หลังอาหารเช้าหยิบกระเป๋าสะพายใบเล็กออกมาตรวจตราข้าวของที่จำเป็น แต่งตัวทะมัดทะแมง เดินออกไปรอรถเมล์ตอนเช้าเราไม่มีโปรแกรมอะไรกะนั่งรถเมล์ ผ่านจุดไหนน่าสนใจก็ลง แต่ยังไม่ทันได้ลงมีพนักงานของบริษัทรถเมล์กรุงโรมขึ้นรถมาสี่ห้าคน ช่วยกันตรวจบัตรโดยสาร โชคดีที่เราซื้อตัวแบบสามวันไว้เลยรอดตัวไป ไม่ถูกปรับมีบางคนไม่มีตั๋วนะคะอย่างน้อยๆน่าจะโดนปรับราวๆห้าสิบยูโร ดูๆเหมือนไม่มีคนจะมาคอยตรวจตั๋วใช่มั้ยคะ เพราะรถเมล์ก็แค่มีคนขับคนเดียวไม่มีเด็กขายตั๋วเหมือนบ้านเราแต่ประโยคที่ว่า เสียน้อยเสียยากเสียมากเสียง่าย มันยังใช้ได้อยู่ค่ะ

สุดท้ายแล้วเราลงที่ป้าย Piazza Venezia เดินขึ้นบันไดไปวิวด้านบนมี Palazzo Venezia อิชั้นเดินไปถ่ายรูปคู่กับรูปปั้นแถบนั้นแล้วเดินไปอนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เฮ้ย ไม่ใช่แล้ว ฮ่าๆๆ Monumentoa Vittorio Emanuele II จากจุดนี้จะเดินไป Colosseo ก็ได้ค่ะใกล้กันมาก แต่เราตัดสินใจเดินไปทาง Pantheon และ Piazza Navona แล้วทะลุไปยัง Ponte Sant'Angelo มาเที่ยวกรุงโรมมันต้องใช้สองเท้านี่แหละค่ะถึงจะได้เห็นมุมสวยๆ บ่ายกว่าๆก็กินสลัดเป็นมื้อเที่ยงร้านแถบๆสะพานนั่นแหละเพราะว่าบ่ายสองโมงครึ่งเราจองตั๋วออนไลน์เข้าชม Museo di Vaticano ไว้แล้ว

เห็นตัวอักษรสี่ตัวนั่นไหมคะ และแทบจะทุกมุมเมืองเลยก็ว่าได้ไม่เว้นแม้แต่ฝาท่อระบายน้ำ จะเห็นตัวอักษรสี่ตัวนี้ SPQR ภาษาละตินคือ Senatus Populusque Romanus (SenatvsPopvlvsQve Romanvs) แปลเป็นอิตาเลี่ยนคือ "IlSenato e il popolo romano”  แล้วภาษาไทยล่ะน่าจะเป็นพวก รัฐสภาและประชาชน แต่ชาวอิตาเลี่ยนก็เอามาผันให้มันผิดเพี้ยนไว้อำชาวโรมันกันเล่นๆคือ Sono pazzi quelli romani! ท่าจะบ้าพวกชาวโรมันนี่ ฮิๆๆๆ อำกันเล่นๆ ไม่มีไรค้า 

บนสะพาน Ponte Sant'Angelo มีรูปปั้นสวยๆ แถมเป็นทำเลไว้ถ่ายหนัง เห็นหลายเรื่องแล้วที่มีฉากตรงนี้

คล้ายๆว่าป้ากำลังทำมือไอเลิฟยู เลยเนอะ

มุ่งสู่วาติกัน

เจอกันบล็อกหน้า ตอนจบของทริปนี้ค่ะ