MY VIP Friend

กันยายน 2555

 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog
กลับมาได้ใช้ล๊อกอินอีกครั้งหนึ่ง ... เพื่อนสนิทคนใหม่
จริงๆ เราไม่เคยคิดจะเลิกเล่นพันทิพเลยนะ แต่ยอมรับว่าเบื่อพันทิพมาก ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนชอบพันทิพมาก เล่นได้เป็นวันๆ พันทิพหลังๆ เริ่มเพ้อเจ้อจนเรารับไม่ค่อยได้

พอโดนยึดอมยิ้มไป เพราะโพสภาพอนาจาร ก็เลยเหมือนคล้ายๆ จะเลิกเล่นไป

นี้ก็พึ่งได้อมยิ้มคืน ก็เลยเขียนบล๊อกสักบล๊อกฉลอง

(แล้วก็ว่าจะBack up บล๊อกนี้ แล้วลบทิ้งแล้วเนี้ย)

ชีวิตเรา นี้ก็แบบ .. พูดแล้วเหมือนโม้ จู่ๆ ก็เจอหลายสิ่งเข้ามาพร้อมๆ กัน

1. ลงเรียนโท 2.ได้ดัดฟันที่มหิดล หลังจากรอมาห้าปี .. หลังจากทำฟันร่างกายก็อ่อนแอขึ้น ปวดไมเกรนง่ายขึ้น 3.ได้ทำงานบัญชีต้นทุนที่สีลมเต็มตัว 4.มีผู้ชายขาว สูง หุ่นน่ากัด มาจีบแบบจริงจัง 5.หุอื้อไม่หาย คือ.. เป็นหวัด แล้วไปขึ้นเครื่องบินต่างประเทศ ความกดอากาศในเครื่องดึงน้ำมูกไหลย้อนคอไปหู เลยเป็นหูน้ำหนวก ได้ยินอะไรแบบเสียงก้องๆ เพราะหูอื้อ

ผลสรุปข้างต้นก็คือ
1. ไม่มีเวลา คิดแต่รายงานกับอ่านหนังสือ  2. ลาป่วยจนไม่รู้จะป่วยยังไงแล้ว จนได้ทะเลาะกับคนที่ออฟฟิต 3.ทำงานไม่หนักแต่ความรับผิดชอบสุดๆจริงๆ รู้ตัวเลยว่า ชอบทางนี้ 4.จากจีบกัน ตอนนี้เป็นเพื่อนสนิทกันไปแล้ว 5.หูอื้อ เลยต้องหยอดหู คอขมทุกวัน


สิ่งที่ได้เรียนรู้ ช่วงหลังๆ คือ ชีวิตคนทำงานสีลม เป็นชีวิตบัดซบมาก ไม่มีอะไรเป็นตัวเราสักอย่าง สร้างภาพขึ้นมาทั้งนั้น เข้าใจแล้วว่า ทำไมมันถึงให้เงินเดือนเยอะ เพราะ เอาไว้ซื้อความสุขที่หาไม่ได้จากที่่ทำงานนี้เอง


ก็นับว่าโชคดีที่ลงเรียนโทนะ สมองเลยไม่ฟุ้งซ่านมาก คิดอยู่สองเรื่อง รายงานกับอ่านหนังสือ เรียนก็ไปได้เรื่อยๆ

ส่วนเรื่องงานก็คิดเฉพาะเวลางาน บางทีเครียดๆ เรื่องงาน ก็เอาเรื่องเรียนมาคิดเวลางาน

อยากเปลี่ยนงานใหม่ ก็อยากนะ เพราะรู้สึกว่า งานมันตันแล้ว ไม่มีอะไรให้เรียนรู้
แต่ก็ต้องทนจนกว่าจะเรียนจบ แล้วก็อยากเก็บประสบการณ์เป็น4ปี จะได้ให้พ้นระดับจูเนียร์สักที

เราโชคดีที่ได้เพื่อนสนิท เป็นคนที่เคยรักกันมากมาก่อน  เพื่อนเรามันก็เป็นคนเก่ง ... เสียอย่างเดียว มันเป็นผู้ชาย อารมณ์ไม่ค่อยอ่อนไหว เราเคยชินอยู่แต่กับการอยู่กับผู้หญิง มีเพื่อนที่คอยเอาใจใส่ เอาอกเอาใจ พอมีเพื่อนสนิทเป็นผู้ชาย พอโดนเอาใจใส่ เลยรู้สึกว่า นี้ฉันกำลังเป็นเมียมันหรือเปล่า? ในทางกลับกัน พอเวลาเราน้อยใจเพื่อน อยากให้มันมาเอาใจใส่เรามากกว่านี้ มันก็มาตั้งคำถามกับเราว่า นี้คุณกำลังทำให้ผมเป็นผัวคุณหรือเปล่า?

