.... ธี .... (บทที่ ๑๐) .... ธี .... บทที่ ๑๐ ถึงอย่างไรสโตนก็ยังไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เห็น สงสัยว่ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร เปลี่ยนภพ เปลี่ยนรูปลักษณ์อย่างกะทันหันแทบไม่รู้ตัว... ร่างของเขา ของลายลักษณ์และศักดิ์กลายเป็นเถ้าถ่านในกองเพลิงไปแล้ว..หรือนี่เป็นเพียงความคิดเช่นครั้งหนึ่งที่คิดถึงลาย ไปใช้ชีวิตอยู่กับลายที่บ้านอุ้มผางคี...ทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี้เพียงอยู่ในใจของเขาใช่ไหม..ไม่ใช่ความจริง! “โตน..” เสียงเรียกจากหนุ่มสิงคาลทำเอาสโตนสะดุ้ง “โตน” สิงคาลตบต้นแขนสโตน..เขาเห็นสโตนนั่งนิ่ง ตาแข็งผิดสังเกต “สิงคาล” สโตนได้แค่เพียงเรียกชื่อตอบ มั่นใจแล้วว่าคือความจริง “ผมจะทำอย่างไรกับชีวิตใหม่นี้ ในดินแดนที่ไม่เคยรู้จัก กับคุณ สิงคาล” สโตนพูดเหมือนสิงคาลจะเข้าใจ “ผมคิดว่าคุณคงไม่รู้เรื่องที่ผมพูด แต่จะทำอะไรได้เล่า” “โตน มาม่า..” สิงคาลรับรู้ความในใจของสโตนได้ลางๆ จากสายตาและน้ำเสียง “ยังดีที่ผมมีคุณเป็นเพื่อน..มา! เรามาช่วยให้ชีวิตอยู่รอดกันดีกว่า” สโตนเหลียวมองหากิ่งไม้แห้ง หยิบขึ้นชูให้สิงคาลเห็น “ไปหากัน” “ไปหากัน” สิงคาลพูดตาม ลุกขึ้นออกนำ...เขาไม่เข้าใจว่าทำไมจึงรู้สึกเหมือนเป็นทาสมาณพรูปงามผู้นี้..อาจเป็นเพราะความมีน้ำใจที่หยิบยื่นให้เขาเมื่อแรกรู้สึกตัวก็เป็นได้..แต่มันน่าจะมีอะไรมากกว่านั้น “โตน” สิงคาลหลุดปากออกมา “อะไรหรือ?” สโตนเร่งฝีเท้าให้ทันสิงคาล “ตยาฮา!” (๑) สิงคาลหันมา หน้าแดง เสชี้มือไปข้างหน้าที่มีกิ่งไม้แห้งกองสุมอยู่ “เป็นอะไร หน้าแดงเชียว..หน้าแดง” สโตนจิ้มที่หน้าสิงคาล “หน้าแดง..” สิงคาลรู้สึกเลือดฉีดแรงบนใบหน้า “ฮะ..ฮะ..ฮะ..” สโตนหัวเราะกับความเขินอายอย่างไร้สาเหตุของสิงคาล “ตยาฮา..” สโตนชี้ไปที่กองกิ่งไม้ เข้าใจผิดว่าตยาฮาหมายถึงกิ่งไม้ สโตนและสิงคาลช่วยกันขนกิ่งไม้ไปวางรวมกันใต้ต้นจามานใหญ่ริมสระ ทั้งสองไม่รู้ว่าทำไมจึงตัดสินใจสร้างที่พักที่นี่ อาจเป็นเพราะต่างรู้สึกตัวครั้งแรกที่ตรงนั้น.. สโตนหวนคิดไปถึงเมื่อครั้งช่วยลายสร้างเพิงพักที่ป่าอุ้มผางคี ป่านนี้ลายอยู่ที่ไหน ลายผู้ภักดี ลายผู้มอบดวงวิญญาณให้เขา ลายผู้อยู่ในหัวใจของเขานิจนิรันดร์... ลายครามอุ้มลายลักษณ์เดินตามคุณหมอวารุณีเข้าห้องทำงานใหญ่ “ทำไมยังอุ้มกันอยู่อีก” วารุณีเหมือนหงุดหงิด “ก็คุณเดินเร็ว ลูกเดินตามไม่ทัน” ลายครามเข้าใจความรู้สึกของภรรยาดี เขารู้ตัวว่าทำไม่ถูก ทำผิดตั้งแต่วันแรกที่ได้เห็นหนุ่มลูกครึ่งคนนั้น “ยังไม่วางอีก” วารุณีทำตาดุใส่สามี..บางครั้งเธอรู้สึกเหมือนลายคราม ลายผู้นี้ เป็นน้อง เป็นคนรัก เด็กในอุปการะ ไม่ใช่สามี...เพราะความรักความสงสารทำให้เธอใช้ชีวิตคู่กับลายครามด้วยความซื่อสัตย์ตลอดมา แม้ว่า แม้ว่าลายครามไม่เคยได้ทำหน้าที่ตามธรรมชาติของสามีเลย นอกจากครั้งนั้น ครั้งแรกและครั้งเดียว..คืนที่อยู่รวมกันระหว่างเธอ ลาย และหินล่อ..จนกระทั่งลดาวัลย์ถือกำเนิดมาจากครั้งเดียวนั้น “เดี๋ยวคุณดุลูกอีก..จุ๊ๆ..