.. ลืมแล้วหรือไร .. บทที่ 7 .. ลืมแล้วหรือไร ... ...บทที่ 7 ... เช้าวันต่อมาผมรู้ตัวว่าเป็นคนเหลวไหลไร้ความคิด..ทีนี้จะทำอย่างไรไม่มีงานทำแล้วจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายค่าเช่าหอ ค่ากินอยู่ในแต่ละวันและวันข้างหน้าอีกล่ะ..หางานใหม่เหรอ..งานที่เพิ่งอวดดีออกมากว่าจะหาได้ ! อาชีพนักร้องนั้นไม่ใช่จะทำได้ง่าย ๆ หนุ่มสาวสมัยนี้ที่หน้าตาดีหน่อยพอร้องเพลงได้ก็พยายามจะเป็นนักร้องกันทั้งนั้นดูอย่างรายการประกวดร้องเพลงโกลเด้นซองสิ แต่ไหน ๆ ผมก็เสียค่าเรียนไปมากแล้ว ผมจะพยายามให้เต็มที่ “ จ๊อก ๆ “ เสี่ยงท้องร้องเตือนว่าหิวแล้วนะไอ้ตินห์..เช้านี้ผมงดกาแฟ ต้มมาม่าสองซองตั้งใจให้อิ่มไปถึงเย็น..งานหลักของผมเวลานี้คือนอนและดูซีรีย์และคิดเพ้อเจ้อเรื่องชีวิตข้างหน้า ตกเย็น..ด้วยความรอบคอบก่อนจะออกไปโรงเรียนร้องเพลงผมจดชื่อหอพักที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ของหอพักใส่กระดาษชิ้นเล็กไว้ในกระเป๋ากางเกงเผื่อเกิดลืมขึ้นมาอีก..นายล่องหนคงไม่มาหาผมทุกวันหรอก ผมถึงโรงเรียนทันรอบค่ำพอดี..ห้องอาหารชั้นล่างวงดนตรีกำลังรวมวงกันอยู่ “ตินห์ !” นักร้องสาวคนหนึ่งเรียกชื่อผม “ครับ..” ผมรับคำ มองสาวสวยคนที่เรียก “ริต้าใช่ไหม?” “แหม..ทำเป็นจำไม่ได้” สาวสวยตอบ “สวยขึ้นนะ..เพราะโลชั่นของเรารึเปล่า?..” “ประจำที่ได้ริต้า” นักดนตรีคนหนึ่งร้องบอก “แอ็ดวานซ์มาเป็นนักร้องเลยหรือ?” ผมว่าริต้าร้องเพลงยังไม่ถึงขั้นนักร้อง “ฮื่อ..ครูท่านสนับสนุนน่ะ..เราไปร้องเพลงก่อนนะ” ริต้าก้าวขึ้นเวทีไป หลายวันต่อมาส่วนมากผมชลุกอยู่แต่ในห้องและระเบียงอาศัยลมเย็นช่วยบรรเทาความร้อน..ผมไม่มีเงินติดแอร์อย่างห้องอื่น นั่งระเบียงก็ดีเหมือนกันได้เห็นชีวิตผู้คนข้างล่าง แถวที่ผมอยู่ไม่ใช่ดีนักแต่ไม่เลวเสียทีเดียว มีตลาดอยู่ด้านข้างให้ไปเดินเล่น ผมมองคนซื้อของที่ตลาด บางคนอุ้มลูกจูงหลานมาด้วย มองเพลิน ๆ กวาดตามาเรื่อยถึงตึกหอพัก..ใครคนหนึ่งโบกมือมาทางระเบียงห้องของผม สองคนผู้หญิงและผู้ชายคลับคล้ายคลับคลา “คุณตินห์” เสียงเรียกแบบไม่มีเสียงให้ผม “มาได้ไงครับ..” ผมถามอย่างแปลกใจ “มาหาผมหรือ?” “ครับ..ลงมาหาหน่อย” คราวนี้มีเสียง ผมรีบวิ่งลงบันไดไปข้างล่าง โกบูรณ์และเจ้รัตน์พาผมไปนั่งร้านก๋วยเตี๋ยวเพื่อปรึกษาบางอย่าง “เราได้ที่อยู่มาจากแฟ้มพนักงาน..” โกบูรณ์เริ่ม “หลังจากวันที่คุณตินห์ลาออก..” “เดี๋ยวครับ..อย่างแรกคุณตินห์ไม่ได้อยู่ที่นี่ อย่างที่สองนายตินห์หิวข้าวครับ” “กินก๋วยเตี๋ยวอะไรดี” เจ้รัตนถาม “ผมกินมาม่าทุกวันเบื่อก๋วยเตี๋ยวแล้วครับ ผมขอสั่งข้าวหมูแดง..แฮ่..เจ้รัตน์เลี้ยงนะครับ” “มีขายด้วยหรือ?” เจ้รัตน์มองไปที่ตู้ก๋วยเตี๋ยว “ร้านเดียวขายทุกอย่างก๋วยจั้บยังมีเลยครับ” เมื่อทุกคนกินอิ่มเรียบร้อยแล้ว “ว่าแต่มีเรื่องอะไรกันหรือครับจึงมาหาผม” ผมถามโกบูรณ์ที่กำลังมองผมอยู่อย่างชั่งใจ เจ้รัตน์ก็ด้วยอีกคน “ตั้งแต่วันที่ตินห์ลาออกคุณปีเตอร์เข้ามาที่ครัวบ่อย ๆ พูดทำนองว่าพวกเราล้างสมองตินห์และไม่อยากได้เราเป็นกุ๊กของโรงแรมอีกต่อไป” โกบูรณ์มองเจ้รัตน์เหมือนต้องการให้เธอสานต่อ ! “พี่กับโกบูรณ์ชิงลาออกก่อนที่จะถูกไล่..” เจ้รัตน์ทำท่าเหมือนกำลังพูดโกหก “เดและโกเก๊ตยังไม่คิดจะลาออกเพราะทั้งสองคนเป็นหัวหน้าถ้าออกมาแล้วจะปั่นป่วน ทุกคนในครัวจะเดือดร้อน และอีกอย่างคุณปีเตอร์คงไม่กล้าก้าวก่ายเพราะรู้ว่าเป็นหัวเรือใหญ่ของครัว ชื่อเสียงของโรงแรมส่วนหนึ่งก็มาจากห้องอาหารเดอกริลล์” “แล้วเกี่ยวกับผมอย่างไรครับ หรือแค่มาปรับทุกข์” แล้วเกี่ยวกับผมอย่างไรล่ะ ! “เราสองคนคิดว่า..” โกบูรณ์มีพิรุธจนผมรู้สึกได้ “เราจะตั้งร้านเบเกอรี่ใกล้ ๆ โรงแรม” “เลยมาชวนตินห์..” เจ้รัตน์สวนขึ้น “ตินห์ร่วมหุ้นเปิดเบเกอรี่ด้วยกันนะ..ให้เจ้าปีเตอร์ได้สำนึก” “สำนึกอะไรกัน..” ผมเริ่มงง โกบูรณ์และเจ้รัตน์จะมาไม้ไหนกันแน่ “ผมคงไม่มีความสามารถ และโดยเฉพาะผมไม่มีเงิน จะเอาที่ไหนมาร่วมลงทุนด้วย” “เงินจากบัตรกดเงินของคุณปีเตอร์ที่ให้ตินห์ไว้ไง” โกบูรณ์รีบแนะทาง ผมถึงบางอ้อ..ที่แท้ทั้งโกบูรณ์และเจ้รัตน์ก็เป็นสิบแปดมงกุฎดี ๆ นี่เอง ![]() |
BlogGang Popular Award#21
![]() สมาชิกหมายเลข 2607062
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]บทความทั้งหมด
|







ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [