Group Blog
 
 
ธันวาคม 2552
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
19 ธันวาคม 2552
 
All Blogs
 
[ ป า ย - เ ชี ย ง ใ ห ม่ ] รั ก ฤ ๅ ผู ก พั น . . . ก็ เ จ็ บ ป ว ด เ ท่ า กั น # ๗ #

 

**คำเตือน** 



เรื่องนี้ . . .







เป็นเรื่องแต่งขึ้นเพื่อสร้างความบันเทิง







ไม่เกี่ยวข้องกับ  บุคล  แต่อาจเกี่ยวพันกับสถานที่ 







หรือเหตุการณ์ใด ๆ ที่เกิดขึ้นในบรรณภิภพนี้







ผู้อ่านควรใช้วิจารณญาณในการอ่านอย่างมากถึงมากที่สุด







ปล. เป็นเรื่องแต่งมิได้เกี่ยวข้องใด ๆ ต่อ เจ้าของบล๊อก



















ต อ น ที่  ๗







Free TextEditor


ขบวนรถที่เคลื่อนเข้ามาในสถานีช้ากว่ากำหนดเดิมไปร่วมชั่วโมง ผมเดินเตร่ไปเตร่มาชีวิตไม่เร่งรีบอะไร เมื่อขบวนรถจอดสนิท ความโกลาหลวุ่นวายดูจะเกิดขึ้นในสถานีแห่งนี้ เพราะผู้โดยสารและผู้ที่มารอรับต่างเดินหาญาติ ที่มากับขบวนรถ

“พี่อาร์ม โน่นไงพี่โอ๋” ไอ้โกชี้ไปอีกทาง

ผมหันไปตามที่มันบอก ก่อนเดินก้าวเท้าไปหามัน ท่ามกลางผู้คนมากมาย แต่ไม่รู้ทำไม วันนี้ผมตื่นเต้นกว่าทุกวันเสียอีก

“แดน คิดถึงจัง” ผมปรี่ไปกอดไอ้แดนเอาไว้หลวม ๆ

มากอดไรคนเยอะแยะ” ปากมันพูด แต่มันกอดผมเบา ๆ ทักทาย ตามความเคยชินเหมือนตอนอยู่มหาวิทยาลัย

“โหยไอ้สัสอาร์ม มากอดกูมั่งมะ” ไอ้ก้องมันอ้าแขนรับ

“กอดทำเหี้ยไรพวกมึง ไอ้แดนมันน้องรหัสกูโว้ย เหมาะสมที่จะโดนกอด” ผมปล่อยมัน ก่อนทักทายเพื่อนที่มาด้วยกัน

“ลำเอียงว่ะไอ้อาร์ม โกมาพี่กอดที” ไอ้เพื่อนเชี่ยล่ะครับ เถไปกอดคนขอผมเฉยเลย

. . . สาสสสสสสสสสส . . .

นี่ถ้าไม่ใช่เพื่อนรักมากอดหัวใจกรู กลางสถานีรถไฟแบบนี้มีวางมวย แต่เห็นว่าเป็นเพื่อนรักหรอก ให้อภัยมันได้เสมอ

“เดี๋ยวแนะนำก่อน นี่พี่ก้อง พี่ชา พี่แดน ส่วนไอ้เหี้ยที่มันกอดโกเมื่อกี้ไม่ต้องแนะนำหรอก รู้จักกันแล้วนี่หว่า” ผมหันไปแนะนำเพื่อน ๆ ให้โกรู้จัก

“โกเมศวร์ น้องกู และวันนี้มันจะเป็นคนที่พวกมึงต้องฝากชีวิตไว้กับมัน อ้อ กูด้วย กูก็ต้องฝากชีวิตไว้กับมันเหมือนกัน” ผมยิ้มเจ้าเล่ห์

“ทำไมว่ะไอ้อาร์ม” ไอ้ชาเสนอหน้าดำ ๆ มาถาม

“อ้าว! เพราะกูจะไม่ยอมขับรถไปปายเด็ดขาด หัวเด็ดตีนขาดกูไม่ยอมขับแน่ ๆ แค่อินทนนท์กูก็เสียวแปล๊บบบบบบบบบบ จะให้กูขับไปปายกูไม่อาววววว” ผมทำท่าขยาด

“ไอ้เหี้ยนี่ คนยิ่งปอด ๆ อยู่” ไอ้โอ๋มันดึงคอผมไปคล้องเอาไงไว้กับวงแขนมัน

“เหี้ยอาร์ม หัวเหม็น” มันเอาจมูกมาแตะที่หัวผมเบา ๆ ก่อนผลักออก เพื่อนผมมันน่ารักครับ ขยันหาเรื่องกับผมเรื่อยเลย

“สัส กูเพิ่งสระเมื่อสามวันก่อน”

“รอบนี้สามวัน รอบหน้ากี่วันว่ะ”

“เรื่องของกู ว่าแต่พวกมึงพร้อมที่จะเดินทางสู่โค้งมหัศจรรย์หรือยังว่ะ”

