เจ้าปุย
เวลาเดินทาง มีสิ่งหนึ่งที่ฉันชอบทำนอกเหนือไปจากการเก็บภาพ คือไปหาลูกหมา,ลูกแมว มาเล่น ซึ่งก็มีทั้งตัวที่เต็มใจและบางตัวที่ไม่ให้จับ ตอนที่คุยเล่นก็ใช้ภาษาไทยนี่แหละ...ไม่รู้มันจะเข้าใจไหม แต่ถึงจะสปีคอิงลิช ไปก็อาจมีแค่เท่ากัน
มาพูดถึง "เจ้าปุย" ที่เคยเล่าไว้ตอนไป อินเดียครั้งแรกถ้าเคยผ่านไปอ่านเจอ มันคือเจ้าหมาขนฟู ที่เจอหลังวัดมานู เมืองมะนาลี วันสุดท้าย
เสียดายนะ ทริปครั้งที่สองนี้ฉันได้กลับมามะนาลีอีกครั้ง แต่ก็เพื่อแค่มาต่อรถในยามเช้า ซึ่งกว่าจะเดินทางมาถึงที่นี่ก็เย็นมากแล้ว เลยไม่ได้มีโอกาสไปโต๋เต๋แถวย่านมะนาลีเก่าอีก
แต่หลังจากเดินทางต่อไปถึงเมืองที่หมาย ยังเมือง Kaza ในเขตการปกครอง Spiti....ยามเช้าของอีกวันที่จะต้อง ไปรอทำใบอนุญาตขอเข้าพื้นที่เขตด้านใน ระหว่างที่เดินไปยังสำนักงานฯ นั้น เรื่องของ "ปุย" ก็หวนกลับเข้ามาอีกครั้ง
มันเป็นหมาที่ขนยาวแต่ไม่ปุกปุยเหมือนกับตัวแรกที่เอ่ยถึง ฉันมาเจอตอนที่มันกำลังนอนอาบแดดอยู่ที่มุมทางผ่านนี้พอดี แต่ถึงอย่างนั้น ฉันยังอยากเรียกมันว่า ปุย เหมือนกัน (สิ้นคิด จริงๆ)
ปุย ตัวนี้เป็นตัวเมีย ภาษาฮินดี ก็จะเรียกว่า "กุตตี้" ต่างจาก เจ้าปุย ตัวแรก ที่เป็นตัวผู้ ก็จะเรียกว่า "กุตต้า"
ซึ่งมันแปลว่า หมา เหมือนกันแต่ต่างตรงที่มีใช้คำแยกเพื่อระบุเพศ ฉันยกกล้องมาถ่ายรูป กุตตี้ ที่อยู่กลางหุบเขาสปิติ เป็นที่ระลึก แต่หลังจากนั้น ปุย มันก็เดินตามฉันตลอด
ฉันไม่รู้หรอกว่ามันตามมาทำไม เพราะไม่มีแต่ขนม หรือของกินไว้ดึงดูดสักหน่อย
กว่า 10 โมงเช้า โน่นแน่ะ ที่ทำการฯ ถึงจะเปิดให้บริการ ฉันเลยมาหาที่นั่งหลบแดดอยู่มุมหนึ่ง แต่แอบหนาวเพราะลมโกรก คนหนึ่งคน กับ หมาหนึ่งตัว
พอได้เวลาสำนักงานฯ เปิด ฉันก็เดินขึ้นไปบนชั้นสองของตัวอาคาร ระหว่างที่นั่งรอเจ้าหน้าที่ในห้องติดต่อครู่ใหญ่ ปุยมันก็อุตส่าห์เดินขึ้นไปหา ฉันตกใจที่มันเห็นมันเดินผ่านหน้าห้องไป แล้วกลับมาโผล่จ๊ะเอ๋ ที่ห้องที่ตัวเองนั่งอยู่โชคดีที่เจ้าหน้าที่ยังไม่มา เลยทำเสียง ชู่ ๆ ไล่ให้ไป ถัดจากนั้น ธุระของฉันก็ยังไม่เรียบร้อยดีเพราะขาดสำเนาวีซ่า ก็เลยจึงต้องลงมาหาร้าน Xerox แถวนั้น ปุย ยังรออยู่ด้านล่างและมันก็ยังเดินตามฉันอยู่เหมือนเดิม
เคยไหม?
อยู่ ๆ ก็ ไม่รู้จะหาทางออกยังไง ไม่ให้หมามันเสียใจ ที่ต้องแยกทางหนีไป ทั้งที่มันตามติดต้อย ๆ ขนาดนี้
แต่ก่อนที่จะหาวิธีได้นั้น ปุยมันก็เลือกที่จะหยุดเอง มันหยุดยืนครู่หนึ่ง ก่อนที่ฉันจะเดินเลี้ยวไปอีกทาง ที่รู้เพราะจะหันมามองมันเสมอว่ายังเดินตามอยู่หรือปล่าว
"ไปต่อไหม?"
ฉันก็ถามมันด้วยภาษาไทยนั่นแหละ
ครั้งนี้ ปุยมันยืนมองอยู่พักหนึ่งแล้วมันก็หันกลับ วิ่งหายไปอีกทางและไม่ตามมาอีกแล้ว
ประมาณปลายเดือนตุลาคมปีก่อน หลังจากฉันออกมาจากที่นั่น ถัดไปเพียงสองสัปดาห์หิมะแรกของปีก็ตก อุณหภูมิหลังจากนั้นจะลดต่ำลงไปอีก และจะหนาวนานไปถึงเดือนเมษายน
ปุย กับ แก็งลูกหมา ตัวอื่น ๆ จะเป็นยังไงกัน เพราะพวกมันไม่มีเจ้าของ และคงต้องลุยหิมะอยู่ข้างนอก อยากให้มันมีที่อุ่น ๆ นอน แล้วก็เจอคนให้อาหารบ่อย ๆ แม้จะรู้ดีว่า ในบางครั้งพวกมันก็อาจมีโอกาสไม่รอดมากกว่า เวลาก็ผ่านเลยไปจนถึงวันนี้ อากาศที่นั่นคงเริ่มอุ่นขึ้นบ้างแล้ว หวังว่าพวกมันจะยังคงวิ่งเล่นแถวนั้นอยู่
พูดแล้วก็คิดถึงแกจัง
Create Date : 09 กรกฎาคม 2558 |
|
21 comments |
Last Update : 21 ธันวาคม 2560 14:35:50 น. |
Counter : 897 Pageviews. |
|
 |
|
เขาก็คงดีใจที่ได้มีเพื่อนใหม่
เขาก็คงรู้ว่าอาณาเขตที่เขารู้จัก หรือที่ฟ้าแห่งนี้คือบ้านเขา นั้นแค่ไหน
เขาก็คงยังคิดถึงเพื่อนใหม่ค่ะ
ปล. จากบล็อก
แล้วจะรอฉันไหม อิอิ ....
มีรออยู่หลายคนมั้ง ... ถามคนไหนจ๊ะ
โหวตจ้า