สักการะ หลวงปู่ดู่ พฺรหฺมปญฺโญ ณ วัดสะแก จังหวัดพระนครศรีอยุธยาวัดสะแก ตั้งอยู่ ตำบลธนู อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
พิกัด :
https://goo.gl/maps/GDXMFLykYKPJsCra9 ก่อนอื่นเรามารู้ประวัติ
"หลวงปู่ดู่ พฺรหฺมปญฺโญ" กนก่อนครับ
หลวงปู่ดู่ พฺรหฺมปญฺโญ มีชาติกำเนิดในสกุล “หนูศรี” เดิม ชื่อ ดู่
เกิดเมื่อวันที่ 29 เมษายน พ.ศ.2447 ตรงกับวันศุกร์ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ปีมะโรง
ซึ่งตรงกับวันวิสาขบูชา ณ บ้านข้าวเม่า ตำบลข้าวเม่า อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
โยมบิดาชื่อ พุด โยมมารดาชื่อ พุ่ม ท่านมีพี่น้องร่วมมารดาเดียวกัน 3 คน
ท่านเป็นบุตรคนสุดท้าย มีโยมพี่สาว 2 คน
ปฐมวัยและการศึกษาเบื้องต้น ชีวิตในวัยเด็กของท่านดูจะขาด ความอบอุ่นอยู่มาก
ด้วยกำพร้าบิดา มารดาตั้งแต่เยาว์วัย นายยวง พึ่งกุศล ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานของท่าน
ได้เล่าให้ฟังว่า บิดามารดา ของท่านมีอาชีพทำนา โดยนอกฤดูทำนาจะมีอาชีพทำขนม
ไข่มงคลขาย เมื่อตอนที่ท่านยังเป็นเด็กทารก มีเหตุการณ์สำคัญที่ควรบันทึกไว้
คือในคืนวันหนึ่งซึ่งเป็นหน้าน้ำ ขณะที่บิดามารดาของท่านกำลังทอด“ขนมมงคล”อยู่นั้น
ท่านซึ่งถูก วางอยู่บนเบาะนอกชานคนเดียว
มารดาของท่านได้ถึงแก่กรรมตั้งแต่ท่านยังเป็นทารกอยู่ ต่อมาบิดาของท่านก็จากไปอีก
ขณะท่านมีอายุได้เพียง 4 ขวบเท่านั้น ท่านจึงต้องกำพร้าบิดามารดาตั้งแต่ยังเป็นเด็กเล็ก
จำความไม่ได้ ท่านได้อาศัยอยู่กับยายโดยมีโยมพี่สาวที่ชื่อ สุ่ม เป็นผู้ดูแลเอาใจใส่
และท่านก็ได้มีโอกาสศึกษาเล่าเรียนที่วัดกลางคลองสระบัว วัดประดู่ทรงธรรม
และวัดนิเวศน์ธรรมประวัติ
สู่เพศพรหมจรรย์ เมื่อท่านอายุได้ 21 ปี ก็ได้เข้าพิธีบรรพชาอุปสมบทเมื่อ
วันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2468 ตรงกับวันอาทิตย์แรม 4 ค่ำ เดือน 6
ณ วัดสะแก ตำบลธนู อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีหลวงพ่อกลั่น
เจ้าอาวาสวัดพระญาติการาม เป็นพระอุปัชฌาย์ มีหลวงพ่อ แด่ เจ้าอาวาสวัดสะแก
ขณะนั้นเป็นพระกรรมวาจาจารย์ และมีหลวงพ่อ ฉาย วัดกลางคลองสระบัว
เป็นพระอนุสาวนาจารย์ได้รับฉายาว่า
"พฺรหฺมปญฺโญ" ในพรรษาแรกๆ นั้น ท่านได้ศึกษาพระปริยัติธรรมที่วัดประดู่ทรงธรรมซึ่งในสมัยนั้น
เรียกว่าวัดประดู่โรงธรรมโดยมีพระอาจารย์ผู้สอนคือท่านเจ้าคุณเนื่อง
พระครูชม และ หลวงพ่อรอด (เสือ) เป็นต้น
ในด้านการปฏิบัติพระกรรมฐานนั้น ท่านได้ศึกษากับหลวงพ่อกลั่น ผู้เป็นอุปัชฌาย์
และหลวงพ่อเภา ศิษย์องค์สำคัญของหลวงพ่อกลั่น ซึ่งมีศักดิ์เป็นอาของท่าน
เมื่อท่านบวชได้พรรษาที่สองประมาณปลายปี พ.ศ. 2469 หลวงพ่อกลั่นมรณภาพ
ท่านจึงได้ศึกษาหาความรู้จากหลวงพ่อเภา เป็นสำคัญ
นอกจากนี้ท่านยัง ได้ศึกษาจากตำรับตำราที่มีอยู่จากชาดกบ้าง จากธรรมบทบ้าง
และด้วยความที่ท่านเป็นผู้ใฝ่รู้รักการศึกษา ท่านจึงได้เดินทางไปศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม
จากพระอาจารย์อีกหลายท่านที่จังหวัดสุพรรณบุรี และสระบุรี
นิมิตธรรม อยู่มาวันหนึ่ง ประมาณก่อนปี พ.ศ. 2500 เล็กน้อย หลังจาก
หลวงปู่ดู่สวดมนต์ทำวัตรเย็น และปฏิบัติกิจส่วนตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วท่านก็จำวัด
เกิดนิมิตไปว่า ได้ฉันดาวที่มีแสงสว่างมาก 3 ดวง ในขณะที่กำลังฉันอยู่นั้นก็รู้สึกว่า
กรอบๆ ดี ก็เลยฉันเข้าไปทั้งหมด แล้วจึงตกใจตื่น
เมื่อท่านพิจารณาใคร่ครวญถึงนิมิตธรรมที่เกิดขึ้น ก็เกิดความเข้าใจขึ้น ว่าแก้ว 3 ดวงนั้น
ก็คือพระไตรสรณาคมน์นั่นเอง พอท่านว่า
“พุทธัง สรณัง คัจฉามิ, ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ,
สังฆัง สรณัง คัจฉามิ” ก็เกิดอัศจรรย์ขึ้นในจิตท่าน พร้อมกับอาการปีติอย่างท่วมท้น
ทั้งเกิดความรู้สึกลึก ซึ้งและมั่นใจว่า พระไตรสรณาคมน์นี้แหละเป็นรากแก้วของ พระพุทธศาสนา
ท่านจึงกำหนดเอามาเป็นคำบริกรรมภาวนาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเน้นหนักที่การปฏิบัติ
หลวงปู่ดู่ท่านให้ความสำคัญอย่างมากในเรื่องของการปฏิบัติสมาธิภาวนา
ท่านว่า
"ถ้าไม่เอา(ปฏิบัติ)เป็นเถ้าเสียดีกว่า" ในสมัยก่อนเมื่อตอนที่ศาลาปฏิบัติธรรม
หน้ากุฏิท่านยังสร้างไม่เสร็จนั้น ท่านก็เมตตาให้ใช้ห้องส่วนตัวที่ท่านใช้จำวัด
เป็นที่รับรองสานุศิษย์และผู้สนใจได้ใช้เป็นที่ปฏิบัติธรรม ซึ่งนับเป็นเมตตาอย่างสูง
สำหรับผู้ที่ไปกราบนมัสการท่านบ่อยๆ หรือมีโอกาสได้ฟังท่านสนทนาธรรม
ก็คงจะได้เห็นกุศโลบายในการสอนของท่านที่จะโน้มน้าว ผู้ฟังให้วกเข้าสู่การปรับปรุง
แก้ไขตนเอง เช่นครั้งหนึ่งมีลูกศิษย์วิพากษ์วิจารณ์คนนั้นคนนี้ให้ท่านฟังใน เชิงว่ากล่าวว่า
เป็นต้นเหตุของปัญหาและความยุ่งยาก
แทนที่ท่านจะเออออไปตามอันจะทำให้เรื่องยิ่งบานปลายออกไป ท่านกลับปรามว่า
"เรื่องของคนอื่น เราไปแก้เขาไม่ได้ ที่แก้ได้คือตัวเรา แก้ข้างนอกเป็นเรื่องโลก
แต่แก้ที่ตัวเรานี่เป็นเรื่องธรรม"คำสอนของหลวงปู่ดู่จึงสรุปลงที่การใช้ชีวิตอย่างคนไม่ประมาทนั่นหมายถึงว่าสิ่งที่จะต้อง
เป็นไปพร้อมๆ กัน ก็คือ ความพากเพียรที่ลงสู่ภาคปฏิบัติ ในมรรควิถีที่เป็นสาระแห่งชีวิต
ของผู้ไม่ประมาท ดังที่ท่านพูดย้ำเสมอว่า
“หมั่นทำเข้าไว้ๆ”ขอขอบคุณข้อมูล :
https://th.wikipedia.org/wiki/หลวงปู่ดู่_พฺรหฺมปญฺโญ ใครที่ยังไม่ได้เข้าไปอ่านบล๊อก
กินอาหารธรรมดาๆ ณ ร้าน Benny's
จังหวัดนครสวรรค์ สามารถกดที่นี่ได้เลยครับ
ฝากกด like Facebook นายแว่นขยันเที่ยว :
https://www.facebook.com/นายแว่นขยันเที่ยว-110467381183341ฝากกดติดตาม YouTube กูรูเอมมี่ แชลแนล :
https://www.youtube.com/channel/UCRYXqGydbgKYciPr2Kilw3gขอขอบคุณ อาจารย์เอมมี่ เทพนิมิตต์ โหราเวทย์ศรีธนญชัย
ขอบคุณที่เข้ามาเป็นกำลังใจให้ผม
"นายแว่นขยันเที่ยว"
ขอบคุณเพลง : หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ
ศิลปิน : เชิดชัย วัชราภรณ์ ปาดเนื้อ
Vote : ท่องเที่ยวไทย
โหวต Travel Blog นะคะ