“เฮ้ย ไอ้อาร์ม กูนั่งรถไฟกลับกรุงเทพฯ ยังทันมะเนี่ย” ไอ้ก้องหน้าซีด

“เอาน่าพี่ ไม่น่ากลัวหรอก พี่อาร์มอย่าหลอกดิ มีแค่สองโค้งเอง น่ากลัวตรงไหน ปิดตาข้างเดียวขับยังไหวเลย” โกยิ้มฟันขาว

“พอเลยน้อง ไอ้สองโค้ง โค้งขวาหนึ่ง โค้งซ้ายอีกหนึ่ง พี่เจอกันมาแล้ว สมัยไปทีลอซูก็แบบนี้แหละ คนขับบอกสองโค้งกับแถมอีกหนึ่งถุง”

“ถุงอะไรเหรอพี่ก้อง” ไอ้แดนขมวดคิ้วสงสัย

“ถุงอ้วกไงแดน พอรถเลยพบพระไปหน่อย ไอ้ก้องเอาแล้ว ร้องจะอ้วก ๆ สุดท้ายพุ่งออกมาหมดพุง อ้อ มีแถมอะไรนะไอ้โอ๋” ผมหันไปหาไอ้เพื่อนรัก

“ไอ้ห่านี่ ไม่ต้องเลย กรูทิ้งเสื้อไปตัวเพราะอ้วกไอ้ก้อง คราวนี้ให้มันนั่งหน้า ไม่ต้องมานั่งกับพวกกู กลัวทำไหมว่ะ ผีมาถึงป่าช้า ไม่ฝังก็ต้องเผา ตกลงมะไอ้อาร์ม”

“ขอสักป๊าบเหอะ” ผมตบกบาลมันเบา ๆ

“ห่านี่ หาคำเปรียบที่ดูดี ๆ หน่อย ส่วนถุงอ้วกกูเตรียมไว้แล้วเพื่อน ไปกันเหอะไป สายแล้ว” ผมตัดบท ก่อนพามันเดินออกมาจากสถานีรถไฟ




เหตุการณ์ หรือ สถานการณ์ที่เกิดขึ้น มันสอนอะไรผมหลายอย่าง สิ่งที่เรามองเห็นบางครั้งอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ควรจะเป็น แล้วไอ้สิ่งที่เราควรจะเป็น บางที่มันอาจะไม่ใช่สิ่งที่เราคาดหวังเอาไว้ก็ได้ ผมค่อย ๆ เรียนรู้การใช้ชีวิต . . .

. . . บททดสอบแห่งชีวิต ได้มาจากการใช้ชีวิต

โลก . . . แห่งความเป็นจริง

ผมรู้นะสิ่งที่ผมทำ หลาย ๆ คนอาจจะมองว่า มันอาจเป็นความคิดที่เหมือนเด็ก ที่ต้องการอะไรแล้วจะต้องเอาให้ได้ แบบนั้นหรือ ผมไม่ใช่คนแบบนั้นแน่ . . .

ถึงผมจะรักโก . . . โกเมศวร์

. . . รักอย่างเต็มหัวใจ . . .

แต่ . . .

ภายในความรู้สึกส่วนลึกของผมแล้ว ผมอยากเห็นน้องมันมีอนาคตที่ดีมากกว่าที่เป็นอยู่ในตอนนี้มากกว่า หนทางข้างหน้าอีกไกล และไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง เราไม่รู้อะไรที่ยังมาไม่ถึง สิ่งที่ผมทำลงไป มันแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น

เพราะ . . .

. . . เมื่อเราเริ่มนับหนึ่ง . . .

เราควรเดินไปให้ถึงร้อย . . . มิใช่หรือ ?

“ไอ้อาร์ม งานนี้ไม่ฟรีอย่างที่มึงบอกใช่มั้ย” ที่บาร์เล็ก ๆ แห่งเดิมที่ หากแต่วันนี้อากาศไม่ได้หนาวแบบที่ผ่านมา

ผมมองหน้าไอ้เพื่อนรัก . . .

“ฟรี มึงก็เห็นว่ามึงไม่ต้องจ่ายสักบาท” ผมยืนยัน

“หมาเหอะมึง กูกินข้าวนะไอ้ห่าอาร์ม ไม่ได้แดกหญ้า แล้วกูก็เห็นว่ามึงทำอะไรเมื่อตอนเย็น” ไอ้โอ๋มองหน้าผม กระดกเบียร์เข้าปาก

มันจ้องมองผมราวกับจะเอาคำตอบให้ได้เดี๋ยวนั้น . .

ไอ้ผมหรือ ก็ไม่เคยที่จะโกหกมันได้อยู่แล้ว เลยได้แต่อมยิ้ม คล้าย ๆ จะยอมจำนนต่อมัน อย่างน้อยที่สุด สามปีในมหาวิทยาลัย มันคือเพื่อนสนิทคนเดียวที่เรียกว่า . . .

. . . อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่ . . .

