Ortho knowledge for all @ Do no harm patient and myself @ สุขภาพดี ไม่มีขาย ถ้าอยากได้ ต้องสร้างเอง

แมงป่อง กับ กบ ... ความเมตตาต้องมีวิธีการของความเมตตา ?



(นิทานสั้น สะกิดใจ) แมงป่อง กับ กบ

ณ ริมสระน้ำเล็กๆ แห่งหนึ่ง มีแมงป่องตัวหนึ่งอยู่ริมสระน้ำ มันอยากจะข้ามไปยังอีกฝั่งหนึ่งของสระ แต่ว่ายน้ำไม่เป็น เมื่อมันเห็นกบอยู่ที่นั่นมันจึงถามกบว่า

“เธอช่วยพาฉันข้ามสระน้ำนี้หน่อยได้ไหม”

กบปฏิเสธพร้อมกับบอกว่า “ฉันก็อยากช่วยเธอหรอกนะ แต่ฉันกลัวตายเพราะโดนเธอต่อย”

แมงป่องจึงบอกว่า “ถ้าฉันต่อยเธอ ทำให้เธอตาย ฉันก็จมน้ำตายด้วย ฉันไม่ทำอย่างนั้นหรอกน่า”

เหตุผลของแมงป่องทำให้กบรู้สึกวางใจ ตกลงที่จะพาแมงป่องข้ามไปยังอีกฟากหนึ่งของสระน้ำ

แมงป่องดีใจมากมันคลานขึ้นไปขี่หลังกบ แล้วกบน้อยก็ออกว่ายน้ำ

เมื่อกบว่ายน้ำไปได้ครึ่งทาง แมงป่องก็ต่อยกบ กบน้อยรู้สึกเจ็บปวดมาก หมดเรี่ยวแรงที่จะพยุงตัว ก่อนจะจมน้ำตาย กบถามแมงป่องด้วยความข้องใจว่า

“ทำไม…เธอต่อยฉันทำไม ฉันกำลังจะตาย และเธอก็ต้องตายด้วย เธอต่อยฉันทำไม”

แมงป่องตอบว่า “โอ้…ฉันไม่ได้ตั้งใจ มันเป็นธรรมชาติของฉัน ฉันไม่ได้ตั้งใจ”

เครดิต https://pantip.com/topic/31930241

.............................................................

ความเมตตาต้องมีวิธีการของความเมตตา

หลวงพี่รูปหนึ่งนั่งสมาธิอยู่ริมน้ำ ได้ยินเสียงดิ้นรนในน้ำก็ลืมตาขึ้น เห็นแมงป่องตกอยู่ในน้ำ. ท่านก็ใช้มือช้อนมันขึ้นมา ขณะเดียวกันแมงป่องก็ชูหางขึ้นแล้วต่อยไปที่มือท่าน ท่านปล่อยแมงป่องลงที่ฝั่ง แล้วหลับตาทำสมาธิต่อ.

ผ่านไปสักครู่ก็ได้ยินเสียงดิ้นรนในน้ำอีก ท่านลืมตาขึ้น เห็นแมงป่องตกลงไปในน้ำอีก ก็เอามือช้อนมันขึ้นมาอีก
แน่นอนแมงป่องก็ต่อยไปที่มือท่านอีก ท่านก็หลับตาทำสมาธิต่อ

ผ่านไปสักครู่ เหตุการณ์ก็ได้เกิดขึ้นซ้ำอีก

หลวงตาที่อยู่ข้างๆก็พูดขึ้น "ท่านไม่รู้หรือว่าแมงป่องมันต่อยคน?"

หลวงพี่ตอบว่า "รู้ โดนมันต่อยสามครั้งแล้ว"

หลวงตาพูดว่า "แล้วท่านทำไมยังจะช่วยมันอีก"

หลวงพี่ตอบว่า "การต่อยคนเป็นสัญชาตญาณของมัน.
แต่ความเมตตาเป็นสัญชาตญาณของเรา.
สัญชาตญาณของมันไม่สามารถมาเปลี่ยนสัญชาตญาณของเรา"

ขณะนั้นเองก็ได้ยินเสียงดิ้นรนในน้ำอีก แมงป่องตัวเดิมนั่นแหละ

หลวงพี่ไม่รีรอ เตรียมที่จะนำมือที่บวมเป่ง ยื่นไปช่วยมัน

ขณะเดียวกัน หลวงตาก็ยื่นกิ่งไม้ให้กับหลวงพี่. ท่านก็นำกิ่งไม้ช้อนแมงป่องขึ้นมา

หลวงตายิ้มและพูดว่า

"ความเมตตานั้นดี ในเมื่อมีความเมตตาต่อแมงป่องก็ต้องมีความเมตตาต่อตัวเองด้วย ฉะนั้นความเมตตาต้องมีวิธีการของความเมตตา ต้องดูแลตัวเองให้ดี ถึงจะมีสิทธิไปช่วยผู้อื่น"

เรื่องนี้ทำให้ได้คิดถึงประโยคหนึ่งที่ผู้คนชอบพูดกันในปัจจุบันนี้ว่า "เดี๋ยวนี้จะทำตัวเป็นคนดีนั้นยาก"

ใช่แล้ว สัญชาตญาณของคนดีคือทำความดี. แต่ผู้ถูกช่วยอาจจะไม่ใช่คนดี และผลของการช่วยคนก็อาจจะไม่เกิดผลที่ดี. แล้วทำไมจึงเป็นเช่นนี้?

