
 |
|
 |
 |
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
 |
 |
|
|
สวรรค์ในอก - อบายในใจ
...
หมู่นี้นอกจากนิตยสาร 3-4 หัว ที่อ่านประจำ กับหนังสือการ์ตูนและหนังสือธรรมะแล้ว ผมไม่ค่อยได้อ่านอะไรอย่างอื่นเท่าไรนักเลย แต่ถ้าไปอ่านหนังสือประเภทอื่น เช่นไปอ่านนิยายกำลังภายใน นิยายวิทยาศาสตร์ อะไรประมาณนี้ ผมก็คงจะไม่ได้อ่านหนังสือการ์ตูนและหนังสือธรรมะแบบเต็มที่อย่างนี้สินะ 
ขออนุญาตเก็บบางส่วนที่ได้อ่านมาฝากกันครับ -----------------------------------------------
สวรรค์ในอก - นรกในใจ
...เราถูกสอนให้เชื่อว่า นรกนั้นจะไปตกหลังจากตายเข้าโลงไปแล้ว คนทำชั่วต้องไปตกนรก ต้องถูกฆ่า ต้องถูกเผา ถูกทำทรมานต่างๆนานา อย่างนี้เรียกว่านรก เดรัจฉานก็คือไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน เปรตก็คือไปเกิดเป็นสัตว์ตัวเท่าภูเขา ปากเท่ารูเข็มอะไรทำนองนี้ อสุรกายก็คือเป็นผีชนิดหนึ่งซึ่งไม่แสดงตัว อบาย 4 คือ นรก เดรัจฉาน เปรต อสุรกาย เราได้รับคำสอนมาอย่างดี นี้มันเป็นภาษาคนไม่ใช่ภาษาธรรม พูดไปตามภาษาคนโง่ พูดอยู่ก่อนที่พระพุทธเจ้าตรัสสอน
พระพุทธเจ้าท่านมาสอนความรู้ทางจิตทางวิญญาณ เพราะฉะนั้นไม่พูดทางวัตถุ แต่พูดตามความหมายของกิริยาอาการเหล่านั้น คำว่า สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ นี้ เป็นภาษาวิญญาณมีอีกแบบหนึ่ง สวรรค์ในอกนรกในใจ สวรรค์อย่างนี้นรกอย่างนี้เป็นภาษาวิญญาณ ภาษาธรรม ส่วนสวรรค์หรือนรกที่จะไปถึงต่อตายแล้วนั้นเป็นภาษาคน คนที่พูดไปตามความรู้ของคน
ในภาษาธรรมนี้ นรกหมายถึงความร้อนใจ เมื่อใดร้อนใจเมื่อนั้นเป็นสัตว์นรก เมื่อใดโง่ เมื่อนั้นเป็นสัตว์เดรัจฉาน เมื่อใดหิว หิวด้วยกิเลสตัณหา เมื่อนั้นเป็นเปรต เมื่อใดกลัวเพราะความไม่รู้ เพราะอวิชชา เมื่อนั้นเป็นอสุรกาย ฉะนั้นเราเป็นสัตว์นรก เป็นเปรต เป็นเดรัจฉาน เป็นอสุรกายได้วันหนึ่งตั้งหลายครั้ง หลายสิบครั้ง เปลี่ยนแปลงได้ลงนรกก็ได้ ขึ้นสวรรค์ก็ได้ เพราะมันอยู่ในอกในใจ
อย่างผู้ชายกินเหล้าอย่างนี้ มันร้อนใจเพราะการกินเหล้าเมื่อไรก็ตกนรกเมื่อนั้น เพราะมันโง่ไปกินเหล้า เขาว่ามีประโยชน์อย่างนี้มันก็เป็นสัตว์เดรัจฉานเมื่อนั้น มันหิวเหล้าเมื่อไรก็เป็นเปรตเมื่อนั้น และมันเกิดความขี้ขลาดความกลัวขึ้นมาก็เป็นอสุรกายเมื่อนั้น เพราะฉะนั้น พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ถูกต้องอย่างนี้ว่า การกินเหล้านี้เป็นอบายมุข ปากทางแห่งอบาย