“ก็เดินเล่นริมน้ำปายกับมึงไง เดินดูพระอาทิตย์ตกลับเหลี่ยมเขา มีสายลมเบา ๆ พัดผ่าน มึงยังให้กูถ่ายรูปให้เลย”

“อย่ามานอกเรื่อง”

มันลดละเสียที่ไหน มันอ่านหัวใจผมออก เหมือน ๆ ที่ผมเองก็อ่านหัวใจเพื่อนผมออก ผมน่าจะรู้ มันรู้จักผมดี

บางที . . .

ต่อจากวันนี้ ผมคงต้องปรับตัวเอง เล่นซ่อนหากับตัวเอง เพื่อว่ามันจะได้ไม่รู้จักผมทุกมุมแบบที่เป็นอยู่ในตอนนี้

ผมสัญญา . . .




กลับไปคราวนี้ . . .

. . . มันจะเข้าใกล้ผมแบบที่ผ่านมาไม่ได้อีกเด็ดขาด . . .

บางห้องผมจะปิดเอาไว้ ไม่ยอมให้มันเข้ามาหากผมไม่ให้มันเข้ามา ผมมองหน้ามัน เพราะรู้ดีว่าการหลบสายตา ยิ่งทำให้มันคิดว่ามันชนะผม

“อ้าว นอกเรื่องที่ไหน ก็มึงฟรี”

“แล้วหมื่นกว่าที่มึงจ่ายไปล่ะ”

“อะไร ไม่มี๊ หมื่นอะไรที่ไหน”

“กูเห็น หมื่นสี่ที่มึงให้ป้าภา”

“อ๋อ อากูเขาฝากมาให้ ทำไม มึงคิดว่าคนแบบกูจะทำอะไร จะเอาเงินมากขนาดนั้นมาจากที่ไหน”

“สัส มึงยังไม่ยอมรับอีกเหรอ มึงอย่ามาปากแข็ง อย่ามาทำเป็นเหมือนกูไม่รู้เท่าทันมึง มึงทำไปทำไม” มันจ้องหน้าผม

ผมมองหน้ามัน จนใจกับการที่จะโกหกมันอีกต่อไป ผมคงเป็นเพื่อนที่โกหกได้ไม่เนียนเท่าไหร่ มันถึงมองผมแบบมีชัยชนะเหลือกว่าผม

“มองแบบนี้กูก็ตายเด่ะ ท่านเอกรัฐ” ผมจนใจ ยกขวดเบียร์กระดกแก้เก้อไปหนึ่งรอบ

“เออ ! มึงมีอะไรที่มันเป็นความลับซับซ้อนซ่อนเงื่อนขนาดนั้นว่ะ ทีแรกกูแค่คิดว่ามึงเหงา อยากเจอพวกกู เลยลงทุนขับรถออกไปรับถึงเชียงใหม่ แต่กูแปลกใจ ทำไมไม่ค้างที่รีสอร์ทอามึง มาค้างที่รีสอร์ทป้าภาทำไม จนเมื่อตอนเย็น . . .” มันจ้องหน้าผม

“. . . มันยิ่งทำให้กูไม่เชื่ออย่างสนิทใจว่ามึงอยากให้พวกกูมาเที่ยวจริง”

“จ้ะพ่อ คอยจับผิดขนาดนี้มาเรียนศิลปะศาสตร์ทำเชี่ยไร ไม่ไปเรียนกฎหมายว่ะ”

“อย่ามาเบี่ยงประเด็น ตกลงที่ทำไปเพราะ . . .”

“เพราะอยากให้พวกมึงมาเที่ยว ไอ้เหี้ยนี่ กูอยากให้มึงมาจะตายไป” ผมรีบสอดไปในทันที เพราะไม่รู้เหมือนกันว่า สิ่งที่มันคิด จะเป็นอย่างที่ผมคิดหรือไม่

“มันต้องมากกว่านั้น . . .”

“อะไรของมึ๊งงงงงง”

“ไอ้อาร์ม มองหน้ากู มองตากู” มันจ้องหน้าผม เอามือจับคางผมเอาไว้ให้มองหน้ามัน เสมือนหนึ่งผมคือจำเลย ที่กำลังโดนสอบสวน

“มองแล้วไง” ผมยิ้มยั่วมัน




“ห่านี่ อย่ามาเล่นกูกำลังซีเรียส มึงมองกู แล้วถามตัวเอง ว่าคนที่มึงเห็นคือใคร ใช่เพื่อนมึงมั้ย ใช่คนที่อยู่กับมึงมาสามปีมั้ย หากมึงคิดว่าไอ้คนที่นั่งตรงหน้ามึงไม่ใช่เพื่อน มึงก็ไม่ต้องตอบอะไรกู แต่หากมึงคิดว่า นี่คือเพื่อนแท้ของมึง ก็บอกมา”

“เอ้า ไอ้นี่ เออ . . . เออ อยากรู้ไรถามมา” ผมเริ่มเป็นฝ่ายจนมุมในที่สุด

. . . ตายกับความจริงจัง จริงใจของมัน . . .

“กูแค่อยากรู้ งานนี้ไม่ฟรีใช่ไหม”

ผมพยักหน้าตอบมัน . . .

