Less is now.
<<
มิถุนายน 2558
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
22 มิถุนายน 2558

7 hrs. in Florence

13.06.15 เริ่มต้นการเดินทางสู่ที่เก่าที่เราเคยไปเยือนมาแล้วสองครั้ง ครั้งนี้คือครั้งที่สาม กับเจ็ดชั่วโมงในฟลอเร้นซ์ เป็นทริปที่ทำเพื่อหลานชาย ทอมมี่ วัย 11 ขวบเป็นของขวัญสำหรับเด็กคริสต์ที่เข้าพิธี Cresima มันคืออะไรตามไปอ่านในนี้ค่ะ https://en.wikipedia.org/wiki/Confirmation ลุงและป้าเลยให้ของขวัญเป็นทริปการเดินทางสู่ฟลอเร้นซ์และโรม เปิดโลกใหม่ๆให้เค้าไปเห็นกับตาตัวเองค่ะ 

เช้าวันเสาร์ อิชั้นตื่นตีห้าครึ่ง ล้างหน้าล้างตาแต่งตัวรัดกุม เพราะวันนั้นฝนตกปรอยๆ ขับรถไปจอดทิ้งไว้ที่สถานีรถไฟ พอออกจากรถปุ๊บ ฝนก็กระหน่ำเทลงมาจนเปียกมะล่อกมะแล่ก หลานชายนั้นพ่อเค้าก็ขับรถมาส่ง ขึ้นรถไฟไปมิลานกันค่ะ รถไฟออกเวลา 06.20 นั่งรถไฟไปประมาณ 2.20 ชั่วโมงกับระยะทางแค่ 175 กม. และพอถึงสถานีรถไฟมิลาน เรามีเวลาอีกนิดหน่อยสำหรับการมานั่งจิบคาปูชิโน่ร้อนๆแกล้มครัวซองค์ ที่สถานีมิลาน ตอนนี้มีการจัดระเบียบผู้โดยสารดีมากค่ะ การจะเข้ามายังชานชาลาตรงที่รถไฟจอดนั้น คุณต้องมีตั๋วโชว์ว่า คุณเป็นผู้โดยสารจริงๆนะ ไม่งั้นเจ้าหน้าที่ที่ตรวจตรงทางเข้าเค้าจะไม่ให้คุณผ่านเข้าไป ตรงชานชาลาเลยไม่พลุกพล่าน และสแกนพวกโจรไปได้ดี แต่ตรงที่นั่งรอด้านนอกหรือที่ขายตั๋วอัตโนมัติก็ยังเห็นโจรเหล่านี้ยังป้วนเปี้ยนอยู่ ระวังๆกันด้วยนะคะ อย่าประมาท


อิชั้นจองรถไฟความเร็วสูงของอิตาเลี่ยนไว้ Freccia Rossa จากมิลานมาฟลอเร้นซ์ แค่สองชั่วโมงเองค่ะ 11.00 เราก็ถึงสถานี Firenze Santa Maria Novella คือชื่อเต็มๆของสถานีรถไฟหลักของเมือง เราเดินลากกระเป๋าไปฝากที่จุดรับฝากกระเป๋า ซึ่งอยู่ด้านซ้ายสุดของสถานี ถ้าหันหลังให้ขบวนรถไฟ ลงจากรถไฟปุ๊บ เดินออกมา เลี้ยวซ้ายไปเลยค่ะ แต่อย่าเพิ่งออกจากสถานีนะคะ ใกล้ๆร้านแม็คโดนัลด์ เข้าคิวฝากกระเป๋าไปสิบนาที คนฝากเยอะใช้ได้ เราเสียค่าฝากไป 12 ยูโร สำหรับกระเป๋าสองใบ ค่าฝาก 5 ชั่วโมงแรก เอ๊ะ หรือหกชั่วโมงนะ จำไม่ได้ ใบละ 6 ยูโรค่ะ (มิถุนายน ปี 2015) จ่ายเงินค่าฝากตอนมารับกระเป๋าคืนค่ะ 


หลังจากนั้นเราเดินออกจากสถานีตามฝูงชนไปเรื่อยๆก็จะเจอดูโอโม่ประจำเมืองฟลอเร้นซ์ บางส่วนก็ปิดซ่อมแซมกันบ้าง แต่นักท่องเที่ยวก็ยังไม่ถดถอยน้อยลง เมืองนี้ถ้าไม่ได้เข้ามิวเซียม วันเดียวก็เอาอยู่ค่ะ แต่ไหนๆก็มากันแล้ว พักสักคืนก็ได้นะคะ ชมเมืองแบบสโลว์ๆ เนิบนาบ แต่เรามีจุดมุ่งหมายที่กรุงโรมค่ะ เราเลยให้แค่เจ็ดชั่วโมงสำหรับเมืองนี้ แต่กลับกลายเป็นว่า หลานเรากลับชอบเมืองนี้มากกว่าโรมเสียอีก ก็เป็นเพราะว่า ลุงพาหลานเดินบันไดขึ้นไปชมวิวเมืองด้านบนหอระฆังโน่นแน่ะ ลุงกลับมาบ่นกระปอดกระแปดว่าเหนื่อย เมื่อยขา กลัวความสูง บลาบลาบลา ฮ่าๆๆ แต่หลานกลับชอบใจวิวบนนั้น ฮีชอบที่สูงเหรอเนี่ย 


