สพฺเพ ธมฺมา นาลํ อภินิเวสาย (สิ่งทั้งหลายทั้งปวงในโลก มิควรยึดมั่นถือมั่น)

<<
พฤศจิกายน 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
14 พฤศจิกายน 2551
 

คำถาม - ความทุกข์ - ความสุข

...













สวัสดีครับ









1.


ไม่ทราบว่า เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ เคยมีความรู้สึกแบบนี้ไหมครับ?



  • ทำไมเรื่องแย่ๆต้องตกอยู่กับข้าพเจ้าทุกที?


  • ทำไมเราจึงต้องโชคร้ายตลอดกาล?


  • ทำไมรอบๆตัวเรามีแต่คนนิสัยไม่ดี?


  • ทำไมเราซึ่งไม่เคยทำเรื่องเลวร้ายนักถึงได้เจอะแต่เรื่องร้ายๆเล่า?


  • ทำไมทั้งที่เราออกจะทำ ดี~ดี๊~ดี กับเขา เขายังคิดไม่ดีกับเราอีก?


  • ทำไม...?








นัท-คุง คิด (เอาเอง) ว่าไม่มากก็น้อย

คนเราต้องเคยรู้สึกประดานี้กันบ้างล่ะ

แล้วเคยรึป่าวครับ...ที่จะถามตัวเองด้วยคำถามประมาณนี้?





  • ทำไมพวกเขาถึงดีกับเรานักนะ...ทั้งที่เราก็ไม่ได้ดีอะไรกับเขา?


  • ทำไมวันนี้เราโชคดีปานนี้เนี่ย...ทั้งที่ไม่เคยทำดีกับคนอื่น?


  • ทำไมเราได้รับการประเมินผลประจำปีสูงนักนะ...ก็เราทำงานน้อยกว่าอีกคนอีก?


  • ทำไมคนนี้ดีกับเราจัง...ก็เราวีนใส่เขาทุกวัน?


  • ทำไม...?








เมื่อสักหลายเดือนมาแล้ว

นัท-คุง เคยลองนั่งนึกๆดู (โดยเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง)

ก็พบเรื่องที่แสนจะขัดแย้งกันอย่างรุนแรงภายในตัวเอง

นั่นคือ

ทุกครั้งที่ นัท-คุง พบเจอกับสิ่งดีๆ คนนิสัยดีๆ เหตุการณ์ดีๆ ...

และอีกมากมายที่แสนดีและแสนวิเศษบังเกิดขึ้นกับตัวเองแล้ว

นัท-คุง ไม่เคยตั้งคำถามกับตัวเองเลยว่า

"ข้าพเจ้าทำอะไรดีๆมาเนี่ย...หมู่นี้ถึงได้โชคดีทุกวี่วัน?"

ดันคิดไปว่า "นี่ล่ะคุณค่าที่ข้าพเจ้าคู่ควร"



แต่เมื่อใดก็ตามที่ นัท-คุง ประสบกับเหตุที่เรียกกันว่า "ดวงตก"

กลับเฝ้าถามตัวเองซ้ำซากมิรู้คลายประมาณว่า

"ข้าพเจ้าไม่เคยฆ่าคนนะเฟ้ย! ไยต้องมาเจอเรื่องเลวร้ายปานนี้ฟะ!?"



นัท-คุง จึงคิดสรุป (เอาเองอีกเช่นกัน) ว่า

ถ้าเราไม่เคยตั้งคำถามกับตัวเองถึงเรื่องดีๆที่เราประสบ

เราก็ไม่น่าที่จะมีข้อฉงนใจแต่อย่างใดถึงสิ่งร้ายๆที่เราพบเจอ

ก้มหน้าก้มตา Walk On ต่อไปดีกั่ว












...












2.



เคยอ่านหนังสือชื่อ "ทุกข์สำหรับเห็น แต่สุขสำหรับเป็น"

โดย พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)

ซึ่งมีแนวคิดเกี่ยวกับ "สุข" และ "ทุกข์" ที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง

จึงขอสรุปความและเรียบเรียง (ในสำนวน นัท-คุง) มาแบ่งปันกันครับ




"...นักวิทยาศาสตร์เคยแสดงทรรศนะเกี่ยวกับ อุณหภูมิ ว่า

"จริงแล้วไม่มีสิ่งที่เรียกว่า ความเย็น หรอก

"มีแต่ ความร้อน เท่านั้น

"อุณหภูมิต่ำๆนั้นหมายถึง ภาวะที่มีความร้อนน้อยมาก

"และหากอุณหภูมิถึงขั้นติดลบก็คือ ภาวะที่มีความร้อนน้อยมากยิ่งกว่าน้อย

"ถ้าเราต้องการให้สิ่งของ หรือพื้นที่ใดมีอุณหภูมิต่ำลง

"สิ่งที่เราต้องทำคือ ลดความร้อนของสิ่งของและพื้นที่นั้นๆ



"ฉันใดก็ฉันนั้น เมื่อพิจารณาถึง ความสุข และ ความทุกข์

"มันก็คล้ายคลึงกันกับ อุณหภูมิ ในทรรศนะของนักวิทยาศาสตร์นั่นแล

"คือจริงๆแล้วมันไม่มีสิ่งที่เรียกว่า ความสุข อยู่หรอก

"ความสุขเป็นเพียง ภาวะของการที่มี ทุกข์ อยู่น้อยเท่านั้น

"หากเราอยากมีความสุข สิ่งที่ต้องทำก็คือ

"ทำให้ ทุกข์ ของเราน้อยลงเท่านั้นเอง

"แล้วเมื่อทุกข์มันลดน้อยลงไป เราก็จะสุขมากขึ้นเอง..."













...














-- ขอบคุณที่แวะมาครับผม --











 

Create Date : 14 พฤศจิกายน 2551
21 comments
Last Update : 14 พฤศจิกายน 2551 14:59:57 น.
Counter : 831 Pageviews.

 
 
 
 
เจ๋งดี เทียบสุข-ทุกข์กับอุณหภูมิความร้อน-เย็น เก็ทสำหรับเด็กโลกวิทยาศาสตร์ปัจจุบันเลยนะนี่ หุๆ



ทำไมเราซึ่งไม่เคยทำเรื่องเลวร้ายนักถึงได้เจอะแต่เรื่องร้ายๆเล่า?


ทำไมทั้งที่เราออกจะทำ ดี~ดี๊~ดี กับเขา เขายังคิดไม่ดีกับเราอีก?
^
^
เคยถามคำถามสองคำถามนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตอนเจอเรื่องเจ็บปวดของชีวิตน่ะแหละ

ถามตัวเองอยู่นั่นแล้ว

แต่ไม่มีคำตอบ



แต่..มันทำให้พี่เป็นคนดีน้อยลงกว่าเดิมเยอะเลยแหละ หึๆ
 
 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 14 พฤศจิกายน 2551 เวลา:16:27:07 น.  

 
 
 
สวัสดีค่ะ เจนนี่แวะมาเยี่ยมค่ะ และมาขอบคุณ ที่เข้าไปอวยพรวันเกิดให้เจนนี่ที่บล็อคนะคะ ขอให้คำอวยพรดีดีของทุกคน จงย้อนกลับมาหาเพื่อนๆทุกคนเช่นกันน่ะคะ

วันลอยกระทงที่ผ่านมา ไปเที่ยวลอยกระทงที่ไหนกันมาบ้างคะ มาเล่าสู่เจนนี่ฟังบ้างน๊า ส่วนเจนนี่ ยุ่งกับการทำกระทงขายค่ะ ฮิฮิ ว่างๆแวะเข้าไปชมกระทงฝีมือของเจนนี่และบรรยากาศในวันขายกระทงของเจนนี่ได้ที่บล็อคน่ะคะ

ไว้เจนนี่ว่างๆเจนนี่จะแวะมาเยี่ยมทักทายอีกน่ะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
 
 

โดย: สาวอิตาลี วันที่: 14 พฤศจิกายน 2551 เวลา:17:29:09 น.  

 
 
 
อืม..จริงด้วยแฮะ...ลืมมองจุดนี้ไปเลย...นัท คุงเป็นยังไงบ้างอ่ะวันนี้
 
 

โดย: Why England วันที่: 14 พฤศจิกายน 2551 เวลา:18:13:39 น.  

