[ อ ยุ ธ ย า ] รั ก ฤ ๅ ผู ก พั น ฯ # อ ว ส า น #
**คำเตือน**
เรื่องนี้ . . .
เป็นเรื่องแต่งขึ้นเพื่อสร้างความบันเทิงเท่านั้นไม่เกี่ยวข้องกับบุคล หรือเหตุการณ์ใด ๆ ที่เกิดขึ้นในบรรณภิภพนี้ ผู้อ่านควรใช้วิจารณญาณในการอ่านอย่างมากถึงมากที่สุด ปล. เป็นเรื่องแต่งมิได้เกี่ยวข้องใด ๆ ต่อ เจ้าของบล๊อก
ต อ น อ ว ส า น
สนามบินสุวรรณภูมิ
ไอ้เพื่อนรักมาส่งผมที่ประตูทางเข้าชั้นสี่ ก่อนที่มันจะขับหายไป ผมมองไปจนมันลับตา ไม่รู้อีกนานแค่ไหน ที่ผมจะได้เจอกับมันอีก ทั้ง ๆ ที่ตอนนี้ผมรู้ทั้งหมดแล้ว และผมก็ทำใจได้แล้ว
ความรัก มันอยู่กับเรานั่นแหละ ไม่ได้หายจากเราไปไหนเลย
ตั้งแต่ที่สมุย ผมคิดถึงมันมาตลอด อยากเจอมันนะอยากขอโทษมัน อยากคุยกับมัน สิ่งที่ไอ้เพื่อนรักมันบอกผม ผมลองคิดดู ผมเจ็บปวดนะ กับสิ่งที่มันทำมา แต่เทียบกันได้มั้ย กับสิ่งที่ผมทำกับมันในตอนนั้น ผมเลือกที่จะคิดว่า ถ้าผมเป็นมันผมจะทำแบบเดียวกันมั้ย
. . . แม่ . . . กับคนที่ผมรัก
ผมเลือก . . . แม่
ถ้าแบบนี้ . . . โกเมศวร์ไม่ผิด มันเลือกทำในสิ่งที่ถูก ผมจะไปโกรธไปเกลียดมันได้อย่างไร สิ่งที่มันทำถูกต้องที่สุดแล้ว
ผมรับบอร์ดดิ้งพาสมาถือเอาไว้ พยายามมองรอบ ๆ ตัว ด้วยหวังว่ามันจะมาหาผม ผมคงคิดเข้าข้างตัวเองว่าผมสำคัญสำหรับมัน แล้วผมก็ต้องยิ้มให้ตัวเอง ปลอบใจกับสิ่งรอบ ๆ ตัวที่ผมเห็น
ว่างเปล่า . . .
. . . เฉกเช่นเคยเป็นมา

ผมกระชับกระเป๋าใบเล็กที่ข้างในมีแลปท้อปเข้ากับบ่า อีกนานแค่ไหนกว่าผมจะได้กลับมาบ้านอีก แล้วอีกนานแค่ไหนที่ผมจะได้เจอมันอีก ถ้าเมื่ออาทิตย์ก่อนผมไม่ทิฐิจนเกินไป ผมยอมคุยกับมันดี ๆ ผมคงไม่คิดถึงมันเหมือนตอนนี้
พี่อาร์ม . . .
ดูสิ ขนาดคิดถึงมัน ยังได้ยินเสียงมันเลย ผมคงจะเป็นเอามาก แต่ผมไม่เจ็บปวดเหมือนครั้งแรกที่ผมจากมันไปแบบนี้ ตอนนั้นที่ดอนเมือง ผมเดินเข้าไปในอาคารผู้โดยสารทั้งน้ำตา เพราะผมว่า มันคงไม่รักผมแล้ว
แต่วันนี้ . . .
. . . ผมเดินไปโดยที่ผมรู้ว่า แท้ที่จริงแล้ว . . .
ความรัก . . .
. . . มันไม่ต้องการเหตุผลมิใช่หรือ ?