ลายกำลังจะหลับ” ลายครามเขย่าตัวเบาๆ กล่อมลูกชายที่ตาปรือหรี่ลง “พี่โตน..” เสียงพึมพำลอดออกมาจากปากของเด็กน้อย “ฉันเป็นห่วง กลัวลายลักษณ์จะโตพรวดๆ เหมือนก่อน แล้วไปรังแก วอแวกับคุณสโตนอย่างเคยอีก” วารุณีเสียงอ่อนเมื่อเห็นลายครามวางลูกชายลงนอนบนโซฟา “เรื่องอื่นไม่ได้คิดนะ..ลายก็รู้ดีว่าฉันรู้สึกกับลายอย่างไร” “ผมรู้..ผมเข้าใจ” ลายครามรู้ดีว่าวารุณี..ครูนี ครูอาสาแห่งบ้านอุ้มผางคีระแวงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหินล่อมาตลอด ค่อนข้างจะแน่ใจด้วยว่าเขาและหินล่อรักกัน แต่เพราะการที่เธอเป็นคนชุบชีวิตเขามากับมือทำให้เธอรู้สึกเป็นเจ้าของ รักและสงสารจนไม่อาจตัดใจได้ ทั้งๆ ที่เขาไม่มีสิ่งสำคัญของความเป็นชายเหลืออยู่ก็ตาม..ครูนีรักเขามากเพียงนี้ ทำให้ลายครามต้องฝืนใจลืมหิน...จนกระทั่งสโตนโผล่มา “คุณสโตนให้ลูกลายลักษณ์กินยาอะไรเข้าไป ระบบโคลนนิ่งจึงตีกลับอย่างนี้” วารุณีวกกลับมาเรื่องลูกชายคนเล็กที่เกิดจากการโคลนนิ่งของเซลล์ลายคราม “ดูเป็นเด็กเรียบร้อยขึ้น..หวังว่าเขาคงค่อยๆ เติบโตขึ้นตามระบบ” “ขอพูดอะไรหน่อยได้ไหม?” ลายครามรู้ว่าวารุณีเสพูดเรื่องลายลักษณ์ แต่ในใจกำลังกังวลเกี่ยวกับเขาและสโตน “รู้นะว่าลายจะพูดเรื่องอะไร..เชิญค่ะ!” วารุณีอดหึงหวงไม่ได้ “อย่าทำเสียงอย่างนั้นสิครับ..คุณก็รู้นี่นาว่าไม่ใช่” ลายครามโกหกดื้อๆ ..ถึงเขาจะสำนึกถึงบุญคุณและความรักที่ครูนีมีให้..แต่หินมาก่อน เอาหัวใจของเขาไปหมดทั้งดวง..ก่อนที่จะได้พบกับครูนี “เชิญค่ะ ฉันต้องรีบกลับไปทำงานต่อ” “เกิดไฟไหม้ที่บ้านนครสวรรค์..คุณสโตนและลูกลายอยู่ในกองเพลิง..” ลายครามหยุดกลืนน้ำลายเมื่อนึกย้อนเห็นภาพ “ผมไปถึงไฟกำลังลุกท่วม นึกว่าคงตายกันหมดแน่..จู่ๆ มีละอองเย็นพุ่งจากฟ้าลงบนกองเพลิง เปลวไฟหายไปหมดเหมือนไม่เคยเกิดไฟไหม้มาก่อน..ลูกลาย คุณสโตนและพี่ศักดิ์ปลอดภัย..แต่คิดว่าทุกอย่างไม่เหมือนเดิม” “หมายความว่าอย่างไร?..” วารุณีลูบหัว ก้มลงหอมแก้มลูกชาย “ลูกลายลักษณ์ก็ดูปกติดีนี่คะ” “เพิ่งผ่านมาวันกว่าๆ เอง..คุณไม่สังเกตหรือว่าลูกลายเรียบร้อยขึ้นมาก..ส่วนคุณสโตน..แกเป็นมาก คล้ายๆ ไม่รู้ตัวว่าตัวเองเป็นใคร ไม่รู้จักอะไรสักอย่างทั้งสถานที่บ้านเรือนสิ่งของหรือวิถีการดำเนินชีวิตประจำวัน” “อย่างนั้นเชียวหรือ..คุณรู้ได้อย่างไร?” วารุณียิ้มนัยๆ “โธ่! อย่าเข้าใจผมผิดสิ” ลายครามตัดสินใจพูดตรงๆ “ คุณก็รู้ว่าผมรู้จักเขาดีแค่ไหน..ขณะนี้เขาไม่ใช่คนเดิม ไม่ใช่สโตน หินหรือหินล่อ..ผมลองทำ ลองใจเขาหลายอย่าง..เชื่อสิ เขาเหมือนไม่ใช่คนบนโลกนี้ด้วยซ้ำ” “ฮะ..ฮะ..” วารุณีเห็นเป็นเรื่องขำ “ลายคิดไปเองหรือเปล่า จ้องมากจนเขาเขิน ทำอะไรผิดๆ ถูกๆ ละมั้ง..ไม่เอาละฉันไปทำงานดีกว่า” “ผมเกรงว่าจะเกิดอะไรอย่างนี้กับลูกลายลักษณ์จึงเข้าไปคลุกคลีด้วย” ลายครามพูดตามหลัง “อย่าแก้ตัวเลย..ฮะ..ฮะ..” วารุณีหัวเราะ เดินออกจากห้อง แต่ใจนึกถึงภาพสโตนใช้มือกินอาหารและเปลือยร่างอาบน้ำในลำธาร ข้อมูลชี้แจง (๑) ตยาฮา แปลว่า ที่โน่น |
BlogGang Popular Award#20
สมาชิกหมายเลข 2607062
บทความทั้งหมด
|