... รักในความทรงจำ เดอะมิวสิคัล 1 ... ๐๐ .. รักในความทรงจำ..เดอะมิวสิคัล .. ๐๐ บทที่ 1 “รักในความทรงจำกำลังจะเริ่ม ขอความกรุณาปิดเครื่องมือสื่อสารทุกชนิดครับ” ม่านเวทีเริ่มเปิดออกพร้อมดนตรีบรรเลงเพลงธีมประจำละคร สปอร์ตไลท์สีม่วงฉายไปกลางเวทีด้านในเป็นดวง..ไฟเริ่มสว่างขึ้นเป็นม่วงอมชมพู น้ำเงิน และสีฟ้าก่อนจะเป็นสีธรรมชาติของแสงไฟร่างหนึ่งนั่งอยู่กลางวงไฟ..ดนตรีเชื่อมทำนองเพลง ๆ หนึ่งคุ้นหูร่างนั้นลุกขึ้นยืน..เวทีส่วนที่เขายื่นอยู่ค่อย ๆ เลื่อนมาระหว่างทางเดินของโรงละครพร้อมกับเสียงฮัมเพลง..และเสียงร้อง “รักน้องเพียงใจ จากไปหทัยระกำ อกฉันมืดดำน้ำตาพร่างพรำมิวาย ทะเลนองโลกโชคเกินท่วมเนินไศล ท้นท่วมไกลถึงพรหมพี่จมแทบตาย รักน้องชูใจให้พี่มีชีวิตมา ขอจงเมตตารักข้าอย่าพาแหนงหน่าย แม้วันจะเคลื่อนหรือเดือนจะเลื่อนลอยหาย รักแนบใจยิ่งไกลยิ่งใฝ่ชม.....” บนเวที.. นักแสดงสาวนวยนาดเข้าเสียงเพลงออกมาจากสองข้างหลืบฉาก..หันหน้ามาทางพระเอกหนุ่มด้านหน้าที่กำลังแจกยิ้มทักทายผู้ชม “พอลมโบกโศกสวนมาหวนหอม กลิ่นพะยอมรื่นเร้าเข้าผสม โหยหาอาวรณ์ให้อ่อนอารมณ์ เหมือนกลิ่นผมกลิ่นแก้มแกมเนื้อนาง รักเคล้าเคยชมคู่เคียงภิรมย์นิทรา ครั้นยามจากมาน้องเอยไม่พารักห่าง รักน้องเพียงหนึ่ง หนึ่งน้องพี่ปองไม่วาง รักน้องนางไม่จางไปจากใจ” เวทีส่วนที่พระเอกยืนร้องเพลงอยู่ค่อย ๆ เลือนเข้าไปสู่เวทีเมน พร้อมท่อนที่มีแต่เสียงดนตรีโซโล่อยู่ฉากค่อยสว่างขึ้นเผยให้เห็นด้านหลังที่มีสาวหลายคนนั่งเย็บผ้าอยู่บนจักรในห้องแถว..ด้านซ้ายมีอีก 2 ห้องแถวที่เห็นเพียงห้องครึ่งเพราะความกว้างของเวทีไม่พอ ด้านขวามืห้องเดียวเป็นห้องสุดท้ายของห้องแถว..มีถนนอยู่ด้านข้างเวที พระเอกยืนตำแหน่งหน้าจักรคันแรกสุด มือหนึ่งจับเสื้อโหลที่ทยอยเลื่อนออกมาจากจักร อีกมือหนึ่งถือกรรไกรตัดเส้นด้ายที่ติดอยู่บนเสื้อโหลนั้นทุกคนในฉากรวมทั้งสาวเย็บผ้าทั้งหลายร่วมร้องเพลงท่อนสุดท้าย..ยิ้มแย้มแจ่มใส “พอลมโบกโศกสวนมาหวนหอม กลิ่นพะยอมรื่นเร้าเข้าผสม โหยหาอาวรณ์ให้อ่อนอารมณ์ เหมือนกลิ่นผมกลิ่นแก้มแกมเนื้อนาง รักเคล้าเคยชมคู่เคียงภิรมย์นิทรา ครั้นยามจากมาน้องเอยไม่พารักห่าง รักน้องเพียงหนึ่ง หนึ่งน้องพี่ปองไม่วาง รักน้องนางไม่จางไปจากใจ” เพลงจบลง.. พระเอกหย่อนตัวลงนั่งหน้าจักรคันแรกนั้น..สาว ๆ หน้าเวทีเข้ารุมล้อมพร้อมเสียงจ๊อกแจ้ก ทำนองแซว จีบหนุ่มพระเอก..ไฟเวทีค่อยพรางดับลง จนมืดสนิท ห้าเดือนก่อน..