รีวิว Gyeongseong Creature ซีรีส์เกาหลีที่บอกเล่าความโหดร้ายของสงคราม
รีวิว Gyeongseong Creature ซีรีส์เกาหลีที่บอกเล่าความโหดร้ายของสงคราม Gyeongseong Creature (경성크리처, สัตว์สยองกยองซอง) ซีรีส์แนว Drama Horror Action สัญชาติเกาหลีใต้ที่หยิบเอาเรื่องราวความโหดร้ายของหน่วย 731 แห่งกองทัพญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 มาเป็นไอเดียในการเล่าเรื่อง - เขียนบทโดย Kang Eun-kyung
- กำกับโดย Chung Dong-yoon และ Roh Young-sub
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Netflix เล่าเรื่องราวในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 1945 ในยุคที่ประเทศเกาหลีได้ตกเป็นอาณานิคมภายใต้การปกครองของจักรวรรดิญี่ปุ่น ประชาชนชาวโชซอนต่างถูกกดขี่ข่มเหงและถูกจับกุมตัวไปขังอย่างไร้ปรานี โดยมีนักโทษจำนวนหนึ่งถูกส่งไปขังยังคุกใต้ดินที่อยู่ภายในโรงพยาบาลลองซอง เมืองกยองซอง (ชื่อเดิมของกรุงโซลในปัจจุบัน) ซึ่งถูกใช้เป็นสถานที่ในการทำการทดลองของหน่วย 731 ที่นำโดย พลโทคาโต้ อิชิอิ จางแทซัง เจ้าของ “คลังสมบัติทอง” โรงรับจำนำชื่อดังและเป็นผู้ที่มีเส้นสายอยู่มากมายทั่วเมืองกยองซอง ทั้งจากสายข่าวชาวโชซอนเองรวมถึงข้าราชการฝ่ายญี่ปุ่นอีกด้วย วันหนึ่งเขาได้รับคำสั่งจาก ผู้การอิชิคาว่า ผู้บัญชาการตำรวจญี่ปุ่นที่คุมกรมตำรวจในเมืองกยองซอง ให้ตามหาตัว มยองจา เมียน้อยที่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย โดยมีเงื่อนไขว่าก่อนวันที่ดอกซากุระจะโรยทั้งหมด เขาต้องพาตัว มยองจา กลับมาให้ได้ ไม่อย่างนั้นทรัพย์สินของเขาจะถูกยึดไว้ทั้งหมด รวมถึงการปิด “คลังสมบัติทอง” ด้วย ในระหว่างนั้น จางแทซัง ก็ได้พบกับ ยุนจุงวอน และ ยุนแชอ๊ก 2 พ่อลูกนักแกะรอยที่เดินทางมายังเมืองกยองซองเพื่อตามหา เซซิน (ภรรยาและคุณแม่) ที่หายตัวไปตั้งแต่เมื่อ 10 ปีก่อน พวกเขาทั้ง 3 คนจึงต้องร่วมมือกันเพื่ออาศัยความสามารถของแต่ละฝ่ายเพื่อช่วยในการค้นหาเป้าหมายของตัวเองให้สำเร็จ และทุกเบาะแสก็ชี้เป้าไปยังโรงพยาบาลลองซองที่ดูแลโดย ผอ.อิชิโร่ พวกเขาจึงต้องแอบลอบเข้าไปในโรงพยาบาลแห่งนี้ จนได้พบกับความโหดร้ายป่าเถื่อนที่เกินกว่าจะเชื่อได้ว่านี่คือสิ่งที่มนุษย์จะกระทำกับมนุษย์ได้
ความรู้สึกหลังดูจบ เปิดเรื่องมา 8 นาทีแรกได้อย่างน่าสนใจมากฮะ แต่หลังจากนั้นตัวหนังก็เดินเรื่องไปแบบเรื่อยๆ เนิบๆ บทพูดเยอะ และมีความเวิ่นเว้ออยู่พอสมควร จนแทบจะนึกว่าเป็นหนังคนละเรื่องกันเลย ซึ่งกว่าจะเริ่มกลับมาสนุกได้ก็เข้าช่วง EP3 แล้ว แต่ยังไงก็ตาม ตัวหนังก็ไม่ได้ถึงขั้นแย่หรือเลวร้ายเลยนะฮะ คือพลอตเรื่องมีความสนุกเลยล่ะ โดยเฉพาะกับการนำเสนอประเด็นการต่อสู้เพื่ออิสรภาพของคนโชซอนที่ถูกกดขี่ข่มเหง รวมถึงเรื่องราวความโหดร้ายของทหารญี่ปุ่นในช่วงที่ยึดครองเกาหลี โดยบริบทในเรื่อง จะแบ่งกลุ่มคนออกเป็น 4 กลุ่มอย่างชัดเจน ดังนี้ - กลุ่มคนรักชาติ ขบวนการใต้ดินที่พยายามหาทางต่อสู้เพื่อปลดแอกอิสรภาพและกอบกู้ศักดิ์ศรีของชาวโชซอนจากการกดขี่ห่มเหงของทหารญี่ปุ่น
- กลุ่มชนชั้นนายทุน กลุ่มคนชาวโชซอนผู้มีอันจะกินที่ไม่ได้ยี่หระต่อการเข้ามายึดครองประเทศของชาวญี่ปุ่น ขอเพียงแค่ยังคงได้มีอภิสิทธิ์และผลประโยชน์ต่อตัวเองก็พอ
- กลุ่มนักโทษชาวโชซอน ที่มีทั้งประชาชนชาวโชซอนผู้ยากไร้, นักโทษทางการเมือง, เชลยศึกสงคราม ที่ต่างก็ถูกจับกุมและขังไว้ในคุกใต้ดิน เพื่อรอวันที่จะกลายเป็นเพียงแค่หนูทดลองที่ไร้ค่า
- สัตว์ประหลาด ผลงานอันยิ่งใหญ่ที่แสดงให้เห็นถึงแสนยานุภาพและความสามารถของคนญี่ปุ่นที่อยู่เหนือกว่าคนประเทศอื่น
ด้วยความที่หน้าหนัง (แม้กระทั่งชื่อเรื่อง) มาในแนวต่อสู้เอาตัวรอดจากสัตว์ประหลาด ทำให้หลายๆ คนคาดหวังว่าจะได้เห็นซีนต่อสู้กับสัตว์ประหลาดแบบเดือดๆ มันส์ๆ แต่โดยภาพรวมกลับไม่ได้เน้นหนักไปทางนั้นเลย ซีนที่สู้กับสัตว์ประหลาดมีน้อยมาก รวมถึงตัวสัตว์ประหลาดเองก็มีเพียงแค่ตัวเดียว จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้หลายๆ คนผิดหวังกันไปพอสมควร และพลอยทำให้ดูหนังไม่สนุกไปด้วย สรุป >> ให้ไป 7 เต็ม 10 นะฮะ เหมาะสำหรับคนที่ชอบดูซีรีส์แนวดราม่าการเมืองนะฮะ แต่ถ้าใครที่คาดหวังว่าจะได้เห็นฉากแอ็คชั่นต่อสู้กับสัตว์ประหลาดน่าจะผิดหวังอย่างแรงฮะ ขอบคุณภาพจาก : เฟซบุ๊ก Netflix, เว็บไซต์ Netflix
Create Date : 14 มกราคม 2567 |
Last Update : 14 มกราคม 2567 14:01:59 น. |
|
0 comments
|
Counter : 88 Pageviews. |
|
|