Group Blog
 
<<
มกราคม 2553
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
25 มกราคม 2553
 
All Blogs
 
[ ห้ ว ย แ ม่ ข มิ้ น ] รั ก ฤ ๅ ผู ก พั น ฯ # ๔ ๑ #

**คำเตือน**




เรื่องนี้ . . .





เป็นเรื่องแต่งขึ้นเพื่อสร้างความบันเทิงเท่านั้นไม่เกี่ยวข้องกับบุคล หรือเหตุการณ์ใด ๆ ที่เกิดขึ้นในบรรณภิภพนี้ ผู้อ่านควรใช้วิจารณญาณในการอ่านอย่างมากถึงมากที่สุด



ปล. เป็นเรื่องแต่งมิได้เกี่ยวข้องใด ๆ ต่อ เจ้าของบล๊อก







ต อ น ที่ ๔ ๑



สนามบินสุวรรณภูมิ . . .

ผมมาสนามบินตั้งแต่บ่ายสามโมงเย็น เตร่ไปทางโน้นที ทางนี้ที ก็มันใหญ่นี่ครับเดินเล่นมันไปเรื่อย ๆ รอเวลาที่ไอ้เพื่อนเลวมันจะเลิกงาน แล้วจะได้ไปทะเล วิ้วววววววว ไม่ได้ไปทะเลมานานแค่ไหนแล้วหว่า . . .


ความรู้สึกผมตอนนั้น . . .

. . . ระแวง

ผมระแวงว่า ไอ้เพื่อนรักของผมมันจะเล่นกลอะไรอีก ก็มันนะขาซี้กับไอ้น้องรักผมเสียด้วย ขืนมันทะเล่อทะล่า ให้ไอ้น้องรักโผล่มาตอนนี้ผมจะทำหน้ายังไงดี ในเมื่อผมเองก็รู้ว่าหัวใจตัวเองพาลอ่อนแอทุกครั้งที่เจอกับมัน

ผมรักมันมากขนาดนี้เลยหรือ ?

“ใจคอจะไปกันสองคนเลยเหรอพี่อาร์ม” เสียงที่ทักมาจากด้านหลัง ทำให้ผมต้องหันไปมอง

“ไอ้แดน . .”

“เออ ผมเองพี่อาร์มนะพี่อาร์ม หายไปสองปี พอกลับมาชวนแต่พี่โอ๋เท่านั้น ทีกับผมไม่สนใจเลยนะ” มันนั่งลงที่โซฟาใกล้ ๆ ผม

เล้าจญ์บูติคที่สุวรรณภูมินี่มีแยกสองระดับด้วยนะ ไอ้เรามันแค่คนผ่านไปผ่านมา เลยนั่งได้แค่เล้าจญ์ทั่วไป จะอาจเหิมไปนั่งเล้าจญ์แบบสมาชิกฟลายเออร์ได้กระไรกัน

“โทษที พอดีไอ้เหี้ยนี่ลากไปเที่ยว” ผมโบ้ยไปที่ไอ้เพื่อนรักทันที ก่อนคว้าขนมเข้าปาก

ของกินเพียบในเล้าจญ์




“สัสสสสส อย่ามาโยนขี้”

“หรือไม่จริง ใครชวนกูไปทะเล” ผมจ้องหน้ามัน

“แล้วใครออกตังค์”

“เหี้ยนี่ กูตามเก็บคอยดู”

“เสียใจเพื่อน เมียให้ใช้อาทิตย์ละพัน”

เอากับมันดิครับพี่น้อง ไอ้นี่มันมีแววรุ่งเพราะว่ามันกลัวเมียของมัน ผู้ชายร้อยทั้งร้อยลองกลัวเมีย ดีทุกราย

“พี่สองคนนี่จะทะเลาะกันจนแก่เลยใช่มั้ยครับ . . .” ไอ้แดนมันยิ้ม มันชาชินกับที่ผมกับไอ้เพื่อนรักมีเรื่องไร้สาระเถียงกันได้ตลอด

“. . . พี่อาร์มเอาแลปท้อปไปด้วยเหรอ”

“อืม พกตลอด เดี๋ยวเขาสั่งงาน ไม่รู้เรื่องซวยอีก แล้วไอ้เหี้ยนี่สิสั่งจัง ให้เอาไปด้วย เครื่องเก่าก็ได้ มันอยากให้เอาไป ไม่รู้จะให้เอาเครื่องเก่าไปทำไม”

“ก็อีกเครื่องมันใหม่ ไม่อยากเอาไปเจอไอทะเล” ไอ้เพื่อนรักมันบอก มันห่วงใยในสวัสดิภาพของเครื่องใช้ผมด้วยหรือ

“เครื่องนี้ที่เอาไปปายก่อนไปนอกป่ะพี่”

“ใช่ ทำไมเหรอ”

“ป่าว ๆ พี่ฟอร์เมทมันบ้างป่ะ” แดนถาม มันมองผมแปลก ๆ

“ไม่มีนี่ ไม่เคยฟอเมท ไม่มีปัญหาฟอเมททำไม”

“สาธุ ขอให้อยู่เหอะ” มันยกมือไหว้

“ไอ้นี่ท่าจะบ้า มีอะไรว่ะ . . .” ผมมองหน้ามัน เมื่อเห็นมันหันไปทำท่ามีลับลมคมในกับไอ้เพื่อนรัก

“. . .พวกมึงเล่นอะไรกันนี่ เด๋วกูไม่ไปแม่งเลย”

“เฮ้ย ไม่มี กูแค่โทรชวนไปไอ้แดนไป รับรองไม่มีอีกแล้ว” ไอ้เพื่อนรักรีบห้าม ราวกับผมจะออกศึก

“เอาน่าพี่ คนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตาย สามคนกลับบ้านได้ สามคนกำลังดี ไม่มีสี่คนให้ระคายเคืองหัวใจแน่นอน” ไอ้แดนหันมายิ้ม

“ไปเหอะไป เครื่องออนบอร์ดแร่ะ” ไอ้โอ๋ มันเร่ง ก่อนที่จะให้ไปที่เกทซึ่งก็อยู่ตรงกันข้ามกับเล้าจญ์นั่นแหละ




วันนี้ได้บินกับแอร์บัส A319 นึกแล้วอิจฉาพวกบูติกตอนนี้จับใจ เพราะสมัยที่ผมอยู่ มีแต่เจ้าเครื่องใบพัดกับเจ้าไข่คู่ งง . . . อะดิ๊ อะไรไข่คู่ ก็เครื่อง โบอิ้ง 717 มันมีเครื่องยนต์ที่ท้ายเครื่องสองเครื่องยนต์ หากเอามันจับตั้งตามแนวตั้ง จะเหมือนกับ . . . ไอ้นั่น

ที่มาของเจ้าไข่คู่ครับ . . . แอบลามกนิ้ดนึง

เจอมิ้นที่สนามบินสมุย เจ้าตัวรอรับพวกผมอยู่เสียด้วย ผมไม่เจอมิ้นนานมาก นานกว่าที่ผมไม่เจอไอ้เพื่อนเลวเสียอีก เพื่อนผมร้ายเสียด้วย เพราะเมียมันใส่ชุดคลุมท้อง มิ้นสวยเหมือนเดิม ชู ๕ นิ้ว หมายความว่าอีกสี่เดือนผมจะเป็นลุงแล้วเหรอนี่ กรรมจริง ๆ ไม่น่าเกิดตอนต้นปีเลย เกิดปีเดียวกัน แต่ดันแก่เดือนกว่าไอ้เพื่อนเลว

ดูเพื่อนผมมันจะเห่อลูกในท้องมันพอดู เพราะมันยิ้ม มันกอดเมียมัน จนผมเองอยากมีมั่งเลย แต่อย่างว่าของบางอย่าง มันไม่ใช่ของที่เราจะต้องวิ่งไปหามันมิใช่หรือ

กว่าจะไปถึงโรงแรมก็เกือบสามทุ่ม ความหิวมันเข้าจู่โจมทันที เราพักกันที่เฉวง ที่เดิมรีสอร์ทเพื่อนแม่ไอ้แดน แต่สองปีมานี้ปรับปรุงเสียจนแทบจำเค้าเดิมไม่ได้ ไอ้เพื่อนเลวมันลากเมียมันมาด้วย ดีเหมือนกัน มันจะได้นอนกับเมียมัน ผมกับไอ้แดนจะได้หนีเที่ยวสะดวก ๆ

แค่คิดเท่านั้นครับ . . .