 
 
 
+ หน้านี้ของนัท-คุง ทำให้พี่นึกได้นะเนี่ย ว่าบล็อกตัวเองก็มีกรุ๊ปธรรมะ ซึ่งห่างหายจากการอัพหน้าใหม่ไปนานหนักหนาแล้ว เด๋วต้องเขียนเนื้อหาเอามาลงบ้างซะแล้น

+ ตอนเด็กๆ พี่ก็เคยคิดนะครับ กับคำถามพวกนี้ แต่พอโตขึ้น ได้ศึกษาธรรมะเยอะขึ้นๆ ก็เริ่มเปลี่ยนมุมมองความคิดของตัวเองใหม่ ...
* ทำไมเรื่องแย่ๆ ต้องตกอยู่กับข้าพเจ้าทุกที? --> ปกติชีวิตพี่มักจะราบเรียบ ไม่ค่อยเจออะไรแย่ๆ ร้ายแรง ถ้าเจอก็จะคิดซะว่า มันเป็นความ absurd ที่ผ่านเข้ามาชั่วครั้งชั่วคราวแค่นั้นเอง

* ทำไมเราจึงต้องโชคร้ายตลอดกาล? --> เพื่อเชื่อว่าคนเราคิดอะไรก็จะได้อย่างนั้น ดังนั้นพี่เลย (เลือกที่จะ) ตัวพี่เองเป็นคนโชคดีอ่ะครับ และโดยส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยเจอะเจอโชคร้ายนะ มีบ้างนานๆ ที

* ทำไมรอบๆ ตัวเรามีแต่คนนิสัยไม่ดี? -->ปกติถ้าเจอคนนิสัยไม่ดี (เกินกว่ามาตรฐานที่พี่เองยอมรับได้) ... พี่มักจะเลือก 'กำจัด' (แกล้งทำเป็นหลงลืม) คนๆ นั้นออกไปจากชีวิต อาจฟังดูโหดร้าย แต่ก็จะทำให้ชีวิตเราไม่แย่ลงอ่ะครับ ... ถ้าเขียนให้ดูดีหน่อย ก็ต้องเป็นว่า "เลือกคบแต่กัลยาณมิตร" นั่นเอง

* ทำไมเราซึ่งไม่เคยทำเรื่องเลวร้ายนักถึงได้เจอะแต่เรื่องร้ายๆ เล่า? --> อันนี้เมื่อก่อนเคยสงสัย แต่พอได้ศึกษาหลักแห่งกรรมแล้ว ก็เข้าใจว่า กรรมดีและกรรมชั่วที่เราทำหรือเคยทำ อาจตอบสนองเราในอีกช่วงเวลาหนึ่งก็ได้ ดังนั้นช่วงที่เจอแต่เรื่องร้ายๆ ก็เพราะเจ้ากรรมนายเวรท่านต้องการทวงสิ่งที่เราได้เคยทำไว้คืนไปนั่นเอง

* ทำไมทั้งที่เราออกจะทำ ดี~ดี๊~ดี กับเขา เขายังคิดไม่ดีกับเราอีก? --> ข้อนี้พี่ไม่สนครับ ทุกวันนี้พี่เลือกที่จะ (พยายาม) คิดดี พูดดี ทำดีเข้าไว้ให้แก่คนที่พี่รัก / รักพี่ รอบๆ ตัวก็พอ ... ถึงเค้าจะ (ยัง) ไม่เห็นคุณค่าก็ไม่เป็นไร แค่ได้ทำอะไรให้ ก็สุขใจเกินพอ แล้วล่ะครับ

+ การเอาพุทธศาสนามาอธิบายโดยเปรียบเทียบกับหลักการทางวิทยาศาสตร์ พี่ว่าเป็นสิ่งที่ดีนะครับ เพราะทั้ง 2 อย่างต่างก็เป็นสิ่งที่เป็นเหตุเป็นผลด้วยกันทั้งนั้น ... และยังสามารถทำให้คนรุ่นใหม่เข้าใจพุทธศาสนามากขึ้นอีกด้วย

