.. ต้นไม้วิเศศต้นนั้น .. บทที่ 4 .. .. ต้นไม้วิเศษต้นนั้น .. .. บทที่ 4 .. .. คืออะไรแน่? .. .ตอนเช้าดวงอาทิตย์ขึ้น ตอนเย็นตกลับหายขอบฟ้า .. มันเป็นอย่างนี้ทุกวัน ช่างน่าเบื่อ แต่ดวงจันทร์ไม่เหมือนกันถึงจะอยู่บนฟ้าเหมือนกันแต่มีขึ้นมีแรม และปรากฏให้เห็นไม่ตายตัว .. ดวงจันทร์มองเห็นได้สวยงามเย็นตา ดวงอาทิตย์ร้อนแรงและไม่สามารถมองได้ด้วยตาเปล่า แต่ดวงอาทิตย์มีคุณมหาศาลกับทุกมวลชีวิต ไม่เกี่ยวอะไรกับผมหรอกนะ แค่นึกถึงคุณยายและหนุ่มมอมแมมที่มาให้เห็นทุกเช้า .. ดวงจันทร์หรือดวงอาทิตย์กันแน่ เช้านี้แปลกกว่าทุกวัน .. คุณยายยิ้มให้อย่างมีเลศนัย หนุ่มมอมแมมก็ยิ้มให้ เขานัดกันมาหรืออย่างไร แต่ยิ้มของหนุ่มมอมแมมแทบมองไม่เห็นแถมด้วยแววตาเชิญชวน ผมไม่อยากรู้อะไรทั้งเรื่องคุณยายที่กลายเป็นหญิงสาวหรือหนุ่มมอมแมมที่ถอดรูปได้อย่างพระสังข์ เหตุหนึ่งเพราะผมไม่ใช่นางรจนา แต่เหตุที่ต้องเหมือนเดินตามเจ้าเงาะเสื้อแดงเข้าซอยเพราะความหิว “แม่ค้าครับ ..” พูดเพราะเชียว “ขอส้มตำไก่ย่างข้าวเหนียวหนึ่งชุด ส้มตำปูปลาร้าใส่พริกเม็ดเดียวไม่ใส่น้ำตาลนะครับ” ถ้าบอกให้ใส่พริกเม็ดเดียวแม่ค้าจะใส่สามสี่เม็ด แต่ถ้าไม่บอกเธอจะใส่เยอะกลัวส้มตำของเธอจะไม่แซบ “รอเดี๋ยวนะคุณเบิร์ด แม่ค้าขอทำให้นายเจซอนก่อนเพิ่งสั่งอย่างคุณเบิร์ด” แม่ค้าบุ้ยบากไปทางหนุ่มเสื้อแดงที่เห็นหลังไว ๆ ผมยืนรอส้มตำของผมอดมองเข้าไปในซอยไม่ได้ จำได้ว่าบ้านที่หนุ่มเสื้อแดงหายเข้าไปนั้นคือบ้านร้างไม่มีคนอยู่ .. เคยสงสัยว่าเมื่อไม่มีคนอยู่ทำไมจึงมีขยะกองโตหน้าบ้านทุกวัน .. อาจจะเป็นขยะจากร้านส้มตำหรือบ้านใกล้เคียงที่ถือโอกาสที่บ้านไม่มีคนอยู่นำขยะมากองให้พ้นหน้าบ้านของตัวเอง “ไอ้บุญหายไปไหนนะ?” แม่ค้าบ่นหาสามีที่มีหน้าที่ส่งอาหาร บางที่รับออเดอร์ทางมือถือต้องเดินไปส่ง “เมื่อกี้ไปส่งชุดที่ทำก่อนหน้านี้ไม่ใช่หรือ ผมเห็น” “จริงแหละแม่ค้าลืมไป อย่างนั้นคุณเบิร์ดเฝ้าร้านให้หน่อยนะแม่ค้าจะไปส่งส้มตำให้นายเจซอนก่อน” “ผมไม่อยากรอแล้วผมหิวนะ ...” ความคิดหนึ่งผุดขึ้น “ผมไปส่งให้ดีกว่าอยู่แค่นี้เอง แม่ค้าจะได้ทำให้ผมเลย” “เอางั้นหรือคะ ไม่รบกวนคุณเบิร์ดแน่นะ?” แม่ค้าส่งถุงส้มตำข้าวเหนียวไก่ย่างให้ผม “ไม่ว่าแม่ค้านะ” “ไม่ว่าหรอกถ้าแม่ค้าจะแถมปูเค็มให้อีกตัว ฮะ ๆ” “ได้เลยค่ะ ไม่หวาน ไม่เผ็ด พริกห้าเม็ด” เสียงแว่วตามหลัง “เม็ดเดียว .. เม็ดเดียว” ผมตะโกนกลับไป “อิ ๆ หยอก ๆ ค่ะ” ผมเพิ่งนึกได้ว่าตัวเองกำลังถูกอำนาจบางอย่างบังคับให้มาตามสายตาเชิญชวนของนายเจซอนโดยไม่รู้ตัว .. ผมกลั้นใจเดินผ่านกองขยะที่ส่งกลิ่นเหม็นผิดปกติเหมือนมีซากสัตว์บางอย่างอยู่ไม่ใช่กลิ่นขยะตามธรรมดา “แอ๊ดด ด !” เสียงประตูรั้วดังเหมือนหนังสยองขวัญ .. ไม่มีอะไรหรอกน่า ผีคงไม่กินส้มตำไก่ย่างแน่ มีพงหญ้าสูงปิดทางเข้า ประตูหน้าบ้านมีไม้แผ่นหนึ่งคาดทับอยู่ ผมจึงเดินเข้าด้านข้างที่ติดกับกำแพงรั้วบ้าน เป็นทางเดินแคบ ๆ แต่ไม่รกเหมือนมีคนเดินเข้าออกประจำ .. นายเจซอนนั่นไง ถัดจากบ้านร้างเข้าไปเป็นกำแพงบ้านอีกหลังหนึ่ง มีโค้งประตูและทางให้เดินเข้าไป ผมคิดในใจว่าสมควรหรือที่อาสาเข้ามา อะไรจะเกิดขึ้นกับความอยากรู้ไม่เข้าเรื่องของผม หรือผมติดใจนายเจซอนแค่เพียงเขายิ้มให้ก็ตามมา ทางเดินทอดยาวไปที่บันได ผมเดินก้าวขึ้นไป คิดว่าคงพบนายเจซอน ส่งส้มตำให้แล้วรีบไปกินส้มตำของผมบ้าง แต่บันไดต่อขั้นขึ้นไปเรื่อย ๆ ผมมองกลับลงไปเห็นแต่ความมืด มันคงไม่สูงจนไม่มีที่สิ้นสุดหรอกผมปลอบใจตัวเอง และแล้วมีแสงสว่างปรากฏขึ้น .. ผมขึ้นมาจนถึงชั้นบนสุดของตึก เป็นลานกว้างมาก ไม่น่าเชื่อว่าจะมีลานกว้างอย่างที่กำลังเห็นอยู่ มองไปรอบ ๆ มีแต่ความมืดและปล่องสูงที่มีประตูทางเข้าอยู่ตรงหน้า .. ผมจะต้องขึ้นปล่องสูงนี้เพื่อนำส้มตำไปให้นายเจซอนหรือ .. มากไป ๆ ผมหันตัวกลับ .. พลันมีเสียงหึ่ง ๆ อยู่เหนือศีรษะอะไรกันนี่ ! ผมกำลังอยู่ที่ไหน ฉากหนังผจญภัยในอวกาศหรือเปล่า วัตถุอย่างหนึ่งลอยอยู่ที่ปลายปล่องข้างหน้า มันมีรูปทรงคล้ายจานบินที่เห็นในหนัง ไม่คล้ายละมันใช่เลย จานบินขนาดใหญ่หมุนตัวช้า ๆ มีแสงเรืองออกมารอบ ๆ . นายเจซอนคงไม่ใช่หนุ่มพม่ามอมแมม .. แต่คือมนุษย์ต่างดาวหรือเอเลี่ยนสักอย่างแน่ ! |
BlogGang Popular Award#20
สมาชิกหมายเลข 2607062
บทความทั้งหมด
|