เพราะหลังจากกินข้าวเสร็จก็เกือบห้าทุ่ม แบบโม้เพลินกันเลย ไม่เจอกันนานขนาด มิ้นขอตัวไปนอน เพราะพรุ่งนี้มีงานแต่เช้า เหลือแต่พวกผมสามคน เลยไปนั่งดื่มกันที่บาร์ริมหาดของรีสอร์ทนั่นแหละครับ

ลมทะเลพัดโชยอ่อน ๆ เย็นดี . . .

. . . กลิ่นทรายหอมนะผมว่า ตอนอยู่โดฮาผมไม่ค่อยได้ออกไปไหน มาตอนนี้ อยากเก็บเอาความสุขนี้ให้นานที่สุด . . .

ในเวลาที่ผมมีเพื่อนที่ดีอยู่ใกล้ ๆ

หาก . . . ทำไมหัวใจนึกถึงอีกคน

เบียร์หมดไปคนละสองขวด แค่กรึ่ม ๆ . . .

“อาร์ม” ไอ้เพื่อนเลว มันเรียก แล้วมองหน้า

“มีอะไร”

“รักกูป่าว”

ผมมองหน้ามัน

“ไอ้ห่านี่ . . . มาไม้ไหนอีก”




ลองมันมีท่าทางจริงจังแบบนี้ ผมคงไม่สามารถพูดเล่นหรือเฉไฉอะไรกับมันได้อีก ผมมองหน้ามันที่มันนั่งคู่กับไอ้แดน ทำไมผมรู้สึกเหมือนกับกำลังโดนมันสองตัวสอบสวนอยู่ก็ไม่รู้

ยอมรับครับ . . .

. . ตั้งแต่วันที่เจอมันนัดไอ้โกออกมาด้วย ยังระแวงไม่หายเลย มันแปล๊บ ๆ ยังไงไม่รู้คือมันยังไม่พร้อมที่จะเจอไง

“รัก”

“ไอ้แดนละ มึงรักมันมั้ย”

“ก็รักดิ ถามไรนี่ กูอายนะโว้ย” ผมโวยวาย

บ้าไปแล้วเพื่อนผม มันมาคาดคั้นอะไรเอากับผมนี่ จะให้มาสารภาพรักริมหาดนี่นะ นึกว่าโรแมนติคตายห่าล่ะ ผมอายเป็น ถ้าอยากบอก ผมพูดเองได้ ไม่ต้องรอมันถามหรอกน่า

“โอเคเพื่อน กูสองคนก็รักมึง”

“มึงอยากพูดอะไร พูดมาเลย อย่าลีลาวะ” ผมรู้แล้ว ว่ามันต้องมีเรื่องที่อยากจะพูดกับผมแน่ ๆ

“ได้ทุกเรื่องมั้ยพี่อาร์ม” แดนมันเสียงอ่อยลง

“เออ คุยมาเลย ทั้งคืนก็ได้ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว อีกไม่กี่วันกลับก็ได้กลับโดฮา ไม่ได้เจอกันอีกนาน อะไรที่ค้างคาหัวใจอยากถามอยากรู้อะไรถามมาแล้วกัน”

“ทุกเรื่องแน่นะ”

“เออ ห่านี่ถามไรถามากูรำคาญที่มาลีลาอยู่ได้”

“เรื่องไอ้โก” โอ๋มันมองหน้าผม

ผมนิ่งเงียบ ความรู้สึกในตัวบางอย่างมันบอกผม การที่ผมหนีไป มันไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมาเลย แล้วผมเองก็รู้ว่าผมยังลืมมันไม่ได้ ถ้าตอนนี้เพื่อนมันจะบอกอะไร เกี่ยวกับคน ๆ นั้นอีก ผมว่าคุยกันให้จบ ๆ ไปเลยก็ดีเหมือนกัน

ผมนิ่งคล้ายตัดสินใจ . .

“ว่ามา”

“มึงยังรักมัน”

ผมมองหน้ามัน มันจ้องหน้าผมเอาไว้นิ่ง ไม่ละสายตาที่มองผมเหมือนกัน แบบนี้ผมจะโกหกมันได้อย่างไร ในเมื่อมันทั้งสองจับจ้องอากัปกิริยาผมอยู่แบบนี้ ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่

“เรื่องของหัวใจบางทีพูดยากว่ะ” ผมบอกเสียงอ่อย

“กูไม่ได้ถามเรื่องหัวใจ กูถามว่ายังรักมันมั้ย”

“รัก”




“รักแล้วหนีทำหอกอะไร ทำไมมึงไม่เดินไปหามัน มึงหนีหาแป๊ะมึงเหรอ”

ไอ้เพื่อนเลว รู้ใจกูไปหมด แต่เสือกไม่รู้ว่าทำไมผมถึงต้องหนี คนมันเจ็บนี่หว่า จะอยู่ซ้ำ ๆ ที่เดิมให้เจ็บปวดไปอีกทำไม

“ไม่ได้หนี ไปทำงาน”

“ถุย . . . เอาจริง ๆ เมื่อไหร่จะเลิกวิ่งหนีหัวใจตัวเองสักที ไม่เหนื่อยหรือมึง ยิ่งหนียิ่งตามติด” ไอ้เพื่อนเลว

. . . ไม่ต้องมาตอกย้ำ . . .

กูรู้ รู้ดีกว่ามึง เพราะกูเจอมากับตัวเอง ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ไง กูยังไม่เลิกที่จะวิ่งหนีเลยเห็นมั้ย . . .

“มันรักมึง”

“กูไม่อยากรู้”

“อย่าทิฐิ ไอ้สัสอาร์มอาร์ม คุยกับกูดี ๆ ใช้สมองคิด เอาล่ะ ตอนนี้กูบอกมึงว่ามันรักมึง งั้นลองมาคุยเล่น ๆ ทีละข้อ ๆ กูถามมึงเป็นข้อ ๆ แล้วมึงลองคิดเอาเองว่าคำตอบมันคืออะไร”

มันยิ้มแบบคนที่ถือแต้มต่อในมือ . . .

แบบนี้กูตายสถานเดียว มันสองคน แถมเตรียมการณ์มาไว้ด้วยเป็นอย่างดี แล้วกูไม่ทันตั้งตัวแบบนี้ จะทำไงได้

“ผมกับพี่โอ๋ ทำเพื่อนพี่นะพี่อาร์ม เราไม่อยากเห็นพี่เจ็บอีก ไม่อยากเห็นพี่ต้องหนีไปตลอดทั้งชีวิต เพราะอย่างไรเสีย มันก็หนีกันไม่พ้นนะพี่อาร์ม พี่อาจจะเลิกรักมันได้ แต่ความผูกพันที่มีกับมัน พี่ลบไม่ได้ พี่ลบตรงนั้นไม่ได้หรอก”

“เออ ถามมา” สุดท้ายผมแพ้มันสองคน

“มึงรู้จักกับมันมานานแค่ไหน มึงเคยหยุดและมองในสิ่งที่มันกระทำบ้างหรือไม่ หรือแค่มึงอยากรู้แค่เรื่องที่มึงทำให้มัน”

“โห ถามยาว ตอบยาก”

ผมเฉไปเรื่อย . . . ยั่วมันเล่น ๆ อีกอย่าง ไม่รู้ว่าจะตอบมันอย่างไรด้วยกระมัง ขอแปบนะเพื่อน ขอเวลา จัดระเบียบความรู้สึกในสมองแปบ

“พี่อาร์ม เดี๋ยวมานะ” ไอ้แดนมันบอก ก่อนลุกออกไป

“อย่าแดนอย่า ขอร้องเลย อย่าลุกไปแล้วกลับมาพร้อมอีกคน กูยังไม่พร้อม” ผมระแวงไปหมดแล้วตอนนี้ หัวใจมันเต้นตุ่ม ๆ

ไอ้สองตัวนี้ มันกำลังทำอะไร อย่าพิเรนทร์เอาไอ้โกมาตอนนี้นะมึง กูยังบอกไม่ได้ เวลานี้ กูจะกล้าเผชิญหน้ากับมันหรือไม่ แค่คุยเรื่องมัน กูก็ต้องทำใจจะแย่อยู่แล้ว ขืนเจอหน้ามันตอนนี้




ไม่อยากจะคิด . . .