“ทำไมต้องทำขนาดนั้นว่ะ ไอ้อาร์ม มันมีอะไรที่มึงต้องทำถึงขนาดนี้ ไอ้ห่าอาร์ม เล่ามาดิ”

“เอาสั้น ๆ อยากช่วยคน แต่ไม่รู้จะช่วยยังไง เลยต้องใช้วิธีนี้วะ โทษทีที่ไม่บอกรายละเอียดก่อน ขืนกูบอกมรึงไม่มาเด่ะ อย่าซีเรียสเอ้าชนหน่อย” ผมยกขวดเบียร์ไปกระแซะมัน

“เออ แมร่งไม่เล่าก็ไม่เล่า แล้วน้องมึงไอ้โก มันจะไปเรียนได้เหรอ กูเห็นสองสามคืนมานี่ เมียมันติดมันแจเลย”

“ไม่รู้ เรื่องของมัน สมัครเรียนแล้ว จ่ายค่าเทอมไปครึ่งนึงแล้ว กูช่วยได้แค่นี้ ที่เหลืออยู่ที่การตัดสินใจของมัน”

ผมเห็นเหมือนที่ไอ้โอ๋เห็น . . .

. . . และเป็นความหวาดกลัวลึก ๆ ในหัวใจ

หาก . . . มันไม่สามารถตัดบ่วงของมันได้ สิ่งที่ผมทำมาทั้งหมดมันสูญเปล่า ทุกสิ่งทุกอย่างมีค่าเท่ากับศูนย์

. . . เพราะ . . .

ตั้งแต่กลับมาจากกรุงเทพฯ เมียมันประกบมันแจเลย อาจเพราะมันจะมาขลุกอยู่กับผมทั้งวัน ซึ่งเมียมันดูท่าจะไม่ค่อยพอใจผมสักเท่าไหร่

แต่ . . .

สำหรับผม ผมมีโลกส่วนตัวของผม โลกที่ใครก็เข้ามาไม่ได้ ถ้าผมไม่เปิดให้เข้ามา ความพอใจหรือไม่พอใจของคนที่อยู่นอกสายตา นอกความรู้สึกของผม ไม่มีผลต่อหัวใจของผมอย่างเด็ดขาด

“เฮ้ย พวกมันมากันโน่นแล้ว เลิกคุยเรื่องนี้เลยนะมึง เย็บปากมึงให้สนิทเลย กูไม่อยากให้ใครต้องมาลำบากใจ เข้าใจกูนะไอ้เพื่อนรัก”

“คิดดูก่อน”





ไอ้เพื่อนเชี่ย ทำแววตาเหมือนเป็นต่ออีก พวกมันยิ่งเดินเข้ามาใกล้ หัวใจผมวังเวง พยายามมองหน้าไอ้เพื่อนรัก วิงวอนด้วยแววตาที่น่าสงสารอย่างที่สุด

“กูขอร้อง ขอเรื่องเดียวเพื่อน” ผมบอกเมื่อเห็น โก แดน ชา กับ ก้องเดินมาทางที่ผมกำลังนั่งอยู่

“เออ ! ไม่บอกก็ได้”

“ขอบใจเพื่อน”

ผมแทบจะกระโดดไปกอดมัน ไอ้เพื่อนรัก มันเข้าใจผมกว่าใคร ๆ ทั้งหมด ผมยิ้มให้มัน เหมือนเคย มันยิ้มตอบผม ผมเห็นแววตามัน แววตาที่พร้อมจะอยู่ข้างผมตลอดเวลา

“มีอะไรให้กูช่วยมั้ยมึง”

“ไม่มีหรอก”

“แน่ใจ”

“ก็ไม่รูว่ะ กลัวอยู่เรื่องเดียว หากพรุ่งนี้มันไม่กลับไปพร้อมพวกเรา หมายความว่า สิ่งที่กูทำมาสูญเปล่า”

“อย่ากังวลไปเลย กูสัญญาสิ่งที่มึงทำไม่สูญเปล่าหรอก เดี๋ยวคืนนี้กูจะพูดกับน้องมันเอง ไหน ๆ ก็มาถึงขั้นนี้แล้ว กูรับรองพรุ่งนี้เรากลับเชียงใหม่เท่ากับตอนขามาไอ้อาร์ม”

ผมมองหน้ามัน . . .

. . . รอยยิ้มจากแววตามุ่งมั่นของมัน . . .

