อ่านเรื่อยๆ มาเรียง ๆ ทุกวันของ หนี่งหน่อง นะครับ
โอตานิ โยชิซึกุ ซามูไรป่วยโรคเรื้อน ขุนพลคู่ใจ “โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ”

(ซ้าย) โอตานิ โยชิซึกุ แม่ทัพที่ป่วยด้วยโรคเรื้อน (ขวา) โอโนะ ฮารุโนบุ ตัวละครในซีรีส์ FX's Shōgun (2024) 

“ยุคเซ็นโกคุ” ของญี่ปุ่น ที่เหล่าไดเมียวต่างแย่งชิงกันเป็นใหญ่ คนที่มีบทบาทโดดเด่นก็คือ โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ ผู้มีส่วนทำให้ญี่ปุ่นเป็นปึกแผ่น สานต่อสิ่งที่ โอดะ โนบุนากะ สร้างไว้ ฮิเดโยชิมีแม่ทัพคู่ใจคนหนึ่งคือ โอตานิ โยชิซึกุ ซามูไรที่ป่วยด้วยโรคเรื้อน แต่มากความสามารถทางการรบ ซึ่งต่อมาจะร่วมใน “ยุทธการเซกิงาฮาระ” การศึกครั้งใหญ่ที่จะพลิกโฉมหน้าญี่ปุ่นไปตลอดกาล

ถ้าใครดูซีรีส์ FX’s Shōgun (2024) ตัวละคร โอโนะ ฮารุโนบุ หนึ่งในคณะ 5 อุปราช ที่ป่วยด้วยโรคเรื้อน ต้องมีผ้าปิดใบหน้า มีฉากบังตาเวลาพบปะสมาคมกับผู้อื่น มีเค้าโครงมาจากโยชิซึกุนั่นเอง 

โอตานิ โยชิซึกุ (Ōtani Yoshitsugu) เกิดเมื่อ ค.ศ. 1565 บ้างก็ว่า ค.ศ. 1558 คลุกคลีกับชีวิตการรบทัพจับศึกตั้งแต่วัยเยาว์ เมื่อโตขึ้นเขาได้เป็น “โคโช” คือซามูไรหนุ่มที่ดูแลความปลอดภัยให้ โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ (Toyotomi Hideyoshi, ค.ศ. 1536/1537-1598) ส่วนมารดาของโยชิซึกุเป็นผู้รับใช้ปรนนิบัติ ท่านหญิงเนเนะ ภริยาของฮิเดโยชิ

โยชิซึกุ ผู้มีบทบาทสร้างความมั่งคั่งให้เมืองซึรุงะ (Tsuruga) สนิทกับ อิชิดะ มิตสึนาริ (Ishida Mitsunari, ค.ศ. 1563-1600) ขุนพลระดับวงในอีกคนหนึ่งของฮิเดโยชิ ทั้งสองมีมิตรภาพที่เหนียวแน่นต่อกันอย่างมาก ออกรบเคียงบ่าเคียงไหล่กันอยู่เสมอ ครั้งสำคัญเช่นคราวที่ฮิเดโยชิสั่งบุกคาบสมุทรเกาหลี ทั้งสองก็นำกำลังพลไปลุยศึกครั้งนั้นด้วยกัน

สันนิษฐานว่า โยชิซึกุเริ่มป่วยด้วยโรคเรื้อนกลางทศวรรษที่ 1580 แต่ก็ไม่มีหลักฐานบันทึกรายละเอียดการเจ็บป่วยของเขานัก 
ยุคนั้นที่ความรู้ความเข้าใจทางการแพทย์เรื่องโรคเรื้อนแทบจะไม่มี ใครที่ป่วยด้วยโรคนี้จึงมักเป็นที่รังเกียจของครอบครัวและชาวบ้าน ต้องปลีกตัวออกห่างจากสังคม (จีนในศตวรรษที่ 14 กล่าวถึงโรคเรื้อนว่า เป็นโรคที่สวรรค์ลงทัณฑ์ สะท้อนความคิดและความเชื่อที่มีต่อโรคนี้ได้ทางหนึ่ง) 
                                          

ตั้งแต่กลางคริสต์ศตวรรษที่ 16 มีนักบวชชาวโปรตุเกสเข้ามาเผยแผ่ศาสนาคริสต์ในแผ่นดินญี่ปุ่น นักบวชเหล่านี้ไม่ตั้งแง่กับผู้ป่วยโรคเรื้อน หรือผู้ที่สังคมรังเกียจ โยชิซึกุจึงเข้ารีตนับถือศาสนาคริสต์

ด้วยอาการของโรคเรื้อนที่ส่งผลทางกายภาพ ผิวหนังมีหนอง ทำให้โยชิซึกุต้องปิดบังใบหน้าด้วยผ้าสีขาว และแต่งตัวอย่างมิดชิด 
มีเรื่องเล่ากันว่า เหตุหนึ่งที่ทำให้โยชิซึกุสนิทกับมิตสึนาริอย่างมาก เพราะครั้งหนึ่งในพิธีชงชาที่ต้องส่งถ้วยชาให้ดื่มต่อๆ กันไป ระหว่างที่โยชิซึกุดื่มชา หนองจากแผลบนใบหน้าได้หยดลงไปในถ้วยชาในจังหวะเดียวกับที่เขาส่งต่อถ้วยใบนั้นให้คนถัดไปพอดี ผู้ที่รับถ้วยไปดื่มต่อต่างแสดงอาการผะอืดผะอม แต่มิตสึนาริซึ่งเป็นคนสุดท้ายกลับนิ่งเฉย ไม่แสดงอาการรังเกียจเดียดฉันท์ และดื่มชาในถ้วยจนหมด 
                    พิธีชงชานี้เอง กลายเป็นเรื่อง “ซื้อใจ” ที่โยชิซึกุไม่มีวันลืมเลือน 

หลังจากฮิเดโยชิสิ้นชีวิต โยชิซึกุและมิตสึนาริยังคงจงรักภักดีกับเชื้อสายของนายเก่าอย่างไม่เสื่อมคลาย เมื่อรู้ว่า โทกุงาวะ อิเอยาสุ (Tokugawa Ieyasu, ค.ศ. 1543-1616) ขุนพลฝีมือฉกาจอีกคนของฮิเดโยชิ ต้องการขึ้นสู่อำนาจ แทนที่ โทโยโทมิ ฮิเดโยริ (Toyotomi Hideyori) บุตรของฮิเดโยชิ ซึ่งขณะนั้นอยู่ในวัย 5 ขวบ สองเพื่อนรักจึงผนึกกำลังกันขัดขวางเต็มที่

ใน “ยุทธการเซกิงาฮาระ” (Battle of Sekigahara) บนเกาะฮอนชู วันที่ 21 ตุลาคม ปี 1600 มิตสึนารินำกำลังพลกองทัพตะวันตก ประจันหน้ากับอิเอยาสุ ผู้นำกองทัพตะวันออก ที่ “เซกิงาฮาระ” หมู่บ้านที่มีภูมิประเทศเป็นภูเขา

โยชิซึกุ ที่ขณะนั้นสุขภาพย่ำแย่ ตาเกือบมองไม่เห็น เป็นผลจากโรคเรื้อน แต่ด้วยความเป็นชาตินักรบซามูไร เขาจึงยืนหยัดคุมทัพอยู่ทางทิศใต้ของกองทัพฝ่ายตะวันตก ส่วน โคบายากาวะ ฮิเดอากิ (Kobayakawa Hideaki) คุมกำลังอยู่บนเขามัตสุโอะ 
อย่างไรก็ตาม ท้ายสุดฮิเดอากิแปรพักตร์ไปอยู่ฝ่ายอิเอยาสุ ประกอบกับมิตสึนาริไม่ได้รับการยอมรับจากแม่ทัพคนอื่นๆ มากพอ ทำให้การศึกที่ฝ่ายกองทัพตะวันตกดูจะได้เปรียบ ต้องกลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบและพ่ายแพ้ในที่สุด 
หลังอิเอยาสุได้ชัยชนะใน “ยุทธการเซกิงาฮาระ” ปี 1600 โอตานิ โยชิซึกุ ก็ได้ปลิดชีวิตตัวเองลงในปีนั้น 
หมายเหตุ : หลังจากญี่ปุ่นกวาดล้างชาวคริสต์ในคริสต์ศตวรรษที่ 17 ทำให้ในปี 1644 ชาวญี่ปุ่นที่ป่วยด้วยโรคเรื้อนที่นับถือศาสนาคริสต์ ออกเดินทางไปยังกรุงมะนิลาของฟิลิปปินส์ อาณานิคมของจักรวรรดิสเปน เพื่อรักษาตัวในโรงพยาบาลซาน ลาซาโร 
                                                                         อ้างอิง :  

International Leprosy Association. https://leprosyhistory.org/timeline/list.php?page=2. Accessed 24 March 2024.

“Otani Yoshitsugu: Owner of Tsuruga Catsle”. https://tsuruga-yama-museum.jp/english/ootani-yoshitsugu/. ccessed 24 March 2024.

Hudson, Myles. “Battle of Sekigahara”. Encyclopedia Britannica, 14 Oct. 2023, https://www.britannica.com/event/Battle-of-Sekigahara. Accessed 24 March 2024.

“Ohno”. https://www.fxnetworks.com/shows/shogun/viewers-guide/additional-characters#harunobu. Accessed 24 March 2024.




Create Date : 25 มีนาคม 2567
Last Update : 25 มีนาคม 2567 12:04:08 น. 0 comments
Counter : 33 Pageviews.
(โหวต blog นี้) 

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หนี่งหน่อง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]




pub-1485477287124314
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2567
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
25 มีนาคม 2567
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add หนี่งหน่อง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.