. . . กูจะทำใจไหวมั้ย

“ไม่น่า รับรอง ไม่เกินห้านาทีพี่”

“ไอ้อาร์ม กูยืนยันนะโว้ย ไอ้โกมันรักมึง”

“รักแบบพี่เหรอ . . . กูรู้มานานแร่ะ”

“ถ้าไม่ใช่แบบที่มึงรู้ล่ะ”

ผมเลิกคิ้ว มองหน้ามัน ดูท่ามันจะรู้จักไอ้น้องผมดีกว่าผมเสียอีก หรือสองปีที่ผ่านมา มันมีอะไรที่ผมไม่รู้

“. . . ไม่มีทาง”

“จริง”

“คนรักกัน เขาไม่หยิบยื่นความเจ็บปวดให้กันหรอก ในเวลาที่คนที่เรารักเจ็บปวดที่สุด เราไม่ซ้ำเติมคนที่เรารักหรอกเพื่อน แค่เราเห็นเขาเจ็บปวด เราก็เจ็บปวดเจียนตายแล้ว ไม่มีใครที่ไหนซ้ำเติมคนที่เรารักหรอกไอ้โอ๋ ที่กูพูด กูเจอมาแล้ว เจ็บแทบตาย” ผมมองหน้ามัน

ตอนนี้ . . . สมองผมเริ่มตึง ๆ อีกแล้ว

“มึงรักมันหวงมัน จนมึงลืมนึกถึงหัวใจมัน บางที ไม่ใช่แค่มันที่ทำร้ายมึง อาจเป็นมึงที่ทำร้ายมันเจียนตายก็ได้ มึงไม่ได้อยู่ใกล้ ๆ มันในเวลาที่มันเจ็บปวด แต่มึงกลับทำร้ายมันซ้ำลงไปอีกก็ได้” มันมองหน้าผมนิ่ง . . .

มันกำลังจะบอกอะไรผม . . .

ความรู้สึกเครียดมันเริ่มเข้ามาหาผม ผมมองหน้ามันนิ่งคล้ายขอคำตอบ ไอ้เพื่อนรักเอื้อมมือมาแตะที่หลังมือผมเบา ๆ

สัมผัสนี้ . . .

ผมแปลได้ว่า ต่อจากนี้ ผมจะต้องฟังมัน และยอมรับให้ได้ว่าสิ่งที่มันจะบอกผมต่อจากนี้ ผมจะต้องหยุดฟังและยอมรับในสิ่งที่ไอ้เพื่อนรักมันบอก

“เอาดิ๊ ไหน ๆ ก็ก็แพ้แล้วนี่ มึงมีอะไรจะพูดบอกกูมาเหอะ”

“กูเพื่อนมึง รู้จักกับมึงมานาน เห็นมึงมาตลอด เวลามึงเจ็บ กูก็เจ็บนะ แต่กูเจ็บแทนมึงไม่ได้ มันแน่นอยู่ในอกนี่แหละเพื่อน ไม่อยากเห็นสิ่งที่ผ่านมา มันต้องทำร้ายใครอีก”

“เข้าเรื่องดีกว่าเพื่อน ความรู้สึกที่มึงมีให้กู กูมีให้มึง ไม่จำเป็นต้องพูดกันอีก กูรู้ดี รู้ดีมาตลอดว่า ถ้ามีใครสักคนที่นั่งใกล้ ๆ เวลาที่กูจะหมดลม คนนั้นน่าจะเป็นมึง” ผมยิ้มให้มัน

อ่อนโยนที่สุดแล้วเพื่อนรัก . . .




“มึงรู้จักไอ้น้องรักมึงมากแค่ไหน กูไม่รู้ มึงเริ่มเกลียดเริ่มเจ็บกับมันตอนไหน กูก็ไม่รู้อีก แต่ที่กูรู้ . . . มันเคยมีเมีย”

“ใช่ . . . มันเคยมีก่อนมันมาเรียน”

“เพราะอะไร มันถึงมีเมีย เพราะมันไม่ได้เรียนต่อ เพราะพ่อกับแม่มันทะเลาะกัน แล้วพ่อมันไปมีเมียใหม่เป็นเด็กบาร์ เพราะมันรักแม่มัน มันเลยคิดแบบเด็ก ๆ หากมันจะทำอะไรแบบที่พ่อมันทำบ้าง บางที ทั้งพ่อทั้งแม่มันอาจจะหันมามองมันบ้าง แต่ไม่ใช่ ไม่ใช่แบบที่มันคิด มันมีความสุขหรือที่ทำแบบนั้น . . .” มันหยุดมองหน้าผม

“อาร์ม . . . ถ้ามึงเป็นมัน มึงจะทำแบบที่มันทำมั้ย”

“ไม่รู้”

“อาร์ม แล้วมีมึงที่เดินเข้าไปในช่วงนั้น มึงเดินเข้าไปในชีวิตมัน มันเห็นมึงเป็นเพื่อน เป็นพี่ มึงเป็นทุกอย่างในขณะที่ชีวิตมันหาทางออกไม่ได้ มึงยื่นมือไปหามัน ในเวลาที่มันทุกข์อย่างที่สุด มึงลองคิดดูนะอาร์ม ถ้าเป็นมึงที่ทุกข์แบบนั้น มีใครยื่นมือเข้าไป มึงจะรู้สึกอย่างไรอาร์ม”

ผมมองหน้าไอ้เพื่อนรักนิ่ง . . .

ไอ้แดนเดินกลับมาพร้อมกับแลปท้อป . . . ผมมองหน้ามันสองคนนิ่ง สิ่งที่มันพูด ผมคิดตาม ความรู้สึกผมนะหรือ ไม่ต้องบอกหรอก วันคืนเก่า ๆ เหล่านั้น ผมจำได้ดี จำได้ไม่เคยลืม

“มึงไม่จำเป็นต้องตอบกู แต่มึงตอบหัวใจตัวเองนะไอ้อาร์ม คำถามที่กูถามมึงไป มึงตอบหัวใจตัวมึงเองก็ได้ ถ้าเป็นกู ก็คงบอกได้ มันเป็นความรู้สึกดี ความรู้สึกที่ดีต่อใครคนนึงที่เราไม่เคยรู้จัก ไม่ใช่สายเลือดแบบที่มึงบอก แต่คนที่ไม่ใช่สายเลือดมาทำแบบที่มึงทำ บางครั้งมันผูกพันแน่นหนากว่าสายเลือด”

มันหยุดมองหน้าผม . . .

มันยิ้มให้ผม มันคงไม่อยากกดดันให้ผมต้องรู้สึกเจ็บปวดมากกว่านี้กระมัง สิ่งที่มันพูด ผมรู้คำตอบตัวเอง ผมตอบตัวเองได้ หากผมเป็นมัน ทำไมผมจะไม่ยึดเอามือที่ยื่นเข้ามาล่ะ

มือที่มาตอนที่เราแทบจะไร้เรี่ยวแรงยึดเหนี่ยว . . .

“มึงเอามันมาเรียน มึงว่ามันโง่ขนาดไม่รู้เลยหรือ ว่าทำไมมีเงินงอกมาในบัญชี มันเป็นคนนะโว้ย แล้วยิ่งมึงทำดีกับมันมากเท่าไหร่ มันยิ่งรู้สึกว่ามึงมีบุญคุณกับมันมากเท่านั้น มากพอที่มันจะยอมนอนให้มึงทำอะไรมันก็ได้”
ทำไมผมรู้สึกเจ็บปวด . . .

. . . ถ้าในทางกลับกัน ผมเป็นแบบมัน ผมจะเจ็บปวดแบบนี้มั้ย

“ผู้ชายนะไอ้อาร์ม ไม่มีใครยอมให้คนอื่นทำอะไรที่เหมือนทำลายเกียรติและศักดิ์ศรีหรอก มึงย่ำไปบนเกียรติที่มันมี ด้วยคำว่ารักที่มึงบอกตัวเอง ว่ามึงรักมัน มึงหวังดีกับมัน มึงลองคิดดูนะไอ้อาร์ม ถ้าใครยื่นมือมาช่วยมึง แล้วเอาตัวมึง ถ้ามึงไม่รักมึงจะยอมมั้ย มึงจะยอมให้เขาทำอะไรกับตัวมึงมั้ย”





“ไม่มีทาง” ผมมองหน้ามัน

“มึงยังไม่ยอม แล้วทำไมน้องมึงถึงยอม เพื่อเงินอย่างนั้นเหรอ มึงคิดนะเพื่อน ลองคิดดู แค่พ่อแม่แยกทางกันก็แย่พอแล้ว มึงโตมาจากความรักของพ่อ ของแม่ มึงไม่มีวันเข้าใจหัวอกของคนที่เห็นพ่อแม่เดินจากกันหรอกไอ้อาร์ม ปากที่มึงบอกเสมอว่ารักมัน แต่มึงกลับทำกับมันแบบนั้น มันเคยพูดมั้ยอาร์มว่ามันรู้สึกอย่างไร ถ้ามันเจ็บปวด มันพูดกับใครได้มั้ยอาร์ม ไม่ได้ เพราะมึงคือคนที่มีบุญคุณกับมัน มันไม่สามารถที่จะพูดอะไรได้ แต่มึง . . .” มันหยุด มองหน้าผมอีก

