ค ว า ม รั ก ดี ๆ อ ยู่ ร อ บ ตั ว เ ร า
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2553
 
25 พฤษภาคม 2553
 
All Blogs
 

รู้กันในใจ

หลายคำพูดบางครั้งอาจจะบอกเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า ใครอีกคนเป็นยังไง

แต่หลายๆครั้งการที่เราไม่ต้องพูดอะไรแค่มองตากันก็เข้าใจถึงความหมาย

ที่เรารู้กันอยู่ในใจ อีกฝ่ายหนึ่งว่ากำลังทุกข์ สุข เศร้า เสียใจ หรือมีปัญหาอะไร

ผมเองไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าผมจะโชคดีและมีคนที่เข้าใจผมขนาดนี้

เมื่อก่อนคงเป็นตัวผมเองมากกว่าที่จะคิดว่าตัวเองน่าจะรู้และเข้าใจ

ในอีกคนหนึ่งเสมอ แต่ไม่เลยผมเดาผิดเสมอ มีแค่คนเดียวที่ผมไม่ต้องเดา

และทายใจอะไร แต่รู้ รู้ทุกอย่างที่เค้าคิด และเข้าใจในสิ่งที่เค้าเป็น

คงเป็นเหตุผลเดิมๆ "คือใส่ใจ" คุณมักจะบอกเสมอว่าผมสิงร่างคุณอยู่

และผมกำลังมาทวงร่างคืน ผมเองก็แค่หัวเราะ แต่มํฯฌ)นแบบนั้นจริงๆนะ


มันดูเว่อร์ แต่ก็นั่นแหละ เวลาที่ผมเห็นแววตาคุณก็จะบอกได้เสมอ ว่าคุณรู้สึกอะไรยังไง

บางทีนะแค่คุณรับโทรศัพท์แล้วประโยคแรกของคุณ "ว่าไงครับ"

ผมเองจะรู้ได้ทันทีว่าตอนนี้คุณรู้สึกอะไรอยู่ จริงๆคุณดูไม่ยากเลยถ้าใส่ใจ

เมื่อวานผมเจอเรื่องอะไรไม่รู้มากมายจนเบลอไปเลย แต่ก็ยังดีที่มีคุณคอย

เตือนสติและช่วยคิดเสมอ จริงคุณเองจะรับฟังมากกว่า

แล้วถามผมว่าผมคิดยังไง พอผมตอบคุณเองก็ฟังความคิดของผมแล้ว

มีเหตุผลกำกับความคิดของผมอีกที คุรไม่เคยให้ผมเป็นผู้ตามเลย

คุณมักจะให้ผมเป็นผู้นำเสมอ ฟังความคิด ฟังการตัดสินใจของผมเสมอ

จริงๆผมจากจะเด็กกว่าคุณในบางเรื่อง แต่ส่วนใหญ่คุณมักจะบอกผมว่า

ผมเป็นผู้ใหญ่กว่าคุณอีก ในบางเรื่อง และมักบ่นผมเสมอว่า ทำงานเกินอายุ

อืมผมก็มานั่งคิดดูจริงเหรอ คุณบอกว่าทำงานอย่างผมอย่างน้อยอายุน่าจะ

ประมาณ 45 ขึ้นแล้วมั้ง โอ้วนั่นมากกว่าตอนนี้เป็น 10 ปีเลยนะ

เมื่อเช้าคุณยังบ่นผมอีกรอบเรื่องเอาเวลาของอนาคตมาใช้ จริงๆตัวคุณเอง

ก็ไม่ต่างจากผมเท่าไหร่ คงด้วยธุรกิจของครอบครัว และสิ่งที่คุณทำอยู่

ผมว่ามันก็เกินตัวคุณเหมือนกันนะ ผู้หญิงคนเดียวบริหารงานทั้งตึก

แล้วแบบนี้จะว่าไม่เอาเวลาของอนาคตมาใช้ได้ไง อีกอย่างประสบการณ์

ในการทำงานของเราก็ต่างกัน คุณจะมีความสามรถในเรื่องการมองคน

แต่ผมจะมองงาน มองคนไม่เก่งเลยก็ว่าได้ เพื่อนๆด่าผมประจำเลย

คำพูดคิดปากที่ได้ยินจากเพื่อนเสมอเวลาเจอใครหักหลัง

"กูเตือยมึงแล้วเห็นไม๊ ว่าหน้าแบบนี้ไว้ใจไม่ได้กูไม่ชอบ ไม่ถูกชะตา"