มันเข้าใจผมดีเสมอ เพื่อนคนเดียวที่ผมไว้ใจมากที่สุด และเป็นเพื่อนคนเดียวที่อยู่ข้างผมจนถึงที่สุดเหมือนกัน เพื่อนแท้คนเดียวและคนสุดท้ายที่ผมมี ผมยิ้มให้มัน หัวใจลิงโลด ลองมันสัญญา มันจะทำตามที่สัญญาเสมอ

สิ่งที่ดีที่สุดที่เพื่อนคนนึงพึงกระทำให้เพื่อนอีกคน

“มากันแล้วเหรอ มาเลย คืนนี้ขอเมา พรุ่งนี้กลับแร่ะ แดนมานั่งนี่มา” ผมเอามือตะบบที่เก้าอี้ใกล้ ๆ ตัว อย่างน้อยแดนมันจะเป็นไม้กันหมาสำหรับผม

ส่วนโกเมศวร์ เข้ากันได้ดีกับเพื่อน ๆ ของผม มันเข้ากับเพื่อนผมได้ดีกว่าที่ผมคิดเสียอีก

อาจเพราะ . . . โดยอาชีพที่คอยพาคนแปลกหน้าไปตามสถานที่ต่าง ๆ

มันเลยดูจะปรับตัวเข้ากับใคร ๆ ได้ง่าย โดยเฉพาะกับไอ้เพื่อนร๊ากกกก

คงเป็นเพราะว่า ตอนที่ลงไปสมัครเรียนที่กรุงเทพฯ มันเจอกับเพื่อนโอ๋หลายวันแล้ว ก็ไอ้เพื่อนรักมันเล่นมานอนขลุกอยู่กับผมทั้งอาทิตย์ และเป็นมันนี่แหละที่กุลีกุจอหาที่เรียนให้โกมันจนได้

“โก พี่อยากเดินดูปายยามค่ำว่ะ พาไปเดินหน่อยสิ”




ไอ้โอ๋ มันบอก เมื่อทุกคนนั่งลงพร้อมหน้า

“เอาเลยพี่ เดี๋ยวผมพาทัวร์ ใครจะไปมั่งครับ”

“ไปกันสองคนพอ พวกมึงอยู่นี่ กูมีความลับกันสองคน” ไอ้เพื่อนรักหันมาทำมือปางห้ามทั้งญาติ ทั้งเพื่อนไม่ให้ตามมันไป

“ไอ้ห่านี่” ผมมองหน้ามัน

มันยิ้ม ผมรู้ความหมายในรอยยิ้มของมัน

“ถ้าอีกสองชั่วโมงยังไม่กลับมา เจอกันที่ห้องนะโว้ย” มันหันมาสั่ง

“เอ้า กูนึกว่าเจอกันที่วัด” ผมมองตะโกนไล่หลังมัน

“ไอ้เหี้ยอาร์ม” มันชี้หน้าผมฝากเอาไว้ตามเคย

ผมยิ้ม มีความสุขนะ กับการได้กัดมัน เพราะมีแต่ผมนี่แหละที่ทันมันแทบทุกเรื่อง ส่วนคนอื่น ๆ ได้แต่มองแบบงง ๆ ว่าคนสองคนที่กัดกันได้ตลอดเวลา ทำไมอยู่กันได้มาตั้งสามปี

ผมไม่รู้หรอกว่าไอ้โอ๋มันไปคุยอะไรกันกับโกบ้าง . . .

เพราะมันได้เล่าให้ผมฟัง และในเมื่อมันไม่เล่า ผมเลยเลือกที่จะไม่ถาม เพราะไม่มีเหตุอันใดที่ผมต้องถาม ในเมื่อเช้าวันรุ่งขึ้น ไอ้โกมันไปขนของจากบ้านเช่าที่มันเช่าอยู่กับเมียมันกลับมาไว้ที่บ้าน ท่ามกลางความงุนงงของทุก ๆ คนรอบ ๆ ตัวมัน เพราะเรื่องที่มันจะไปเรียนต่อ มีแค่สามคนที่รู้

ผม . . .

. . . มัน . . .

ป้าภา . . .

เที่ยงวันนั้น . . . เราทั้งหมดนั่งรถปุเลง ๆ กลับเชียงใหม่ . . .

“มาลูกมา มากันเหนื่อย ๆ มากินน้ำกินท่ากันก่อน” แม่กุลีกุจอออกมต้อนรับ เมื่อผมกับเพื่อน ๆ โผล่หน้าไปในตอนเย็น

“โหยแม่ ลูกหิวข้าวไม่ได้หิวน้ำ” ผมเข้าไปกอดแม่เอาไว้หลวม ๆ

“เข้ามา ๆ ลูก ให้แหว๋วมันอุ่นน้ำเงี้ยว แม่ยะไว้ตั้งแต่บ่ายแล้ว เดี๋ยวกินข้าวกัน พ่อโทรมาจะอี้ ใกล้ถึงแล้ว โอ๋สบายดีมั้ยลูก ผอมไปมั้ย”

นี่ละครับแม่ผม . . .

ห่วงไอ้ลูกนอกไส้ออกนอกหน้าเชียวครับ มันได้ทีหันมายิ้มยั่วผม

“อาร์มแย่งกินหมดแม่”

“ลูกอาร์มนี่ เป็นจะได๋ไปแย่งเพื่อน”




“โอยแม่ เชื่อไอ้กะล่อนมัน แม่ถามแดนกับไอ้ก้องดู ใครแย่งใครกันแน่” ผมหันหาพวกเพื่อยืนยัน ไม่อย่างนั้นไอ้เพื่อนเลวทำแต้มนำอีก

“ลูกสองคนนี่ จะอี้เถียงกันตลอด ไป๊ ไป อาร์มพาเพื่อนไปหาไรกินกันก่อน”

“ครับ” ผมหอมที่แก้มแม่เบา ๆ

แม่ยิ้มแป้น . . .

