
 |
|
 |
 |
|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | |
|
|
|
|
 |
 |
|
|
โอ้ละหนอ...มายเลิฟ
...
สวัสดีครับ 
ไม่ทราบว่า...
เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่เข้ามาอ่านบล็อกนี้
. . . . . . . . .
เคย "รัก" ใครรึป่าว? 
หลายคนน่าจะตอบว่า "เคยดิ"
ถ้างั้นก็ขอถามอีกว่า
ที่ว่า "รัก" น่ะ "รัก" อย่างไร? แค่ไหนถึงเรียกว่า "รัก"? 
คนแต่ละคนจะมีทีท่าต่อความรู้สึกของตัวเองต่างๆกันไป
บางคน "รัก" จะบอกว่า "รัก"
บางคน "รัก" จะบอกว่า "ไม่รัก"
บางคน "รัก" จะบอกว่า "ชอบ"
บางคน "รัก" จะบอกว่า "ไม่ชอบ"
บางคน "รัก" จะบอกว่า "เฉยๆ"
บางคน "รัก" จะบอกว่า "เกลียด"
. . .
บางคน "ไม่รัก" จะบอกว่า "รัก"
บางคน "ไม่รัก" จะบอกว่า "ไม่รัก"
บางคน "ไม่รัก" จะบอกว่า "ชอบ"
บางคน "ไม่รัก" จะบอกว่า "ไม่ชอบ"
บางคน "ไม่รัก" จะบอกว่า "เฉยๆ"
บางคน "ไม่รัก" จะบอกว่า "เกลียด"
แล้วเราจะไปรู้ได้ไง...ว่าใคร "รัก" หรือ "ไม่รัก" อย่างไร? 
นี่ยังไม่นับถึงการแสดงออกอันสืบเนื่องมาจาก "รัก"
แต่เอาไว้ว่ากันวันหลังดีกว่า (จะได้มีเรื่องไว้หากินเพิ่มอีกหนึ่ง )
...
นัท-คุง เคยลองเทียบเคียง "หลักธรรมของพระพุทธองค์" กับ "ความรัก" ว่าจะมีอันไหนที่เข้ากันได้บ้าง
และก็สรุปกับตัวเองว่า
"ความรัก" ในพุทธศาสนา คือ "พรหมวิหาร 4"
(ออกตัวไว้ล่วงหน้า --เพื่อให้ไปถึงเส้นชัยก่อน --ว่า (เนื้อหาในบล็อกครั้งนี้ ถ้าไม่นับ "องค์ประกอบ" ของ "พรหมวิหาร4" แล้ว (คำอธิบายเพิ่มเติมต่างๆ ล้วนเป็นสิ่งที่ นัท-คุง คิดนึกเทียบเคียงเอาเองนะครับ (ไม่ได้อ้างอิงคัมภีร์หรือแหล่งข้อมูลใดๆที่จะบอกว่ามันต้องเป็นอย่างนี้ๆตามที่คิดนึกเทียบเคียง (ถ้าเผอิญเป็นการ "บิดเบือน" หรือ "ผิดพลาด" ประการใด ขออภัยและขอคำชี้แนะด้วยครับ )
...
พรหมวิหาร 4 ประกอบด้วย ธรรม 4 ประการ คือ
1) เมตตา -- ความปรารถนาดีต่อผู้อื่น ปรารถนาให้ผู้อื่นเป็นสุขทั้งกายและใจ ปรารถนาให้ผู้อื่นปราศจากทุกข์
2) กรุณา -- ความช่วยเหลือที่หยิบยื่นให้แก่ผู้อื่น เมื่อพบเห็นผู้อื่นประสบความทุกข์ยาก ประสบกับภาวะไร้สุข
3) มุทิตา -- ความยินดีในความสุขของผู้อื่น ยินดีเมื่อผู้อื่นปราศจากทุกข์ เมื่อผู้อื่นประสบความสุข
4) อุเบกขา -- ความวางใจเป็นกลาง ความวางเฉย เมื่อหยิบยื่นความช่วยเหลือให้แก่ผู้ใดแล้ว ผู้นั้นยังไม่สามารถพ้นทุกข์ พบสุขได้ ก็พึงระลึกไว้ว่า แต่ละคนมี "กรรม" เป็นของตนเอง อย่าให้ใจสั่นไหว หรือมัวหมอง ใดๆต่อเนื่องกับผู้นั้นอีก
...
