|
รักที่จะรัก
ชีวิตคู่หลายๆคนมองว่าการที่คนสองคนใช้เวลาศึกษาดูใจกันในระยะเวลา
หนึ่งมันเพียงพอแล้วที่จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ผมไม่บอกว่ามันผิดหรือถูกหรอก
นะครับ เพราะแล้วแต่มุมมองของแต่ละคน ผมว่าการศึกษาดูใจกันฐานะแฟน
มันก็มีข้อดีอยู่เหมือนกันนะครับเพราะอย่างน้อยเราก็ได้เห็นเค้าในมุมหลายๆ
มุมไม่ว่าเสียสละ หรือว่าเห็นอะไรสำคัญที่สุด และที่สำคัญอีกอย่างคือหน้าที่
ของแฟนเค้าทำได้ดีหรือเปล่าดูแลเราได้ดีมั้ย แล้วตัวเราใส่ใจเค้าแค่ไหน
พร้อมไหมที่จะต้องอยู่ร่วมกับคนๆนี้ไปตลอดชีวิต มันใช่แค่ 5-10 แต่มัน
หมายถึงตลอดไป เราจะทนนิสัยแย่ๆของเค้าได้แค่ไหน เพราะถ้าเราต้อง
ทน บอกได้เลยว่า อย่าไปต่อ เพราะมันจะหมดความอดทนเข้าสักวันหนึ่ง
และถ้าคุณบอกว่าคุณต้องพยายามบอกได้เลยว่า มันจะหมดความพยามเข้า
สักวันเพราะมันไม่ได้เป็นตัวคุณ คนเราหนึ่งคนกว่าจะโตมาขนาดนี้มันสะสม
นิสัยหลายๆอย่างจนกลายเป็นตัวเราถึงแม่ว่าเรารักเค้ามากแค่ไหน พยายาม
ที่เปลี่ยนตัวเองเพื่อใคร สุดท้ายเราเองก็ต้องฝืนและทน และถ้ามีโอกาศก็
อยากที่จะทำเหมือนเดิมเป็นตัวเองในแบบที่ไม่ต้องมาคอยระวังกลัวเค้าไม่
ชอบ กลัวเค้าโกรธ และกลัวเค้าบอกเลิก ผมว่ามันทรมานทั้งสองฝ่าย สู้เป็น
ตัวของตัวเองดีกว่าครับ เพราะถ้าเค้ารับได้แน่นอนมันจะไม่มีปัญหาใน
อนาคตแต่ถ้าเค้ารับไม่ได้ให้เราปรับและเปลี่ยนเพื่อเค้า มันยากครับ สุดท้าย
ก็จะกลับไปเป็นเหมือนเดิมเพราะมันคือนิสัย คนสองคนคิดจะใช้ชีวิตอยู่ร่วม
กันยังไงมันก็ต้องปรับตัวเป็นธรรมดา อย่าคิดเองว่าเค้าไม่ว่าอะไร หรือคิด
เองว่าเค้าจะรู้สึกแบบนั้นแบบนี้ ทางที่ดีคุยกันตรงพูดให้เข้าใจกันจะดีกว่า
ผมกับคุณหนิงไม่เคยทะเลาะกันเพราะเรื่องของเราสองคนหรอกครับส่วน
ใหญ่ที่งอนกัน(ไม่บ่อยแต่ก็มีบ้าง) เรื่องคนอื่นทั้งนั้น แต่ไม่เคยโกรธกันเกิน
1 ชั่วโมงหรอกครับ เสียดายเวลาที่อยู่ด้วยกันมากกว่า เราทั้งคู่คิดแบบนี้
เหมือนกันทั้งคู่ ป๊าผมเคยสอนไว้ว่า "คิดทุกคำที่จะพูด แต่อย่าพูดทุกคำที่
คิด" ผมว่ามันคือเรื่องจริงเลยครับ ก่อนที่จะพูดอะไรคิดดีๆก่อนว่าเรารับผิด
ชอบกับคำพูดเราไหวรึเปล่า ถ้าไม่อย่าดีกว่า เพราะมันจะทำให้คนๆนั้นไม่
เหลือศรัทธาในตัวเราอีกเลย โชคดีของผมและคุณหนิงที่เราไม่เคยเสียงดัง
ใส่กัน และเราทั้งคู่ก็ไม่มีวันทำด้วย ผมเห็นหลายคู่พอทะเลาะกันขุดเอาเรื่อง
