สถานที่ท่องเที่ยว : วัดใหญ่สุวรรณาราม จังหวัดเพชรบุรี, เพชรบุรี Thailand
พิกัด GPS : 13° 6' 31.38" N 99° 57' 11.62" E

วันนี้เรามาเที่ยวกันต่อที่วัดใหญ่สุวรรณาราม จ.เพชรบุรี กันครับ


เมื่อวานนี้เราพาไปชมศาลาการเปรียญสมัยอยุธยาแล้วนะครับ วันนี้เราจะไปชมพระอุโบสถกับโบราณสถานอื่นๆภายในวัดกันครับ





พระอุโบสถวัดใหญ่สุวรรณาราม เป็นอาคารทรงไทย ก่ออิฐถือปูนไม่มีช่องหน้าต่างตามความนิยมของสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้นและตอนกลาง ผนังด้านหน้า (ทิศตะวันออก) เจาะเป็นประตูสามช่อง ประตูช่องกลางมีขนาดใหญ่ ตั้งอยู่สูงกว่าประตูทั้งสองข้าง ผนังด้านหลังเจาะเป็นประตูสองช่อง ช่องประตูเป็นแบบเรียบไม่มีการตกแต่ง บานประตูเป็นแผ่นไม้สักหนา ด้านนอกทาสีแดง ด้านในมีภาพเขียนรูปทวารบาล เสาอิงที่ผนังด้านหน้ามีบัวหัวเสาและลายลัดเกล้า ยกเว้นเสาอิงด้านหลังที่ไม่มีลายรัดเกล้า








เชื่อกันว่า การที่ประตูช่องกลางอยู่สูงกว่า และไม่มีบันไดสำหรับขึ้น เป็นเพราะว่าประตูช่องนั้นสร้างสำหรับเทวดาใช้เหาะเข้ามาเพื่อถวายมนัสการพระประธานที่อยู่ภายใน





เครื่องบนหลังคาเป็นหลังคาทรงจั่วสองชั้น ไม่มีมุข มุงด้วยกระเบื้องกาบ ผืนหลังคามีด้านละสามตับ ประดับด้วยกระเบื้องเชิงชายทุกชั้น จั่วด้านหน้าประดับด้วยช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ ประดับกระจกสี หน้าบันด้านตะวันออก ประดับลวดลายปูนปั้น มีรูปครุฑอยู่ตรงกลางล้อมด้วยลายกนกก้านขด หน้าบันด้านตะวันตกปั้นเป็นรูปเทพขี่อสูร ล้อมรอบด้วยกนกเปลว

หน้าบันพระอุโบสถ ด้านหน้าพระอุโบสถเป็นลายก้านขดคล้ายกับหน้าบันศาลาการเปรียญซึ่งเป็นลายแกะสลักไม้ ส่วนด้านหลังพระอุโบสถเป็นลายกนกเปลว ตรงกลางมีเทพขี่อสูรสวยงามมาก มีลักษณะคล้ายกับหน้าบันอุโบสถวัดไผ่ล้อม (ร้าง) และวัดสระบัว






จิตรกรรมในพระอุโบสถ เป็นจิตรกรรมสีฝุ่น ฝีมือสกุลช่างเพชรบุรี เขียนขึ้นในสมัยอยุธยาประมาณสมัยพระเจ้าปราสาททอง และจนถึงปัจจุบันนี้ถือว่าเป็นจิตรกรรมฝาผนังที่เก่าแก่ที่สุดในจังหวัดเพชรบุรี เนื้อหาจิตรกรรมเป็นภาพพุทธประวัติ เทพชุมนุม ภาพลวดลายต่าง ๆ และภาพทวารบาล โครงสร้างสีส่วนใหญ่เป็นสีแดง ส่วนภาพจิตรกรรมที่ศาลาการเปรียญเป็นภาพซุ้มเรือนแก้ว ลายลงรักปิดทอง ลายเฟื่อง และลายที่เสาเป็นแบบแผนศิลปะการผูกลายสมัยอยุธยา


