Less is now.
<<
ตุลาคม 2557
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
9 ตุลาคม 2557

To Rome with love 28.09.14

สวัสดีค่ะมาต่อกันบล็อกที่สองของ To Rome with love ของเราสองคนกันต่อค่ะบล็อกนี้เน้น Tasting in Rome รูปของกินมันเยอะเช้าวันอาทิตย์ที่ 28กันยาตื่นมาจัดการอาหารเช้าด้วยตัวเองเพราะทางบีบีเค้าไม่มีพนักงานมาคอยดูแลตรงนี้ให้ก็จัดการต้มกาแฟม๊อคค่าอุ่นนม หยิบขนมนมเนยมากินนิดหน่อยสิบเอ็ดโมงเดินออกไปวาติกันที่อยู่ไม่ไกลจากที่พักฟังโป๊บให้ศีสให้พรแล้วสุดท้ายโป๊บนั่งรถวนรอบๆลานมีคนมาเฝ้าโป๊บเยอะแยะพี่เมาถ่ายรูปนี้ไว้ได้ฮีดีใจและปลี้มใจที่สุดที่ได้เจอ The voice ตัวจริงเสียงจริง




ส่วนอิชั้นอยู่สู้ฝูงชนไม่ไหวออกมานั่งอยู่วงนอกซื้อแสตมป์สวยๆติดโปสการ์ดส่งให้เพื่อนฝูงเแทน




วาติกันมีเสากลมแบบนี้กี่อันกันเนี่ยน่าจะถึงพัน




ออกจากวาติกันบ่ายโมงถึงเวลาอาหารเที่ยงนั่งรถเมล์ขึ้นเนินเขาไปจุดชมวิวแต่มองไม่เห็นวิวสักเท่าไหร่ต้นไม้บังเยอะแล้วเดินลงเนินมาที่ย่านฮิปๆของกรุงโรมคือเขต Trastevere ย่านชุมชนยิวเก่าแก่ที่ตอนนี้กลายเป็นแหล่งชุมนุมของนักท่องเที่ยวสำหรับเดินชมบ้านเมืองตรอกซอกซอยเก๋ๆร้านอาหารเยอะแยะหรือบางบ้านกลายเป็นที่พักเล็กๆแบบบูติคบาร์กาแฟชิลล์ๆ อ่ะ ใครมากรุงโรมแวะมาเดินเล่นถ่ายรูปหรือกินอาหารย่านนี้กันเถอะค่ะถ้ามีโอกาสกลับไปกรุงโรมอีกรอบอิชั้นจะเลือกที่พักย่านนี้จะได้เดินชมวิว กินกันให้พุงปลิ้นไปเลย




หนึ่งในเมนูท้องถิ่นน่าลองภาษาอิตาเลี่ยนเรียกว่า carciofi alla giudia มันคือดอกอาติโช้คทอดกรอบโรยเกลือพริกไทย กินเล่นๆขำๆก็อร่อยดีดอกนี้ 5ยูโรนะคะไม่ธรรมดา ฮ่าๆๆปกติซื้อกินแบบสดๆตกหัวละหนึ่งยูโรค่ะ




จานต่อไปเป็นคาร์โบนาร่าแต่ไม่ใช้เส้นสปาเก็ตตี้คือบางร้านเค้าไม่ต้มเส้นตามที่เราอยากกินแต่เอาเถอะ จานนี้อร่อยล้ำลึกรสไม่เข้มข้นมาก พริกไทยพอประมาณอยู่โรมสามคืนกินคาร์โบนาร่าไปสองจาน



ส่วนอันนี้เป็นรูปเก่าติดผนังร้านแม่น้ำไทเบอร์และป้อม Castel sant'Angelo ดูลุงซิตกเบ็ดชิลล์ๆ ถ้าเป็นตอนนี้เหรอลุงอาจมีแผงขายของที่ระลึกตรงตีนสะพานแล้วก็เป็นได้




