะรู้สึกว่ากลัวเรื่องแบบนี้เป็นพิเศษ
ไม่ใช่เฉพาะเรื่องผีเท่านั้น ต่อให้เป็นไซโคดราม่า ถ้าเกี่ยวกับ Stolen identity นี่จะสยองมากๆ
เป็นพวกกลัวว่าวันหนึ่งตัวเองจะหายไปเฉยๆน่ะ




โดย: ทินา IP: 210.203.177.250 วันที่: 4 กรกฎาคม 2550 เวลา:0:02:04 น.  

 
ขอบคุณค่ะ คุณเคียว
(ปรากฏว่ามีไอออนไซค์แล้วค่ะ นึกว่าเป็นแฟนตาซีเล่มเดียวจบเลยซื้อ...มาเก็บ แสดงว่าต้องไปหาเล่มกลางอีกเล่ม เป็นอันครบชุด..เก็บต่อ)

เรื่องเมจิคัลเรียลลิสซึมเนี่ย..
ขอสารภาพว่าไม่ค่อยเข้าใจคอนเซปต์แฮะ อ่านแล้วไม่ทะลุเข้าหัวเสียทีว่าแบบไหนเป็นแนวนี้


โดย: ยาคูลท์ วันที่: 4 กรกฎาคม 2550 เวลา:3:47:11 น.  

 
^
^
ตอบคุณยะคู่ลลลล

อาจารย์เราบอกว่ามันจะมีการมองสิ่ง "เหนือธรรมชาติ" ด้วยสายตาเช่นเดียวกับที่เรามอง "สิ่งธรรมชาติ" น่ะค่ะ อย่างผีในเรื่องหนึ่งร้อยปีที่มีแผลที่คอ กินน้ำแล้วสามารถรั่วออกได้ จนกว่าจะเอาฟางมาอุดคอ หรือการแห่ไปดูพรมบินได้ ไม่ใช่ในฐานะของวิเศษหรือเวทย์มนตร์ แต่ในฐานะประดิษฐกรรมใหม่ มีการวิจารณ์ด้วยว่าแทนที่จะเอาไปใช้ในการเดินทางขนส่ง ทำไมเอามาทำเป็น entertainment แทน

หรือดูตัวอย่างจากการอยู่ร่วมกับสิ่งเหนือธรรมชาิติอย่างไทยๆ เจ้าและผีของเราสามารถต่อรองได้ว่าถ้าให้หวยแล้วจะถวายนั่นนี่ คือมันเหมือนกับเรากับผีเท่ากัน อยู่ในมิติเดียวกันนั่นเลยค่ะ ในขณะัที่ภูตผีของฝรั่งจะอยู่ในอีกมิติหนึ่งไปเลย

เดี๋ยวไปตอบในบล็อกด้วยนะคะ


โดย: ลูกสาวโมโจโจโจ้ (the grinning cheshire cat ) วันที่: 4 กรกฎาคม 2550 เวลา:15:17:56 น.  

 
^
ขอบคุณค่ะ

เดี๋ยวขอไปค่อย ๆ คิดก่อน (หัวช้าอ่ะ)


โดย: ยาคูลท์ วันที่: 4 กรกฎาคม 2550 เวลา:23:09:52 น.  

 
^
^
เดี๋ยวไปอธิบายเพิ่มที่บล็อกเธอละกัน เกรงใจจขบ.


โดย: ลูกสาวโมโจโจโจ้ (the grinning cheshire cat ) วันที่: 5 กรกฎาคม 2550 เวลา:12:04:05 น.  

 
ทินาจัง @ เราว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ stolen identity นะ เหมือนว่าบุคลิกมันยังไม่ฟอร์มดีตอนที่เอาตัวมาน่ะ เลยกลายเป็นต่างคนต่างค่อย ๆ สร้างของตัวเองขึ้นมาตามระยะเวลาในเรื่องมากกว่า
เวลานึกถึงเรื่อง stolen identity ก็ขนลุกนิด ๆ เหมือนกัน แต่เอาเข้าจริงแล้วเราชอบเรื่อง identity มากเลย เพราะเราสงสัยว่าทำไมเราถึงเป็นเราได้น่ะ

คุณยาคูลท์กะคุณ LMJ @ จขบ.แอบดูอยู่ในพุ่มไม้ ก่อนย่องออกไปตามหามิดไนท์ชิลเดร้นมาอ่านเป็นการด่วนขอรับ (((( -.-)-


โดย: เคียว IP: 124.120.151.118 วันที่: 5 กรกฎาคม 2550 เวลา:22:08:23 น.  