พี่อาร์ม ข้อมือผมโดนยึดเอาไว้
ผมก้มลงมองที่ข้อมือ ที่ตอนนี้มีอีกมือจับกระชับเอาไว้ มือที่ผมคุ้นเคยแต่ก่อนเก่า เป็นมือที่ผมโหยหามาตลอดเวลาด้วยซ้ำ
ผมยิ้มกับตัวเอง . . .
บางทีตอนนี้ผมอาจจะกำลังฝันอยู่ก็เป็นได้ มือที่จับมือผมเอาไว้ ทำไมผมจะไม่รู้ ว่านั่นคือมือของใคร ผมค่อย ๆ เลื่อนสายตาจากข้อมือ ไล่มาเรื่อย ๆ รออีกนิดนะ ขอเวลาผมปรับสภาพหัวใจอีกนิดเดียวเท่านั้นเอง จนผมเห็นชัด ใบหน้านั้น มันดูแก่ไปกว่าที่ผมเจอเมื่อสิบกว่าปีก่อน
ผมยิ้มให้มัน . . .
. . . เหมือนวันแรกที่ผมรู้จักมัน
พี่อาร์ม ผมยังมีโอกาสอีกมั้ย
คำถามของมัน น้ำเน่าแท้ ๆ ผมว่า คำถามแบบนี้ผมเคยดูในหนังนะ ตอนที่ศรราม พูดกับน้องนิ้ง กุลสตรี ในหนังไทยเรื่องนึง . . . ฝันติดไฟ หัวใจติดดิน
โกเคยมี แต่ใช้มันไปหมดแล้ว
ผมพูดประโยคเดียวกับนางเอกเรื่องนั้นเป๊ะ มันหน้าเศร้าลงเล็กน้อย เมื่อได้ยินคำตอบ หากแต่ผมยิ้มให้มัน
จะไปจริง ๆ หรือ
อือ
เสียงผมมีแค่นั้นจริง ๆ . . .

สามปีที่ผมกับมันมีเรื่อง เราเหมือนคนแปลกหน้า ถึงผมจะรู้ความจริงทั้งหมด แต่ผมยังไม่ชิน ผมชินกับความเหงาที่มันอยู่กับผมมาสามปี ตอนนี้สิ่งที่อยู่ตรงหน้า ผมไม่แน่ใจว่ามันจะใช่ความสุขหรือความเจ็บปวดอีก
ผมขอโทษ ทุก ๆ เรื่องที่ผ่านมา
พี่ก็ขอโทษ ที่ทำอะไรแย่ ๆ ลงไป ผมแกะมือมันออกจากการเกาะกุม ไม่อยากเป็นเป้าสายตาของผู้คนอีกมากมายในอาคารผู้โดยสาร
ผมรักพี่อาร์ม
แบบพี่ . . .
ผมมองหน้ามัน ต่อให้มันเสร็จสรรพ ยิ้มยั่วมันเหมือนไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อนในชีวิต บางที ตอนนี้ผมมีความสุขกว่าตอนไหน ๆ เสียอีก ในเวลาที่ผมได้เห็นใบหน้ามันเปลี่ยนสีเข้มขึ้น
ทำไมต้องมีต่อท้าย ผมไม่มีคำต่อท้าย ผมรักพี่อาร์ม ได้ยินมั้ยครับ ผมรักพี่อาร์ม
ผมมองหน้ามันชัด ๆ ส่ายศรีษะตัวเองไปมา
นี่หูผมไม่ฝาด หรือ โลกหมุนกลับอยู่แน่ ๆ กับสิ่งทั่มนพูดมา
แต่ทำไมตอนนี้ ผมไม่ดีใจแบบวันที่ผ่านมา แบบตอนที่ผมอยากได้ยินในตอนนั้น ตอนนี้ ผมแค่อยากขอโทษมัน อยากเห็นหน้ามัน อยากเห็นมันมีชีวิตที่มันอยากจะเป็น ถ้ามันแต่งงานผมก็จะดีใจกับมัน
รอดูหน้าลูกมัน . . .
. . . จะน่ารักแบบมันมั้ย
ขอบใจ
พี่อาร์ม กลับมาอยู่เมืองไทยเหอะ
อีกสักพักแหละ ตอนนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจอะไร
รีบมาเหอะพี่ หลวงพ่อแก่มากแล้ว ต้องไปหาหมอทุกเดือน ถึงหมอจะไม่บอก แต่ผมว่าพี่อย่าไปนานเลย
หมายความว่าไง
คนแก่นะพี่ จะไปวันไหนก็ไม่รู้ อย่าปล่อยให้อะไรมันสายเกินไปอีกเลยพี่อาร์ม ผมไม่อยากเป็นต้นเหตุให้พี่หนี ถ้าพี่กลับมา หลวงพ่อดีใจ เพราะตั้งแต่พี่กลับมา หลวงพ่อไม่เคยออกธุดงค์อีกเลย
ขอคิดดูก่อนนะ
พี่อาร์ม

หือ
รักผมมั้ย ผมยังเป็นคนที่พี่รักอีกมั้ย ผมมองหน้ามัน มีแต่ผมที่เคยถามมันแบบนี้ สงสัยงานนี้ผมคงหูฝาดแน่ ๆ ผมมองหน้ามัน เลิกคิ้วสูง
ผมกำลังเป็นต่อมันอยู่หรือ ได้ยั่วมัน เหมือนที่มันเคยยั่วผม คำตอบที่ผมเคยอยากได้มาตลอดเวลา บัดนี้คนที่อยากได้กลับเป็นมัน
ถามไม่ได้ยินหรือไง
ผมแน่แก่ใจ มันถามผมแน่ ๆ แสดงว่าหูผมไม่ได้ฝาด ผมยิ้มให้มัน ได้เวลาที่ผมจะทวงคืนแล้วล่ะ ขอเล่นอะไรสนุก ๆ หน่อยนะ
รัก . . . ผมยิ้มให้มัน มันยิ้มกว้าง
. . . แบบน้อง
สีหน้ามันเปลี่ยนลงทันที ผมรู้มันเริ่มหงุดหงิด ปกติมันคุมอารมณ์ ตัวเองเก่ง แต่วันนี้ท่าทางมันไม่มีสติมากที่จะคุมตัวเอง
ทำไมต้องมีต่อท้าย น้ำเสียงมันหงุดหงิด
ก็มันเป็นสิ่งเดียวที่ไม่เจ็บปวด อย่างน้อย เราก็ไม่ต้องหลบหน้ากัน เพราะเรารู้ว่าเรามีคนที่เรารักอยู่บนโลกนี้
ครับ แต่ยังไง ผมก็อยากให้พี่รู้ ที่ผ่านมา ผมรู้สึกยังไง
อะไรที่ผ่านมาแล้ว อย่าไปขุดคุ้ยมันเลย ปล่อยมันผ่านไปเหอะ ไม่มีอะไรที่ดีไปกว่าวันนี้ กับวันพรุ่งนี้ ไปแล้วล่ะ จะได้เวลาแล้ว ผมมองหน้ามัน
พี่อาร์ม ผมรอพี่นะ
ผมกอดมันเอาไว้หลวม ๆ เป็นกอดที่ผมอยากกอด ในฐานะที่มันเป็นคนที่สอนให้ผมได้รู้อะไรหลายอย่าง เพราะหากถามว่าตอนนี้ ผมรู้สึกอย่างไรกับมัน ผมเองก็ตอบไม่ได้ รู้แค่ว่า ไม่อยากไปใช้ชีวิตแบบที่ผ่านมาอีก
รอไหวเหรอ
รอพี่ ผมจะรอ
สักห้าปี ขอเวลาทำใจก่อน ทำใจให้ความรู้สึกแย่ ๆ มันหมดไปจากใจ
ผมรอได้ สิบปี ยี่สิบปี หรือตลอดชีวิตผมก็ต้องรอแล้วล่ะ ยอมแล้วกับสิ่งที่ทำไป
อย่าเลย ไปแต่งงานมีลูกให้พี่เลี้ยงดีกว่า สอนมันด้วย นี่ลุง ตอนสมัยพ่ออยู่กับลุง ทะเลาะกันบ่อย เพราะลุงงี่เง่า ผมยิ้ม