เป็นไวน์แดงท้องถิ่นคือพวก house wine ประจำร้านอาหารในอิตาลีนี่ร้านอาหารเค้าสั่งผู้ผลิตไวน์ในย่านใกล้เคียงมาเป็นตุ่มๆแล้วเค้าก็ค่อยๆแบ่งใส่ขวดขายลูกค้าราคาจะถูกกว่าไวน์ที่บรรจุอยู่ในขวดเวลามาอิตาลีแล้วคิดไม่ออกว่าจะดื่มไวน์ไหนดีสั่ง house wine ไปเลยค่ะประหยัด รสชาติดื่มได้ไม่เหมือนไวน์ดีๆแพงๆแต่คุณอยู่ในอิตาลีนะคะ vino della casa (house wine) พวกนี้รสชาติใช้ได้ไม่เลวร้าย ดื่มเก๋ๆ พอกรึ่มๆสั่งเป็นแก้วเค้าก็ขายเราสองมักดื่มกันครึ่งลิตรต่อหนึ่งมื้อขออนุญาติปิดบังหนังหน้าเพราะรูปนี้หมองมากมาย ฮ่าๆๆ





หลังจากที่อิ่มหมีพีมันกันแล้วถึงเวลาออกเดินค่ะเราเดินเลียบแม่น้ำไทเบอร์ไปโผล่ที่ the mouth of truth ซึ่งมีนักท่องเที่ยวเข้าคิวถ่ายรูปกับหินอ่อนกลมแกะเป็นรูปหน้าอันนี้เยอะแยะส่วนใหญ่เป็นชาวญี่ปุ่นทำไมเค้าถึงมาถ่ายกันก็เพราะมันมีตำนานว่าถ้าใครไม่พูดความจริงเอามือแหย่เข้าไปในปากแล้วมันจะงับมือค่ะตำนานค่ะตำนานเค้าพูดมาอย่างนั้นแถมมีหนังฮอลิวูดอมตะอย่าง Roman Holiday มาช่วยย้ำตำนานนี้เข้าไปอีกเลยมีคนมาเข้าคิวเอามือแหย่ปากรูปแกะสลักนี้แถวยาวเฟื้อยแถมแหย่ฟรีด้วยนะคะไม่ต้องเสียเงิน โฮ่ๆๆน่าจะตั้งกล่องรับบริจาคให้หยอดคนละสิบเซนต์ ห้าสิบเซนต์รวมๆกันวันนึงคงได้หลายยูโรมีโบสถ์เล็กด้านใน ก็เข้าชมฟรีสวยมากค่ะ เอามือแหย่ปากรูปแกะสลักแล้วเดินเข้าไปชมโบสถ์บริจาคสักยูโรสองยูโรช่วยๆกันทำนุบำรุงของเก่าของโบราณให้อยู่คู่กรุงโรมไปนานๆกันเถอะค่ะ


ปล เราหยอดบริจาคทุกที่ที่แวะเข้าชมถือว่าเป็นทริปทำบุญไปในตัว 




อิชั้นไม่ได้เข้าคิวกะเค้าหรอกกลัวโดนงับมือ ฮิๆๆ หลังจากนั้นกางแผนที่เดินผ่าน Via del Circo Massimo แต่ก่อนเป็นสนามกีฬากลางแจ้งแข่งรถม้าของชาวโรมันตอนนี้กลายเป็นลานคอนเสริตหรือลานกิจกรรมงานอีเว้นท์ของชาวโรมันยุคใหม่ไปเสียแล้วเดินต่อไปอีกนิดผ่าน Arco di Costantino เปรียบเสมือนประตูชัยใครรบชนะใครไม่รู้ จำไม่ได้แล้วติดกันกับประตูชัยก็เป็น Colosseo สัญลักษณ์สำคัญของกรุงโรมที่ใครมาเยือนก็ต้องไม่พลาดจุดๆนี้นั่งพักขาตรงโคลีเซี่ยมมองนักท่องเที่ยวถ่ายรูปเซลพี่มั่งถ่ายรูปหมู่มั่ง สนุกสนานกันใหญ่สุดท้ายเดินไปชมโบสถ์ San Clemente เดินไม่ไกลจากโคลีเซี่ยมค่ะเป็นโบสถ์ที่มีชั้นใต้ดินเก่าแก่มากกกแต่เสียดายใกล้ถึงเวลาปิดเลยไม่ได้เข้าไปชมด้านล่างขอแนะนำเลยค่ะโบสถ์นี้ สุดท้ายเหนื่อยเมื่อยเพลียครบรสนั่งรถเมล์กลับที่พักเก็บแรงไว้ออกมาดินเน่อร์ค่ะ