+ บทสรุปสุดท้าย มันเหมือนเป็นมุมมองเหมือนกันนะครับ พี่ชอบไอเดียเรื่อง "น้ำครึ่งแก้ว" ที่แม้จะเป็นสิ่งเดียวกัน แต่คนมองโลกในแง่ร้าย จะคิดว่า "มีน้ำเหลือแค่ครึ่งแก้วเอง" ... ส่วนคนมองโลกในแง่ดี กลับคิดว่า "ยังมีน้ำเหลืออีกตั้งครึ่งแก้วแน่ะ เอาไปทำอะไรได้อีกตั้งเยอะ"
... เนี่ยครับ สิ่งเดียวกัน แต่แค่เปลี่ยนวิธีคิด ผลลัพธ์ที่ได้ก็ต่างกันตั้งมากโขแล้วอ่า

+ ขอบคุณนัท-คุง สำหรับข้อคิดและหลักธรรมะ ที่ยกมาเสวนากันด้วยนะขอรับ
 
 

โดย: บลูยอชท์ วันที่: 14 พฤศจิกายน 2551 เวลา:19:36:16 น.  

 
 
 
^
^
แก้คำผิดจ้า (เมาอะไรได้ขนาดนั้น)

* ทำไมเราจึงต้องโชคร้ายตลอดกาล? --> พี่เชื่อว่าคนเราคิดอะไรก็จะได้อย่างนั้น ดังนั้นพี่เลย (เลือกที่จะเชื่อว่า) ตัวพี่เองเป็นคนโชคดีอ่ะครับ และโดยส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยเจอะเจอโชคร้ายนะ มีบ้างนานๆ ที
 
 

โดย: บลูยอชท์ วันที่: 14 พฤศจิกายน 2551 เวลา:19:41:59 น.  

 
 
 
เราก็เคยถามตัวเองนะ

เวลาที่เราเจอเพื่อนชั่ว
มันคือเวรกรรมที่เราเคยทำอะไรชั่วๆ ใส่เพื่อนหรือเปล่า

เวลาที่เราทำตัวงี่เง่า
เป็นเพราะเราเคยงี่เง่าใส่คนอื่นใช่ไหม


พอคิดแบบนี้ ก็พอจะเบรกตัวเอง ไม่ให้โต้ตอบความชั่วด้วยความชั่วกว่า 55 ตอนนี้พยายามคิดในแง่ว่า พลังงานเรามีจำกัด เวลาเราก็มีจำกัด เราควรใช้เวลาและชีวิตเราไปทำสิ่งดีๆ ให้คนที่เรารักและทำให้เรามีความสุข น่าจะดีกว่าการคิดหาวิธีทำให้คนที่เหยียบย่ำน้ำใจเรามันต้องเจ็บยิ่งกว่าที่เราเจ็บนะ

ถึงจะยาก แต่ก็พยายามทำให้ได้
ชีวิตเป็นของเรา ทุกข์หรือสุขก็เป็นเราที่รับรู้
ขยะที่คนอื่นขว้างใส่ เรื่องอะไรเราจะเก็บพกติดตัว
อดีตมีไว้เตือนให้ระวังในการสร้างอนาคต
ไม่ได้มีไว้ทำร้ายตัวเองนิ
 
 

โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 14 พฤศจิกายน 2551 เวลา:21:31:20 น.  

 
 
 
^
^
พิมพ์ผิด

เวลาที่ "คนอื่นเขา" ทำตัวงี่เง่า
 
 

โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 14 พฤศจิกายน 2551 เวลา:21:32:45 น.  

 
 
 
โอ้... เรื่องในบล็อควันนี้ดีมากๆ

แต่พี่กำลังสงสัย (แกมเป็นห่วง) ว่าหมู่นี้น้องนัท-คุงเจอะเจออะไรร้ายๆมารึเปล่าครับ ในหัวคิดถึงได้วนเวียนอยู่กับหลักธรรมข้อนี้ แล้ววิธีคิดที่นัท-คุงสรุปออกมานั้น มันช่วยบรรเทาความรุ่มร้อนในใจยามที่เจอ"ความร้อน" มากๆได้หรือเปล่า

พอดีพี่เป็นคนไม่ตั้งคำถามอะไรแบบนี้แฮะ อย่างถ้าเจออะไรดีๆเช่น หัวหน้างานประเมิน performance ดีเกินจริง (ในความคิดของเรา) พี่ก็จะคิดว่าตรูนี่โชคดีจังหนอ มีหัวหน้าน้ำใจงามเช่นนี้ แต่ถ้าเจอคนมาร้ายใส่ พี่ก็จะคิดว่า ไม่เป็นไร คุณไม่ชอบผมๆก็ไม่ชอบคุณ ก็แค่แช่งชักให้ตายตกตามๆกันไปเท่านั้นเอง 5555
 
 

โดย: แฟนผมฯ IP: 114.128.100.156 วันที่: 14 พฤศจิกายน 2551 เวลา:22:18:18 น.  