ที่ตลาดธนบุรี สนามหลวง 2 ชายหนุ่มคนหนึ่งวาดภาพอยู่กลางถนนคนเดินมีลังไม้ใบใหญ่รองก้น ขาข้างหนึ่งยันพื้นถนน อีกข้างงอขึ้นรองรับกระดานที่มีกระดาษวาดเขียนหนาถูกงับด้วยคลิปหนีบกระดาษมือซ้ายจับกระดานไม้อัด มือขวาจับพู่กันจิ้มไปในจานสีที่วางอยู่บนลังอีกใบหนึ่ง..มีเสียงฮัมเพลงลอดออกมาจากริมฝีปากของเขา “น่าสนใจนะเด็กคนนี้..” เสียงจากกลุ่มคนดูที่แวะมอง “หน่วยก้านดี ท่าจะร้องเพลงได้” “เฮ้..เราต้องใช้คนที่มีความสามารถระดับอาชีพไม่ใช่สมัครเล่นอย่างนี้” ชายอีกคนที่ดูเหมือนมาด้วยกันพูดขึ้น “ถ้าใช้คนที่เป็นที่รู้จักดีแล้วละครของเราจะไม่เป็นธรรมชาติ คนดูมองอย่างไรก็คือดาราคนนั้น” ชายคนแรกแย้งพลางหยิบนามบัตรขึ้นมาเขียนอะไรบางอย่างลงในนั้น ............... “ติ้ง ๆๆๆ” จักรยานคันหนึ่งเลี้ยวจากถนนสำหรับจักรยานเข้าบ้าน “เอะอะอะไร?..” ชายสูงวัยนั่งทอดอารมณ์อยู่บนศาลาท่าน้ำที่ยืนลงไปในร่องน้ำของสวนมะพร้าว “ยังไม่ถึงเวลากลับบ้านของแกนี่นานายปุ่น” “พ่อครับ” หนุ่มปุ่นเสียงร้อนรน พิงจักรยานกับฝาบ้าน เสือกเป้ใส่อุปกรณ์เขียนภาพบนระเบียงบ้านแล้วตรงไปหาพ่อ “มีเรื่องอะไรมาหรือ?” นายรักพ่อของปุ่นถามด้วยความสงสัยกับอาการแปลก ๆ ของลูกชาย “มีคนแนะนำงานให้ผมทำ..” ปุ่นนั่งลงบนม้านั่งของศาลาตรงข้ามกับผู้เป็นพ่อ “แต่..ไม่แน่ใจว่าจะได้ทำหรือเปล่านะพ่อ ต้องไปออดิชั่นก่อน” “เดี๋ยวนี้เขาเรียกว่าอะไรชั่น ๆ แล้วหรือ การสอบ การสัมภาษณ์เข้าทำงานนะ” “ไม่ใช่อย่างนั้นพ่อ..แต่ก็อย่างนั้นแหละครับ” ปุ่นยิ้ม นายดอกรักมีสวนมะพร้าวอยู่ที่เขตทวีวัฒนา แม้ไม่มากนักแต่พอให้ทำมาหากินเลี้ยงลูกกำพร้าของเขาจนเติบใหญ่ได้ “อย่าไปท้อนะปุ่น ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่นเป็นความจริงเสมอ” นายรักยิ้มให้ลูกชาย “สองปีแล้วผมยังสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ แต่จะพยายามต่อไปอย่างพ่อว่าครับ” “แผนกวาดรูปอะไรที่แกอยากเข้าไปเรียนมันคงยากมากซินะถึงสอบไม่ได้สักที..วิชาอื่นอย่างที่เพื่อน ๆ เขาสอบได้ทำไมแกถึงไม่ลองไปสอบมั่ง จะเรียนอย่างที่ชอบไม่เปลี่ยนใจเลยหรือ” “ว่าจะลองสอบอีกสักครั้ง ถ้าไม่ได้จริง ๆ ก็คงต้องเปลี่ยนใจแล้วละครับ จะให้พ่อเลี้ยงจนตายคงไม่ดีแน่” “อยู่ว่างก็หางานทำไปพลาง ๆ ก่อน บางคนเรียนจบแค่มัธยมปลายเขาก็ทำงานหาเลี้ยงตัวได้นี่นะ..ว่าแต่งานอะไรหรือที่จะไปชั่น ๆ” “ยังไม่แน่ใจเลยพ่อ เขาให้ไปลองสัมภาษณ์ดูก่อนว่าจะทำอะไรได้” |
BlogGang Popular Award#20
สมาชิกหมายเลข 2607062
บทความทั้งหมด
|
หากท่านผู้อ่านใดมีเมตตาได้โปรดใส่เหรียญ 1 บาทให้ผมเมื่ออ่านจบแต่ละตอนนะครับ เพื่อนักเขียนใส้แห้งคนนี้ครับ
โสฬส แสงเดือน
ธ.กสิกรไทย เลขบัญชี 737-2-10364-1 สาขาประชานิเวศน์ 1
ขอบคุณมากครับ