แลนมาร์คสำคัญๆ ถ่ายรูปไปเรื่อยเปื่อย เดินข้ามสะพานเก่าของเมือง แวะกินมื้อเที่ยงร้านอาหารเล็กๆ ที่มีตลาดนัดเล็กๆอยู่ด้านหน้า เสียดายเค้ากำลังเก็บของกลับบ้านกัน อิชั้นอดเดินดูของซะงั้น เสียดายๆๆ เห็นราคาพวกรองเท้า เสื้อผ้าแล้ว ราคาถูกกว่าแถวบ้านเราด้วย ดูรูปกันเพลินๆละกันค่ะ 






















ส่งโปสการ์ดรูปสะพานให้หลานชาย 'มัตเตีย' น้องชายของเจ้าทอมมี่ และอีกใบส่งถึงตัวเอง




หลังจากที่กินมื้อเที่ยงกันเสร็จ ลุงหลานเดินไปขึ้นหอระฆัง อิชั้นไม่อยากร่วมทรมาณสังขารตัวเองกับบันได้เป็นร้อยๆขั้น อิชั้นเลยเดินดูร้านขายของ เสื้อผ้า กระจุกกระจิก แล้วนั่งตามขั้นบันไดหน้าโบสถ์ดูดน้ำปั่น ที่อิตาลีเรียก granita แก้วพลาสติกแก้วเล็กๆ 4 ยูโร แหม่ ขายกันแบบตั้งตัวได้ภายในสามวันสี่คืนกันเลยหรือไง เข้าใจค่ะว่าค่าเช่าที่มันแพง ไอติมสองรส ราคา 6 ยูโร จะบ้าตาย กลับมากินไอติมแถวบ้านเราเถอะหลานเอ้ย สองรสแค่ 1.80 ยูโรเอง อ้อ อีกอย่างนึง อิชั้นดื่มน้ำเปล่าหมดขวด เดินๆหาน้ำพุเพื่อเติมน้ำดื่ม หาไม่เจอเลยค่ะ ฟลอเร้นซ์ไม่คิดสร้างเลยใช่ไหมคะ กะให้ซื้อดื่มอย่างเดียวเลยหรือ ผิดวิสัยประเทศที่มีน้ำพุเกลื่อนเมืองมากๆ


หลังจากนั้นพอใกล้ๆห้าโมงเย็น เราเดินกลับมายังสถานีรถไฟ แวะซื้อน้ำดื่ม น้ำปั่น หลานชายขอกินไก่นักเก็ตที่แม็คโดนัลด์ ก็นั่งกินๆไปแป๊บนึง แวะไปรับกระเป๋า แล้วเดินไปขึ้นรถไฟความเร็วสูงอีกรอบเพื่อไปกรุงโรม รถไฟออกตรงเวลาเป๊ะตอน 18.00 หนึ่งชั่วโมงครึ่งถัดมาเราก็มายืนงงๆกันที่สถานี Roma Termini กันแล้วค่ะ บล็อกหน้าเดี๋ยวพาไปเที่ยวโรมกันต่อนะคะ 


KEEP DREAMING AND KEEP TRAVELING กันนะคะ 



Create Date : 22 มิถุนายน 2558
Last Update : 22 มิถุนายน 2558 21:03:09 น. 1 comments
Counter : 1457 Pageviews.  

 
ตามไปเที่ยวเมือง Florence ด้วยครับ ฝันว่าสักวันคงได้ไปเที่ยวยุโรปบ้าง อาจต้องรอถึงวัยเกษียณเลย

ขอบคุณมากที่ไปเยี่ยมชม blog ผมโหวตท่องเที่ยวให้ครับ


โดย: แมวเซาผู้น่าสงสาร วันที่: 30 มิถุนายน 2558 เวลา:18:51:31 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

settembre
Location :
Italy

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 24 คน [?]




A minimalist mindset>>>minimalist lifestyle.
I try to pay attention to everything I buy and keep.
Now I live by the concept of BALANCE.




เริ่มนับจำนวนคนอ่าน วันที่ 22/04/15




New Comments
[Add settembre's blog to your web]