... ลืมแล้วหรือไร 3 ... ... ลืมแล้วหรือไร ... ... บทที่ 3 .... “ตินห์ฉีดกลูต้ามาหรือ?” ริต้าเพื่อนนักเรียนร้องเพลงคนหนึ่งลูบแขนผม “ขาวชมพูเชียว” “เปล่า ผมไม่ได้ฉีด..” นึกอะไรได้อย่างหนึ่งหยิบขวดโลชั่นจากเป้ออกมา “ผมทาโลชั่นนี้แล้วผิวขาวขึ้นต่างหาก” “ไหน ๆ ?” ริต้าคว้าขวดโลชั่นไปจากมือผม “ลองทาดูสิ” ที่ผมพาโลชั่นนี้มาเผื่อว่าจะได้พบเจ้าหนุ่มล่องหนจะได้ถามที่มาที่ไปของโลชั่น “ให้เราทาแน่นะ?” ริต้ามองหน้าผม “โลชั่นนี้เพื่อนนักเรียนคนหนึ่งให้ผมมา” ผมชี้แจงต่อ “ทำไมขวดมันร้อน ๆ ล่ะ..” ริต้าคืนขวดโลชั่นให้ผม “ระวังนะเธอ กลูต้าผิวขาวบางตัวผสมโซดาไฟ ถึงบางยี่ห้อจะเป็นของจริงแต่สารกลูต้าไธโอนก็มีผลข้างเคียงที่บางครั้งผู้ที่ใช้อาจเสียชีวิตได้” “โห ! รู้จริง” ผมแซว “หนทางของพวกเรานอกจากเสียงแล้วรูปร่างหน้าตาก็เป็นส่วนสำคัญ..” ริต้ามองหน้าผม “อย่าบอกนะว่าเธอไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้” “อะไร คิดอะไร ผมไม่ได้คิดอะไร” จริง ๆ แล้วผมไม่ได้คิดไกลถึงขนาดนั้น แค่อยากร้องเพลงได้เพราะ เผื่อจะเป็นอาชีพของผม ส่วนรูปร่างหน้าตาของผมก็ใช้ได้ประมาณหนึ่งถึงจะไม่ดีมากก็ตาม “เชอะ ! ไม่ได้คิดแต่ไปฉีดฟิตเลอร์จนหล่อแทบจำไม่ได้” ริต้าค้อนผม “เปล่านะไม่ได้ฉีดผมแค่ทาโลชั่นนี้เท่านั้น” ผมพูดความจริง “ฮึ !” ริต้าสะบัดหน้า “นี่ ๆ ..” ผมเขย่าขวดโลชั่น ละอองเย็นเกาะรอบขวด ผมเทโลชั่นเย็นเจี๊ยบใส่อุ้งมือเดินไปหาริต้า “เห็นไหมมันเย็นเจี๊ยบ ส่งมือมาสิ” “ถ้าเราเป็นอะไรไปนายต้องรับผิดชอบนะ..” ริต้าแบมือรับโลชั่นจากผม “อือ..เย็นดี” ท่ันทีที่โลชั่นสัมผัสผิวของริต้าผิวของเธอก็ผ่องขึ้น ริต้ามีสีหน้าประหลาดใจและยินดีกับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น “เห็นไหมเราบอกแล้วว่าเราใช้โลชั่นนี้จริง ๆ” ผมดีใจที่รู้ว่าไม่ใช่มีแต่ผมที่มีปฏิกิริยากับโลชั่นนี้ “จริง ๆ ด้วยแฮะ..” ริต้ามองหน้าผมอย่างไม่แน่ใจ “ตินห์จะให้โลชั่นขวดนี้กับเราเหรอ “จริงสิเธอเอาไปใช้เลย เราให้จริง ๆ” ผมไม่รู้สึกเสียดายเพราะไม่แน่ใจว่าคืออะไรกันแน่ อย่างน้อยริต้าก็อาจเป็นหลักฐานพยานให้ผมรู้ว่าอะไรจริงหรือไม่จริงหรือผมคิดไปเอง “แล้วอีกนานไหมจะขาวเท่านาย..” ริต้าสงสัย “หรือต้องรออีกสองเดือนผลลัพธ์ที่สมบูรณ์จะเกิดขึ้นอย่างที่โฆษณากันในเว็บของคลินิกหมอความงามต่าง ๆ” ริต้าเอ่ยถึงประกาศโฆษณาของคลินิกความงามที่คล้ายกัน “ไม่นานแค่นั้นหรอก..” ผมบอก “คืนนี้ทาให้ทั่วตัวแล้วพรุ่งนี้เธอจะประหลาดใจ” พูดไปแล้วผมอยากให้ถึงพรุ่งนี้เร็ว ๆ อยากรู้ว่าริต้าจะสวยขึ้นอย่างที่ผมเป็นไหม “ออด !” สัญญาณให้เข้าห้องเรียนทำให้การสนทนาเรื่องโลชั่นของนายล่องหนยุติลง เช้าวันต่อมาที่โรงแรม “คุณตินห์ครับ..” เจ้าหน้าที่โรงแรมคนหนึ่งเดินมาที่ผม “ท่านปีเตอร์ให้ผมมาเชิญคุณตินห์ไปหาที่ห้องทำงานครับ” “ตินห์..” โกเก๊ตที่ยืนอยู่แถวนั้นพอดีกระซิบกับผม “รู้ใช่ไหมว่าคุณปีเตอร์คือเจ้าของโรงแรม” “ทราบครับ” ผมตอบ..ในใจคิดสงสัยว่าจะเกิดอะไรกับผมกันแน่ ผมไม่เคยทำผิดระเบียบหรือทำตัวเป็นที่น่ารังเกียจแต่อย่างใด ผมเดินตามเจ้าหน้าที่คนนั้นผ่านห้องอาหารเดอกริลล์ ผ่านร้านค้าต่าง ๆ ของโรงแรมจนถึงลอบบี้ พนักงานที่ฟร้อนท์เคาน์เตอร์มองผมเป็นตาเดียวกัน เจ้าหน้าที่พาผมขึ้นลิฟท์ไปชั้นบนสุดของโรงแรม เข้าไปในห้อง ๆ หนึ่ง ผ่านโต๊ะเลขาสี่ห้าคน เลขาคนหนึ่งเปิดประตูเข้าไปในอีกห้อง สักครู่ออกมาพยักหน้าให้ผมเข้าไปในห้องนั้น ชายวัยกลางคน ๆ หนึ่งนั่งอยู่บนโต๊ะทำงานสีดำมะเมื่อมมองมาที่ผม ยิ้มให้อย่างเป็นมิตร “นั่งสิครับคุณตินห์” ชายคนนั้นซึ่งจะเป็นใครไม่ได้นอกจากคุณปีเตอร์เชิญให้ผมนั่ง ยังความประหลาดใจให้ผมมาก “ขอบคุณมากครับ” ผมค้อมคำนับแล้วนั่งลงอย่างประหม่า “ฮะ ๆ ไม่ต้องกลัวผมหรอก..” คุณปีเตอร์หัวเราะขำกับอาการประหม่าของผม “เริ่มกันดีกว่า” คุณปีเตอร์มีสีหน้าจริงจัง เริ่มแล้วไงไหนว่าไม่น่ากลัว แค่ท่าทางน่าเกรงขามของคุณปีเตอร์ผมก็ตัวสั่นเป็นลูกนกแล้ว ห้องที่นั่งอยู่ก็โอ่โถงสวยงามเสียจนตัวผมหดลงเหลือนิดเดียว “ก่อนอื่นอย่าหาว่าผมดูถูกคุณเลยนะอย่างน้อยคุณก็เป็นพนักงานของผมคนหนึ่ง ผมมีหน้าที่ ๆ จะต้องสอดส่องดูแลลูกน้องให้ได้รับความสุขเพราะถ้าลูกน้องมีความสุขก็จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพซึ่งนั่นก็เป็นผลประโยชน์ของโรงแรมโดยตรง..” คุณปีเตอร์อารัมภบท “ คืออย่างนี้ผมทราบว่าคุณเป็นหนุ่มต่างจังหวัดเช่าหอพักอยู่ มีฐานะปานกลาง..เอ่อ..ผมเสียดายคุณสมบัติของคุณที่มีติดตัวมาตั้งแต่เกิด ไม่ใช่ผมจะเห็นแก่สิ่งฉาบฉวยภายนอก แต่มันอาจจะเป็นประโยชน์และเป็นผลดีมากกับทุกฝ่ายถ้าคุณตินห์ดูดีมากกว่านี้” “ครับ” ผมจะพูดอะไรได้นอกจากรับคำ “อย่าคิดมากถ้าผมจะมอบเงินจำนวนหนึ่งให้ คิดเสียว่าเป็นสวัสดิการของพนักงาน เงินนี้ให้คุณตินห์ไปซื้อเครื่องแต่งกายที่ดูดีและภูมิฐานมากกว่าทุกวันนี้..” คุณปีเตอร์มองทั่วตัวผม “คุณใส่แต่เสื้อยืดกางเกงยีนส์รองเท้าผ้าใบ” “เอ่อ..” ผมก้มลงมองตัวเอง “มันจะทำให้คุณดูดีขึ้นและโรงแรมของเราก็จะดูดีขึ้นด้วย” คุณปีเตอร์ถอนหายใจเหมือนลำบากใจที่จะพูด “ต่อไปนี้จะมีรถรับคุณมาทำงานทุกวัน” ผมแทบไม่รู้ตัวว่าเดินกลับมาครัวใหญ่ได้อย่างไร..มีอะไรเกิดขึ้นกับผมแน่..ผมกลายเป็นมาสคอตของโรงแรมไปแล้วหรือ.. ทุกอย่างเหมือนความฝัน..แล้วจะเป็นอย่างไรต่อไป ! ดีจังครับ เขียนแบบสมัยใหม่
โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 14 สิงหาคม 2567 เวลา:18:30:52 น.
คล้ายการร้องเพลงเปิดหมวก
หากท่านผู้อ่านใดมีเมตตาได้โปรดใส่เหรียญ 1 บาทให้ผมเมื่ออ่านจบแต่ละตอนนะครับ เพื่อนักเขียนใส้แห้งคนนี้ครับ โสฬส แสงเดือน ธ.กสิกรไทย เลขบัญชี 737-2-10364-1 สาขาประชานิเวศน์ 1 ขอบคุณมากครับ โดย: ดาเรน (สมาชิกหมายเลข 2607062 ) วันที่: 15 สิงหาคม 2567 เวลา:6:33:31 น.
|
BlogGang Popular Award#20
สมาชิกหมายเลข 2607062
บทความทั้งหมด
|