เป็นงั้นไป

ที่เรียนรู้กับการคบเพื่อนคนนี้ คือ การเป็นเพื่อนนี้ยากกว่าการเป็นแฟน

ตอนจีบกัน เวลาผู้ชายมันงี่เง่า เราต้องอดทน เพราะไม่งั้นผู้ชายจะหนี
แต่เวลาเป็นเพื่อน มันงี่เง่า เราจะบอกว่า มึงมันงี่เง่า สักกี่ทีก็ได้...

ตอนจีบกัน เรามีสิทธิ์ที่จะบอกผู้ชายว่า ถือกระเป๋าให้หน่อยนะ
แต่เวลาเป็นเพื่อน เราต้องบังคับตัวเองไม่ให้พูดกับเพื่อนแรงๆ  แต่สุดท้ายมันจะออกมาเป็นประโยคนี้ว่า "คุณมึงคะ มึงตัวใหญ่ยังกะควายขนาดนี้ ช่วยถือกระเป๋าให้สตรีบอบบางเยี่ยงกูนี้มันจะตายหรือไง น้ำใจหน่อยคะ "

ที่ดีที่สุดของการเป็นเพื่อน คือ เรื่องเวลา ...
ตอนจีบกัน การหาเวลาให้กันนี้แทบเป็นไปไม่ได้เลย จะไปไหนกันแต่ละที นัดล่วงหน้าสองอาทิตย์

พอเลิกจีบกัน เป็นเพื่อนกัน โอโห้ เวลาหาง่าย นัดบ่ายสี่ หกโมงครึ่งได้เจอกัน
โทรไปสองทุ่ม เพื่อนบอกจีบหญิงอยู่ สามทุ่มโทรมาใหม่นะ ทุกอย่างสบายๆ

แต่การมีเพื่อนสนิทเป็นผู้ชาย ที่ ขาว สูง หุ่นน่ากิน  มันก็ต้องแลก ไอ้การถูกเข้าใจผิดว่า เป็นแฟน,เป็นกิ๊ก,เป็นเมีย ยังธรรมดาไป ... เพราะสิ่งเหล่านี้ เราพูด ยังแสดงออกได้ ว่าไม่ใช่

แต่ไอ้สิ่งที่พูดไม่ได้นี้สิอึดอัด .... อย่างเช่นว่า เพื่อนเราแอบไปกิ๊กไว้คนนั้นคนนี้ โดยที่อีกคนก็ไม่รู้กัน

พอถึงเวลา เพื่อนเอาเราบังหน้า ว่าหาเรื่องให้ยัยกิ๊กทั้งสอง ก็มาหาเรื่องเรา ทั้งๆ ที่เรารู้ว่า เพื่อนไปกับกิ๊กคนไหน เราก็ได้บอกว่ากับกิ๊กสองคน ไม่มีอะไรเลยจริงๆ นะ ในขณะที่เพื่อนตัวดีเราไปถึงไหนต่อไหนแล้ว


สนิทกันมากขนาดนี้  จะเช็คได้ไงว่าเริ่มคิด เกินเพื่อนไหม?
 ... สำหรับเรา เราก็รู้ก็ตอนที่ รู้ว่ามันโกรธนี้แหละ

คือเราก็เมล์คุยกันเป็นปกติเกือบทุกวัน (ตอนจีบกันยังไง ตอนเป็นเพื่อนกันก็เหมือนเดิม)
ตอนเย็น เรายุ่งๆ พิมพ์ห้วนๆ ไป "แล้วไง?"