ผนังด้านหน้าของพระประธาน พื้นที่ระหว่างเสาในประธาน ซึ่งเป็นเสานางแนบ เขียนเป็นภาพพุทธประวัติตอนผจญมาร พื้นที่นอกเสาประธาน เหนือช่วงประตู ด้านซ้ายและขวาเขียนเป็นลายพรรณพฤกษาจนถึงฝ้าเพดาน หลังบานประตูเขียนเป็นรูปภาพทวารบาล







ภาพเขียนในพระอุโบสถ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชวิจารณ์ไว้ในพระราชหัตถเลขา เมื่อครั้งเสด็จประพาสเมืองราชบุรี เมื่อปี พ.ศ.๒๔๕๒ มีความตอนหนึ่งว่า "รูปเทพชุมนุม ที่นั่งเป็นชั้น ๆ ในผนังพระอุโบสถดูได้ทุกตัว แลเห็นได้ว่าไม่มีฝีมือแห่งใดในกรุงเทพ ฯ เหมือนเลย เช่น หน้ายักษ์ไม่ได้เขียนเป็นหัวโขน เขียนเป็นหน้าคนที่อ้วน ๆ ยุ่น ๆ ที่ซึ่งเป็นกนกก็เขียนเป็นหนวดเครา แต่อย่าเข้าใจว่าเป็นภาพกาก เขียนแบบแสดงให้เห็นว่าผู้เขียนนั้นรู้ความคิดเดิมว่ายักษ์ หมายความว่าเป็นคนชนิดใด เทวดาเป็นคนชนิดใด การนุ่งห่มเครื่องแต่งตัวรู้ว่าจะสอดสวมอย่างไร ไม่ได้เขียนพุ่ง ๆ อย่างเช่นทุกวันนี้ รูปนั้นจะอยู่ข้างจะลบเลือนมาก เพราะเหตุว่าคงจะได้เขียนก่อน ๓๐๐ ปีขึ้นไป เว้นแต่ด้านหน้ามารผจญที่จะชำรุดมากจึงได้เขียนเพิ่มขึ้นใหม่ ก็แลเห็นได้ถนัดว่าความคิดไม่ตลอด ละร่องรอยเสาปูน แต่ทาสีน้ำมันเขียนลายลดน้ำเปลี่ยนแม่ลายต่างกันทุก ๆ คู่ แต่กรอบเชิงอย่างเดียวกันกรอบเชิงงามนัก "

สมเด็จ ฯ กรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ทรงพระนิพนธ์ถึงจิตรกรรมที่วัดใหญ่สุวรรณาราม ในจดหมายเหตุระยะทางไปมณฑลราชบุรี ร.ศ.๑๒๑ มีความตอนหนึ่งว่า"วัดนี้เป็นวัดเก่าที่สุดที่ได้เห็นมา แต่ยังดีมาก มีเขียนเหลือเห็นมาก แต่ของเก่าก็มีแต่โบสถ์ก่อหลังหนึ่ง เครื่องประตูกับการเปรียญไม้เครื่องประดุหลังหนึ่ง อายุ ๓๐๐ ฤา ๔๐๐ ปี .....โบสถ์นั้นมีเสาลายปิดแบบลายต่างกัน พื้นเขียนเบญจรงค์ ด้านหน้ามารผจญ แต่ลบเสียมาก เห็นไม่ใคร่ได้ ด้านข้างเป็นรูปภาพชุมนุมมีรูปอินทร พรหม เทวดา ยักษ์ นาค ครุฑ วิชาธร บานประตูกลางหน้าเทวดายืน ดีเต็มทีได้เครื่องเก่าชัดเจน ประตูข้างหน้ารูปเสี้ยวกางไม่สู้ดี ประตูหลังข้าวรูปกินนร...."







ภายในพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูป ซึ่งเป็นพระประธานปูนปั้นลงรักปิดทอง ที่มีความงดงามตามลักษณะของการสร้างพระพุทธรูป ในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนกลางและยังมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ อีกเป็นจำนวนมาก รวมถึงรูปหล่อสมเด็จเจ้าแตงโมนั่งพับเพียบพนมมือถือ ดอกบัว ไว้ด้านหน้าของพระประธาน












วิหารคต สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2450 ในสมัยที่พระครูมหาวิหารภิรักษ์ (พุก) ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาส พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงบริจาคพระราชทรัพย์เพื่อการก่อ สร้าง ที่หน้าบันทุกๆ ด้านของวิหารคตจะมีลวดลายพานและพระขันธ์เลข 5 ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจำรัชกาลที่ 5 สร้างด้วยอิฐถือปูน มีพระพุทธรูปหล่อด้วยโลหะรายรอบ ได้เรียกพระวิหารนี้ว่า วิหารคต หรือศาลาราย









เราเดินชมรอบๆ พระอุโบสถและพระวิหารแล้วก็รู้สึกว่าคุ้นๆตามากๆ ยังพูดกันอยู้ว่าสงสัยจะเคยเป็น location หนังเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่เราเคยดูแน่ๆ พอดีมีพระรูปนึงเดินผ่านมา พระท่านบอกว่า ที่หน้า และภายในพระอุโบสถใช้เป็นสถานที่ในการถ่ายทำภาพยนต์เรื่อง “สุริโยทัย” ฉากที่พระเฑียรราชารทรงผนวช มิน่าล่ะ ถึงได้คุ้นตามากๆ เพราะว่าดู “สุริโยทัย” ไปร้อยกว่ารอบ จนถึงทุกวันนี้ก็ยังดูในยูทู้ปอยู่เรย อิอิอิ






หอไตร เป็นหอไตรที่ตั้งอยู่กลางสระน้ำข้างพระอุโบสถ เป็นอาคารทรงไทยชั้นเดียวฝาปะกนขนาด 2 ห้อง มีสามเสาซึ่งเป็นลักษณะพิเศษ หลังคาทรงจั่วยอดแหลม ปัจจุบันมุงกระเบื้องเกล็ดเต่า ไม่มีกันสาด มีสะพานทอดจากริมสระไปยังหอไตร มีเสา 3 ต้น ซึ่งมีความหมายว่า พระพุทธศาสนาจะดำรงอยู่ได้ก็ด้วยพระไตรปิฎก 3 หลักเชิดชูไว้ ในปี พ.ศ. 2518 สยามสมาคมได้ทำการบูรณะ และปัจจุบันเป็นที่เก็บคัมภีร์ใบลานและตำราสมุดข่อย และการที่สร้างไว้กลางน้ำก็เพื่อให้พ้นจากมดปลวกที่จะมากัดกินพระไตรปิฏกใบลาน ที่เก็บไว้ในหอ









หมู่กุฏิสงฆ์ ตั้งอยู่ทางด้านหลังของศาลาการเปรียญ ฝากุฏิเป็นฝาเรือนไทยสมัยโบราณ หกแบบ ได้แก่ แบบฝาปะกน ฝาสำหรวจ (กรุด้วยแผ่นไม้) ฝาสายบัว ฝาลูกฟัก ฝาเพี้ยมและฝาถัง ด้านนอกเป็นฝาปะกน แต่ด้านในเรียบเหมือนไม้แผ่นเดียว เพราะทำลิ้นสอดไว้ประณีตงดงามมาก











เป็นอย่างไรบ้างครับ เที่ยวชมความสวยงามของวัดใหญ่สุวรรณาราม จ.เพชรบุรีกันอย่างจุใจกันเลยนะครับ entry ต่อไปจะพาไปชมความสวยงามของวัดไหนต้องมาติดตามกันครับ



ทนายอ้วนทัวร์ ...................... เที่ยวไป .... ตามใจฉัน







ขอขอบคุณท่านเหล่านี้ที่กรุณาเอื้อเฟื้อข้อมูลนะครับ


วัดใหญ่สุวรรณาราม - mit.pbru.ac.th


เว็บไซต์วัดใหญ่สุวรรณารามวรวิหาร


วัดใหญ่สุวรรณาราม จังหวัดเพชรบุรี.....หลวงพ่อหกนิ้ว


วัดใหญ่สุวรรณาราม - touronthai.com


สมเด็จเจ้าแตงโม วัดใหญ่สุวรรณาราม จังหวัดเพชรบุรี - dharma-gateway


วัดใหญ่สุวรรณาราม วัดใหญ่ - travel.maximuz.net


วัดใหญ่สุวรรณาราม - วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี