กราบหลวงพ่อโอภาสี ณ วัดหลวงพ่อโอภาสี จังหวัดกรุงเทพมหานคร
กราบหลวงพ่อโอภาสี ณ วัดหลวงพ่อโอภาสี จังหวัดกรุงเทพมหานคร
วัดหลวงพ่อโอภาสี คั้งอยู่ ซอยพุทธบูชา31 ถนนพุทธบูชา แขวงบางมด
เขตทุ่งครุ จังหวัดกรุงเทพมหานคร
พิกัด : https://goo.gl/maps/DyoumdoYyGtpczoKA 



ก่อนอื่นผมจะพามารู้จักวันนี้กันก่อนครับ วัดหลวงพ่อโอภาสี เป็นวัดราษฏร์
สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่ในแขวงบางมด เขตทุ่งครุ จังหวัดกรุงเทพมหานคร
ปัจจุบัน พระครูสุทธิญาโณภาส (อุสา ป.ธ.๓) เป็นเจ้าอาวาส



ประวัติวัดหลวงพ่อโอภาสีตั้งวัดเมื่อวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2536โดยเมื่อประมาณปี
พ.ศ. 2485 พื้นที่ย่านบางมดแห่งนี้เต็มไปด้วยสวนส้ม หลวงพ่อโอภาสี
ได้เดินธุดงค์มาปักกลด ด้วยปฏิปทาอันน่าศรัทธาเลื่อมใส



ชาวบ้านจึงพากันไปกราบไหว้เป็นประจำ จนเศรษฐีเจ้าของที่ดินได้ยกที่ดิน
ให้สร้างเป็น อาศรมบางมด และได้นิมนต์ให้ท่านอยู่เป็นการถาวร
ต่อมาเปลี่ยนมาเป็นชื่อ "วัดหลวงพ่อโอภาสี"



ตามนามของ "หลวงพ่อโอภาสิ(พระมหาชวน มลิพันธ์)" ซึ่งท่านเป็นพระอาจารย์
รูปหนึ่งที่มีชื่อเสียงในด้านอิทธิอภินิหาร เชื่อกันว่าท่านเป็นพระที่สามารถรู้ถึงเหตุการณ์
ล่วงหน้าและทำนายทายทักได้ถูกต้อง



ท่านยังถือลัทธิบูชาเพลิง มีคหบดี เจ้าสัวจากย่านเยาวราช สำเพ็ง บางลำพู ฯลฯ
แม้แต่เจ้านายชั้นผู้ใหญ่ เช่น จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ก็ได้ไปกราบไหว้ท่าน
พร้อมทั้งร่วมทำบุญสร้างวัดกับท่านเป็นประจำ



ประวัติหลวงพ่อโอภาสี หรือ พระมหาชวน ท่านเกิดที่จังหวัดนครศรีธรรมราชในปี
 พ.ศ.2441 ต่อมาเมื่ออายุ 5 ปี ท่านได้เข้าฝากตัวเป็นศิษย์ของพระครูนนท์ จรรยาวัตต์
เจ้าอาวาสวัดนันทาราม อำเภอปากพนัง และในขณะที่ท่านบรรพชา



ท่านก็ได้ศึกษาพระปริยัติธรรมประกอบไปด้วยกัน ท่านเป็นลูกศิษย์เอกรูปหนึ่ง
ของหลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกา ศึกษาพระปริยัติธรรมอยู่ไม่นาน ท่านก็ลาพ่อแม่เดินทาง
มาศึกษาต่อยังกรุงเทพฯ ถวายตัวเป็นศิษย์ในองค์สมเด็จพระสังฆราชเจ้า



กรมหลวงวชิรฌานวงศ์ซึ่งได้รับไว้ในพระอุปการะ ต่อมาท่านได้อุปสมบทเป็น
พระภิกษุและมีสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ เป็นพระอุปัชขฌาย์เช่นกัน
ท่านได้ศึกษาพระปริยัติธรรมช่วงหนึ่งจนกระทั่งสอบได้เปรียญ 3 ประโยคจนถึงเปรียญ 7 ประโยค