ตอนนี้ ผมคล้าย ๆ อ่อนแรง ทำไมผมเจ็บปวดกับสิ่งที่ตัวเองทำไป ผมบอกว่าผมรักมัน แต่ผมกลับตักตวงเอาความสุขจากมัน ถ้ามันเป็นผู้ชาย มันเจ็บปวดน่าดูกับสิ่งที่ผมทำไป

“. . กูไม่อยากให้มึงร้องอีกนะอาร์ม แต่ถ้าวันนี้มึงอยากจะร้อง กูก็ขอ ให้ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายที่มึงจะอ่อนแอแบบนี้อีก กูไม่อยากเห็นน้ำตาของคนที่กูรัก ไม่ว่าใครกูก็ไม่อยากจะเห็น”

“อืม พูดเหอะ กูฟังได้” ทำไมเสียงผมมันสั่นได้ขนาดนี้ก็ไม่รู้

“ไหวนะเพื่อน” มันมองหน้า ผมพยักหน้ารับมัน ไหวสิ ไหน ๆ มันก็พูดมาแล้ว จะทนฟังอีกหน่อยจะเป็นไรไป ฟังให้มันจบกัน แล้วพรุ่งนี้ อาจเป็นวันที่สดใสของผม เพราะหลังจากนี้ ผมคงไม่มีอะไรที่ต้องพูดเรื่องนี้อีกแล้ว

“แม่มันหายไปสองปี มีแต่มึงที่ดูแลมัน มันรู้ มันรู้มาตลอดเลยไอ้อาร์ม สิ่งที่มึงทำตลอดมันไม่รักมึงเลยเหรอ มึงไม่ต้องรู้ว่ารักแบบไหน มันกับมึง คงคิดต่างกัน มึงไม่มีใครในชีวิตที่มึงต้องแคร์ แต่มันมี มันมีญาติพี่น้องที่มันต้องแคร์ แล้วมึงคิดหรือว่ามันง่ายมาก ที่จะให้คนอื่น ๆ รู้ว่ามันรักมึงแบบไหน มึงบอกมันเองว่าสามีใหม่ของแม่มันจะเข้ามาหาแม่มันหรือหามัน สิ่งที่มึงพูดก่อนที่มัน จะเกิด แล้วพอมันเกิด มึงว่ามันช๊อคมั้ยไอ้อาร์ม ถ้าเป็นมึง แม่มึงไปสึกเจ้าอาวาสมา มึงจะทำยังไงอาร์ม มึงจะรู้สึกยังไง บอกกูได้มั้ย”

ผมหลับตานิ่ง สิ่งที่เพื่อนรักมันพูด ผมไม่เคยเอาใจตัวเองไปใส่ในหัวใจมันเลย ผมรู้แค่ว่า ผมรักมัน ผมห่วงมัน ผมทำยังไงก็ได้ ให้มันอยู่กับผม แต่ในเวลานั้น ผมไม่เคยที่จะมองถึงหัวใจของมมันเลย

ถ้า . . .

. . . แม่ผม สึกพระ

แค่คิดผมก็เจ็บปวด น้ำตาไหล ออกมาแล้ว แล้วมันล่ะ ในเวลานั้น มันจะเจ็บปวดขนาดไหน ในเมื่อมันรักแม่ของมันมากที่สุด ทำไมผมโง่นะ ผมโง่ที่รักมันจนหน้ามืดตามัว ไม่มองความเป็นจริงในตอนนั้นเลย . . .






“ในเวลาที่มันเจ็บที่สุด มันคงไม่มีสติมากพอที่จะคิดอะไรได้หรอกไอ้อาร์ม แล้วเมื่อมีคนเข้ามาในชีวิต . . . หน่อย” ไอ้เพื่อนรักมองหน้าผม

ผมพยักหน้าช้า ๆ ยอมรับฟังมันโดยดี

“พี่อาร์ม ผู้หญิงคนนั้นเข้ามาในชีวิตของโก หลังจากที่มันรู้แล้วว่าแม่สึกพระ พี่อาร์มลองคิดเล่น ๆ ได้มั้ย ว่าคนที่เคยมีเมียเพราะประชด จะทำเรื่องซ้ำ ๆ แบบนั้นได้อีกมั้ย”

ผมพิงตัวกับพนักเก้าอี้ ถอนหายใจยาว ๆ ทำไมผมไม่คิดว่ะ ผมมัวแต่คอยหึงหวงมัน จนลืมไปว่า คนแบบมันอยากมีใครที่อยู่ใกล้ ๆ มันสักคน ในเวลาที่มันเจ็บปวดที่สุด ผมกลับทุบมันซ้ำลงไปอีก

ผมน้ำตาไหล . . .

. . . มันคงเจ็บกว่าที่ผมเจ็บหลายเท่านัก ในเมื่อผมบอกมันตลอดว่ารักมันมากกว่าชีวิต แต่ในเวลานั้น ผมกลับไม่อยู่ข้าง ๆ มัน ผมกลับทำร้ายมันอย่างเลือดเย็นที่สุด

“อาร์ม . . . อาร์มฟังกูนะ ตอนกูรู้ กูก็อึ้งไปเหมือนกัน แต่กูขอยืนยันว่านี่เรื่องจริง” ไอ้เพื่อนรักมันจับมือผมเอาไว้

“อือ”

“ตอนที่มันขับรถแหกโค้ง มันไม่ใช่อุบัติเหตุนะอาร์ม มันเกิดจากความตั้งใจ . . .”

ผมปล่อยโฮออกมาทันที เมื่อฟังสิ่งที่ไอ้เพื่อนรักบอก ผมโผเข้ากอดไอ้เพื่อนรักเอาไว้ วันนั้นผมจำได้ ผมจำได้ดีมากที่สุด

“พอเหอะมึง พอแล้ว” ผมเจ็บปวด ไม่อยากฟังเรื่องอะไรอีกแล้ว ทำไมต้องเป็นผมที่ไม่มองในเรื่องที่ผ่านมา ทำไมผมไม่มีสติในเวลานั้น ผมแค่คนโง่คนนึงที่ปล่อยความหลงมาบดบังทุกอย่าง ผมแย่จริง ๆ

. . . พี่อาร์มอย่าไปได้มั้ย . . .

มันบอก แววตามันเศร้า มันต้องการจะบอกอะไรผม ผมเคยมองเสียที่ไหนตอนนั้น มันขับรถตามผมมา ผมน่าจะรู้ตั้งแต่วินาทีนั้นเสียด้วยซ้ำ ทำไมผมไม่มองมันตั้งแต่วันนั้น ผมบ้าที่มัวหึงมัน จนหน้ามืดตามัว หึงจนไม่ลืมหูลืมตา ไม่แม้ที่จะหยุดมองว่ามีอะไรรอบ ๆ ตัวบ้างที่มันเกิดขึ้นมาในชีวิต

ไอ้เพื่อนรักมันกอดผมเอาไว้หลวม ๆ มันไม่เคยทิ้งผม มันอยู่ใกล้ ๆ ผม มันเป็นเพื่อนผม ในขณะที่ผมบอกว่าผมรักโก แต่ผมกลับทำร้ายมัน ผมทำลายมันไปแล้ว ผมเจ็บนะ เจ็บปวดกับเรื่องที่ผมไม่เคยมองมันเลย

เพราะสมองผมมีแต่คิดว่า . . .





. . . มันทรยศผมที่มีคนอื่น แต่ผมไม่เคยมองสิ่งที่เกิดขึ้นเลย ว่าเหตุผลของคนเรามันแตกต่างกันอย่างที่สุด ผมรักมันด้วยหัวใจ หากแต่มันรักผมด้วยเหตุผล

เหตุผล . . .

