.. ต้นไม้วิเศษต้นนั้น .. บทที่ 8 .. .. บทที่ 8 .. .. ความผิดของเจซอน .. ผมนอนคิดทั้งคืนว่าเจซอนคือใคร คืออะไรกันแน่ มนุษย์ต่างดาวที่สามารถแสดงรูปร่างเป็นมนุษย์หรือมนุษย์ในโลกอนาคตที่หวนกลับมาศึกษาโลกอดีต วัตถุลึกลับที่ผมเห็นคงคือยานอวกาศของเขาที่ปรากฏให้เห็นหรือหายไปได้เพราะอำนาจของเวลา .. เกี่ยวข้องกับผมอย่างไรต้นไม้ที่ผมขนานนามว่าต้นไม้วิเศษต้นนั้นล่ะเกี่ยวข้องอะไรด้วยหรือเปล่า คุณยายคนนั้นอีก หนุ่มมอมแมมไม่ต้องพูดถึงเพราะรับออกมาแล้วกลาย ๆ ว่าคือนายเจซอน ถ้าเจซอนคือมนุษย์ต่างดาวทำไมเขาถึงรู้เรื่องป่าหิมพานต์ คงไม่ได้ดูดสมองนักวิชาการวรรณคดีไทยไปใช้หรอกนะ เจซอนที่ผมเห็นไม่น่าจะร้ายกาจถึงขนาดนั้น เช้าวันต่อมาคุณยายยังมาตรงเวลา นายมอมแมมวิ่งเข้าซอยอย่างเคยแต่ไม่สบตาและไม่หันมาทางผม ตัวเกร็งเหมือนกำลังบังคับตัวเองอยู่ .. ผมจะเลือกทักใครดี? “คุณยายครับ ..” ผมเลือกที่จะเข้าไปหาคุณยาย “ผมขอถามหน่อยได้ไหมครับ?” “อยากรู้ว่ายายเดินไปไหนทุกวันใช่ไหม?” คุณยายดักคอ “อ้าว ! รู้ใจผมอีกคนแล้ว” “ความคิดของคนเรามีคลื่นกระแสไฟฟ้าที่ลอยอยู่รอบตัวและเดินทางได้ไกลเท่าที่เจ้าของความคิดต้องการจะให้ไป ..” ร่างของคุณยายมัวลงเหมือนมีกระจกฝ้าบังอยู่ “ยายเห็นความคิดของเธอ” “คุณยายเป็นนักวิทยาศาสตร์เกษียณอายุหรือครับ?” “ใคร ๆ ก็รู้” คุณยายกระดกตัวขึ้นรถจักรยานขับจากไป “เอ๊ะ ! อีกแล้วหรือ จะหลอนกันไปถึงไหน” ผมร้องออกมา .. ใบไม้ร่วงลงมาเหมือนขำผม จากปากซอยที่แยกไปร้านส้มตำร่างของนายมอมแมมถอยกลับมาลักษณะฉายหนังกลับ เขาวิ่งถอยหลัง หน้าตรงไปข้างหน้าแต่เท้าซอยกลับมาที่ผม “ละครหรือข่าวสารรายการต่าง ๆ ในทีวีก็เช่นกัน ..” นายมอมแมมพูดต่อจากที่คุณยายพูดค้างไว้ เหมือนรู้กัน “มันมีอยู่ในอากาศ แค่มีเครื่องรับเราก็จะรู้เรื่องเหล่านั้นได้ คนเป็น ๆ มีเลือดเนื้ออยู่ในอากาศรอบ ๆ ตัวเรานี่แหละ” พูดจบนายมอมแมมวิ่งเข้าซอยไป “เดี๋ยว ! เดี๋ยวสิ” ผมวิ่งตาม “ตามมา ๆ” ผมได้ยินความคิดที่อยู่ในอากาศของนายมอมแมมผมวิ่งตามนายมอมแมมที่เสื้อผ้าของเขาค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นชุดขาวของพนักงานบริษัทกำแพงแก้ว .. ตามทันที่หน้าประตูอาคารที่ปิดอยู่ “ทำไมไม่เข้าไป?” ผมถาม “รอผมเหรอ” “เปล่า ไม่ได้รอ ผมมีงานที่ต้องทำแต่เขาไม่ให้ผมเข้าไป” “ทำไมล่ะ?” “ผมทำผิดกฎ กฎของโลกที่พัฒนา ..” เจซอนชี้มือมาที่ผม “เพราะคุณ !” “ผมไม่ได้ทำอะไร คุณเป็นฝ่ายเข้าหาผมเอง .. แต่ถ้าเป็นเพราะการที่เราขับจักรยานเล่นกันเมื่อวานคือการผิดกฎละก้อ ผมว่านายลาออกจากบริษัทนี้เถอะ” ผมนึกฉุนแทน “คุณไม่เข้าใจหรอก ..” เจซอนทรุดตัวลงนั่ง .. แต่ชั่วอึดใจเขากลับลุกขึ้นยืนพร้อมชุดจ๊อกกิ้งเมื่อวานและรถจักรยาน “แต่งตัวธรรมดาดีกว่า เสื้อสีแดงก็ได้น่ารักดี” ผมหลุดคำว่าน่ารักออกไป พลันเจซอนหลุดยิ้มออกมาพร้อมกางเกงขาสั้นและเสื้อแดงรุ่งริ่งวันผมพบเขาครั้งแรก “ผมน่ารักแล้วใช่ไหม?” แจซอนยิ้มกว้าง ตบเบาะจักรยานให้ผมขึ้นนั่ง “ผมขับไม่แข็ง” ผมส่ายหน้า “ผมจับแฮนด์ให้เอง มาสิ !” เจซอนจับผมขึ้นนั่ง เขาซ้อนหลัง เอื้อมมือจับแฮนด์สองข้างถัดจากมือผม .. โอบกอดอย่างไม่ได้ตั้งใจ “ไม่ไปป่าหิมพานต์แล้วนะ” ผมพูดเพราะเขิน “ไม่ต้องเขินผมหรอก ..” เจซอนรู้ความคิดของผมจนได้ “เราเคยกอดกัน เราเคยใกล้ชิดกันกว่านี้จำไม่ได้หรือ?” “ที่ไหนเมื่อไหร่?” ผมโย้ตัวไปข้างหน้าหลบใบหน้าอุ่น ๆ ที่ทาบอยู่บนหลัง “ผมเพิ่งรู้จักนายสองสามวันนี้เอง” “นานมาแล้วจนคุณนึกไม่ถึง” เจซอนเหยียบบันไดรถและเริ่มถีบ ผมแค่นั่งเฉย ๆ ในอ้อมกอดของเขา “ดีจังมีคนขับรถให้นั่ง” ผมพึมพำ “นี่ไงคือความผิดของผม ความรู้สึกทางโลกที่ผมสลัดทิ้งไม่ได้ ความรู้สึกที่มีต่อคุณ” เจซอนแนบหน้ากับหลังของผมอีกครั้ง . |
BlogGang Popular Award#20
สมาชิกหมายเลข 2607062
บทความทั้งหมด
|