ผู้หญิงเล่นไพ่ ถ้าร้อนใจเพราะเสียหรือเพราะอะไรก็ตาม มันก็เป็นนรกขึ้นมาเมื่อนั้น โง่เพราะคิดว่าเล่นไพ่จะช่วยได้มันก็เป็นสัตว์เดรัจฉานเมื่อนั้น เมื่อถือใบไพ่อยู่ก็หิวที่จะชนะ มันก็เป็นเปรตเมื่อนั้น นี่มันสมกับที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า การเล่นการพนันเป็นอบายมุข เป็นปากทางแห่งความฉิบหาย เราอย่าตกอบายชนิดที่ว่านี้ซึ่งเป็นอบายจริงๆแล้วมันหมดปัญหาทันที ตายแล้วก็ไม่ต้องไปตกอบายชนิดไหนหมด นี่มันดีอย่างนี้ อย่าตกอบายชนิดนี้แล้วไม่มีอบายชนิดไหนอีก ส่วนอบายอย่างที่ว่านั้นไม่แน่ อบายอย่างนี้แน่ แน่เพราะเห็นอยู่แล้ว แน่ในข้อที่ว่าอย่าตกที่นี้และเดี๋ยวนี้ แล้วไม่มีตกที่ไหนอีก
นี่เรียกว่าอบาย 4 อย่าง อบายภาษาคนนั้นมันเหมือนรูปภาพที่เขียนตามฝาผนังโบสถ์ในลักษณะปุคคลาธิษฐาน แต่พระพุทธเจ้าท่านสอนเรื่องทางวิญญาณทางธัมมาธิษฐาน เพราะฉะนั้นเราถือเอาความหมายของมัน อย่าไปเอารูปร่างตัวหนังสือรูปภาพมาเป็นเกณฑ์ คือนรกความร้อนใจ เดรัจฉานคือความโง่ เปรตคือความหิว อสรุกายคือความขลาดกลัว เหล่านี้มันรบกวนมนุษย์ยิ่งกว่าสิ่งใดเป็นประจำวัน
มาถึงสวรรค์ก็ว่าอยู่ในใจ สวรรค์ในอกนรกในใจ ฉะนั้นเมื่อใดมันตรงกันข้ามคือไม่ตกอบายอย่างที่ว่า แล้วมีความรู้สึกว่าตนได้กระทำสิ่งที่ควรทำ เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ไปด้วยความดี มีความอิ่มใจจนกระทั่งยกมือไหว้ตัวเองได้เมื่อไรก็เป็นสวรรค์เมื่อนั้น เราจดจำไว้ง่ายๆว่า ยกมือไหว้ตัวเองได้เมื่อไรเป็นสวรรค์เมื่อนั้น
นี่พอจะคิดได้เองว่ายกมือไหว้ตัวเองได้นี้หมายความว่าอะไร ยกมือไหว้ตัวเองเมื่อไรเป็นสวรรค์เมื่อนั้น อย่างนี้ไม่ต้องมีใครรู้ ตัวเองกับตัวเองลำเอียงไม่ได้ มันจริงเสมอ มันเห็นมันรู้อยู่ ยกมือไหว้ตัวเองได้ก็หมายความว่า มันรู้ว่าตัวเองมีอะไรที่น่าไหว้จริงๆ แล้วใครยกมือไหว้ตัวเองได้กี่คน วันหนึ่งกี่หน ลองไปคิดดูเอง นี่คำว่าสวรรค์อย่างนี้ในภาษาธรรม
ขอให้ได้สวรรค์อย่างนี้เถอะ จะได้สวรรค์ชั้นอื่นชนิดไหน หลังจากตายแล้วหรืออะไรก็ได้ทั้งนั้นเลย ให้ได้สวรรค์อย่างแท้จริงอย่างนี้กันเสียก่อน แล้วมันจะได้สวรรค์ทุกชนิดที่ควรจะได้ ส่วนสวรรค์ที่โฆษณาชวนเชื่อ มีวิมาน มีนางฟ้า มีอะไรนั้น เขาเอาไว้หลอกคนโง่ให้ไต่เข้ามาหาสวรรค์อย่างนี้ แต่ถ้าได้สวรรค์อย่างนี้แล้ว สวรรค์อย่างนั้นก็ต้องได้เหมือนกัน แล้วได้จริงกว่า...