และเมื่อถึงเวลาดินเน่อร์เราเลือกที่จะนั่งรถเมล์ไปย่าน Trastevere อีกครั้งเดินตามๆฝูงชนไปเรื่อยๆเจอะเจอร้านอาหารเล็กๆด้านหน้าเอากระเทียมพริกมาห้อยระโยงระยางราคาอาหารไม่แพง พาสต้าจานละเจ็ด แปด เก้ายูโรราคามาตรฐานแถบนี้ล่ะค่ะเลยเข้าไปสั่งดอกอาติโช้คต้มหรือนึ่งก็ไม่รู้น่าจะนึ่งมากกว่าราดเกลือพริกไทยน้ำมันมะกอกมากินเล่นๆกันก่อนจานที่สองอิชั้นเลือกหางวัวตุ๋น coda alla vaccinara จานนี้เค้าตุ๋นกันนานมากสี่ถึงห้าชั่วโมงแน่ะก็อร่อยดี กินยากหน่อยว่าจะใช้มือจับมาแทะกินเหมือนน่องไก่เคเอฟซีแล้วเชียว 








ขนมหวานอิชั้นเลือก crema catalana ที่เค้าจะเอาไฟมาเผาน้ำตาลบนครีมให้มันละลายบนโต๊ะด้านบนกรุบๆน้ำตาลข้างล่างก็เป็นครีมนุ่มๆปกติไม่กินขนมหวานหลังมื้ออาหารมักกินตอนบ่ายแก่ๆแต่คืนนั้นเห็นแขกโต๊ะข้างๆกินเลยสั่งมาลองชิมมั่ง



ไวน์แดงก็เป็น house wine เช่นเคยร้านนี้ราคาไม่แพงค่ะสองคนสั่ง ดอกอาร์ติโชค์สองดอกจานต่อมาพี่เมากินพาสต้าอิชั้นกินเนื้อตุ๋นนั่นไวน์แดงครึ่งลิตร น้ำเปล่าหนึ่งขวดขนมหวานหนึ่งถ้วย ราคารวมแล้วไม่เกินสี่สิบยูโรส่วนใหญ่ร้านอาหารธรรมดาในกรุงโรมราคาต่อสองคน กินแบบที่อิชั้นเขียนมาก็ตกราวๆราคานี้แหละค่ะไม่ได้แพงเว่อร์อะไร ยกเว้นคืนสุดท้ายที่พวกเราเลือกไปกินร้านอาหารยอดนิยมที่เค้าพูดถึงกันราคาแพงเว่อร์ไปละเดี๋ยวค่อยเล่าให้ฟังในบล็อกหน้าค่ะ 



กินอิ่มก็เดินไปรอรถเมล์ดึกๆรถเมล์มีน้อยรอกันสิบห้านาทีนั่งแป็บเดียว เอ้า ถึงละ ลงเดินข้ามแม่น้ำไทเบอร์เดินผ่านวาติกันรอบดึกเพื่อกลับที่พักเลยได้รูปนี้มา




Seeyou next blog kha... พิมพ์ซะเมื่อยมือเลย บล็อกหน้าตอนจบของทริปค่ะ




Create Date : 09 ตุลาคม 2557
Last Update : 9 ตุลาคม 2557 18:33:33 น. 0 comments
Counter : 1215 Pageviews.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

settembre
Location :
Italy

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 24 คน [?]




A minimalist mindset>>>minimalist lifestyle.
I try to pay attention to everything I buy and keep.
Now I live by the concept of BALANCE.




เริ่มนับจำนวนคนอ่าน วันที่ 22/04/15




New Comments
[Add settembre's blog to your web]