สมมติ ตุ้น-ซัง (พ่อบ้านแก๊งก์จตุรเทพ) เกิดไป "รัก" กับ บัว-โกะ (รองหัวหน้าแก๊งก์จตุรเทพ)
หน้าที่ของ ตุ้น-ซัง ที่ต้องกระทำต่อ บัว-โกะ ตามหลัก "พรหมวิหาร 4" ก็จะมีดังนี้
1) ตุ้น-ซัง ต้องมี "เมตตา" ต่อ บัว-โกะ
มีความปรารถนาดีอย่างจริงใจและสุดซึ้งที่จะให้ บัว-โกะ เป็นสุข ปราศจากทุกข์ โดยในทุกการกระทำต้องเป็นไปเพื่อการนี้เท่านั้น ไม่ใช่กระทำการไปเพื่อ โชว์-ออฟ หรือทำให้ บัว-โกะ เห็นว่า ตุ้น-ซัง นิสัยดีน่าเป็นแฟนด้วยนะเอย
2) ตุ้น-ซัง ต้องมี "กรุณา" ต่อ บัว-โกะ
หยิบยื่นความช่วยเหลือให้ในทุกๆด้านเท่าที่สามารถทำได้ตามกำลัง เพื่อให้ บัว-โกะ พ้นจากความทุกข์ และมีความสุข ซึ่งแน่นอนว่า การกระทำดังกล่าวจะต้องไม่ไปเบียดเบียนตนเองหรือผู้อื่นใดด้วย มากไปกว่านั้นอย่างที่ว่าไว้ตอนต้น มันต้องไม่ใช่ความช่วยเหลือเพื่อการ โชว์-ออฟ
3) ตุ้น-ซัง ต้องมี "มุทิตา" ต่อ บัว-โกะ
ยินดีต่อทุกๆภาวะที่ บัว-โกะ ประสบสุข (แบบสัมมาทิฏฐิ) และพ้นทุกข์ (แบบสัมมาทิฏฐิ) อย่างจริงใจ โดยไม่เลือกว่ายินดีเฉพาะภาวะที่ บัว-โกะ เป็นสุขกับตัวเองเท่านั้น แต่ถ้าไปสุขกับคนอื่นแล้วรับไม่ได้ บัว-โกะ อาจจะไปเที่ยวต่างจังหวัดกับคนอื่นแล้วสุขใจ แต่ ตุ้น-ซัง ไม่ได้ไปด้วย ตุ้น-ซัง ก็ต้องยินดีที่เห็น บัว-โกะ มีความสุข
4) ตุ้น-ซัง ต้องมี "อุเบกขา" ต่อ บัว-โกะ
หลังจากได้หยิบยื่นความช่วยเหลือไปเต็มที่แล้ว แต่ บัว-โกะ ไม่สนใจความช่วยเหลือนั้น หรือเมื่อ "รัก" ไปแล้ว บัว-โกะ เกิดไม่รักตอบขึ้นมา (สมมตินะครับสมมติ ) ตุ้น-ซัง ก็ต้องวางใจเฉยไว้ นึกเสียว่า...สิ่งใดที่สามารถทำได้ เราทำไปแล้ว ไม่มีอะไรที่ติดค้างใจเราแล้ว ขอแค่ บัว-โกะ เป็นสุขใจ ตุ้น-ซัง ยังไงก็ได้ อะไรประมาณนั้น
...