เท่านั้นแหละ มันเงียบไม่ตอบกลับ เราเองก็ไม่สนใจ พอเวลาผ่านไป หกโมงเราโทรหามัน

ปรากฎว่า มีคนอื่นรับ บอกเพื่อนไม่ว่าง ไม่อยู่ เราก็เอิ่ม.. ไม่เป็นไรคะ แล้วก็วาง
... กว่าจะเอ๊ะใจก็ปาไปสามทุ่ม
เลยลองโทรไป ... รู้สึกมีเซ็นส์ ... ถ้าไม่รับนี้นี้เพื่อนอาจจะงอนไปแล้ว แล้วมันก็ไม่รับจริงๆ

จุดแตกต่างจากผู้ชาย มันจะต่างกับผู้หญิงตรงนี้แหละ
ถ้าผู้หญิงงอน แสดงว่าผู้หญิงรัก แต่ถ้าผู้ชายงอน แสดงว่า ผู้ชายหมดความสนใจ รำคาญ

พอวันต่อมา สายๆ ใช้เบอร์ออฟฟิตโทรไป โทรไปสองที
สักพักมันรับ บอกเราเสร็จสรรพโดยไม่ต้องถาม ว่า อยู่งานศพอาม่าที่ต่างจังหวัด

"เธอไม่รับสาย เธอโกรธเราใช่ไหมเนี้ย?"

คำแรกเลย มันบอกว่า ไม่โกรธ แต่พอคุยไปสักพัก คำหนึ่งหลุดออกมา "จริงๆ มันก็มีหวืดบ้างแหละ แต่ว่าเราไม่ใช่คนโกรธนานหรอก..." ก็เลยรู้ว่า มันโกรธจริงๆ ด้วย

เราก็เลยเข้าใจล่ะ ว่า มันคิดกับเราแค่เพื่อน เพราะมันไม่คิดว่าการโกรธกันเป็นเรื่องใหญ่โต คนที่เป็นเพื่อนกัน โกรธกันคือเรื่องปกติ หันหน้ามาคุยกันก็จบ แต่ถ้ารู้สึกลึกซึ้งล่ะก็ โกรธกันนี้ เรื่องใหญ่ ต้องคุยให้เคลียร์ไปข้างหนึ่ง

...
ที่จริงเราพิมพ์เสร็จมาสักพักแล้วนะ ว่าจะโพส  แต่เพื่อนเรา ยังคงวุ่นๆ อยู่ เราเลยต้องไปคอยนั่งฟัง คอยสะสางให้มัน

ความเป็นเพื่อนมันดีตรงนี้แหละ ไม่รู้สึกว่าต้องบอกอีกฝ่ายว่าอยากได้ความรัก มากหรือ น้อย รู้แต่ว่า ถ้าเรารักจะเพื่อนอยู่ด้วยกัน เราก็ต้องดูแลกันแบบนี้ไปเรื่อยๆ 

ทั้งๆ ที่ชีวิตเรา วุ่นวายพอสมควรแล้วนะ แต่ก็ยังไม่พอใจ
เพราะเดือนหน้า เราจะไปลงเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มอีก เพราะเบื่อจะเป็นระดับจูเนียร์เต็มทีแล้ว





Create Date : 24 กันยายน 2555
Last Update : 24 กันยายน 2555 22:32:13 น.
Counter : 10139 Pageviews.

2 comments
  
สนใจคอรส เลเซอร แก้ปัญหา ผิวหน้า และสลายเซลลูไลท โบท้อก ฟิลเลอร ร้อยไหมละลายราคาโปรโมชัน จำนวนจำกัด คลินิกคุณหมอมีชื่อเสียง ด้าน ออกแบบรูปหน้าไห้สวยงาม ติดต่อสอบถาม nunasohappy@hotmail.co.th ฝ่าย โปรโมชัน
โดย: nunasohappy IP: 124.120.230.129 วันที่: 19 ธันวาคม 2555 เวลา:23:37:51 น.
  
ไม่ได้เข้า พันทิพย์ นาน 5 ปีเเล้ว หา log in เก่าๆ
เเอบอ่าน blog ของคุณ หวานใจนายโหด เขียนได้น่ารักดีครับ ตรงๆดี

โดย: CaniZZaro IP: 125.27.168.228 วันที่: 28 พฤษภาคม 2556 เวลา:16:05:25 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หวานใจนายโหด
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




add me!!plz~
Add to Google

ไม่สวยก็เซ็งเป็น