 
 
 
"นี่ล่ะคุณค่าที่ข้าพเจ้าคู่ควร"

ฮาหน้าคอมพ์เลยคับ

นั่นสิคับ ความสุขธรรมดาเราไม่ค่อยสังเกตเห็น

พอทุกข์เข้ามากระทบก็บ่นกระปอดกระแปด

เกิดอะไรกับตรูเนี่ยยยยยยย ประมาณนั้น

สักพักก็ทำใจได้เองแหละคับ
 
 

โดย: prezcot วันที่: 15 พฤศจิกายน 2551 เวลา:17:13:39 น.  

 
 
 
เมื่อก่อนนี้ไม่ค่อยได้ตั้งคำถามแนวนี้หรอกค่ะ
ยิ่งถ้าเราสุขยิ่งไม่คิดถึงเลยล่ะเพราะว่าสุขแล้ว
ก็สุขกับมันคำถามไม่ได้ตั้งอะไร แต่ว่าถ้าทุกข์เมื่อไหร่
คำถามประดังประเดมาเชียวค่ะ ...

แต่ว่าหลังๆ มานี้ก้ยังไม่คิดอะไรนะสำหรับช่วงที่
เจอเรื่องดีๆ แต่ว่าถ้าเจอเรื่องร้ายๆ จะให้กำลังใจ
ตัวเองว่า "สักวันน๊า มันคงมีวันดีๆ ของเราบ้าง"
แบบว่ากำลังอยากผ่อนคลายน่ะ ก็เลยต้องเชียร์ตัวเอง
สักหน่อย ไม่อย่างนั้น ... ดับดิ้นด้วยความทุกข์
แบบหาความสุขไม่เจอจริงๆ อ่ะจ้ะ
 
 

โดย: JewNid วันที่: 15 พฤศจิกายน 2551 เวลา:20:24:32 น.  

 
 
 

ผม ไม่ค่อยคิด อย่างที่นัท-คุงคิด

ชอบคิดดีๆ มองโลกแบบเรื่องธรรมดา ธรรมชาติ

มีขึ้น มีลง มีสุข แล้ว มีทุกข์ มีความเปลี่ยนแปลงอยู่รอบตัว

พยายาม มีสติ มีปัญญากับตัวต่อทุกสิ่งเท่านั้น
 
 

โดย: yyswim วันที่: 16 พฤศจิกายน 2551 เวลา:0:54:51 น.  

 
 
 
...





-- สาวไกด์ใจซื่อ / เวลาช่วงนั้นผ่านมาแล้ว ตอนนี้ พี่เต้ย ก็เป็นคนดีของสังคมแล้วใช่ป่าว? อิอิ

+ ผมว่า (เอาเอง) นะครับว่าต่อให้ชีวิตเราๆท่านๆเจอเรื่องทุกข์ยากเข็ญปานใด ก็ยังมีคนแย่กว่าเราอยู่ดีล่ะ
คิดง่ายๆว่า หากเรายังมาเล่นบล็อกได้อย่างที่เป็น เราก็สุขกว่าคนอีกหลายร้อยล้านคนแล้ว




-- สาวอิตาลี / อ่าครับ




-- Why England / ช่วงนี้ยังทรงๆครับ (ไม่แน่ใจว่ามันรอ "ทรุด" รึป่าว? )




-- บลูยอชท์ / พี่วิน เม้นท์ยาวๆให้ชื่นใจอีกแว้วววว...

+ คิดแบบพี่นี่ดีเลยครับผม เพราะกฎแห่งกรรมมันก็คือ Action = Reaction อันเป็นวิทยาศาสตร์จ๋า นั่นแล




-- แพนด้ามหาภัย / ก๊อปมุขพิมพ์ผิดของ พี่วิน มาป่าว?

+ คิดดีมากครับ เวลาเรามีจำกัด
เรื่องอะไรจะไปเสียให้กับเรื่องไม่เป็นสาระประโยชน์ของชีวิต...เนอะ?