แดน ชา ก้อง กลับเข้ากรุงเทพฯ ด้วยรถไปเที่ยวค่ำ ส่วนไอ้โอ๋ ไล่ยังไงมันก็ไม่กลับ มันดื้อด้านจะอยู่ต่อท่าเดียว มันบอกติดใจขนมจีนน้ำเงี้ยวฝีมือแม่ผม พอมันพูดแบบนี้คุณนายแม่ผมหน้าบานเท่ากระด้ง ชอบที่ใครบอกว่าแกทำอาหารอร่อย

ดูมันทำ . . . ตลกแดก

ก็มันนะลูกรักแม่ผมนี่ครับ มาทีไร ของกินเต็มโต๊ะทุกมื้อ แต่ผมชอบนะ อย่างน้อยไม่เหงา ผมอาจจะชินกับการโตมาคนเดียวในบ้าน ไม่มีพี่น้อง แต่เวลาที่มีเพื่อนอยู่ด้วยมันสบายใจดี มีความสุขไปตามเรื่องตามราว



ถนนเบื้องหน้าโล่ง อาคารขนาดใหญ่ใกล้เข้ามาเมื่อรถค่อย ๆ เคลื่อนไปด้านหน้า ส่วนที่เห็นไกล ๆ ลิบ ๆ คือทิวเขาที่สลับสล้าง ซ่อนเหลื่อมกันจนยาวสุดลูกหูลูกตา พ่อค่อย ๆ ชะลอรถเมื่อเลี้ยวเข้าไปทางลานจอดรถ ไอ้เพื่อนรักผมทำหน้าแปลก ๆ

“ไอ้อาร์ม . . . มาทำไมสนามบินว่ะ” ไอ้โอ๋กระซิบที่หูผมเบา ๆ

“อย่าเอ็ดไป เดี๋ยวพ่อด่ากรู”

ผมทำมือห้ามมัน เรื่องนี้ก็เหมือนกัน ต้องคุยกันสถานที่ปลอดภัยกว่านี้ คราวนี้พ่อกับแม่มาส่งกันพร้อมหน้า นัยว่าแม่หลงใหลได้ปลื้มที่ไอ้ลูกชายนอกมดลูกมาทำดีด้วยสองวัน ผมเลยต้องกระเด็นออกจากตำแหน่งลูกรัก

อย่าให้กรูไปบ้านมรึงมั่งเหอะ . . .

. . . ของแบบนี้ ทีใครทีมัน . . .

หลังจากร่ำราพ่อกับแม่แล้ว ผม ไอ้โอ๋ โก ก็เดินเข้าไปรอเครื่องที่ด้านใน แต่ครั้งนี้ ไม่ได้นั่งแบบครั้งก่อน แบบว่าอา บริจาคมาน้อย เลยนั่งได้แค่ชั้นประหยัด

“ทำหน้าเข้า ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้” ผมมองไหน้าไอ้โอ๋

“กูนึกไม่ถึง”

“เรื่อง”




“ชีวิตนี้จะได้นั่งเครื่อง” มันทำตาซึ้ง

“ถุย ทำอย่างกะมันยาก”

“มึงพูดได้ดิ มึงมีนี่หว่า ไอ้อาร์ม นี่น่ะครั้งแรกในชีวิตกูเลยนะโว้ยที่ได้นั่งเครื่องบิน” ท่าทางมันตื่นเต้นมากเหลือเกิน ผิดกับโก ที่นั่งนิ่ง ๆ คอยมองผมกับไอ้โอ๋

“กูรู้ . . . เลยอยากทำอะไรให้เพื่อนมั่ง”

“ที่ผ่านมามึงก็ช่วยกูหลายเรื่องแล้วนะโว้ย ไอ้เหี้ยเกรงใจว่ะ”

“อ้าว! ก็มึงเพื่อนกู อีกหน่อยมึงก็จะรู้เองแหละ ว่าทุกเรื่องที่กูทำไป กูมีเหตุผลเสมอ” ผมยิ้มให้มัน เพื่อนที่ดีที่สุดในชีวิตผม

“โกเคยนั่งเครื่องป่ะ”

“เคยดิพี่ คราวก่อนพี่อาร์มก็พานั่ง ครั้งแรกของผมเหมือนกัน อูยพี่ ไปห้องน้ำแปบนะปวดฉี่”

ผมมองมันเอามือกุมตรงนั้นเอาไว้แล้วอดยิ้มไม่ได้ มันเหมือนเด็กที่ยังไม่ประสีประสาเสียด้วยซ้ำ

กรุงเทพฯ . . . จะใช่ที่ของคนแบบมันหรือ ?

