
 |
|
 |
 |
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
 |
 |
|
|
ความพอเพียงของในหลวง
...

สวัสดีครับ 
ช่วง 1 - 2 เดือนที่ผ่านมา มีนิตยสารหลายฉบับที่นำเสนอเรื่องราวของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติของพระองค์ท่าน เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 80 พรรษา
นัท-คุง ซื้อนิตยสารที่นำเสนอเรื่องราวของพระองค์ท่านไว้จำนวนหนึ่ง แต่ยังไม่ค่อยจะได้มีโอกาสหยิบจับเท่าไร (ที่จริงแล้ว ยังไม่ได้หยิบจับนิตยสารบางเล่มที่ซื้อมาตั้งแต่ปี 49 อันเป็นช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองการครองราชย์ครบ 60 ปีด้วยซ้ำ )
ที่ได้อ่านไปก็เป็น แพรว-รายปักษ์ ฉบับที่ 678 ปักษ์หลังประจำวันที่ 25 พ.ย. 50 คอลัมน์ "พ่อผู้พอเพียง" ซึ่งไม่ทราบเหมือนกันว่าใครเป็นผู้เขียนและเรียบเรียงบทความนี้ (เพราะไม่ได้ระบุไว้)
เห็นว่าน่าประทับใจ และน่าจะเป็นประโยชน์กับ เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ บ้างไม่มากก็น้อย จึงขอนำมาแบ่งปันกัน ณ โอกาสนี้ครับ 
...
ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา เคยเล่าถึงความพอเพียงของพระองค์ท่านผ่านแพรวว่า
เมื่อปี 2524 ผมได้รับการมอบหมายจากรัฐบาลให้ไปตามเสด็จฯถวายงานเป็นครั้งแรก
"ผมพยายามจ้องมองทุกสิ่งทุกอย่างถึงพระราชจริยวัตรต่างๆ
"เครื่องใช้ต่างๆของพระองค์ท่าน
จนกระทั่งทรงรู้สึกพระองค์ว่าผมจ้องดูข้อพระหัตถ์ว่าทรงใช้นาฬิกาอะไร
"ก็ทรงยื่นให้ดูเลย ผมจึงจำแบบและรุ่นไว้
"แล้วไปดูที่ร้านขาย ปรากฏว่า 750 บาทเอง นี่คือพระเจ้าแผ่นดินไทยนะ
"ผมตกใจว่าทรงเป็นพระเจ้าแผ่นดิน
"สามารถมีของใช้สารพัด ราคาแพงแค่ไหนก็ได้ แต่ไม่ทรงใช้
เวลาเสวย เครื่องเสวยก็เรียบง่าย ธรรมดา
"ไม่ทรงใส่พระราชหฤทัยว่าบนโต๊ะเสวยมีอะไรบ้าง
"ไม่เคยทรงปรุงหรือแต่งเติมอะไร
"ดูๆแล้วพระองค์ท่านทรงเหมือนพระ ละซึ่งอะไรต่างๆแล้ว
"เสวยของเรียบง่าย อาจมีบ้างที่มีรับสั่งว่า นั่นอร่อยนะ
ตรงกับคำบอกเล่าของนายทหารท่านหนึ่ง ที่เคยตามเสด็จฯพระองค์ท่านไปตามที่ทุรกันดารว่า
สมัยที่พระองค์ท่านเสด็จฯพื้นที่กันดาร
"มีราษฎรคนหนึ่งนำถั่วฝักยาวมาถวาย
"พระองค์ท่านให้แม่ครัวเอาไปผัดน้ำมันกระเทียม แล้วก็เสวยจนหมด ต่อมารับสั่งให้ผัดอีก คราวนี้ทางห้องเครื่องใส่กุ้งใส่หมูมาด้วย .
"พระองค์ท่านทรงมีรับสั่งว่า ไม่เอา แบบนี้เป็นอาหารของพระยา
คุณสมภพ หลุยลาภประเสริฐ เจ้าของร้านยูไลย ซอยศาลาแดง ผู้ถวายงานตัดฉลองพระองค์สืบต่อมาตั้งแต่รุ่นพ่อเล่าว่า
ตั้งแต่สมัยคุณพ่อ (ยูไลย หลุยลาภประเสริฐ) เป็นเจ้าของร้าน
"คุณชูพาศน์ ชูโต ซึ่งเป็นผู้ถวายงานดูแลด้านฉลองพระองค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็เป็นลูกค้าตัดเสื้อกับร้านเราอยู่ก่อน
วันหนึ่งท่านพามิสเตอร์วัตสัน ช่างตัดฉลองพระองค์ชาวอังกฤษพร้อมชุดฉลองพระองค์มาให้คุณพ่อผมลองแก้ไข ปรากฎว่าพอมิสเตอร์วัตสันเห็นผลงานก็พอใจ "นำความไปกราบบังคมทูลพระองค์ท่านว่า ช่างร้านยูไลยทำงานได้ละเอียด พระองค์ท่านทอดพระเนตรแล้วก็โปรดว่าคุณพ่อแก้ไขได้เรียบร้อยดี จึงทรงให้ทดลองตัดดู
"และจากนั้น (ปี 2500) ร้านเราก็ได้ตัดถวายมาตลอด ทั้งฉลองพระองค์ สูท ชุดทหาร ชุดบรรทม
ฉลองพระองค์ชุดแรกที่ผมตัดถวายเป็นฉลองพระองค์สูทสีเข้ม
"เฉลี่ยแล้วฉลองพระองค์ชุดหนึ่งพระองค์ท่านทรงใช้อยู่ประมาณ 8 10 ปี
"เรียกว่าถ้าทรงแล้วยังดีอยู่ก็จะทรงหมุนเวียนกลับมาทรงเรื่อยๆ จะทรงยอมตัดใหม่เฉพาะในโอกาสพิเศษ "หรือมีงานสำคัญต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองเท่านั้น
อย่างฉลองพระองค์ชุดบรรทม พอนานปีเข้ายางยืดที่บั้นพระองค์ยืด
"ก็ทรงให้เปลี่ยนยางยืดใหม่ เรียกว่าต้องชำรุดจริงๆถึงจะทรงเปลี่ยน หรือพระสนับเพลาบางองค์ก็เป็นรู
"เพราะเวลาทรงเล่นกับสุนัขทรงเลี้ยง เขาก็จะกัด
"ผมเห็นแล้วก็กราบทูลว่าอยากตัดถวายให้ใหม่
"พระองค์ท่านก็ทรงรับฟังเฉยๆ เสร็จแล้วก็ยังทรงใส่ตัวเดิมที่เป็นรูนั่นละ
ตั้งแต่ถวายการรับใช้มา พระวรกายเปลี่ยนแปลงน้อยมาก
"มีระยะหลังที่พระวรกายสมบูรณ์ขึ้น
"ก็โปรดเกล้าฯให้ผมนำฉลองพระองค์ชุดเก่าไปขยายให้พอดี แล้วทรงนำไปใช้ต่อ เพราะฉะนั้นเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงของพระองค์ท่านจึงไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับผมเลย
"พระองค์ทรงปฏิบัติมานานก่อนที่จะพระราชทานแนวพระราชดำริให้คนไทยได้รู้กันด้วยซ้ำ ทั้งๆที่พระองค์ท่านไม่จำเป็นต้องทรงทำแบบนี้ก็ได้
"ถ้าจะทรงใช้ฉลองพระองค์แบรนด์ดังๆก็ทรงทำได้
"แต่พระองค์ท่านก็ยังทรงประหยัด มัธยัสถ์ ทำให้ผมคิดว่า ขนาดพระองค์ท่านซึ่งยังเป็นเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินยั้งทรงปฏิบัติพระองค์แบบนี้
"เราในฐานะพสกนิกรก็ควรเดินตามรอยท่าน
"อะไรที่ไม่จำเป็น อะไรที่เกินตัวก็ไม่ควรทำ
ด้านคุณศรไกร แน่นสีนิล หรือ ช่างไก่ เจ้าของร้าน ก.เปรมศิลป์ ย่านสี่แยกพิชัย ก็เล่าถึงงานซ่อมฉลองพระบาทถวายสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่า
ปี 2545 เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังท่านหนึ่งได้ถือพานใส่ร้องเท้าเดินเข้ามาในร้าน
"ก่อนยื่นให้ผมแล้วค่อยก้มลงกราบพาน ผมก็ตกใจ ถามว่าเอาอะไรมาให้ เขาบอกว่าเป็นฉลองพระบาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่โปรดมาก แต่เก่าแล้ว ไม่รู้จะเอาไปซ่อมที่ไหน
โอ้โห...ผมขนลุกซู่ ไม่รู้จะบรรยายความรู้สึกอย่างไร ไม่เคยคิดว่าชีวิตจะมีโอกาสดีๆแบบนี้
"เพราะร้านดังๆมีเยอะแยะ แต่กลายเป็นเราที่ได้รับโอกาสสำคัญทำงานนี้
จำได้ว่าบนพานนั้นเป็นฉลองพระบาทหนังสีดำ
"สภาพชำรุดทรุดโทรมจากการใช้งานมาหลายสิบปี หนังข้างนอกหลุดลุ่ย
"ส่วนภายในก็ผุกร่อนหลุดลอกหลายแห่ง ถ้าเป็นคนทั่วไปคงทิ้งไปแล้ว
"แต่พระองค์ท่านกลับให้เจ้าหน้าที่นำมาซ่อมเพื่อใช้งานต่อ
ผมใช้เวลาซ่อมเกือบเดือน ทั้งที่จริงแล้วทำไม่ถึงชั่วโมงก็เสร็จ
"แต่เพราะอยากให้อยู่บ้านเรานานๆ (หัวเราะ)
ที่ประทับใจสุดคือ
"ตอนที่เลาะพื้นด้านในออกมาแล้วเห็นรอยพระบาท ตื่นเต้นมาก เคยเห็นภาพข่าวพระราชกรณียกิจในทีวีมีคนไปรับเสด็จฯแล้วเอาผ้าเช็ดหน้าปูให้ทรงเหยียบ
"แต่นี่เราเห็นรอยพระบาทปรากฏชัด จะทิ้งได้อย่างไร ผมก็เลยเอาใส่กรอบแล้วตั้งเอาไว้บนหิ้งสูงสุด ตกแต่งอย่างดี มีพานและผ้าคลุมพานสีเหลือง
ลูกค้าเห็นเข้าก็ถามว่าอะไร
"พอรู้ว่าเป็นฉลองพระบาทของพระองค์ท่าน ก็ขออนุญาตเอามาเทินหัวกันใหญ่
หลังจากนั้นผมมีโอกาสซ่อมฉลองพระบาทให้พระองค์ท่านอีก 4 คู่
คู่แรกเป็นฉลองพระบาทลำลองซ้ายที่ถูกคุณทองแดงกัดขาด ผมก็ปะตรงรอยที่ขาด
คู่ที่สองเป็นฉลองพระบาทแคชชูส์ผูกเชือกสีดำ ส่งมาแปะแผ่นกันลื่น
คู่ที่สามเป็นฉลองพระบาทบู๊ต ส่งมาเปลี่ยนยางยืดด้านข้างและจัดทรงใหม่
และคู่ที่สี่เป็นฉลองพระบาทบู๊ตสั้น ส่งมาเปลี่ยนพื้นด้านล่างทั้งสองข้าง
ฉลองพระบาทของพระองค์ท่านเป็นตัวอย่างหนึ่งของความพอเพียงที่พสกนิกรของพระองค์ควรดำเนินรอยตาม
สารภาพก็ได้ว่า ก่อนหน้านี้ผมเองก็เคยอยากมีอยากได้ อยากรวย
"แต่ตอนนี้ใจเบาขึ้นเยอะ เพราะรู้จักพอ ไม่ปรารถนามากกว่านี้ ถึงปัจจุบันร้านจะมีชื่อเสียง ผู้คนรู้จัก แต่ผมก็ไม่คิดจะขยายให้ใหญ่โต เปิดสาขา เพราะมีเท่านี้ก็พอแล้ว
เงินมีไม่มาก แต่มีความสุข เพราะผมมีสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตอยู่ในบ้าน
"นั่นคือรอยพระบาทของพระองค์ท่าน ซึ่งผมถือว่าสูงสุดในชีวิตเราแล้ว
...
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ 
...
-- ขอบคุณที่แวะมาครับผม --
Create Date : 07 มกราคม 2551 |
Last Update : 7 มกราคม 2551 9:24:10 น. |
|
32 comments
|
Counter : 3697 Pageviews. |
|
 |
|
|
โดย: ต้องผ่านไปให้ได้ IP: 210.246.146.129 วันที่: 7 มกราคม 2551 เวลา:10:25:57 น. |
|
โดย: แพนด้ามหาภัย IP: 125.25.192.51 วันที่: 7 มกราคม 2551 เวลา:10:33:40 น. |
|
โดย: บลูยอชท์ วันที่: 7 มกราคม 2551 เวลา:11:19:14 น. |
|
โดย: juriojung วันที่: 7 มกราคม 2551 เวลา:13:27:25 น. |
|
โดย: นรานินี วันที่: 7 มกราคม 2551 เวลา:14:35:10 น. |
|
โดย: Kurt Narris วันที่: 7 มกราคม 2551 เวลา:15:02:01 น. |
|
โดย: nu Palm ka IP: 203.146.6.81 วันที่: 7 มกราคม 2551 เวลา:15:07:43 น. |
|
โดย: ahiruno007 วันที่: 7 มกราคม 2551 เวลา:15:17:35 น. |
|
โดย: whitelady วันที่: 7 มกราคม 2551 เวลา:20:03:21 น. |
|
โดย: hunjang วันที่: 7 มกราคม 2551 เวลา:21:30:39 น. |
|
โดย: rebel วันที่: 7 มกราคม 2551 เวลา:22:05:26 น. |
|
โดย: บลูยอชท์ วันที่: 8 มกราคม 2551 เวลา:13:17:19 น. |
|
โดย: พฤกษชาติ วันที่: 8 มกราคม 2551 เวลา:19:46:15 น. |
|
โดย: ตุ๊กตาไขลาน IP: 58.8.171.124 วันที่: 9 มกราคม 2551 เวลา:15:16:36 น. |
|
โดย: บลูยอชท์ วันที่: 9 มกราคม 2551 เวลา:19:42:39 น. |
|
โดย: ยอพระกลิ่น วันที่: 10 มกราคม 2551 เวลา:13:05:22 น. |
|
โดย: Kurt Narris วันที่: 11 มกราคม 2551 เวลา:3:31:41 น. |
|
โดย: hunjang วันที่: 11 มกราคม 2551 เวลา:8:11:24 น. |
|
โดย: โสมรัศมี วันที่: 13 มกราคม 2551 เวลา:11:41:24 น. |
|
โดย: ตุ๊กตาไขลาน วันที่: 13 มกราคม 2551 เวลา:18:12:11 น. |
|
โดย: hunjang วันที่: 14 มกราคม 2551 เวลา:7:59:09 น. |
|
โดย: นู๋เฟิล IP: 203.172.57.230 วันที่: 5 พฤศจิกายน 2551 เวลา:20:00:34 น. |
|
โดย: gigi IP: 61.91.84.14 วันที่: 12 มกราคม 2553 เวลา:20:59:21 น. |
|
โดย: gigi IP: 61.91.84.14 วันที่: 12 มกราคม 2553 เวลา:21:00:38 น. |
|
โดย: พอน IP: 202.12.74.246 วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:21:18:09 น. |
|
โดย: นศท. พิพัฒน์ พัวอุดมเจริญ IP: 125.27.193.39 วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:13:32:30 น. |
|
โดย: เมย์ IP: 124.120.8.230 วันที่: 1 ตุลาคม 2553 เวลา:17:54:57 น. |
|
| |
|
The Legendary Midfielder |
 |
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

|
... " เพราะเหตุนี้มี ผลนี้จึงมี, เพราะเหตุนี้เกิด ผลนี้จึงเกิด, เพราะเหตุนี้ดับ ผลนี้จึงดับ " หากปรารถนาผลอันดี พึงสร้างเหตุสร้างปัจจัยอันดี "
... " ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์ "
... " ทะเลทุกข์ไร้ขอบเขต กลับใจจะพบฟากฝั่ง "
... "หว่านพืชเช่นใด ย่อมได้รับผลเช่นนั้น "ทำกรรมดีย่อมได้รับผลของกรรมดี ทำกรรมชั่วก็ย่อมได้รับผลของกรรมชั่ว"
... "...กฎแห่งกรรมไม่เคยผิดพลาดมาก่อน "ไม่ว่าเราจะประสบพบกับคราวเคราะห์หนักหนาสาหัสแค่ไหน "ให้ระลึกไว้ว่านั่นเป็นสิ่งที่สมควรและสาสมแก่เราแล้ว "เป็นเพราะเราได้สร้างเหตุนั้นๆมาก่อน "ผลเช่นนี้จึงตามมา..."
|
|
 |
|