พี่อาร์ม ผมพูดจริง ๆ อย่าเล่นดิ๊

พูดจริงเหมือนกัน บางทีความรัก ไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกัน แค่เรารู้ว่าเรามีคนที่เรารัก และเขาก็รักเราอยู่ ก็ดีมิใช่หรือ อีกอย่างชีวิตแบบที่พี่เป็นไม่จีรังหรอก สักวันเราอาจมีเรื่องต้องทะเลาะกันอีก แล้วจะมองหน้ากันไม่ติดอีก
ไม่มีทางหรอกพี่ ไม่มีเรื่องแบบนั้นอีกแน่ ๆ ผมมั่นใจ
แต่พี่มั่นใจ ว่ามันต้องมี อย่าพยายามทำอะไรที่หัวใจไม่ต้องการเลยโก ทำในสิ่งที่หัวใจอยากทำไง เหมือนตอนนี้หัวใจพี่อยากมองหน้าโก อยากเห็นโกมีความสุข แม้ว่า . . .
อะไรพี่ มันถามเมื่อเห็นผมเว้นระยะ
แม้ว่าเรื่องที่ผ่านมามันคือบทเรียน คือสิ่งที่เราสองคนเจอมามันจะฝังรอยเอาไว้ลึก พี่รู้การพยายามเลิกรัก ในสิ่งที่ผ่านมามันยาก แต่พี่จะพยายามรักโกให้เหมือนกับที่พี่รักไอ้โอ๋ ความรักแบบที่พี่มีกับไอ้โอ๋ เป็นความรักที่ดีที่สุดแล้วโก พี่พยายามจะรักโกให้ได้แบบนั้น โกว่าพี่พูดถูกมั้ย
ครับ
เพราะฉะนั้น โกเองก็ต้องพยายามรักพี่แบบนั้นให้ได้ อย่าให้ความรักที่ปนเปมากับความหลงใหลครอบงำหัวใจเรา เพราะมันจะมีแต่ความเจ็บปวดไม่รู้จักจบจักสิ้น
ครับพี่ ผมจะพยายาม
ไปจริง ๆ แล้ว ผมตบไหล่มันเบา ๆ
พี่อาร์ม
มันดึงผมมากอดเอาไว้อีก นี่คงเป็นครั้งแรกต่อหน้าสาธารณชนที่มันกล้ากอดผม ผมยิ้ม มีความสุขที่สุดแล้ว แค่นี้ก็ดีแล้วสำหรับคนแบบผม
ผมผละออกจากมัน . . .
. . . ยิ้มให้มัน ก่อนหันหลัง
อ้อ . . . ผมหันกลับมา
อะไร
ผมล้วงเอาอะไรบางอย่างในกระเป๋าแลปท้อป ก่อนมาล้วงที่กระเป๋าสตางค์
กุญแจห้องที่คอนโด ไม่รู้ว่าที่ผ่านมาเคยขึ้นไปบนห้องหรือยัง แต่ถ้าไม่เคยไป ถามพี่โอ๋แล้วกันว่าอยู่ห้องไหน เช่าเขาอยู่เปลืองตังค์เปล่า ๆ ย้ายมาอยู่ที่คอนโดก็ได้ ไอ้พี่โอ๋ห้องนึง อีกห้อง เจ้าของห้องเขางี่เง่า เจ้าอารมณ์ ขี้ใจน้อย ขี้หึง ถ้าโกทนเขาได้ก็ย้ายไปอยู่ห้องนั้นแหละ . . . ผมเอากุญแจห้องยัดใส่มือมัน
. . . ส่วนรูปนี้พี่ให้ เพราะพี่ว่าเจ้าของรูปนะชัด แถมในชุดนี้หล่อมากเลย ผมส่งรูปที่ถ่ายเอาไว้ตอนมันรับปริญญา รูปเดียวกับที่ไอ้โอ๋เห็นที่สมุย
ต่อจากวันนี้ . . .

. . . รูปนี้ คงไม่มีความหมายกับผมอีกแล้ว
รูปผมตอนรับปริญญานี่ . . . เฮ้ย พี่มาด้วยเหรอที่ด้านหลังผม
มาสิ รอมาตั้งสิบปี ไม่มาได้ไง ต่อให้อยู่ไกลกว่านี้ก็ต้องมา มาให้เห็นกับตา ว่าพี่มองคนไม่ผิด
ผมยิ้มให้มัน ดูเหมือนว่ามันจะยิ้มกว้างกว่าที่เคย เหมือนรอยยิ้มมันเมื่อสิบปีก่อนที่ผมเคยเห็น บางที ผมอาจได้มันคนเดิมกลับมาแล้วก็ได้ ผมพยักหน้าให้มัน
ผมเดินไปส่งนะ
อือ
มันเดินตามผมมา ผมอยากให้ทางเข้าด่านตรวจหนังสือเดินทางยาวไปสักสิบกิโลเมตร คนที่ยืนตรงหน้าประตูหนังสือเดินทาง
ไอ้โอ๋
เออ เรียกเหมือนไม่เคยเห็น
แผนมึงอีกงั้นดิ
มันยิ้ม ก่อนเดินมากอดผมเอาไว้
มึงรู้มั้ยกูไม่เห็นมึงยิ้มแบบนี้มานานมาก นานสักห้าหกปีเลยไอ้อาร์ม
แหม ช่างสังเกตุนะมึง
เพื่อนกู กูหวงของกู
ผมรู้ มันห่วงผม ห่วงมาตลอดตั้งแต่สมัยเรียน จนกระทั่งวันนี้ มันยังห่วงผม ไม่เปลี่ยนแปลง ผมอาจจะเป็นคนโชคร้ายที่เกิดมาเป็นแบบนี้ แต่ในความโชคร้าย ผมก็โชคดีกว่าหลาย ๆ คนที่ผมยังมีเพื่อนดี ๆ เพื่อนที่ไม่เคยทิ้งผมเลย
อย่ากลับไปนานนะมึง คิดถึง ถ้าให้ดีรีบไปรีบมาล่ะ มันตบไหล่ผมเบา ๆ
ผมเข้าใจความหมายที่มันพูด เข้าใจมันดีอย่างที่สุด ผมหันมายิ้มให้มันทั้งสองคน วันนี้ผมมีความสุข มีความสุขแบบที่ไม่ทุรนทุรายอีกแล้ว
พี่อาร์ม รีบกลับมานะพี่ ผมจะรอ
มันโบกมือให้ผม เมื่อผมหันหลังกลับมามองมันอีกที ผมพยักหน้าให้มัน ก่อนเดินไปยังแถวตรวจหนังสือเดินทาง
ผมยิ้ม . . .
. . . มีความสุขนะ . . .
ผมมีความสุขกว่าที่ผ่านมาเสียอีก มากกว่าตอนที่เจอมันครั้งแรก มากกว่าตอนที่ได้กอดมันครั้งแรก มากกว่า . . . มากกว่า
ทั้งหมดที่ผมเคยมี . . .

บางครั้งผมยังอดคิดไม่ได้ว่า บททดสอบที่ผมผ่านมาได้ ผมผ่านมาได้อย่างไรกัน ตอนนี้ผมพร้อม พร้อมที่จะเห็นมันเป็นในสิ่งที่มันอยากจะเป็น
ถ้ามันเรียนจบ . . .
ทางที่มันเลือกเดิน . . . ผมจะยอมรับ ไม่ว่าผมจะเจ็บปวดหรือมีความสุข ผมก็จะยอมรับในการตัดสินใจของมัน . . . สิ่งนี้มิใช่หรือที่ผมคิดเอาไว้
ตอนนี้ . . . มันก็จบแล้วนี่หว่า . . .
บางที . . . นี่อาจจะเป็นคำตอบสุดท้ายที่ผมค้นหามาตลอดชีวิต
การรอคอย . . .ทรมานเสมอ
. . . หาก . . .
ความสุขอยู่ที่เราได้รับรู้ว่า คนที่เรารอ เขาก็รอเราอยู่เช่นกัน
ผมมีความสุข เหมือนพันธนาการทั้งหมดโดนปลดปล่อย ตอนนี้ผมอยู่ด้วยความสุข ความสุขทั้งหมดที่ผมมี เครื่องมาถึงโดฮาก่อนเที่ยง ผมตรงดิ่งไปที่บริษัททันที อย่างน้อยที่สุด ผมรู้แล้วว่าผมควรจะจัดการอย่างไรกับชีวิตตัวเองต่อไปดี
ถนนสายนี้ไกลเหลือเกิน . . .
พี่อาร์ม กลับมาแล้วเหรอ ไอ้อาร์มเล็ก ผมเจอมันที่ออฟฟิศตอนที่ผมจัดการธุระเสร็จเรียบร้อยแล้ว
อืม เพิ่งมาถึงเมื่อตอนสาย ๆ เอง
แล้วมาออฟฟิศเลยนี่นะ
มีธุระ มาคุยเรื่องคอนเทคปีหน้า อาร์มล่ะ ไม่มีบินหรือ ผมมองเมื่อเห็นมันในชุดสุภาพ ไม่ใช่ชุดปกติ
ลาออกแล้วพี่
อ้าว เมื่อไหร่
สิ้นเดือนนี้ก็กลับเมืองไทยแล้ว มันยักไหล่ เหมือนไม่แคร์ ผมยิ้มกับท่าทางที่มันสาวขึ้นทุกวัน
ดีจัง มีเพื่อนกลับเมืองไทยแล้ว ไม่เหงา ผมยิ้มให้อาร์มเล็ก
มันขมวดคิ้ว

สงสัยอะไร
ที่พี่บอกมีเพื่อนกลับเมืองไทย ผมไม่เข้าใจ อย่าบอกนะว่า . . .
อืม ลงจากเครื่องมานี่เลย ก็มายื่นลาออกไง อยู่ทำไมนาน บ้านเมืองคนอื่น ที่ไหน ๆ ไม่สุขใจเท่าเมืองไทยหรอก
เอ้ยจริงดิ
กลับไปคุยที่ห้องดีกว่า คุยที่นี่ไม่จบแน่ ๆ เรื่องมันยาว ผมยิ้มให้มันอีกรอบ
ท้องฟ้าโปร่ง มองเห็นปุยเมฆบางเบา เครื่องบินมานานแค่ไหนผมไม่รู้ ผมรู้แค่ว่าหัวใจผมมันไป รวดเร็ว ตอนนี้หัวใจผมคงไปถึงกรุงเทพฯ แล้ว หรือที่ผ่านมา หัวใจผมไม่เคยตามผมมาทำงานที่โดฮาเลยก็ได้ บนฟากฟ้าเมฆสวยงาม และมันจะคงงดงามตราบเท่าที่หัวใจของคนเรามีความสุขมิใช่หรือ . . .
การรอคอย . . .ทรมานเสมอ
. . . หาก . . .
ความสุขอยู่ที่เราได้รับรู้ว่า . . .