ต่อมาในปี พ.ศ.2484 ท่านได้ออกจากสำนักวัดบวรนิเวศวิหาร ท่านได้ออกธุดงค์ต่อไปยัง
จังหวัดต่างๆ และได้ไปปักกลดอยู่ที่ของนายเนียม คหบดี ผู้เป็นผู้ที่มีความศรัทธาต่อ
พระพุทธศาสนา นช่วงเวลานั้น ท่านก็ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน หรือทำกิจของสงฆ์



ชาวบ้านในละแวกนั้นเรียกนามใหม่ท่านว่า หลวงพ่อโอภาสี และประชาชนก็ช่วยกันสร้าง
กุฎหรือถวายจัตตุปัจจัยเพื่อสร้างวัดป้องกันแดดและฝน หลวงพ่อท่านได้นำจตุปัจจัย
ทั้งหมดที่ประชาชนนำมาถวายนำไปเผาทิ้งในกองไฟ



ซึ่งท่านได้สอนประชาชนว่า การที่เรานำเพลิงเผาจตุปัจจัยเหล่านี้ ก็เปรียบเหมือนการ
ดับเผาจิตใจความรัก โลภ โกรธ หลง ที่มีอยู่ในตัวมนุษย์ หรือเผากิเลสให้หมดสิ้นไป
จากชีวิตของมนุษย์ ดังนั้นท่านจึงไม่ยึดติดใดๆในวัตถุ



และตั้งใจศึกษาพระธรรมตั้งแต่ครองสมณเพศ และสามารถตัดกิเลสได้ ไม่ยึดติดเงินทอง
ข้าวของเครื่องใช้ สมัยสงครามอินโดจีน พระเกจิอาจารย์จะปลุกเสกวัตถุมงคลมากมาย



ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง โดยสำหรับวัตถุมงคลในตอนนั้นของท่านคือ ผ้าประเจียด
เป็นวัตถุมงคลที่ดังในสมัยนั้น เชื่อกันว่าสิ่งนั้นจะคุ้มครองทหารไทยในการต่อสู้ในสงคราม



และพระเครื่องนั้นผู้ที่บูชาจะต้องเป็นคนที่รักษาศีลธรรมด้วย วัตถุมงคลของท่าน
ก็จะมีเพียงรุ่นเดียวคือ เหรียญครุฑแบกเสมา ประชาชนและลูกศิษย์ของท่าน
ต่างเคารพหลวงพ่อท่านเป็นอย่างมาก



บทสวดมนต์หรือคาถาของท่านก็สำหรับให้ประชาชนและลูกศิษย์ลูกหาสวดเพื่อ
เดินทางไปไหนจะได้ปลอดภัย และมีสิริมงคลในชีวิต ขอเพียงเรายึดมั่นในความดี



และท่านก็มีคติคำสอนอยู่อย่างหนึ่งคือ ก่อนจะหลับไปแต่ละวัน ขอให้ทุกคนนึกถึงความดี
ที่ตนเองทำไปในแต่ละวันด้วย หลวงพ่อโอภาสีได้ถึงแก่มรณภาพลงในวันที่ 31ตุลาคม พ.ศ.2498



ในขณะที่พุทธสมาคมแห่งประเทศอินเดียได้ทำจดหมายนิมนต์หลวงพ่อโอภาสี
ไปนมัสการสังเวชนียสถาน และให้ญาติโยมได้นมัสการอย่างใกล้ชิด
จึงทำให้กำหนดการทุกอย่างของงานต้องยกเลิกลงไป



ถึงแม้ท่านจะมรณภาพไปนานกว่า 60 ปีแล้วก็ตาม แต่ประชาชนและลูกศิษย์ลูกหา
ก็ไม่เคยลืมเลือน และยังแสดงความกตัญญูจัดงานสรงน้ำรูปหล่อท่านเป็นประจำ



และประชาชนก็เชื่อว่า หลวงพ่อท่านไม่เคยไปไหนเลย ท่านจะอยู่คุ้มครองพวกเรา
ตลอดไป สังขารของหลวงพ่อท่านก็ยังคงอยู่ในสวนอาศรมบางมด
มีพุทธศาสนิกชนผู้เคารพศรัทธาไปกราบไหว้บูชามิได้ขาด ประหนึ่งท่านยังมีชีวิตอยู่



ขอขอบคุณขอมูล : https://th.wikipedia.org/wiki/หลวงพ่อโอภาสี 



ใครที่ยังไม่ได้เข้าไปอ่านบล๊อก นั่งกินอาหารชิวๆ ที่ ร้านริมระเบียง คาเฟ่
เกาะเกร็ด  จังหวัดนนทบุรี
 
สามารถกดที่นี่ได้เลยครับ



ฝากกด like Facebook นายแว่นขยันเที่ยว : 
https://www.facebook.com/นายแว่นขยันเที่ยว-110467381183341



ฝากกดติดตาม YouTube กูรูเอมมี่ แชลแนล : 
https://www.youtube.com/channel/UCRYXqGydbgKYciPr2Kilw3g
ขอขอบคุณ อาจารย์เอมมี่ เทพนิมิตต์ โหราเวทย์ศรีธนญชัย



ขอบคุณที่เข้ามาเป็นกำลังใจให้ผม
"นายแว่นขยันเที่ยว"



ขอบคุณเพลง : คาถาขุนแผน (หลวงพ่อกวย) 
ศิลปิน : กานต์ ทศน
Vote : ท่องเที่ยวไทย




Create Date : 15 สิงหาคม 2565
Last Update : 29 สิงหาคม 2565 9:48:30 น.
Counter : 1510 Pageviews.

3 comments
ต้นไม้ใบหญ้าเริ่มฟื้นคืนชีพ สวยสุดซอย
(12 เม.ย. 2567 14:13:40 น.)
ร้อนนี้ชวนเที่ยว ออบขาน เชียงใหม่ สมาชิกหมายเลข 4313444
(11 เม.ย. 2567 08:07:33 น.)
Day 7 เที่ยววันสุดท้าย Arashiyama กลางสายฝน khimyo
(10 เม.ย. 2567 12:51:53 น.)
ถนนสายนี้..มีตะพาบ ( 349) วันใดที่เธอรู้สึกเหมือนไม่มีใคร peeamp
(8 เม.ย. 2567 12:38:27 น.)

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณSweet_pills, คุณnewyorknurse, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณปรศุราม, คุณnonnoiGiwGiw, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณปัญญา Dh, คุณJohnV, คุณสองแผ่นดิน, คุณออโอ

  
สวัสดีค่ะ..

เคยไปกราบอยู่ครั้งหรือ 2 ครั้งคะ..

สาธุ สาธุ สาธุ..



โดย: คนผ่านทางมาเจอ วันที่: 15 สิงหาคม 2565 เวลา:13:33:09 น.
  
สวัสดีครับ
สาธุนะครับ

ขอบคุณที่แวะไปส่งกำลังใจให้นะครับ
โดย: มาช้ายังดีกว่าไม่มา วันที่: 15 สิงหาคม 2565 เวลา:20:31:33 น.
  
มาเที่ยว ไหว้พระ กราบหลวงพ่อโอภาสี ด้วยครับ
อิติ สุคะโต อะระหัง พุทโธ นะโมพุทธายะ ปฐวีคงคา พระภุมมะเทวา ขะมามิหัง



โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 15 สิงหาคม 2565 เวลา:22:58:44 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Pitchayut8.BlogGang.com

นายแว่นขยันเที่ยว
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]

บทความทั้งหมด