เก่าเรื่องหลังมารวมด้วยแบบนี้ไม่ดีนะครับบั่นทอนกันเปล่า ผมจำได้สมัย
เรียนผมต้องเข้าโบส์ถตอนเช้า วันหนึ่งบาทหลวงพูดเรื่องความรัก
ปกติก็ไม่ค่อยจะสนใจฟังเท่าไหร่หรอกครับเด็กๆก็งี้
เข้าโสถตอนเช้าดีใจเพราะไม่ต้องเรียนแต่วันนั้นผมตั้งใจฟังเป็นพิเศษเลย
ทำให้ผมจำได้ทุกวันนี้
ความรักย่อมอดทนนาน และกระทำคุณให้
ความรักไม่อิจฉา ไม่อวดตัว ไม่หยิ่งผยอง ไม่หยาบคาย ไม่คิดเห็นแก่ตนเองฝ่ายเดียว
ไม่ฉุนเฉียว ไม่ช่างจดจำความผิด ไม่ชื่นชมยินดีในการประพฤติผิด
แต่ชื่นชมยินดีในความประพฤติชอบ
ความรักให้ทนได้ทุกอย่าง แม้ความผิดของคนอื่น
และเชื่อในส่วนดีของเขาอยู่เสมอ และมีความหวังอยู่เสมอ
และทนต่อทุกอย่าง ความรักไม่มีวันสิ้นสุด
ผมจำได้แม่นเลย และคิดว่าใครทำได้แบบนี้แสดงว่าคุณรู้จักความรัก
และรู้จักที่จะใช้ความรักของคุณให้มีความสุขแล้วละครับ
ความรักมีหลายแบบหลายอย่าง ถ้าตัวเรารู้จักที่จะรักและรักที่จะรักแล้ว
คำว่าเสียใจไม่มีแน่ๆครับ
ความรักของพ่อแม่ รักที่พ่อแม่มีให้กับลูกเป็นความรักที่ไม่มีวันหมด
ความรักต่อบุพการี รักที่ลูกควรมีต่อพ่อแม่และไม่มีวันหมดเช่นกันครับ
ความรักพี่น้อง เมื่อเค้าคือน้องคือญาติความห่วงใยที่มีให้กันนั่นคือความรักอย่างอย่างหนึ่งครับ
ความรักต่อเพศตรงข้าม เป็นเรื่องปกติในสังคม คนเราเกิดมาต้องมีคู่ครับ ผมคิดอย่างนั้นนะ ไม่ว่าจะคู่กับอะไรก็ตามเราจะหาคู่ของเราจนเจอครับ
ความรักของเพื่อน การมีเพื่อนที่ดีและเพื่อนแท้ ความรักแบบนี้เราควรรักษาไว้ ความรักสถาบัน รักพระมหากษัตริย์ ศาสนา ที่สำคัญประเทศของเรารักกันไว้ดีกว่าจะสีไหนก็คนไทยเหมือนกันนะครับ (ขาเอาขาเกี่ยวมาหน่อยแล้วกันครับ)
ความรักในสิ่งของความชอบ รักรถยนต์ รักหนังสือ รักมอเตอร์ไซค์ รักดนตรี ฯลฯ
ความรักต่อตนเอง - รักที่จะรักในความรักของตัวเองและซื่อสัตย์กับทุกความรักที่ได้พูดคำว่ารักออกไป
แค่นี้ก็มีความรักดีๆอยู่รอบตัวเราแล้วละครับ
P.s ผมรักที่จะรักและรักและรักษาความรักอย่างเข้าใจ
P.s 2 ผมขอสัญญาต่อหน้าบล๊อคว่าผมจะรักและซื่อสัตย์ในความรักที่มีให้คุณหนิงสม่ำเสมอและทุกๆวันครับ
Create Date : 14 กันยายน 2553 |
Last Update : 14 กันยายน 2553 18:51:20 น. |
|
1 comments
|
Counter : 576 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: gripenator วันที่: 14 กันยายน 2553 เวลา:21:05:25 น. |
|
|
|
|
|
|
|