. . . ที่ผมไม่เคยมองเลย

“แล้วแม่มันถามมัน ว่ามันมีอะไรกับมึงมั้ย อาร์ม ถ้าเกิดแม่ยังอยู่ แล้วแม่ถามมึง . . . แบบที่แม่มันถามมัน อาร์มจะกล้าบอกแม่มั้ย”

“ไม่ ไม่เด็ดขาด”

“ขนาดพี่อาร์มยังไม่กล้า แล้วโกมันกล้าหรือพี่อาร์ม ทางเดียวที่มันคิดได้ตอนนั้น ต้องดึงใครมาสักคน เพื่อที่จะให้ที่บ้านคิดว่ามันกับพี่ ไม่ได้มีอะไรกัน แล้วจะดึงใครในสถานการณ์ตอนนั้น ไม่มีใครเหมาะเท่ากับผู้หญิงโง่ ๆ คนนั้นอีกแล้ว” แดนเอามือมาแตะไหล่ผมเอาไว้

“หมายความว่าไงแดน”

“ถ้ามันมีผู้หญิงที่กรุงเทพฯ ที่บ้านมันจะรู้มั้ย แล้วตอนที่มันอยู่กรุงเทพฯ มันเคยมีคนอื่นหรือพี่ พี่ลองนึกดู สู้มันยอมคุยกับคนที่บ้าน ให้ผู้หญิงคนนั้นปล่อยข่าวว่ามันเป็นแฟนโก ทางนี้คงดีที่สุดแล้ว มันเลยเลือกที่จะทำแบบนั้นเพื่อให้แม่มันสบายใจ มันรักแม่มันนะพี่ มันเลยเลือกที่จะทำร้ายหัวใจของพี่ เพราะถ้ามันเลือกพี่ คนที่เจ็บปวดตอนนั้นอาจจะเป็นแม่มันก็ได้ ถ้ามันทำแบบนั้น เท่ากับมันเป็นคนเนรคุณผู้ให้กำเนิด มันเลยเลือกที่จะเนรคุณพี่แทน”

“โอ๋ . . .” ผมเรียกมันไอ้เพื่อนรัก มันลุกมานั่งติดกับผม เอาไหล่มันให้ผมได้พิงแบบที่ผ่านมา

ผมคอแห้งผาก . . .

. . . แทบจะนั่งไม่ไหวอยู่แล้ว ผมทำร้ายมันซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า ผมทำร้ายมันมาตลอดเลย

“แต่พี่เป็นคนโทรไปบอกหน่อย ว่าพี่มีอะไรกับมัน เกมส์แบบนั้นพี่เดินพลาด เพราะเท่ากับผู้หญิงคนนั้นรู้ความลับ มันเลยต้องยอมให้ผู้หญิงคนนั้นสั่งมันทำอะไรก็ได้ เพื่อที่จะไม่ยอมให้ผู้หญิงคนนั้นพูดเรื่องมันกับพี่” แดนมันมองหน้าผมนิ่ง

“มึงจำวันที่มึงกระโดดให้รถชนได้มั้ยอาร์ม ทำไมวันนั้นไม่ใช่มีแค่มึงที่อยู่ตรงนั้น ไม่มีใครโง่พอที่จะตายพร้อมคนอื่นหรอกอาร์ม ถ้ามันไม่ใช่เพราะความรัก” ไอ้เพื่อนรักเอามือลูบหัวผมเบา ๆ มันทำแบบนี้ทุกครั้งที่ผมเจ็บปวด

“พอเหอะ พอแล้ว” ผมยกมือห้าม

ผมไม่อยากรับฟัง ไม่อยากรู้ความโง่ของตัวเองอีกต่อไปแล้ว ถ้าผมไม่หลงมันแบบไม่ลืมหูลืมตา บางทีผมอาจไม่ต้องเจ็บปวด และหนีมาไกลขนาดนี้ก็ได้ แต่เพราะวันนั้นผมโง่เองที่ทำไปแบบนั้น เพียงเพราะว่า ผมไม่อยากเจ็บปวด




แล้วมันล่ะ . . .

. . . มันที่ไม่สามารถพูดกับใครได้

ความเจ็บปวดที่มันมี มันต้องข่มเอาไว้ในหัวใจตลอดเวลา ผมได้แต่หลับตานิ่ง ปล่อยน้ำตาไหลเป็นทาง

“มันต้องยอมทนเก็บเอาไว้คนเดียวนะพี่อาร์ม จนกระทั่ง . . . วันที่ผมกับพี่ไปปาย วันที่มันทำพี่เลือดตก”

ผมเอามือข้างซ้ายเลื่อนมาแตะที่หน้าผาก รอยนั้นยังอยู่ มันไม่หายสนิทหรอก เป็นรอยขาว ๆ ที่ไม่กลืนกับเนื้อบนใบหน้า

“พี่อาร์มเคยดูไอ้นี่ยัง” แดนหันหน้าจอแลปท้อปมาให้ผม

ภาพที่เห็น . . .

. . . ไอ้ชัย หน่อย

ผมมองหน้าแดน . . . ส่ายหน้า นั่นคือคำตอบ สิ่งที่มันเปิดให้ผมดู ทำไมผมไม่เคยดูนะ ทั้ง ๆ ที่มันอยู่ในเครื่องของผม แต่ผมไม่เคยเห็น ไม่เคยดูมันเลยสักครั้งเดียว

. . . โอ้ยพี่ชัย อย่างพี่โกนี่นะ หน่อยรักเข้าไปไม่ลงหรอก โง่จะตาย แค่พูดหวาน ๆ เข้าก็อ่อนยวบแล้ว เขาเคยมีอะไรกับหน่อยเสียที่ไหน วันนั้นน่ะ แค่มอมเหล้าจนเมา แล้วลากเข้าห้องนอน จับถอดเสื้อผ้า ตื่นมาตอนเช้าแกล้งบีบน้ำตาเข้า หน้าพี่เขาก็เครียดมาทันที เรื่องแบบนี้พี่เขาไม่ทันหรอก โง่เองที่ไม่ยอมเชื่อที่พี่อาร์มเตือนตั้งแต่แรก . . .

ผู้หญิงคนนี้ ความคิดน่ารังเกียจ แถมสิ่งที่เขาทำ ยังทุเรศสิ้นดี ผมได้แต่สะอิดสะเอียนกับภาพที่เห็น ร่างเปลือยของคนสองคนที่นอนกอดก่ายกัน . . .

. . . ยิ่งป้าภายิ่งแล้วใหญ่ หลงผัวใหม่จะตาย โง่ ทั้งแม่ทั้งลูก แล้วที่ดินริมน้ำตั้งเท่าไหร่ ลูกโง่แม่โง่ โอ้ยพี่ ไม่รู้ชาตินี้จะหาได้ที่ไหน . . .

ผมปิดแลปท้อปลงทันที . . .

ไม่อยากดูต่อให้เป็นเสนียดลูกตา คนแบบนี้ผมไม่อยากอยู่ใกล้แม้แต่วินาทีเดียว มันเจ็บปวดนะ กับสิ่งที่ผ่านมา ถ้าวันนั้น ผมมีสติมากกว่านี้ วันนี้คงไม่มีใครต้องมาเจ็บปวด

มิน่า . . .

วันนั้น ที่ปาย

ผมถึงได้ยินเสียงเปรตขอส่วนบุญดังมาจากในบ้านป้าภา . . .

“อาร์ม ตั้งแต่วันนั้น โกมันก็ตามหามึง ตามหาตลอด”

“อย่ามาพูด กูไม่มีวันเชื่อ” ผมมองหน้ามัน

“งั้นมึงดูนี่” ไอ้เพื่อนรัก มันเอา มือถือของมันส่งมาให้ผม




“รูปกู. . . มีไรเหรอ” ผมมองหน้ามัน

“มึงรู้ไหมว่าตอนที่กูได้รูปนี้กูอยู่กับใคร”

“มึงจะบอกว่าอยู่กับไอ้โกอย่างนั้นเหรอ ละครช่อง ๗ ชัด ๆ กูไม่เชื่อหรอก” ผมมองหน้าไอ้เพื่อนรักที ไอ้แดนที

“ถึงมึงจะไม่เชื่อ กูบอกว่าจริง กูนั่งกับไอ้โก มันมาหากูที่สนามบิน มันบอกว่า มันไปหาหลวงพ่อ มันเจอมึงนอนหลับในกุฏิหลวงพ่อ มันไปทำบุญวันเกิดให้มึง”

“อย่ามาอำ อย่าเพื่อน”

“คนที่รู้มึง ไอ้อาร์ม มึงรู้แก่ใจว่าใช่ไหม เวลานั้นมึงอยู่ที่กุฏิหลวงพ่อหรือเปล่า กูสองคนบังคับให้มึงเชื่อไม่ได้ แต่กูเชื่อโกมัน”

“แดน . . .” ผมหันไปหาพวก

“พี่อาร์ม พี่ดูอันนี้ . . .” แดนยื่นกระดาษที่พับไว้มาให้ผม

“เฮ้ย สเก็ตเดือนนี้นี่หว่า” ผมมองสิ่งที่อยู่ในมือ

“แล้วอันนี้ละ . . .” แดนส่งกระดาษอีกใบ

“ไอ้แดน เอามาได้ไง ของพี่เมื่อเดือนก่อน มึงสองคนทำไรกันนี่” ผมมองหน้ามันสองคน แปลกใจปนดีใจ ที่มันใส่ใจผมขนาดนี้

“โกเมศวร์เอามาให้กูกับไอ้แดน”

“กูไม่เชื่อ”

“อาร์ม อย่าหลอกตัวเอง กูรู้มึงเชื่อ เชื่อกูสองคนเหอะอาร์ม ว่าโกเมศวร์ ไอ้โก มันดิ้นรนหามา มันเอามาบอกกูกับไอ้แดน”

“มันจะทำไปทำไม”

“อันนี้กูไม่รู้เพื่อน แต่ที่กูรู้ กูจะเจอมันทุกครั้งที่มึงกลับมาเมืองไทย วันที่มึงบินกลับก่อนไฟลท์ออก กูจะเห็นไอ้โกป้วนเปี้ยนแถวประตูลูกเรือตลอด”

ผมมองหน้ามัน . . .

มันทำอะไรกันอยู่ แล้วผมล่ะ ผมกำลังทำอะไรอยู่ ทำไมเรื่องราวมันไม่จบลงเสียที มันมีอะไรตามมาเรื่อย ๆ แบบนี้เลยหรือ

“พี่โอ๋พูดจริง ๆ พี่อาร์ม ผมเองยังยอมแพ้กับสิ่งที่ไอโกตามหา”

“กูสงสารมันนะอาร์ม แต่ไม่รู้จะช่วยยังไง กูพยายามจะหาโอกาสพูดกับมึงหลายครั้ง แต่มึงตัดบททุกครั้ง จนกระทั่ง เมื่อสามสี่วันก่อน ที่กูนัดเจอมึง กูโทรบอกโกมัน กูคิดว่าบางทีมันอาจจะถึงเวลาที่ต้องคุยกันแล้ว แต่มึงหนีอีกตามเคย . . .”




“ซึ่งพี่โอ๋ก็คิดไว้แล้ว ว่าพี่อาร์มจะหนี เลยให้ผมตามดูพี่ห่าง ๆ ตั้งแต่ทรูคอฟฟี่ ไปสตาร์บัค จนกระทั่งพี่เดินมาที่สถานีรถใต้ดิน ผมถึงปรากฏตัว เพราะมันเป็นผมที่จะทำหน้าที่ต่อจากพี่โอ๋ ในตอนนั้น ถ้าเป็นพี่โอ๋ พี่อาจจะหนีไกลกว่านี้ ผมเลยต้องเถเล่นไปตามบท”

ผมมองหน้ามันทั้งสองคน . . .

“อาร์ม . . . มีคนฝากมาให้มึง” ไอ้เพื่อนรักส่งสมุดเล่มบันทึกมาให้ผม

“ใคร”

“มึงก็รู้แก่ใจ มาถามกูทำไมอีกว่าใคร กูไม่บังคับให้มึงอ่าน แต่กูรู้ว่ามึงต้องไม่อยากอ่าน เพราะแรงฐิทิ มึงไม่อ่านหรอก”

“กูจะอ่าน”

ผมลืมไป มันยั่วผม จนผมลืมคิดไปว่า มันรู้จักผม ผมเปิดสมุดเล่มนั้นช้า ๆ ลายมือคุ้นตา เป็นลายมือที่เขียนล้วน ๆ บางตอนมีรอยอะไรเป็นดวง ๆ หมึกคล้ายจาง ๆ ผมรู้ รอยที่เกิดขึ้นนั้น มันคับแน่นในหัวใจอย่างที่สุด




๔ มกราคม ๒๕๕๐

วันนี้ . . .


วันเกิดของคนที่ผมรักมากที่สุด และเป็นคนที่ผมทำเขาเจ็บปวดอย่างที่สุดเหมือนกัน ความผิดที่ผมเองก็ไม่รู้ว่าจะบอกอย่างไรเสียด้วยซ้ำ สิ่งที่ผมทำได้ คือคอยดูแลคนที่เขารักมากที่สุด เพื่อว่ามันจะชดเชยกับสิ่งที่ผมได้ฆ่าคน ๆ นึงทั้งเป็น

คนที่ปั้นผมมากับมือ . . .

พี่อาร์ม . . . ผมอยากขอโทษ แต่มันคงไม่เพียงพอกับสิ่งที่ผมได้ทำกับพี่ สิ่งที่ผมทำมันเลวร้ายเกินกว่าที่ผมจะบอกกับพี่ว่าผมรู้สึกอย่างไร สิ่งเดียวที่ผมทำได้ คือแบ่งเบาสิ่งที่พี่เป็นห่วงตอนนี้ . . . หลวงพ่อ

ผมรู้ . . .

. . . หลวงพ่อ คือสิ่งที่พี่รักและเป็นห่วงมากที่สุด

และ . . . หลวงพ่อ

จะเป็นห่วงที่เกี่ยวรัดผมเอาไว้ ไม่ให้พี่หนีผมไปไกลเกินกว่านี้

สักวันนึง พี่จะกลับมา กลับมาหาผม เหมือนที่ผมอยากจะหาพี่ ผมเชื่อความรักมันมีใย สายใยบางอย่างเราอาจมองไม่เห็น หรือเพราะเราไม่เคยมองมันเลยก็เป็นได้ . . .




“หลวงพ่อ . . . หลวงพ่ออยู่มั้ยครับ” ผมตะโกนร้องเรียกทุกครั้งที่เข้ามาที่กุฎิของหลวงพ่อ

สายลมพัดอ่อน ๆ ต้นปีอากาศหนาว ผมชอบอากาศยามต้นปี เพราะมันหนาวเหน็บจับหัวใจดี เหมือนหัวใจของผมตอนนี้ มันหนาว หนาวตั้งแต่วันที่ไม่มีอีกคน . . .

“วันนี้วันเกิดพี่อาร์ม ผมเลยแวะมาทำสังฆทาน ก่อนบ่ายนี้ต้องเข้ากรุงเทพฯ พรุ่งนี้ทำงานแล้วล่ะครับหลวงพ่อ หยุดมาหลายวัน ผมทำบุญให้พี่อาร์มได้ใช่มั้ยหลวงพ่อ” ผมกราบหลวงพ่อที่นั่งขัดสมาธิหน้าชานกุฎิ

แปลกจัง . . . วันนี้หลวงพ่อขยับตัวบ่อย

“ได้สิ การทำบุญ เราทำให้ได้ทั้งเจ้ากรรมนายเวรที่ตายไปแล้ว และทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่” หลวงพ่อบอกยิ้มอ่อนโยน เหมือนรอยยิ้มพี่อาร์มมิมีผิดเพี้ยน

“ครับหลวงพ่อ ผมคงทำผิดเอาไว้มาก”

“ไม่มีอะไรที่ถูกทั้งหมด และไม่มีอะไรที่ผิดตลอดหรือโก . . . เอ้า บทสวดมนต์ขอถวายสังฆทาน” หลวงพ่อส่งหนังสือให้ให้ผม

“ท่องนะโมสามจบ อยากจะอุทิศส่วนกุศลให้ใคร ก็คิดเอาไว้ สัตว์โลกทั้งหลายที่อยู่รอบ ๆ ตัว พนมมือแล้วว่าตามนะ”

ผมหันมองรอบ ๆ ตัว มีแค่ผมคนเดียวเท่านั้น แล้วหลวงพ่อพูดอะไรแปลกจังเลย หากแต่ผมไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่านั้น ผมได้แต่พนมมือแล้วค่อย ๆ ท่องนะโมสามจบ ก่อนอ่านบทสวดสังฆทาน

“เอาล่ะ . . . เรียบร้อยแล้ว ส่วนน้ำนั่น เอาไปเททิ้งใต้ต้นไม้ใหญ่” เสียงหลวงพ่อสั่ง ผมทำตามอย่างว่าง่าย หยิบขันใบเล็ก ๆ ก่อนก้าวลงมาที่บันได

รองเท้าหนังมันเมี่ยม . . .

พี่อาร์ม . . . ความรู้สึกแรกที่แวบเข้ามาในหัวใจ พี่อาร์มอยู่ที่นี่หรือ ผมได้แต่ถามตัวเองในใจ คำถามที่ผมเองก็ไม่กล้าที่จะถามหลวงพ่อ หากแต่ผมแน่ใจ ความรู้สึกของผมไม่ผิดแน่ ๆ

ผมเดินกลับมาอีกครั้ง ก่อนที่จะหยุดที่บันได ผมได้แต่ก้มมองรองเท้าคู่นั้น

ขนาด . . . เท้าพี่อาร์มแน่ ๆ . . .

. . . ยี่ห้อ . . . ใช่ที่พี่อาร์มใส่เป็นประจำ

แล้ว . . . พี่อาร์มอยู่ไหน?

. . . ในกุฎิ . . . คำตอบในหัวสมองของผม

แล้วทำไมหลวงพ่อไม่บอกผม . . .