“มิน่า กูได้นั่งเพราะไอ้โก”

“อ้าว เหี้ยนี่เกี่ยวไรว่ะ” ผมมองหน้ามัน

“ไม่รู้”

“ไอ้ห่านี่ กูนั่งของกูเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว แล้วที่กูพามรึงนั่งเพราะมึงเพื่อนกู มึงไม่เคยนั่ง อยากนั่งกูก็อยากทำอะไรให้เพื่อนกู เพื่อนที่กูรักมันผิดเหรอ ถึงไม่มีไอ้โก กูก็ตั้งใจแล้ว กลับมาบ้านคราวหน้าเอามึงนั่งเครื่องมา”

“ขอบใจว่ะเพื่อนรัก รักกูให้นานนะมึง” มันทำสายตากวนตรีนนนนนนนนน . . .

“มาเป็นเมียกูมะ จะรักชั่วชีวิตเลย รักอย่างที่ไม่เคยรักใครมาก่อนเลยนะมึง” กูก็ทำได้สายตาแบบที่มึงทำ และน่าจะทำได้ดีเสียด้วย

“ห่านี่ มาทำตาหวาน”

“กูพูดจริง จะยอมเป็นเมียกูมั้ยล่ะ”

“นี่เหอะมึง” มันยกนิ้วกลางโชว์ผมซะงั้น

“มีแล้วว่ะ ไม่ต้องเอาของมึงหรอก”

“ถามจริงเหอะ จ่ายไปทริปนี้เท่าไหร่” มันจ้องหน้าผม

“อย่าคุยเรื่องนี้อีกได้ไหม อะไรก็ตามที่มันผ่านมาแล้ว ปล่อยให้มันผ่านไปได้ไหมเพื่อน เพราะว่าไปพูดหรือคิดถึงมัน ก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา”






“เออ ตามใจ”

“ดีมากเพื่อนร๊ากกกกกกกกก”

“แต่ไอ้อาร์ม ขอถามอีกข้อ” นั่นปะไร จบง่าย ๆ ก็ไม่ใช่ไอ้เพื่อนรักของผมนะสิ ผมมองหน้ามัน

ดูมันทำหน้าตาอยากรู้แล้วผมอดที่จะขำไม่ได้

“ข้อเดียว ได้”

“คือ . .”

“เดี๋ยว ๆ” ผมยกมือไปปิดปากมันก่อน

“กูยังพูดไม่จบ ข้อเดียวแปลว่าคำถามเดียว ไม่ใช่ข้อเดียวแต่ดันมีข้อย่อยยุบยั่บต้องตอบสิบคำถามในข้อเดียว” ผมยิ้มให้มัน

ของแบบนี้ต้องทันกัน

“เวรเลยกู เจอเบรคแบบนี้ลืมคำถามซะงั้น”

“ถามมาเหอะ”

“ค่าเครื่องเท่าไหร่”

“สองพันนิด ๆ ไม่ถึงสองห้าหรอก จบคำถามนะครับ ถามได้คำถามเดียว”

“ค่าที่ปายหมื่นสี่ สองพันห้าคูณสาม เจ็ดห้า ทริปนี้หมดไปสองหมื่นกว่า ไอ้เหี้ยอาร์ม ทำไปทำไมว่ะเพื่อน ไม่ต้องทำขนาดนี้หรอก” แววตาที่มันมองมา ผมรู้ มันห่วงผม

“เอาน่า เพื่อความสุขทางใจ อย่างน้อยกูก็ได้ช่วยคนให้ได้เริ่มเรียน ส่วนกับมึง แค่นี้น้อยไปเสียอีก ถ้ากูไม่มีเมียนะโว้ย กูจะยกมรดกให้ลูกมึง”

“สัส คิดไปไกล”

“อ้าว คิดดิ หรือจะให้คิดว่า เดี๋ยวพอเราขึ้นเครื่อง บินสักพักเครื่องตกตายยกลำ แม่มึง แม่กู คงนับเงินกันเพลิน เพราะทีจีเขาจ่ายสดห้าล้าน”

“ไอ้เหี้ย คุยห่าไร กูยังไม่อยากตาย”

“ว่าได้เหรอ เรื่องแบบนี้ เครื่องตกนี่โชคดีนะมึง ได้ลงบันทึกประวัติศาสตร์ ได้ประกันเต็ม ๆ ได้ไรอีกหว่า อ้อ ที่บ้านไม่ต้องเปลืองจัดงานศพ เพราะหาศพไม่เจอ” ผมยิ้ม

“ห่านี่ พูดสร้างสรรค์ดีแท้”

“เอาจริง ๆ นะเพื่อน สมมุตินะ สมมุติว่ากูไม่แต่งงาน ลูกคนแรกของมึงกูขอเป็นพ่อทูนหัวนะ กูเลี้ยงเอง”

มันมองหน้าผม ราวกับจะค้นไปให้ถึงความคิดส่วนลึกสุด

หาไม่เจอหรอก . . .