 
แวะมาทักทายบล็อกนักเขียนคนโปรด แหะๆ

น่าอ่าน เพิ่งรู้นะนี่ว่ามีแบ่งเป็นโลว์แฟนตาซีกับไฮแฟนตาซีด้วยอ้ะ

น่าสนใจ

ไม่ได้อ่านงานแปลของคุณนพมาส นานแล้วเหมือนกันนะนี่


โดย: สาวไกด์ฯ หาได้ล็อกอินไม่ IP: 203.170.231.230 วันที่: 9 กรกฎาคม 2550 เวลา:18:22:44 น.  

 
คุณสาวไกด์ @ ถ้าแบ่งตามไฮกับโลว์ แบบนี้ มันจะมีแยกละเอียดกว่านี้อีกน่ะค่ะ อย่างเช่นว่า ไฮคือจินตนาการไปเลย แต่ถ้าลงมาอีกเลเวลนึงก็คือ ตัวละครในโลกปัจจุบันไปอยู่ดินแดนจินตนาการ (ประมาณสุดขอบจักรวาลละมั้ง) แล้วก็ลงมาอีกก็คือตัวละครจากโลกจินตนาการมาอยู่โลกปัจจุบัน ลงมาล่างสุดคือโลกปัจจุบันแต่มีเชื้อของความเป็นแฟนตาซีอยู่

อันนี้แบ่งแบบหยาบหน่อยน่ะคับ ถ้าละเอียดกว่านี้ต้องไปเปิดหนังสือดู ^^''


โดย: เคียว IP: 210.213.27.166 วันที่: 10 กรกฎาคม 2550 เวลา:13:24:28 น.  

 
แวะมาบอกว่า
เพิ่งอ่านจบบนรถไฟสายเชียงใหม่-กรุงเทพฯ เมื่อคืนนี้ค่ะ
รู้สึกแปล๊บๆ กับความคิดในใจของเฮนรีและเอนีเดย์บางตอน


"การสูญเสียชิ่อคือการเริ่มต้นหลงลืม" --- ถ้านึกกระทั่งชื่อยังไม่ออกนี่ คงลืมหมดใจแล้วจริงๆ นะเนี่ย....


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 11 กรกฎาคม 2550 เวลา:16:00:52 น.  

 
อยากอ่านง่า


โดย: +*Sk_hunna*+ IP: 203.113.50.13 วันที่: 19 สิงหาคม 2550 เวลา:20:59:51 น.  

 
อ่านแล้วชอบมากเลย


ไปยืมห้องสมุดมากะว่าจะหาซื้อไว้อยู่

อยากอ่านอีกรอบ


โดย: Niceky love Sonny IP: 117.47.168.243 วันที่: 8 สิงหาคม 2551 เวลา:11:01:04 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ลวิตร์
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]




ลวิตร์ = พัณณิดา ภูมิวัฒน์ = เคียว

รูปในบล็อค
เป็นมัสกอตงาน Expo ของญี่ปุ่น
เมื่อปี 2005
น่ารักดีเนอะ

>>>My Twitter<<<



คุณเคียวชอบเรียกตัวเองว่า คุณเคียว
แต่ที่จริง
คุณเคียวมีชื่อเยอะแยะมากมาย

คุณเคียวมีชื่อเล่น มีชื่อจริง
มีนามปากกา
มีสมญาที่ได้มาตามวาระ
และโอกาส

แต่ถึงอย่างนั้น
ไส้ในก็ยังเป็นคนเดียวกัน
ไส้ในก็ยังชอบกินข้าวแฝ่ (กาแฟ ) เหมือนกัน
ไส้ในก็ยังชอบกินอาหารญี่ปุ่นเหมือนกัน
ไส้ในก็ยังชอบสัตว์ (ส่วนใหญ่)
ไส้ในก็ยังชอบอ่านหนังสือ ชอบวาดรูป
ชอบฝันเฟื่องบ้าพลัง
และชอบเรื่องแฟนตาซีกับไซไฟ
(โดยเฉพาะที่มียิงแสง )

ไส้ในก็ยังรู้สึกถึงสิ่งต่าง ๆ
และใช้ถ้อยคำเดียวกันมาอธิบายโลกภายนอก

ไส้ในก็ยังคิดเสมอว่า
ไม่ว่าเรียกฉัน
ด้วยชื่ออะไร

ก็ขอให้เป็นเพื่อนกันด้วย




Friends' blogs
[Add ลวิตร์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.