แม้ผมอยากจะรู้ใจแทบขาด แต่ผมไม่สามารถที่จะเอ่ยปากถามเรื่องพี่อาร์มจากหลวงพ่อได้ ผมรู้ดี พี่อาร์มหายไปจากชีวิตผมร่วมปีแล้ว ตั้งแต่วันนั้น ผมไม่เคยเจอพี่อาร์มอีกเลย ที่ทำงานบอกว่าพี่อาร์มลาออกไปแล้ว ไม่รู้ไปอยู่ที่ไหน

พี่แดน . . .

. . . ลาออกตามไปด้วย และดูจะเมินเฉยกับผมเมื่อไม่มีพี่อาร์มอยู่ สายตาที่พี่แดนมองผม เหมือนผมเป็นอะไรสักอย่าง ที่น่ารังเกียจ ผมอาจทำสิ่งที่เลวร้ายที่สุดกับคนที่พี่แดนรักก็เป็นได้ ผมรู้และดูออก พี่แดนนะรักและหวงพี่อาร์ม . . .

ส่วนผม . . . เป็นแค่คนที่ทำร้ายพี่อาร์มซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ผมเคยถามตัวเอง

ทำไมผมต้องทำร้ายพี่อาร์ม ?

คำตอบที่ได้ คือน้ำตา เพราะหากผมไม่เลือกที่จะทำร้ายพี่อาร์ม คนที่จะเจ็บปวดไม่ใช่พี่อาร์ม แต่หมายถึงคนที่ผมไม่อาจจะทรยศได้ คนเดียวที่ผมไม่มีวันทรยศโดยเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นจะตาย ผมไม่อาจทำร้ายเธอคนนั้นได้แน่ ๆ . . .

ผมรักพี่อาร์ม . . .

ผมไม่เคยแยกว่ารักแบบไหน เพราะความรักของผมคือรัก จะรักแบบไหนมันสำคัญหรือ มันสำคัญกว่าความรู้สึกทั้งหมดของหัวใจหรือเปล่า ผมไม่รู้คนอื่นจะมองอย่างไร หากแต่ผมรู้ว่าพี่อาร์มดีกับผม และผมควรจะรักพี่อาร์มให้มาก

พี่อาร์มอยากให้ผมเป็นน้อง . . . ผมก็เป็นน้อง

หาก . . . พี่อาร์มอยากให้ผมเป็นคนรัก

. . . ตามใจพี่อาร์มสิ . . . ผมยอม

ผมยอมเพราะผมรู้ ในโลกนี้ นอกจากแม่ คนเดียวที่ไม่มีวันทำร้ายผมคือพี่อาร์ม แต่ผมกลับเป็นฝ่ายที่เลือกที่จะทำร้ายพี่อาร์ม เพียงเพราะผมไม่กล้าที่จะสู้หรือยอมรับกับความเป็นจริง

พี่โอ๋ . . . เป็นเพื่อนที่พี่อาร์มสนิทมากที่สุด การที่ผมจะขอความจริงจากพี่โอ๋ ไม่มีทางแน่ ๆ เพราะพี่โอ๋ยืนยันว่าไม่รู้ว่าพี่อาร์มไปอยู่ไหน เพื่อนรักกันขนาดนั้นไม่รู้ ผมไม่เชื่อหรอก ผมไม่เชื่อเด็ดขาด

ทางเดียว . . .

ทางเดียวที่ผมจะได้เจอพี่อาร์ม น่าจะทางหลวงพ่อ เพราะพี่อาร์มรักหลวงพ่อมาก และผมไม่เชื่อหรอกว่าคนอย่างพี่อาร์มจะตัดขาดทุกคนได้แม้กระทั่งหลวงพ่อ ผมเลยต้องทำหน้าที่ของลูกที่ดี อย่างน้อยเพื่อชดเชยความผิดที่ผมทำให้พี่อาร์มเตลิดไปไกล

ไกล . . . แค่ไหนหรือ




ผมไม่รู้ ผมไม่รู้จริง ๆ ว่าพี่อาร์มอยู่ที่ไหนกันแน่ แต่ตอนนี้ผมรู้แล้ว ผมมองรองเท้านิ่ง บางทีคนที่ผมตามหาอยู่ใกล้ผมแค่นี้เอง

ผมยิ้มก่อนเดินขึ้นไปบนกุฎิอีกครั้ง . . .

“เห็นจะต้องลาหลวงพ่อ เดือนหน้าจะมารับหลวงพ่อไปหาหมออีกนะครับ” ผมก้มลงกราบ

“เดินทางปลอดภัย บุญรักษานะลูก” หลวงพ่อวางมือไว้บนศรีษะที่ผมก้มลงกราบนิ่งทุกครั้ง

สัมผัสอบอุ่นที่ผมได้รับ . . . เหมือนน้ำ

น้ำที่ดับความรุ่มร้อนในหัวใจของผมเสมอมา ผมหลับตานิ่ง รู้สึกผิดกับความคิดที่มันมีอยู่ในหัวตอนนี้ ผมแค่อยากรู้ อยากรู้ในสิ่งที่หัวใจตัวเองมันร่ำร้องอยู่ตลอดเวลา ถ้าผมทำผิด ครั้งนี้ขอทำผิดเป็นครั้งสุดท้าย

ผมลงมาจากกุฎิด้วยหัวใจที่ร้อนรุ่มกว่าเก่า ผมมองรองเท้าคู่นั้น ก่อนยิ้มหยันให้ตัวเอง ลมหนาวปลิดใบไม้แห้งให้ค่อย ๆ ทิ้งขั้วลง ปลิวหมุนช้า ๆ ก่อนจะตกลงสู่พื้น มันจะแตกต่างอะไรจากชีวิตคนเล่า

วันนึง . . .

. . . ต้องลาจาก

การจากลา . . . ทรมาน

หาก . . . เราทุกคนต้องได้เจอ เหมือนที่ผมเจอมาแล้ว มันเจ็บปวดแสนสาหัส หากวันนี้ผมขอ ผมขอมองสิ่งที่ผมจากลานั้นให้เต็มตาอีกสักครั้งจะได้ไหม ผมสัญญา ผมจะไม่แตะให้เขาต้องเจ็บปวด แม้แค่ปลายเล็บ

ผมรอเวลา . . .

การรอคอยสำหรับผม มันเหมือนเพื่อนแท้ ผมรอได้ แม้การรอคอยจะทรมาน แต่ผมจะรอ เพราะผมรู้ อีกไม่นานสิ่งที่ผมรอจะสัมฤทธิ์ผล ไม่มีอะไรนานเกินไปหรอก สำหรับผม การรอคอยคือความสุขที่ผมยินดีเปิดรับมันเสมอ

หลวงพ่อค่อย ๆ เดินลงมาจากกุฎิเมื่อมีเสียงระฆังส่งสัญญาณได้เวลาเพล ผมค่อย ๆ หลบเข้าไปอีกฝั่งของกุฎิอีกหลัง ผมขอโทษที่ต้องทำแบบนี้ เพราะผมอยากรู้ มีอะไรในนั้น มีอะไรซ่อนอยู่ในกุฏิของหลวงพ่อ

ผมมองตามหลวงพ่อที่เดินหายไปทางด้านโรงฉันของวัด . . .




แววตาผมกระหยิ่ม ก่อนที่จะเดินมาที่กุฎิของหลวงพ่ออีกครั้ง ผมก้มมองรองเท้าคู่นั้น รองเท้าที่ผมเองก็รู้แก่ใจว่าเป็นของใครไปไม่ได้แน่ ๆ อะไรที่เกี่ยวกับพี่อาร์มผมจำได้ ไม่มีวันลืม

หาก . . . ทำไมผมลืมหัวใจตัวเองก็ไม่รู้

ผมก้าวเท้าไปบนกุฎิอย่างช้า ๆ หัวใจผมเต้นแรงขึ้น เมื่อมาหยุดที่หน้าประตูกุฎิ สิ่งที่อยู่ภายในหัวใจผมกำลังเถียงกันอย่างหนักหน่วง มันดีแล้วหรือที่ผมจะผลักประตูเข้าไปโดยที่หลวงพ่อไม่อยู่ ผมควรทำแบบนั้นหรือ

ผมเอื้อมมือไปข้างหน้าช้า ๆ

“เอี๊ยดดดดดดดดด”

เสียงบานพับที่ขาดการบำรุง แสงจากด้านนอกค่อย ๆ ทอดยาวเข้าไปในกุฎิ ปลายเท้าคู่นั้น . . . ผมดีใจจนเก็บความรู้สึกเอาไว้ไม่อยู่ ผมจำได้ ไม่มีวันลืม ผมไม่ลืมเด็ดขาด ผมค่อย ๆ ก้าวเท้าผ่านธรณีประตูไปอย่างช้า ๆ

คนที่นอนขดตัวนิ่ง . . .