ผมบอกแล้ว ต่อจากนี้จะเล่นซ่อนหากับมันด้วย

“ทำไมว่ะ”

“เพราะเพื่อนที่ดีที่สุดในชีวิตที่กูเจอคือมึง แล้วมึงไม่ต้องคิดมากหรอก เงินที่จ่ายไป กูไม่ได้เอาของพ่อกับแม่ แต่มันเป็นเงินที่กูช่วยงานอา แล้วอาเขาจ่ายกู กูแค่อยากมีช่วงเวลาดี ๆ กับเพื่อนที่กูรัก สิ่งไหนที่เพื่อนไม่เคยมี ไม่เคยเจอ กูก็อยากให้เพื่อนได้เจอ โอเคนะ เรื่องนี้ไม่ต้องคุยอีก” ผมตบบ่ามัน

แปลว่า . . .จบการคุยเรื่องนี้แล้ว

นิสัยของผมมังครับ หรือจะเรียกว่าสันดาน

ส่วนที่ดีที่สุด . . . ที่ผมพอจะมีอยู่บ้าง คือผมจะเอาใจใส่คนที่ผมรักเสมอ แม้เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ หากเป็นอะไรที่คนที่ผมรักไม่เคยหรืออยากได้ ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรง ผมทำให้ได้เสมอ

เพราะพ่อบอกผมเสมอ . . .

โอกาสของคนเรา . . . มีไม่เท่ากัน





Create Date : 19 ธันวาคม 2552
Last Update : 19 ธันวาคม 2552 12:05:28 น. 12 comments
Counter : 1111 Pageviews.

 
ขออนุญาตแนะนำสวนผลไม้ในระยองคือสวนคุณไพบูลย์เปิดเป็นท่อง เที่ยว เชิงเกษตรครับ สินค้าเด่นๆของเราก็คือ ทุเรียนนกกระจิบเป็นทุเรียนพันธุ์โบราณหาทานได้ยาก ที่สวนมีเยอะครับ จะได้รับประทานกันช่วงเดือน มีนาคมของทุกปี แวะเข้ามาชมกันได้ครับที่ www.paiboonrayong.com บุฟเฟ่ต์ผลไม้ก็มีครับ ยังไงแวะไปดูที่เว็บเราก็ได้ครับ ช่วงเดือน มีนาคม-มิถุนายน หากมาระยองอย่าลืมแวะซื้อของฝากที่สวนเรานะครับ เที่ยวระยอง สนุก ปลอดภัย ได้ของดีกลับบ้าน (ตอนนี้เว็บสวนคุณไพบูลย์มีประกวดภาพถ่ายด้วยครับรางวัลเป็นต้นทุเรียนนก กระจิบ)

ปล. ถึงแม้โอกาศของคนเรามีไม่เท่ากัน แต่ว่าเราแสวงหาให้มีเท่ากับคนอื่นได้นะครับ แหะๆ



โดย: สวนคุณไพบูลย์ (paiboonrayong ) วันที่: 20 ธันวาคม 2552 เวลา:10:16:13 น.  

 
โปรดติดตามตอนต่อไป


โดย: ผักกาด (คังฮุนแจ ) วันที่: 21 ธันวาคม 2552 เวลา:13:36:43 น.  

 
Merry Christmas Khap

Glitter Graphics






โดย: puppy_art วันที่: 25 ธันวาคม 2552 เวลา:12:35:15 น.  

 
สุขสันต์วันเกิดครับ ขอให้ได้รับสิ่งดีๆในปีใหม่นี้ มีสุขภาพร่างกายที่เเข็งเเรง ร่ำรวยเงินทอง คิดสิ่งใดก็ขอให้สมปรารถนาเเละมีความสุขยิ่งๆขึ้นไปครับ


โดย: Don't try this at home. วันที่: 4 มกราคม 2553 เวลา:1:28:36 น.  

 

สุขสันต์วันเกิด ขอให้พบกับสิ่งดีๆ ในชีวิตนะค่ะ





โดย: brackleyvee วันที่: 4 มกราคม 2553 เวลา:2:43:52 น.  

 
คลิกที่รูป เพื่อเอาโค้ดรูปนี้ไปแปะ


สุขสันต์วันเกิดค่ะ


โดย: หนูดำจำมัย วันที่: 4 มกราคม 2553 เวลา:3:37:21 น.  

 


สวัสดีปีใหม่ 2553..และสุขสันต์วันเกิด

มีความสุขมากๆ จ้า


โดย: I_sabai วันที่: 4 มกราคม 2553 เวลา:10:36:12 น.  

 
สุขสันต์วันเกิด คะ

พรใดที่เป็นของชาวโลก

สุขใดที่ช่วงโชติของชาวสวรรค์

รักใดที่อมตะและนิรันดร์

ขอรักนั้นและพรนั้น จงเป็นของ..จขบ..จ้า


โดย: หน่อยอิง วันที่: 4 มกราคม 2553 เวลา:13:07:55 น.  

 
แวะมา Happy Birthday คะ


โดย: แม่อ้วนใจดีที่สุด วันที่: 4 มกราคม 2553 เวลา:14:46:57 น.  

 


โดย: Princess Lily วันที่: 4 มกราคม 2553 เวลา:15:10:38 น.  

 


โดย: joblovenuk วันที่: 4 มกราคม 2553 เวลา:20:23:13 น.  

 


โดย: no filling วันที่: 4 มกราคม 2553 เวลา:22:18:52 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

นนท์ปวิชญ์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add นนท์ปวิชญ์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.