
 |
|
 |
 |
|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
 |
 |
|
|
เราจะไม่ยึดติดกับรูปสวยๆ เสียงเพราะๆ ได้อย่างไร? (จบ)
...
หวัดดีคร้าบบบบบบ...
บล็อกใช้งานได้ตามปกติสักที หลังจากรอลุ้นมาหลายวัน เนื่องจากไม่เคยห่างหายจากการติดต่อสื่อสารทางบล็อกยาวๆขนาดสิบกว่าวันเอาเสียเลย นับจากเทิร์นโปรเป็นบล็อกเกอร์อาชีพ (กล้าพูดเจงๆ )
พอดียังติดตอนสุดท้ายของซีรี่ส์ "เราจะไม่ยึดติดกับรูปสวยๆ เสียงเพราะๆ ได้อย่างไร?" อยู่ จึงขออนุญาตนำมาลงให้จบในการอัพเดทครั้งนี้เลยละกันครับ 
เราจะไม่ยึดติดในรูปสวยๆ เสียงเพราะๆ ได้อย่างไร?
4. มีจิตใคร่ครวญถึงธาตุกรรมฐาน
นอกจากจะมีจิตใคร่ครวญถึงความเป็นจริงของร่างกายดังกล่าวมาในข้อ 3 แล้ว พึงพิจารณาแยกให้เห็นความเป็นจริงที่ว่า อันที่จริงร่างกายของเราเองก็ดี ของผู้อื่นก็ดี ไม่ใช่ตัวของเราแต่อย่างใดเลย เป็นแต่เพียงธาตุ 4 มาประชุม เกาะกุมรวมกันเพียงชั่วคราวเท่านั้นเอง
ได้แก่ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม และธาตุไฟ แล้วสิ่งเหล่านี้ก็ทนอยู่ในสภาพที่รวมกันเช่นนั้นไม่ได้ นานไปก็เก่าแก่แล้วแตกสลายไป ธาตุน้ำก็กลับไปสู่ความเป็นน้ำ ธาตุดินก็กลับไปสู่ความเป็นดิน ธาตุลมก็กลับไปสู่ความเป็นลม ธาตุไฟก็กลับไปสู่ความเป็นไฟ
เนื้อตัวร่างกายของเราเมื่อได้แยกส่วนออกมาดูแล้ว ก็มิได้มีตัวตนที่ตรงไหนแต่อย่างใด เป็นแต่เพียงเนื้อ กระดูก ตับ ไต ไส้ กระเพาะ เส้นเอ็น หนัง พังผืด เนื้อเยื่อ มันสมอง ไขข้อ ฯลฯ มาเกาะกุมกัน ตัวตนของเราไม่มี
ครั้นเมื่อแยกแยะอวัยวะย่อยๆดังกล่าวออกไปจนถึงหน่วยย่อยๆของชีวิต คือเซลล์เล็กๆที่มาเกาะกุมรวมกัน ก็จะเห็นว่าเซลล์เองก็เนื่องมาจากแร่ธาตุทั้งหลายซึ่งไม่มีชีวิตจิตใจ มารวมกันเป็นกลุ่มก้อนเล็กๆไม่มีตัวตนของเราแต่อย่างใด แม้แร่ธาตุต่างๆนั้น ก็เนื่องมาจากพลังงานโปรตรอนและอิเล็กตรอนเท่านั้น หาใช่ตัวตนของเราแต่อย่างใดไม่
ที่หลงกันอยู่ว่า...ตัวเรา ของเรา...หาที่ไหนมิได้เลย ทุกสรรพสิ่งที่ดิ้นรนแสวงหา สะสมกันเข้าไว้ ในที่สุดก็ต้องทิ้งต้องจาก ซึ่งป่วยการที่จะกล่าวไปถึงสมบัติที่จะนำเอาติดตัวไปด้วย แม้แต่เนื้อตัว ร่างกายที่ว่าเป็นของเรา ก็ยังเอาติดตัวไปไม่ได้ และก็เป็นความจริงที่ได้เห็นและรู้กันมานานนับล้านๆปี
คนแล้วคนเล่า ท่านทั้งหลายที่ได้เคยยิ่งใหญ่ด้วยยศศักดิ์อำนาจวาสนาและทรัพย์สมบัติในอดีตกาล จนเป็นถึงมหาจักรพรรดิมีสมบัติที่สร้างสมมาด้วยเลือดและน้ำตาของผู้อื่นจนค่อนโลก
แต่แล้วในที่สุดก็ต้องทิ้งต้องจากสิ่งเหล่านี้ไป แม้แต่เนื้อตัวร่างกายของท่านที่เคยยิ่งใหญ่ จนถึงกับเป็นผู้ที่ไม่อาจจะแตะต้องได้ แต่แล้วก็ต้องทอดทิ้งจมดินจมทราย จนในที่สุดก็สลายไปจนหาไม่พบว่า เนื้อ หนัง กระดู ขน เล็บ ตับ ไต ไส้ กระเพาะ ของท่านอยู่ที่ตรงไหน
คงเหลืออยู่แต่สิ่งที่เป็นดิน น้ำ ลม และไฟ ตามสภาพเดิมที่ก่อกำเนิดมาเป็นตัวของท่านเพียงชั่วคราวเท่านั้น แล้วตัวของเราท่านทั้งหลายก็เพียงเท่านี้ มิได้ยิ่งใหญ่เกินไปกว่าท่านในอดีต จะรอดพ้นจากสัจธรรมนี้ไปได้หรือ
เมื่อความเป็นจริงก็เห็นๆกันอยู่เช่นนี้แล้ว เหตุใดเราท่านทั้งหลายจึงต้องพากันดิ้นรนขวนขวายสะสมสิ่งที่ในที่สุดก็จะต้องทิ้งจะต้องจากไป ซึ่งเท่ากับเป็นการทำลายวันเวลาอันมีค่าของพวกเราซึ่งก็คงมีไม่เกินคนละ 100 ปี ให้ต้องโมฆะเสียเปล่าไปโดยหาสาระประโยชน์อันใดไม่ได้ เหตุใดไม่เร่งขวนขวายสร้างสมบุญบารมีที่เป็นอริยทรัพย์อันประเสริฐ ซึ่งจะติดตามตัวไปได้ในชาติหน้า
แม้หากสิ่งเหล่านี้จะไม่มีจริงดังที่พระพุทธองค์ได้ตรัสไว้ อย่างเลวพวกเราก็เพียงเสมอตัว มิได้ขาดทุนแต่อย่างใด หากสิ่งที่พระพุทธองค์ได้ตรัสสอนไว้มีจริงดังที่ปราชญ์ในอดีตกาลยอมรับ แล้วเราท่านทั้งหลายไม่สร้างสมบุญและความดีไว้ สร้างสมแต่ความชั่วและบาปกรรมตามติดตัวไป เราท่านทั้งหลายไม่ขาดทุนหรือ เวลาในชีวิตของเราที่ควรจะได้ใช้ให้เป็นประโยชน์กลับต้องมาโมฆะเสียเปล่า ก็สมควรที่จะได้ชื่อว่าเป็น "โมฆบุรุษ" โดยแท้
           
ที่มา: "วิธีสร้างบุญบารมี", พระนิพนธ์ในสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก องค์ที่ 19
-- ขอบคุณที่แวะมาครับผม --
Create Date : 13 มีนาคม 2550 |
Last Update : 13 มีนาคม 2550 14:29:34 น. |
|
28 comments
|
Counter : 1033 Pageviews. |
|
 |
|
|
โดย: StrayBird IP: 203.148.239.254 วันที่: 13 มีนาคม 2550 เวลา:15:31:57 น. |
|
โดย: whitelady วันที่: 13 มีนาคม 2550 เวลา:19:39:58 น. |
|
โดย: ตุ๊กตาไขลาน วันที่: 13 มีนาคม 2550 เวลา:21:43:22 น. |
|
โดย: ทูน่าค่ะ วันที่: 13 มีนาคม 2550 เวลา:23:21:03 น. |
|
โดย: hunjang วันที่: 14 มีนาคม 2550 เวลา:8:20:12 น. |
|
โดย: Noname - โนนามิ IP: 124.120.2.33 วันที่: 14 มีนาคม 2550 เวลา:11:21:02 น. |
|
โดย: keyzer วันที่: 15 มีนาคม 2550 เวลา:0:27:10 น. |
|
โดย: โสมรัศมี วันที่: 16 มีนาคม 2550 เวลา:9:56:42 น. |
|
โดย: Kitsunegari วันที่: 16 มีนาคม 2550 เวลา:17:42:56 น. |
|
โดย: ตุ๊กตาไขลาน วันที่: 16 มีนาคม 2550 เวลา:22:11:55 น. |
|
โดย: poser IP: 58.9.20.165 วันที่: 17 มีนาคม 2550 เวลา:1:34:19 น. |
|
โดย: Why England วันที่: 17 มีนาคม 2550 เวลา:2:44:03 น. |
|
โดย: หวัน (หวันยิหวา ) วันที่: 18 มีนาคม 2550 เวลา:19:55:02 น. |
|
โดย: Why England วันที่: 18 มีนาคม 2550 เวลา:21:46:47 น. |
|
โดย: Kitsunegari วันที่: 19 มีนาคม 2550 เวลา:0:57:08 น. |
|
โดย: ขอบคุณที่รักกัน (blueberry_cpie ) วันที่: 19 มีนาคม 2550 เวลา:8:07:34 น. |
|
โดย: Noname - โนนามิ IP: 124.120.5.23 วันที่: 19 มีนาคม 2550 เวลา:8:09:23 น. |
|
โดย: Kitsunegari วันที่: 20 มีนาคม 2550 เวลา:10:18:33 น. |
|
โดย: ชิวเทียน วันที่: 26 มีนาคม 2550 เวลา:1:30:30 น. |
|
| |
|
The Legendary Midfielder |
 |
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

|
... " เพราะเหตุนี้มี ผลนี้จึงมี, เพราะเหตุนี้เกิด ผลนี้จึงเกิด, เพราะเหตุนี้ดับ ผลนี้จึงดับ " หากปรารถนาผลอันดี พึงสร้างเหตุสร้างปัจจัยอันดี "
... " ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์ "
... " ทะเลทุกข์ไร้ขอบเขต กลับใจจะพบฟากฝั่ง "
... "หว่านพืชเช่นใด ย่อมได้รับผลเช่นนั้น "ทำกรรมดีย่อมได้รับผลของกรรมดี ทำกรรมชั่วก็ย่อมได้รับผลของกรรมชั่ว"
... "...กฎแห่งกรรมไม่เคยผิดพลาดมาก่อน "ไม่ว่าเราจะประสบพบกับคราวเคราะห์หนักหนาสาหัสแค่ไหน "ให้ระลึกไว้ว่านั่นเป็นสิ่งที่สมควรและสาสมแก่เราแล้ว "เป็นเพราะเราได้สร้างเหตุนั้นๆมาก่อน "ผลเช่นนี้จึงตามมา..."
|
|
 |
|