ผมน้ำตาเอ่อ ค่อย ๆ ทรุดตัวลงใกล้ ๆ ใบหน้านั้นดูซีดเซียวคล้ายคนอดหลับอดนอน ผมเอื้อมมือสั่นระริก อยากจับใบหน้านั้น หากผมต้องรีบดึงมือกลับมา ไม่ได้หรอกโก แค่นี้ก็พอแล้ว ที่ผ่านมา โกทำร้ายพี่อาร์มมามากแล้ว อย่าทำร้ายพี่อาร์มอีกเลย ปล่อยให้พี่เขาได้ไปแบบที่พี่เขาอยากไปนะโก หากวันนึงพี่เขากลับมา เราอาจจะมองหน้ากันได้อีก

บางที . . .

เวลา . . . มันอาจจะบอกได้ว่า สิ่งที่เราสองคนทำมาทั้งหมดมันคืออะไร ตอนนี้พี่อาร์มเขาเหนื่อย เขาอยากพัก โกอย่าไปทำให้พี่เขาเหนื่อยมากกว่านี้นะ มองพี่อาร์ม เก็บภาพที่ดีของพี่เขาเอาไว้ เก็บไว้ในหัวใจของโกไง

ผมได้แต่บอกตัวเองแบบนั้น . . .

ริมผนังกุฏิ . . .

มีเสื้อนอกสีเลือดนกแขวนอยู่ ป้ายโลหะที่หน้าอกเป็นรูปหัวแกะหรือแพะหว่า ไม่แน่ใจ ตัวอักษรภาษาอังกฤษ ผมอ่านออกสายการบินระดับห้าดาว

ผมใจหายวาบ . . .

พี่อาร์มหนีไปไกลขนาดนี้เลยหรือ ?

ผมมองพี่อาร์ม แววตาเอ่อ คอผมแห้ง มันตีบมันตัน คล้ายใครมาบีบที่หัวใจจนผมแทบหายใจไม่ออก นี่ผมทำร้ายคนที่ผมรักได้ขนาดนี้เลยใช่ไหม ผมจำได้ พี่อาร์มเคยบอก




“สจ๊วตเหรอ อี๋ ไม่เอา ไม่อยากเป็น เกลียดที่สุดในชีวิต ถ้าเลือกได้ ไม่ขอเป็น ไม่เด็ดขาด ให้มันเป็นทางเลือกสุดท้ายเหอะไอ้อาชีพนั้นน่ะ อีกอย่าง ไม่อยากห่างโก ไปบินทีนึงหลายวัน เป็นห่วงโก”

ผมหลับตาค่อย ๆ ปล่อยให้น้ำตามันไหลออกมา สิ่งที่พี่อาร์มเกลียดที่สุด แต่พี่อาร์มกลับเลือกที่จะเดินไปหามัน เพราะผม เพราะผมใช่ไหม พี่อาร์มถึงได้เดินไปบนเส้นทางที่พี่อาร์มไม่คิดที่จะไป

“ผมขอโทษ” ผมบอกเบา ๆ ก่อนก้มลงจดจมูกที่แก้มพี่อาร์ม

ผมเดินออกมาจากกุฎิเหมือนคนไม่มีชีวิต ผมมานั่งที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ไกล้โบสถ์ มันก็สาสมแล้วกับสิ่งที่ผมเคยทำเอาไว้กับพี่อาร์ม สิ่งที่ผมเจอมันยังน้อยเกินไปเสียด้วยซ้ำ ผมรู้ พี่อาร์มทำอะไรมามากมาย สิ่งที่พี่อาร์มทำเพื่อผม พี่อาร์มไม่เคยทำอะไรเพื่อตัวเองเลย เขาทำเพื่อผมทั้งนั้น

กางเกงที่ผมใส่อยู่ตอนนี้ พี่อาร์มก็ซื้อให้ตอนวันเกิดปีก่อน ราคามันนะหรือ เทียบไม่ได้กับน้ำใจที่พี่อาร์มให้ผมกระมัง ทำไมนะหรือ ผมรู้ไง ผมรู้ พี่อาร์มไม่เคยมีกางกางที่ราคาแพงเท่ากับตัวที่พี่อาร์มซื้อให้ผมตอนวันเกิด

สิ่งที่พี่อาร์มให้ผม . . .

. . . ดีที่สุดเสมอ

ผมเอามือปาดน้ำตาทิ้ง เสียใจที่สุดแล้ว แต่ผมแก้ไขอะไรมันได้ ผมย้อนกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้อีกแล้วล่ะ ทุกอย่างมันผ่านมาแล้ว มันจบลงแล้ว เพราะผม ผมทำลายทุก ๆ อย่างที่พี่อาร์มพยายามที่จะปั้นให้มันสวยที่สุด ผมได้แต่กอดเข่าตัวเองเอาไว้ เอาเข่าซับน้ำตาตัวเอง ให้สาสมกับความงี่เง่าที่ผมได้กระทำลงไป

ผมเจ็บ . . . แต่คงไม่เท่าที่พี่อาร์มต้องเจ็บ

ผมต้องผ่านมันไปให้ได้ ผมต้องอยู่รอพี่อาร์ม ผมได้แต่วาดหวังสักวันพี่อาร์มจะอภัยให้ผม จะกลับมายิ้มให้ผมเหมือนที่เคยผ่านมา ผมไม่หวังไปถึงอ้อมกอดของพี่อาร์มหรอก เพราะผมรู้ดี มันเกินที่จะคาดหวัง

แค่ . . . รอยยิ้ม

รอยยิ้มในวันข้างหน้าที่เจอกัน แค่รอยยิ้มที่พี่อาร์มยิ้มให้ผมเท่านั้น ผมก็คงมีความสุขแล้ว ผมไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่าสิ่งนี้อีกแล้ว

พี่อาร์ม . . . ชื่อนี้จรดลึกอยู่ในหัวใจของผมไปจนหมดลมหายใจ




ผมเงยหน้ามองเพื่อนรักที มองแดนที แปลกจัง ทำไมผมมองมันสองคนไม่ชัด ในเมื่อตอนนี้ ดวงตาของผมพร่ามัวไปด้วยน้ำตา น้ำตาที่มันออกมาโดยที่ผมไม่สามารถจะควบคุมมันได้ สิ่งที่ผมเห็นในสมุดเล่มนั้น มันบีบหัวใจผม ผมทำร้ายตัวเอง ผมทำร้ายคนที่ผมรักได้มากขนาดนี้เลยหรือ

รอยดวง ๆ เปื้อนกระดาษ . . .

น้ำตา . . . ผู้ชายแบบโกเมศวร์หากไม่ถึงที่สุด คงไม่มีน้ำตาให้ใครเห็น ผมหลับตานิ่งเจ็บปวดอย่างที่สุดแล้ว

“ไอ้อาร์ม” เพื่อนรักมันแตะที่เข่าผมเบา ๆ

“อย่าเพิ่งพูด ขอเวลากูแปบ” ผมหลับตายกมือห้ามมัน

อย่าเพิ่งเลยเพื่อน อย่าเพิ่งมาอะไรในเวลานี้ ตอนนี้มันน่ากลัว ขอเวลาสักเล็กน้อย ขอเวลาให้กูปรับความรู้สึกตัวเองอีกสักครู่






Create Date : 25 มกราคม 2553
Last Update : 26 มกราคม 2553 8:31:57 น. 3 comments
Counter : 1307 Pageviews.

 
God is the way
The Truth
and The Life

when your life need miracal
Ask form him.. Then you will be
impress by its result as I do~!

what is the truth
if u ask me then
I will tell u that
it is GOD


โดย: da IP: 124.120.20.198 วันที่: 26 มกราคม 2553 เวลา:0:35:22 น.  

 
รออ่านตอนต่อไป

จะมีฉากคุยกะโอห์มริมทะเลเหมือนใน 'รักเอยฯ' ไหมนะ


โดย: ตัวเล็ก IP: 112.142.58.234 วันที่: 26 มกราคม 2553 เวลา:8:20:14 น.  

 
แวะมาเม้นให้พี่ต้น ๑ เม้นท์ก่อนกลับไปเคลียร์งานที่ค้างไว้.. แหม่ะรักฤาผูกพันฯ ทำเมให้เบาสมอง(เรื่องงาน)ไปเยอะเลยอ่าค่ะ แต่..มาซีเรียสกับอาร์มแทน แหะๆๆ


โดย: ผู้หญิงมากฝัน (maesnake ) วันที่: 26 มกราคม 2553 เวลา:16:10:06 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

นนท์ปวิชญ์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add นนท์ปวิชญ์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.