. . . คนที่เรารอ
เขาก็รอเราอยู่เช่นกัน
ผมปิดสมุดอัลบั้มภาพที่ผมถ่ายเก็บเอาไว้ สมุดภาพบันทึกเรื่องราวต่าง ๆ มากมายที่เกิดขึ้นในห้วงเวลาที่ผ่านมา ผมหวงแหนสมุดภาพนั้น เพราะมันคือทุก ๆ อย่างในชีวิตของผม ผมลูบอัลบั้มกระดาษสานั้นเบา ๆ ถนอมมันเท่าหัวใจตัวเอง ก่อนที่จะเอามันเก็บในกระเป๋าใบเล็ก ๆ เหมือนเดิม
มีสมุดบันทึกเล่มเล็ก ๆ ติดมากับมือ . . .
ผมมองสมุดเล่มนั้น สมุดเล่มเดียวกันกับที่เพื่อนรักผมให้มา ผมดึงรูปที่คั่นเอาไว้ สมุดที่อีกคนบันทึกเรื่องราวเอาไว้ น่าแปลกที่ผมไม่ได้อ่านมันอีกเลยตั้งแต่ที่ผมอ่านไว้ที่หน้าสุดท้ายที่สมุย
บางที . . .
แค่นั้นก็ทำให้ผมสัมผัสถึงความรักที่มันอยู่รอบ ๆ ตัวผมได้เป็นอย่างดี รูปที่คั่นเอาไว้ เป็นรูปที่ผมถ่ายกับโกเมศวร์ที่สมุย เป็นรูปที่ผมถ่ายคู่กับมันครั้งแรก มันจงใจใส่รูปนี้เอาไว้ในสมุดเล่มนี้แน่ ๆ ผมพลิกดูด้านหลังภาพ . . .
หัวใจ . . . ผูกกัน

ผมขมวดคิ้ว ก่อนเปิดดูที่รองปกของสมุดบันทึก ตัวหนึงสือตัวโต ๆ กลางหน้ากระดาษ ใช่อักษรชุดเดียวกันกับในรูป
หัวใจ . . . ผูกกัน
บรรทัดต่อมา . . .
. . . เราไม่ใช่สายเลือด แต่ ความผูกพันเราสองคนมากกว่าคนในสายโลหิตเดียวกันเสียอีก ไม่มีใครทำได้เท่านี้อีกแล้ว คนที่ดีที่สุดในชีวิตของผม . . .
. . . คนที่เอาหัวใจผมไปไกล
ตอนนี้ . . . เขาอยู่ที่ไหนผมรู้แล้ว
ผมสัญญา . . .
. . . สัญญาไว้ตรงนี้ผมจะทำทุกอย่าง ผมจะทำทุกทางเพื่อตามหัวใจผมคืน ผมจะไม่มีวันปล่อยหัวใจไปไกลตัวของผมอีกเด็ดขาด
เพราะผมรู้ . . . ไม่ว่าจะไกลกันแค่ไหน
สักวัน . . .
. . . เราต้องมาเจอกันอีก
เพราะอะไรนะหรือครับ . . . .ที่ทำให้ผมมั่นใจ
. . . . ผมเชื่อ สายใยแห่งหัวใจมันแน่นเหนียวยากที่จะตัด ผมผิดมามากแล้ว จะไม่ยอมผิดซ้ำอีก บันทึกเล่มนี้เหมือนหนังสือสัญญาที่เราสองคนจะมาลงนามร่วมกัน เมื่อวันนึงสิ่งที่ผมเขียนตกไปอยู่ในมืออีกคน ผมถือว่าเป็นการใช้สัญญาร่วมกันอย่างสมบูรณ์ สัญญาที่จะใช้ . . . หัวใจเดียวกัน
ก็ในเมื่อที่ผ่านมา . . .
หัวใจ . . .(เรา) ผูกกัน
๔ มกราคม ๒๕๕๐
จ บ บ ริ บู ร ณ์
Free TextEditor

Create Date : 28 มกราคม 2553 |
|
7 comments |
Last Update : 28 มกราคม 2553 3:45:06 น. |
Counter : 4364 Pageviews. |
|
 |
|