หลักการเดียวกันนี้อาจจะนำไปใช้ในความสัมพันธ์ระดับอื่นได้ เช่น พ่อกับลูก เพื่อนกับเพื่อน นายจ้างกับลูกจ้าง หรืออื่นๆ
ถ้าเรา "รัก" คนอื่นๆได้ตามหลักนี้ โดยไม่แบ่งพวกเขาหรือพวกเรา (แม้เราอาจจะรู้สึก "พิเศษ" บ้างกับใครบางคนอย่างเจาะจงก็เหอะ ) ชีวิตของเรา และคนอื่นๆแวดล้อม น่าจะมีความสุขเอามากๆเลยนะครับ
ยิ่งไปกว่านั้น หากเรามี "เมตตา-กรุณา-มุทิตา-อุเบกขา" ประจำใจแล้ว ในกรณีที่เราเสียชีวิตไปก่อนที่จะเข้าถึง "ที่สุดแห่งทุกข์" เราก็จะได้รับเกียรติไปเกิดเป็นชีวิตที่ประเสริฐมากๆ (เมื่อนับตามลำดับชั้น) ในวัฏฏสงสาร ก็คือ "พรหม" ครับ 
...
ขอให้ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกคนมี "ความรัก" (พรหมวิหาร 4) อยู่ในใจกันถ้วนหน้านะครับ 
-- ขอบคุณที่แวะมาครับผม --
Create Date : 13 กุมภาพันธ์ 2551 |
Last Update : 13 กุมภาพันธ์ 2551 11:00:48 น. |
|
32 comments
|
Counter : 1301 Pageviews. |
|
 |
|
|
โดย: PriYa วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:11:26:50 น. |
|
โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:11:56:13 น. |
|
โดย: kaoim วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:12:43:15 น. |
|
โดย: กระต่ายลงพุง วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:13:18:09 น. |
|
โดย: อั๊งอังอา วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:15:44:17 น. |
|
โดย: อั๊งอังอา วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:15:44:31 น. |
|
โดย: แดดร่มลมโชย วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:12:56:30 น. |
|
โดย: หวัน (หวันยิหวา ) วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:20:43:26 น. |
|
โดย: yyswim วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:23:37:01 น. |
|
โดย: juriojung วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:10:12:16 น. |
|
โดย: บลูยอชท์ วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:17:46:05 น. |
|
โดย: ป้าตุ้ย (amornsri ) วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:18:21:57 น. |
|
โดย: Kai-Au วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:1:59:16 น. |
|
โดย: kaoim วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:7:19:29 น. |
|
โดย: hunjang วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:12:54:45 น. |
|
โดย: juriojung IP: 202.28.181.200 วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:19:05:32 น. |
|
โดย: บลูยอชท์ วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:13:13:45 น. |
|
โดย: ตุ๊กตาไขลาน IP: 203.209.25.167 วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:18:12:47 น. |
|
โดย: Kitsunegari วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:16:42:09 น. |
|
โดย: hunjang วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:21:15:58 น. |
|
โดย: สาธุ คิคิ IP: 58.8.181.88 วันที่: 31 กรกฎาคม 2551 เวลา:12:00:26 น. |
|
โดย: สาธุ คิคิ IP: 58.8.181.88 วันที่: 31 กรกฎาคม 2551 เวลา:12:27:19 น. |
|
| |
|
The Legendary Midfielder |
 |
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

|
... " เพราะเหตุนี้มี ผลนี้จึงมี, เพราะเหตุนี้เกิด ผลนี้จึงเกิด, เพราะเหตุนี้ดับ ผลนี้จึงดับ " หากปรารถนาผลอันดี พึงสร้างเหตุสร้างปัจจัยอันดี "
... " ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์ "
... " ทะเลทุกข์ไร้ขอบเขต กลับใจจะพบฟากฝั่ง "
... "หว่านพืชเช่นใด ย่อมได้รับผลเช่นนั้น "ทำกรรมดีย่อมได้รับผลของกรรมดี ทำกรรมชั่วก็ย่อมได้รับผลของกรรมชั่ว"
... "...กฎแห่งกรรมไม่เคยผิดพลาดมาก่อน "ไม่ว่าเราจะประสบพบกับคราวเคราะห์หนักหนาสาหัสแค่ไหน "ให้ระลึกไว้ว่านั่นเป็นสิ่งที่สมควรและสาสมแก่เราแล้ว "เป็นเพราะเราได้สร้างเหตุนั้นๆมาก่อน "ผลเช่นนี้จึงตามมา..."
|
|
 |
|