ได้ยินมาครั้งที่ร้อยละมั้งเนี้ยะ แต่เอาเถอะ ต่อไปนี้ผมเองไม่ต้องคิด

ต้องตัดสินใจคนเดียวแล้ว มีคนเดินข้างๆไปพร้อมกับผม

มีคนคอยถามผมเรื่องราวที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน วันอาทิตย์ที่ผ่านมาผมมีความสุขมากๆเช่นกัน

เดี๋ยวนี้นะตั้งตารอแต่วันอาทิตย์ ตย์ที่แล้วเราไปเที่ยว สวนพี่หล้า

จะบอกว่าเป็นเพื่อนรุ่นพี่ (หลายๆพี่มากๆ) ก็ว่าได้ เป็นคนที่น่ารัก

ทั้งพี่หล้า และพี่ศักดิ์ เค้ามีร้านต้นไม้ ที่ห้วยแก้ว สันกำแพง เราขับรถ

ไปเที่ยวกันคุณบอกว่าชอบเวลานั่งรถไปกับผมไกลๆ เราจับมือกันไป

ตลอดทาง คุรเดินสวนได้คล่องสะจนผมกับพี่หล้ามองหน้ากัน

คงประมาณว่าดูท่าจะไม่ค่อยลุยเท่าไร ที่ไหนได้ลุยสะ แต่ผมเองรู้อยู่แล้ว

ว่าคุณเดินได้สบาย แต่สำหรับพี่หล้าคงตกใจ เพราะหน้าตาบอบบางตัวขาวๆ

ใสๆ ขนาดนี้จะลุยอะไรได้มากมาย 5555+ ผิดละ คุณละขาลุยเลย

แต่ถ้าต้องลุยแบบลำบากลำบน ผมเองก็ไม่เอาเหมือนกัน คุณเองก็ไม่ถึง

ขนาดนั้น เพราะเวลาเราไปเที่ยวที่ไหนกัน เรื่องหนึ่งที่คุณซีเรียสมากๆ

คือที่พัก เที่ยวเหนื่อยแค่ไหน ร้อนแค่ไหนก็ได้ แต่ที่พักต้องโอเคและปลอดภัย
ก็
นะประสบการณ์มันสอนเรามาแบบนั้น นี้ก็เพิ่งเริ่มต้นอาทิตย์ได้ไม่นาน

เราสองคนก็วางแผนไปเที่ยวแม่กำปองกันวันอาทิตย์ เอาข้อมูลมาบิ้วคุณหนิงก่อนดีกว่า ว่าจะอยากไปรึเปล่า


"บ้านแม่กำปอง" หมู่บ้านเล็กๆ ท่ามกลางหุบเขา ในกิ่งอำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ ถือเป็นหมู่บ้านโอทอปแห่งหนึ่ง ที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นหมู่บ้าน OTOP Village Champion ทั้งนี้ หลักในการพิจารณา การคัดเลือกหมู่บ้าน OTOP Village Champion นั้น ก็มีหลักเกณฑ์อยู่ว่า คนในชุมชนนั้นๆ จะต้องมีส่วนร่วม ในการพัฒนาหมู่บ้าน OTOP อย่างเข้มแข็ง ต้องมีผลิตภัณฑ์ OTOP ที่โดดเด่น นอกจากนั้น ในหมู่บ้านก็ต้องมีศักยภาพ ในการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว แล้วก็จะต้องสามารถรักษาอัตลักษณ์ และเอกลักษณ์ของท้องถิ่นในหมู่บ้านชุมชนไว้ได้

ก่อนที่จะได้รับคัดเลือกให้เป็นหมู่บ้าน OTOP Village Champion หมู่บ้านแม่กำปองก็เป็นที่รู้จัก ในเรื่องของการเป็นหมู่บ้านโฮมสเตย์ ที่น่าสนใจแห่งหนึ่ง โดยหมู่บ้านนี้ ได้รับการการันตีด้วย ตราสัญลักษณ์โฮมสเตย์มาตรฐานไทย ที่นักเดินทางสามารถมั่นใจในคุณภาพ เมื่อเดินทางไปเยือนเมื่อปี พ.ศ.2547 ที่ผ่านมา

พรมมินทร์ พวงมาลา อดีตผู้ใหญ่บ้านแม่กำปอง จังหวัดเชียงใหม่ ผู้ริเริ่มจัดทำบ้านแม่กำปอง ให้เป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เล่าถึงเรื่องการจัดทำโฮมสเตย์ในหมู่บ้านให้ฟังว่า ได้เริ่มต้นทำมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2539 สมัยที่ตัวเองมาเป็นผู้ใหญ่บ้าน โดยได้มีความคิดอยากให้มี เรื่องการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เนื่องจากเห็นว่าที่หมู่บ้าน มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยว มีต้นทุนทางธรรมชาติ ทั้งอากาศ ป่าไม้ และน้ำตกที่มีความสูง 7 ชั้น จึงได้ขอความร่วมมือจากชาวบ้าน ให้ร่วมกันพัฒนาน้ำตก และบริเวณหมู่บ้านให้สะอาด และจัดทำเป็นโฮมสเตย์ขึ้น จนมาถึงปัจจุบัน ก็มีบ้านที่เข้าร่วมโครงการโฮมสเตย์ 10 หลังคาเรือน และสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ประมาณ 50-60 คน ด้วยกัน

ด้วยสภาพภูมิประเทศของหมู่บ้านแม่กำปอง ที่ตั้งอยู่ในหุบเขา ท่ามกลางภูเขาล้อมรอบแทบทั้งสี่ด้าน ทำให้หมู่บ้านแม่กำปองมีอากาศเย็นสบาย ค่อนข้างหนาวในฤดูหนาว และมีทัศนียภาพที่สวยงาม ชาวบ้านอยู่กันแบบเรียบง่าย บ้านเรือนส่วนใหญ่เป็นบ้านไม้สะอาดเรียบร้อย จัดที่หลับที่นอนให้แก่ผู้มาเยือน ได้พักผ่อนอย่างสบาย แต่ก็ไม่ทิ้งวิถีชีวิตของชาวบ้าน เป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยว ที่แนะนำกันแบบปากต่อปาก

กิจกรรมในชุมชนบ้านแม่กำปอง ที่นักท่องเที่ยวจะได้มีส่วนร่วมนั้น ก็น่าสนใจเช่นกัน โดยจะมีทั้งการท่องเที่ยว ดูวิถีชีวิตของชุมชน ดูการเก็บใบชา ใบเมี่ยง การทำเมี่ยง การทำสมุนไพร การปลูกกาแฟ ซึ่งเป็นอาชีพหลักของชาวบ้าน และหากนักท่องเที่ยวอยากจะชมการแสดงฟ้อน หรือการแสดงดนตรีพื้นเมือง ก็สามารถทำได้เช่นกัน รวมทั้งในตอนเช้า ก็จะมีการทำบุญตักบาตร ร่วมกับเจ้าของบ้านอีกด้วย

ทางด้านแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ภายในหมู่บ้านก็ยังมี "น้ำตกแม่กำปอง" ซึ่งมีสายน้ำไหลตลอดทั้งปี มีความสูง 7 ชั้นด้วยกัน บนชั้นที่ 7 มีแอ่งน้ำสามารถลงเล่นน้ำได้ นอกจากนั้น ก็ยังมีเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติ ทั้งระยะใกล้และไกล โดยระยะไกลนั้นจะสามารถเดินขึ้นถึง "ดอยม่อนล้าน" ยอดเขาที่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,700 เมตร ในวันที่อากาศดี จะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้ทั้ง 3 จังหวัด คือ เชียงใหม่ ลำพูน และลำปาง

นอกจากนั้น บนยอดดอยม่อนล้านก็ยังมีสวนสน สวนสมเด็จย่า และลานของศูนย์พิทักษ์ป่า ซึ่งสามารถกางเต็นท์พักแรม ชมบรรยากาศบนยอดดอยได้ และที่น่าสนใจก็คือ ในช่วงฤดูหนาวประมาณ เดือนธันวาคมถึงเดือนมกราคม ต้นพญาเสือโคร่งหรือต้นซากุระเมืองไทย ก็จะออกดอกสีชมพูบานสะพรั่งสวยงามมากทีเดียว


และในเรื่องของสินค้าโอทอปนั้น หากผู้ที่ได้มาพักที่โฮมสเตย์ หรือได้มาเที่ยวที่บ้านแม่กำปอง ก็อย่าลืมซื้อของฝากอย่าง "หมอนใบชา" ติดไม้ติดมือกลับไปฝากคนทางบ้านด้วย ซึ่งหมอนใบชานี้ ก็เป็นสินค้าโอทอปขึ้นชื่อ เป็นผลิตภัณฑ์จากภูมิปัญญา ของกลุ่มแม่บ้านที่นำเอาใบชาแก่ ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์มาตากแดดให้แห้ง จากนั้นจึงนำมาอบแห้งอีกครั้ง เพื่อไล่ความชื้น และนำมาเย็บใส่เป็นไส้หมอนในรูปแบบต่างๆ ทั้งหมอนอิงหลากหลายขนาด หมอนข้าง หมอนรองคอ รวมทั้งนำมาเย็บเป็นถุงดับกลิ่นอับชื้น ในรถหรือในตู้เสื้อผ้า โดยลักษณะเด่นของหมอนใบชา ก็คือจะมีกลิ่นหอม ช่วยให้รู้สึกสดชื่น ผ่อนคลาย ทั้งยังทำให้หลับสบายอีกด้วย ใครที่ชอบชา รวมทั้งนิยมกลิ่นชาหอมๆ น่าจะถูกใจผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้

พรมมินทร์ ยังได้กล่าวถึงความเป็นไปในหมู่บ้านว่า วิถีชุมชนของชาวบ้าน ก็เรียกได้ว่าอยู่อย่างพอเพียง ปลูกผลผลิตทางการเกษตรกินกันเอง เพราะหมู่บ้านอยู่ในหุบเขา ค่อนข้างห่างไกลจากตลาด และภายในชุมชน ก็มีการช่วยเหลือเกื้อกูลกันแบบพี่น้อง มีน้ำใจไมตรีให้กัน



้วยเหตุนี้ ทั้งความน่าสนใจในวิถีชีวิตความเป็นอยู่ รวมทั้งสินค้าโอทอป ที่มีคุณภาพและมีเอกลักษณ์ ทำให้หมู่บ้านโฮมสเตย์แม่กำปอง ได้รับคัดเลือกให้เป็น หมู่บ้านหัตถกรรมเพื่อการท่องเที่ยว ซึ่งมีความโดดเด่นทั้งในเรื่องของวิถีชีวิต และผลิตภัณฑ์จากภูมิปัญญา ที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง

รายละเอียดเกี่ยวกับโฮมสเตย์บ้านแม่กำปอง

ที่ตั้ง : หมู่ที่ 3 ตำบลห้วยแก้ว กิ่งอำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่

ค่าใช้จ่ายในการพักโฮมสเตย์
- 2 วัน 1 คืน อาหาร 3 มื้อ ราคา 550 บาท/คน
- 3 วัน 2 คืน อาหาร 6 มื้อ ราคา 900 บาท/คน
หลังจากนี้ คิดรายวัน อาหาร 3 มื้อ วันละ 350 บาท

รวมทั้งมีบ้านพักให้เช่าเป็นหมู่คณะ ตั้งแต่ 100-1,200 บาท หากต้องการนอนเต็นท์ ค่าเช่าเต็นท์ราคา 150-200 บาท ถ้านำเต็นท์มาเอง คิดค่าบำรุงสถานที่ 50 บาท/คน

การเดินทาง :
รถยนต์ส่วนตัว สามารถใช้เส้นทางเชียงใหม่-สันกำแพง ทางหลวงหมายเลข 1317 ขับออกจากตัวเมืองด้านน้ำพุร้อนสันกำแพงประมาณ 50 ก.ม. ขับตรงมาจนถึงกิ่งอำเภอแม่ออน รวมระยะทางจากสามแยกทางเข้าน้ำพุร้อนสันกำแพงมาถึงหมู่บ้านแม่กำปอง 18 ก.ม.



สอบถามรายละเีอียดเพิ่มเติมได้ที่
- หมู่บ้านแม่กำปอง โทร. 053-315111, 08-9559-4797
- อบต.ห้วยแก้ว (บ้านแม่กำปอง) 053-939409



//www.mae-kampong.com/






P.s ไปด้วยกันนะครับ




 

Create Date : 25 พฤษภาคม 2553
1 comments
Last Update : 25 พฤษภาคม 2553 10:22:14 น.
Counter : 919 Pageviews.

 

 

โดย: หาแฟนตัวเป็นเกลียว 25 พฤษภาคม 2553 22:08:34 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


wingang
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Life is always the default.
Facebook
Friends' blogs
[Add wingang's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.