ระหว่างนั่งมาในรถ ผมมีกระเป๋าปืนติดตัวไปด้วย เป็นกระเป๋าใส่เอกสารด้วยจึงค่อนข้างจะใหญ่ และผมสอดปืนพกประจำตัวไว้ในกระเป๋าใบนั้น เวลาถือไปไหนมาไหน คนเห็นก็คิดว่า เป็นกระเป๋าใส่เอกสาร ไม่คิดว่าจะมีปืนอยู่ในนั้น มันมิดชิดดี
ผมนั่งหนีบกระเป๋าปืนไว้ที่หน้าขา โดยใช้เข่าทั้งสองข้างหนีบกระเป๋าไว้
นักบินมาขับรถยนต์มันก็ขับเหมือนขับเครื่องบิน ไอ้จี๊ปคันนั้นจึงเหมือนกับจะเหาะได้
สมัยนั้นถนนหนทางยังไม่มีรถวิ่งสับสนอย่างเดี๋ยวนี้ มันเลี้ยวยกล้อมาหลายเลี้ยวแล้ว ตั้งแต่ออกจาก เก้าชั้น กำลังคะนองไม่มีใครกลัวว่า มันจะคว่ำ เชื่อมือนักบิน ยิ่งกว่านั้น ยังร้องเชียร์มันเสียอีกให้เร็วกว่านิ้ เหาะได้ยิ่งดี ไอ้คนขับมันว่า มันเหยียบคันเร่งติดผนังแล้ว ไม่มีที่จะเหยียบอีกแล้ว
รถคันนั้นเหาะมาตามถนน ผ่านบ้านบาตรมาออกสะพานผ่านฟ้า ยกล้อข้ามสะพานผ่านฟ้า เข้าถนนราชดำเนิน ถนนกว้างๆ อย่างนั้น รถก็เหาะมาสบาย ล้อแทบไม่กระทบพื้นถนน
เสียงคนนั่งเชียร์คนขับลั่นถนน สนุกกันทุกคน มาถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ก็ยกล้อไปตามโค้งรอบอนุสาวรีย์
รถบรรทุกขนาดกลางของทหารแขกคันหนึ่ง มันพุ่งออกมาจากถนนด้านตึกดินด้วยความเร็วเหมือนกัน มันมาถึงกลางถนนก่อน จี๊ปของเราก็พุ่งเข้ามามัน นักบินหักพวงมาลัยหลบรถบรรทุกอย่างแรง
ทางด้านที่ผมนั่งอยู่นั่น เห็นท้ายรถบรรทุกมันผ่านไปแค่คืบ ขณะที่จี๊ปที่นั่งมา เอียงกระเท่เร่ ยกล้อหลบท้ายมันไปได้ ทีนี้รถก็เอียงวูบวาบ อีกสอง-สามตลบ มันก็พลิกคว่ำกับพื้นถนน ไม่รู้กี่ตลบ
ผมเห็นแต่ร่างของไอ้หนู พานทอง ลอยข้ามหัวผมไป ก่อนที่รถจะคว่ำพลิกตัวผมและอีกสองคนติดกับรถ แต่ผมโดดลงเสียก่อนที่มันจะพลิกคว่ำ กระเป๋าปืนยังหนีบอยู่หว่างขา
ผมลงไปคลุกฝุ่นอยู่บนพื้นถนนกับน้องชายที่นั่งคู่อยู่กับคนขับข้างหน้า ส่วนไอ้แคช คนขับนั้น มันติดไปกับรถ ไม่ยอมทิ้งพวงมาลัย
ไอ้หนู พานทองลุกขึ้นมาได้ก่อน ชาวบ้านแถวนั้นออกมาดูกันแล้ว บางคนกำลังปลดนาฬิกาข้อมือไอ้หนู พานทอง มันจึงรีบลุกขึ้น จะพราะหวงนาฬิกา หรือยังไงก็ไม่รู้ ไอ้เดนคนที่กำลังปลดนาฬิกาของมันก็แตกกระเจิง
ผมกับน้องชายลุกขึ้นพร้อมๆกัน ยังไม่รู้สึกว่า เราเจ็บอะไร
หันไปมองหารถ ก็พบจอดสงบนิ่งอยู่ไม่ห่างนอนกลิ้ง แต่มันไม่ได้จอดอย่างธรรมดา มันเอาล้อชึ้ฟ้า ล้อยังหมุนติ้วอยู่ เครื่องยังไม่ดับ
ผมสามคนก็เข้าไปที่รถ พบไอ้แคช นักบิน ถูกรถคว่ำทับร่างมันอยู่ หัวโผล่ทางหนึ่ง ตีนโผล่อีกทางหนึ่ง อยู่ตรงที่มันนั่งขับ ไอ้นี่ดี ไม่ยอมทิ้งรถ มันคงนึกว่า เป็นเครื่องบิน
เราก็ขอให้ชาวบ้านที่ออกมาดูนั้น ช่วยกันพลิกรถขึ้น พอยกเขยื้อนก็เอื้อมมือไปปิดสวิทช์ให้เครื่องดับเสีย ก่อนที่จะยกให้พลิกกลับอย่างเดิม เอาล้อลงดิน
ในใจนั้นคิดว่าไอ้แคช ไปเสียแล้ว มันนอนนิ่งใต้รถอย่างนั้น
พอรถพลิกกลับล้อถึงดิน ไอ้แคช โดดลุกขึ้นยืนทันที ไม่ยักตาย มันครวญครางเสียใจขอโทษขอโพยยกใหญ่ ไอ้ นี่ผู้ดีอังกฤษ
ผมดูทั่วตัวมัน ไม่เห็นมันเจ็บ แต่ที่ใบหูของมัน ขาดวิ่นเป็นผ้าขี้ริ้ว เลือดแดงฉานที่ตรงนั้น
ตรงหัวมุมอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ที่เป็นที่ตั้งร้านศรแดงนั้น แต่ก่อนเป็นที่ว่าง มีแต่โค้งคอนกรีต มีหลังคาเป็นวงโค้งไปตามขอบถนน หน่วยทหารพยาบาลของทหารแขก ตั้งเป็นหน่วยปฐมพยาบาลอยู่ที่นั่นมันช่างตั้งเหมาะดีจริงๆ