-- แฟนผมฯ / ขอบคุณ พี่โอ๊ต ทั้งคำชมและความห่วงนะค้าบ

+ ผมไม่ได้เป็นอะไรหรอกพี่ เนื้อหาอันนี้มาจากที่คิดๆเอามาแต่เด็กแล้วอ่าครับ
อย่างถ้าซื้อของเงี้ย ไปซื้อกันเป็นกลุ่มแต่ที่ผมได้มักจะเสีย เป็นต้น

+ แต่ทุกวันนี้ก็ไม่ได้คิดซีเรียสอะไรแล้วครับ แค่คอยลับมีดกะขัดปืนยิงคนปองร้ายเท่านั้นเอง (มุขนะครับมุข)




-- prezcot / ใช่ครับ ไม่ว่าจะเป็นปัญหายิ่งใหญ่เทียมฟ้า
พอผ่านไปสักพัก (จะพักน้อยหรือพักมากก็เหอะ) มันก็เลือนๆไปเองแหละ




-- JewNid / อ่าครับ...บางทีคนเราที่เรียกร้องหาความยุติธรรมก็ไม่ค่อยมีความยุติธรรมในตัวเองเหมือนกันเนอะ...พี่พู่
เพราะถ้าตั้งคำถามกับความทุกข์ได้ เราก็น่าจะตั้งคำถามกับความสุขเหมือนกัน

+ ร่วมเชียร์ด้วยคนครับ




-- yyswim / ดีครับพี่ ปกติผมก็ไม่ค่อยคิดอย่างนี้หรอกนะครับ
มีสติไว้ดีกว่า...สติมาปัญญาเกิด









-- ขอบคุณที่แวะมาครับผม --







 
 

โดย: The Legendary Midfielder วันที่: 17 พฤศจิกายน 2551 เวลา:10:50:52 น.  

 
 
 
ฮัลโหล... กลับมาเยี่ยม blog ชั่วคราวน๊า อิอิ


ปกติเราไม่ค่อยตั้งคำถามอะไรกับตัวเองนักหรอก จะตั้งก็เฉพาะช่วงที่มีปัญหาอ่ะ แต่เราว่าเราไม่ค่อยมีปัญหากับตัวเองหรอกนะ มันจะมีก็แต่ปัญหาที่เกิดมาจากคนอื่นอ่ะ ไม่รู้จะเรียกว่าโชคดี หรือว่าโชคร้ายดี
 
 

โดย: ตุ๊กตาไขลาน วันที่: 17 พฤศจิกายน 2551 เวลา:11:57:41 น.  

 
 
 
โอ้ย..ไม่เรียกแซว เขาเรียกรู้จริง นัทไปเรื่อยเปื่อยมากๆ อยากแวะก็แวะ จุดยืนไม่มี...
 
 

โดย: Why England วันที่: 17 พฤศจิกายน 2551 เวลา:15:50:37 น.  

 
 
 
Hi Nuttro,

This is a nice article!. I enjoy reading. Thank u krub.
 
 

โดย: Chil IP: 58.9.19.157 วันที่: 18 พฤศจิกายน 2551 เวลา:1:13:45 น.  

 
 
 
สวัสดีอีกรอบเด้อ

ไม่เลย พี่ไม่สามารถกลับไปเป็นคนดีเหมือนก่อนได้อีกแล้ว

จริงๆ นะ ยอมรับเลยว่า เลวลง เหอๆ


ทเวนตี้ฯ ยังไม่ได้อ่านเลย ยืมเพื่อนบล็อกไว้แล้ว แต่ยังไม่มีเวลาไปเอาอ้ะ
 
 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 18 พฤศจิกายน 2551 เวลา:9:04:34 น.  

 
 
 
"ข้าพเจ้าทำอะไรดีๆมาเนี่ย...หมู่นี้ถึงได้โชคดีทุกวี่วัน?"

อือม์ เจอประโยคนี้แล้วยิ้มเลย......
 
 

โดย: prncess วันที่: 18 พฤศจิกายน 2551 เวลา:10:54:45 น.  

