ตอนนั้น ผมยังกลัวว่า มันจะพังยุบลงมาเวลาที่พวกที่ติดตามมาด้วย พากันขนของขึ้นบ้าน แต่มันก็ไม่พัง เป็นแต่ยวบยาบตามอายุของมัน เสาเรือนต้นหนึ่งที่ใต้ถุน ไอ้เด็กกระเป๋าคนหนึ่งไปยืนพิงเข้า มันแกว่งได้ ปลายเสาที่ควรอยู่ติดดิน มันไม่ติดดิน มันแกว่งได้ ไอ้เสือนั่นเกือบลงไปนอนคลุกฝุ่น
ผมมีเด็กคนใช้ประจำตัวผมไปด้วยคนหนึ่ง เป็นเด็กที่เลี้ยงไว้ตั้งแต่เล็กๆเหมือนเพื่อนของผม อายุมันอ่อนกว่าผมเพียง สี่-ห้าปี ชื่อ ไอ้น้อย ผมกับมัน ไปไหนมาไหนด้วยกัน ตอนที่อยู่ปทุมวันมันก็อยู่ด้วย มันทำทุกอย่างนอกจากกับข้าว
ไอ้เสือนี่ไปอยู่ที่ไหน มันเจอผีที่นั่น
ห้องพักที่ปทุมวัน มันก็เจอผี ทั้งๆ ที่ผมไม่เคยได้มีวี่แววอะไร แต่มันว่า มันเจอผีในห้องนอนของผม มันไม่กล้าอยู่คนเดียว เวลาผมไม่อยู่
มาที่เมืองชลฯ มันก็เป็นคนเดียวที่เห็นผีที่หน้าห้องน้ำบนบ้าน
ในวันแรกที่มาถึง ไอ้น้อยหาบน้ำเข้าห้องน้ำ เพื่อจะให้ผมอาบ
ผมกำลังไปคุยกับเพื่อนๆนายตำรวจบนโรงพัก กลับมา เห็นมันนั่งอยู่ที่บันไดหน้าบ้าน ถามว่ามันมานั่งอยู่ทำไม มันบอกว่า มันหาบน้ำจะเอาไปเทในตุ่มห้องน้ำ เข้าไปไม่ได้ มันเห็นใครก็ไม่รู้ มายืนจังก้าอยู่หน้าห้องน้ำ มันก็เลยวางหาบมานั่งคอยผมอยู่ที่บันไดหน้าบ้าน
คนที่อยู่กับมันถ้าเป็นคนกลัวผี ก็คงจะไปกันใหญ่
ผมต้องยืนเป็นเพื่อน กำกับให้มันหาบน้ำเข้าห้องน้ำจนเต็มตุ่ม
เวลานอนมันก็ไม่ยอมไปนอนห้องอื่น มันต้องนอนอยู่หน้าเตียงผม
แต่ความจริง บ้านหลังนั้นมันก็น่ากลัว ยิ่งมันเข้าไปสืบสาวราวเรื่องมาได้ว่าสร้างมาตั้งสามสิบปีแล้ว ไอ้น้อยยิ่งปักใจว่า ต้องมีผี