เทศนาธรรม...พุทธทาสภิกขุ : วัดนรนารถสุนทริการาม- กทม. 04 ก.พ. 2511
  
ขอบคุณที่แวะมาครับ 
Create Date : 31 พฤษภาคม 2549 |
Last Update : 31 พฤษภาคม 2549 13:57:23 น. |
|
27 comments
|
Counter : 1296 Pageviews. |
|
 |
|
|
โดย: lovelyberry วันที่: 31 พฤษภาคม 2549 เวลา:14:52:17 น. |
|
โดย: ขอบคุณที่รักกัน (blueberry_cpie ) วันที่: 31 พฤษภาคม 2549 เวลา:14:59:58 น. |
|
โดย: FaRaWaYGiRL วันที่: 31 พฤษภาคม 2549 เวลา:17:01:30 น. |
|
โดย: ทูน่าค่ะ วันที่: 31 พฤษภาคม 2549 เวลา:17:27:15 น. |
|
โดย: rebel วันที่: 31 พฤษภาคม 2549 เวลา:20:08:11 น. |
|
โดย: keyzer วันที่: 31 พฤษภาคม 2549 เวลา:23:24:29 น. |
|
โดย: ตุ๊กตาไขลาน วันที่: 31 พฤษภาคม 2549 เวลา:23:37:02 น. |
|
โดย: ขอบคุณที่รักกัน IP: 203.170.231.230 วันที่: 1 มิถุนายน 2549 เวลา:6:36:49 น. |
|
โดย: hunjang วันที่: 1 มิถุนายน 2549 เวลา:8:33:51 น. |
|
โดย: แร้ไฟ วันที่: 2 มิถุนายน 2549 เวลา:2:41:02 น. |
|
โดย: hunjang วันที่: 2 มิถุนายน 2549 เวลา:8:06:37 น. |
|
โดย: rebel วันที่: 2 มิถุนายน 2549 เวลา:12:53:39 น. |
|
โดย: ขอบคุณที่รักกัน IP: 203.170.231.230 วันที่: 2 มิถุนายน 2549 เวลา:15:10:52 น. |
|
โดย: keyzer วันที่: 2 มิถุนายน 2549 เวลา:15:12:02 น. |
|
โดย: ตุ๊กตาไขลาน วันที่: 2 มิถุนายน 2549 เวลา:18:01:02 น. |
|
โดย: นายเบียร์ วันที่: 2 มิถุนายน 2549 เวลา:22:09:07 น. |
|
โดย: หวัน (หวันยิหวา ) วันที่: 2 มิถุนายน 2549 เวลา:22:19:08 น. |
|
โดย: keyzer วันที่: 3 มิถุนายน 2549 เวลา:0:05:10 น. |
|
โดย: Zakkคุง IP: 124.120.11.7 วันที่: 3 มิถุนายน 2549 เวลา:9:41:33 น. |
|
โดย: brabra (brabra ) วันที่: 25 สิงหาคม 2549 เวลา:22:11:41 น. |
|
โดย: ผู้ตาม IP: 203.146.63.182 วันที่: 1 ตุลาคม 2550 เวลา:23:31:14 น. |
|
| |
|
The Legendary Midfielder |
 |
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

|
... " เพราะเหตุนี้มี ผลนี้จึงมี, เพราะเหตุนี้เกิด ผลนี้จึงเกิด, เพราะเหตุนี้ดับ ผลนี้จึงดับ " หากปรารถนาผลอันดี พึงสร้างเหตุสร้างปัจจัยอันดี "
... " ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์ "
... " ทะเลทุกข์ไร้ขอบเขต กลับใจจะพบฟากฝั่ง "
... "หว่านพืชเช่นใด ย่อมได้รับผลเช่นนั้น "ทำกรรมดีย่อมได้รับผลของกรรมดี ทำกรรมชั่วก็ย่อมได้รับผลของกรรมชั่ว"
... "...กฎแห่งกรรมไม่เคยผิดพลาดมาก่อน "ไม่ว่าเราจะประสบพบกับคราวเคราะห์หนักหนาสาหัสแค่ไหน "ให้ระลึกไว้ว่านั่นเป็นสิ่งที่สมควรและสาสมแก่เราแล้ว "เป็นเพราะเราได้สร้างเหตุนั้นๆมาก่อน "ผลเช่นนี้จึงตามมา..."
|
|
 |
|