เหมือนกับที่หลวงตาพูดไว้ "เมตตาต้องมีวิธีการของความเมตตา". "ความเมตตานั้นดี ในเมื่อจะเมตตาต่อแมงป่องก็ต้องเมตตาต่อตัวเองด้วย"

ความเป็นจริงเตือนเราว่า ต้องรู้จักรับผิดชอบต่อตัวเองก่อน ถึงจะสามารถรับผิดชอบต่อผู้อื่นได้อย่างแท้จริง. คนที่ไม่สามารถรับผิดชอบต่อตัวเอง แล้วจะไปรับผิดชอบต่อผู้อื่น จะเป็นไปได้ไหม ? ต้องดูแลตัวเองให้ดีก่อน ถึงจะมีสิทธิ์ไปดูแลผู้อื่น

และประโยคนี้ก็ชอบมาก
"สัญชาตญาณของแมงป่องนั้นต่อยคน แต่สัญชาตญาณของเราคือความเมตตา สัญชาตญาณของมันจะไม่สามารถมาเปลี่ยนสัญชาตญาณของเรา"

"ความเมตตานั้นดี ในเมื่อจะเมตตาต่อแมงป่องก็ต้องเมตตาต่อตัวเองด้วย และต้องมีวิธีการของความเมตตาด้วย"

จะไม่ให้ความเลวของผู้อื่นมามีอิทธิพลกับความดีของเรา
จะไม่ยอมให้การกระทำและวาจาของผู้อื่นมามีผลต่อจิตใจและการกระทำของเรา

ผู้ที่มีปัญญาสามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้.
แต่ผู้โง่เขลาเบาปัญญานั้น อารมณ์ของตนจะขึ้นอยู่กับพฤติกรรมและวาจาของผู้อื่น

"จงอย่าทอดทิ้งความดีของเราเพราะความเลวของผู้อื่น"

เครดิต 
นพ.ธวัชชัย เศรษฐศุภพนา
https://www.facebook.com/churdchoo.ariyasriwatana/posts/10154888663745208?comment_id=10154889543970208&ref=notif¬if_t=mentions_comment¬if_id=1501315106061015
..............................................






Create Date : 29 กรกฎาคม 2560
Last Update : 29 กรกฎาคม 2560 22:33:59 น. 0 comments
Counter : 3406 Pageviews.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

หมอหมู
Location :
กำแพงเพชร Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 762 คน [?]




ผมเป็น ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ หรือ อาจเรียกว่า หมอกระดูกและข้อ หมอกระดูก หมอข้อ หมอออร์โธ หมอผ่าตัดกระดูก ฯลฯ สะดวกจะเรียกแบบไหน ก็ได้ครับ

ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ เป็นแพทย์เฉพาะทางสาขาหนึ่ง ซึ่งเมื่อเรียนจบแพทย์ทั่วไป 6 ปี ( เรียกว่า แพทย์ทั่วไป ) แล้ว ก็ต้องเรียนต่อเฉพาะทาง ออร์โธปิดิกส์ อีก 4 ปี เมื่อสอบผ่านแล้วจึงจะถือว่าเป็น แพทย์ออร์โธปิดิกส์ โดยสมบูรณ์ ( รวมเวลาเรียนก็ ๑๐ ปี นานเหมือนกันนะครับ )

หน้าที่ของหมอกระดูกและข้อ จะเกี่ยวข้องกับความเจ็บป่วย ของ กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น กระดูก ข้อ และ เส้นประสาท โรคที่พบได้บ่อย ๆ เช่น กระดูกหัก ข้อเคล็ด กล้ามเนื้อฉีกขาด กระดูกสันหลังเสื่อม ข้อเข่าเสื่อม กระดูกพรุน เป็นต้น

สำหรับกระดูกก็จะเกี่ยวข้องกับกระดูกต้นคอ กระดูกสันหลัง กระดูกเชิงกราน กระดูกข้อไหล่ จนถึงปลายนิ้วมือ กระดูกข้อสะโพกจนถึงปลายนิ้วเท้า ( ถ้าเป็นกระดูกศีรษะ กระดูกหน้า และ กระดูกทรวงอก จะเป็นหน้าที่ของศัลยแพทย์ทั่วไป )

นอกจากรักษาด้วยการให้คำแนะนำ และ ยา แล้วยังรักษาด้วย วิธีผ่าตัด รวมไปถึง การทำกายภาพบำบัด บริหารกล้ามเนื้อ อีกด้วย นะครับ

ตอนนี้ผม ลาออกจากราชการ มาเปิด คลินิกส่วนตัว อยู่ที่ จังหวัดกำแพงเพชร .. ใช้เวลาว่าง มาเป็นหมอทางเนต ตอบปัญหาสุขภาพ และ เขียนบทความลงเวบ บ้าง ถ้ามีอะไรที่อยากจะแนะนำ หรือ อยากจะปรึกษา สอบถาม ก็ยินดี ครับ

นพ. พนมกร ดิษฐสุวรรณ์ ( หมอหมู )

ปล.

ถ้าอยากจะถามปัญหาสุขภาพ แนะนำตั้งกระทู้ถามที่ .. เวบไทยคลินิก ... ห้องสวนลุม พันทิบ ... เวบราชวิทยาลัยออร์โธปิดิกส์ หรือ ทางอีเมล์ ... phanomgon@yahoo.com

ไม่แนะนำ ให้ถามที่หน้าบล๊อก เพราะอาจไม่เห็น นะครับ ..




New Comments
[Add หมอหมู's blog to your web]