 
 
 

ชอบหัวข้อนี้จัง

เวลาเจอเรื่องดีๆ ถามตัวเองนะว่าทำไมเราถึงโชคดีจัง
เวลาเป็นคนอื่นซวย เราก็ยังถามตัวเองอยู่ดีว่าทำไมเรายังโชคดีที่ คนที่ซวยคนนั้นไม่ใช่เรา
เวลาตัวเองซวย ก็ยังถามตัวเองอีก (ลูกอีช่างถาม 55+) ว่าทำไมเป็นเรา เราไม่รอบคอบ หรือเราควบคุมป้องกันไม่ให้เกิดอย่างนั้นได้หรือปล่าว
ทุกวันนี้ เรื่องที่ควบคุมไม่ได้ มันคงมีอะไรบางอย่างที่ควบคุมเรานะ
เพราะสิ่งที่เราเคยทำเมื่อก่อน มันก็คือกรรมน่ะล่ะ
พอโบ้ยให้เป็นกรรม ก็กลับมาเรื่องเดิมคือสติ ว่าไม่อยากเจอเรื่องไม่ดีในอนาคตซ้ำๆ อีก
ต้องตั้งใจไม่หา "ความร้อน" มาใส่ตัว และเวลาเริ่ม "ร้อน" ต้องตั้งใจ ผ่อนมันให้ร้อนน้อยลง
ยังดีที่ธรรมชาติให้เรามองเห็นความโง่ของตัวเองบ้าง จะได้ไม่ "ร้อนไม่เลิก"
 
 

โดย: อออ IP: 202.176.89.115 วันที่: 18 พฤศจิกายน 2551 เวลา:14:02:35 น.  

 
 
 
...







-- ตุ๊กตาไขลาน // เวลคั่ม แบ๊ค...คุณอิ๋ม

+ ดีครับ อย่างน้อยก็เป็นปัญหาของคนอื่น
ตัวเราไม่สร้างปัญหาให้ตัวเอง
สบายใจได้หน่อยนึงเนอะ?




-- Why England //




-- Chil // Glad to read whay you wrote.




-- สาวไกด์ใจซื่อ // อ๋ายยยย...ไม่ขนาดนั้นมั้งค้าบ พี่เต้ย
ทุกอย่างเกิดขึ้น-ตั้งอยู่-ดับไป ครับ
เราเป็นคนใหม่ได้ตลอดเวลานะพี่




-- prncess // ยินดีที่ทำให้พี่ยิ้มได้ค้าบ




-- อออ // อนุโมทนากับความเห็นชอบครับพี่
รู้ตัวว่าร้อนเมื่อไร...ไอ้ร้อนนั่นก็ไม่ใช่เราแล้ว










-- ขอบคุณที่แวะมาครับผม --




 
 

โดย: The Legendary Midfielder วันที่: 18 พฤศจิกายน 2551 เวลา:15:24:53 น.  

 
 
 
 
 

โดย: คนเดินดิน (หน้าใหม่อยากกรอบ ) วันที่: 8 สิงหาคม 2554 เวลา:8:24:05 น.  

 
 
 
 
 

โดย: คนเดินดิน (หน้าใหม่อยากกรอบ ) วันที่: 12 สิงหาคม 2554 เวลา:3:08:35 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

The Legendary Midfielder
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




...
" เพราะเหตุนี้มี ผลนี้จึงมี, เพราะเหตุนี้เกิด ผลนี้จึงเกิด, เพราะเหตุนี้ดับ ผลนี้จึงดับ
" หากปรารถนาผลอันดี พึงสร้างเหตุสร้างปัจจัยอันดี "


...
" ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์ "


...
" ทะเลทุกข์ไร้ขอบเขต
กลับใจจะพบฟากฝั่ง "


...
"หว่านพืชเช่นใด ย่อมได้รับผลเช่นนั้น
"ทำกรรมดีย่อมได้รับผลของกรรมดี ทำกรรมชั่วก็ย่อมได้รับผลของกรรมชั่ว"



...
"...กฎแห่งกรรมไม่เคยผิดพลาดมาก่อน
"ไม่ว่าเราจะประสบพบกับคราวเคราะห์หนักหนาสาหัสแค่ไหน
"ให้ระลึกไว้ว่านั่นเป็นสิ่งที่สมควรและสาสมแก่เราแล้ว
"เป็นเพราะเราได้สร้างเหตุนั้นๆมาก่อน
"ผลเช่นนี้จึงตามมา..."

[Add The Legendary Midfielder's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com