เป็นคำถามยอดฮิตติดชาร์จ เรียกได้ว่าไม่ว่าจะกี่ยุคกี่สมัย ปัญหาเรื่องลดความอ้วนในหมู่สาวๆก็ยังคงมีหลากหลายคนมาสอบถามหลังไมค์อยู่ตลอดว่า
ทำยังไงดีน้ำหนักขึ้น ลดน้ำหนักยังไงให้เร็วทันใจ หรือกินยาตัวนี้ดีไหม ลดได้ไวแล้วปลอดภัยรึเปล่า !
ภาพจาก Authority Nutrition
หยุดกิน ! เลิกหวังพึ่งยาลดความอ้วน ! แล้วก็หันมาเริ่มต้น
ออกกำลังกายลดน้ำหนักสะสิ ! เป็นคำตอบที่ดี แต่ไม่มีใครคิดจะทำตาม บางคนก็บ่นว่าเหนื่อย บ่นว่าไม่ชอบเวลาตัวชุ่มเหงื่อ มีทางเลือกอื่นไหม ที่จะทำให้เราลดความอ้วนได้ ?
คำถามแสนน่าปวดหัว
เมื่อเจอคำถามแสนน่าปวดหัวเหล่านี้มากๆ เลยคิดว่าวันนี้มาเขียนตอบคำถามรวบยอดไว้ที่เดียวเลยดีกว่า เผื่อใครมาถามอีกก็แปะบทความนี้ให้ไปอ่านสะ
(ห้ามบอกอีกนะว่าโควต้าการอ่านได้แค่ 8 บรรทัดใช้ไปหมดแล้ว) ภาพจาก Mother Jones
ลดน้ำหนักแบบไหนไวที่สุด ?
การ
ลดน้ำหนักไม่มีคำว่าลดไว
ลดเร็ว ลด 5 กิโลได้ใน 3 วัน 7 วัน ไม่มีค่ะ ! ถ้าจะลงไวขนาดนั้นไม่ใช่ไขมันในร่างกายที่หายไปหรอกค่ะ
น้ำล้วนๆ ไม่มีไขมันผสมอย่างแน่นอน เพราะไขมัน 1 กิโลนี่เราจะต้องเผลาญพลังงานกันถึง
7700 กิโลแคลลอรี่กันเลยทีเดียวนะ
ภาพจาก www.walmart.com
สรุปคือหากคุณ
ออกกำลังกายลดน้ำหนักด้วยการ
ปั่นจักรยานเป็นเวลา
1 ชั่วโมง จะสามารถเผาผลาญพลังงานได้ประมาณ
500 600 กิโลแคล ดังนั้น คุณจะต้อง
ออกกำลังกายลดน้ำหนัก ปั่นจักรยานเป็นเวลาทั้งหมด
15 วัน วันละ 1 ชั่วโมงแบบไม่หยุด
ถึงจะลดลงได้ 1 กิโลกรัมค่ะ (ซึ่งอาจจะลดไม่ถึงด้วยซ้ำ) ภาพจาก Indian Makeup and Beauty Blog
ดังนั้นพวกยาบล็อค ยาเบิร์น ยาคุมน้ำหนักต่างๆนานๆ ที่คนส่วนใหญ่อวดอ้างสรรพคุณว่าลดได้ใน 5 วัน สวยเพรียวผอม เป็นคำโฆษณาชวนเชื่อเท่านั้นล่ะค่ะ เพราะการ
ลดน้ำหนักที่แท้จริง
จะต้องใช้ทั้งความอดทน ใช้ทั้งเวลา คิดง่ายๆว่า กินจนน้ำหนักขึ้นมา 1 ปี ก็ต้องใช้เวลาในการลด 1 ปีทดแทน เพราะฉะนั้น
อย่า ใจ ร้อน อิอิ
ห้ามอดอาหารเด็ดขาด
เป็นอีกสิ่งที่สาวๆหลายคน
เข้าใจผิดกันว่า
อยากผอมต้องกินน้อยๆ กินเหมือนแมวดม เป็นเรื่องที่ต้องปรับความคิดกันใหม่ การอดอาหาร อาจจะทำให้น้ำหนักลดจริง แต่ลดแบบโทรมๆ ลดแบบเราหิวโหย พอน้ำหนักลดไปถึงจุดที่เราพอใจ กลับมากินใหม่
ตู๊มมมม ! น้ำหนักดีดอย่างไวจนแทบช็อค !
ภาพจาก ExpertBeacon
สาเหตุเป็นเพราะร่างกายชินกับการได้รับสารอาหารน้อย การเผาผลาญพลังงานจึงลดลง เพราะร่างกายกลัวว่าจะมีปริมาณพลังงานไม่เพียงพอใช้งานตลอดทั้งวัน เมื่อเรากลับมากินเยอะปกติ ร่างกายก็จะไม่เผาผลาญสิ่งที่เรากินเข้าไป แต่กลับกักตุนเอาไว้แทนที่จะเผาผลาญออกทั้งหมด น้ำหนักจึงดีดขึ้นอย่างรวดเร็ว
(ระบบเผาผลาญทำงานผิดปกติ) ภาพจาก Luxury Society
ดังนั้น เราจึงควรรับประทานอาหารให้ครบทั้ง 3 มื้อ เพียงแต่ต้องเลือกทานของที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ หลักเลี่ยงของทอดของมัน และกินแต่พออิ่ม เพื่อปรับระบบการเผาผลาญพลังงานในร่างกายให้กลับมาทำงานปกติค่ะ
ออกกำลังกายหัวใจสำคัญของการลดน้ำหนัก
เมื่อเราควบคุมการทานอาหารกันอย่างถูกต้องแล้ว การ
ลดน้ำหนักที่จะเห็นผลได้มากที่สุดคือ การ
ออกกำลังกายลดน้ำหนักควบคู่กันไปด้วย โดยการ
ออกกำลังกายลดน้ำหนักนั้น จะต้องออกอย่างน้อย 45 นาทีต่อวัน ซึ่งภายใน 1 อาทิตย์คุณอาจจะออกแต่ 3-4 วันก็เพียงพอ
ภาพจาก newsblog.chinatimes.com
ออกกำลังกายลดน้ำหนักแบบคาดิโอ้
การ
ออกกำลังกายลดน้ำหนักแบบคาดิโอ้
เป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิก ที่เน้นการขยับเขยื้อนร่างกายซึ่งมีผลต่ออัตราการเต้นของหัวใจที่เร็วขึ้น ร่างกายต้องการออกซิเจนเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สังเกตุจากการหายใจที่ถี่มากขึ้น ตัวอย่างการ
ออกกำลังกายลดน้ำหนักแบบคาดิโอ้ ได้แก่ เต้นแอโรบิก , วิ่ง , ปั่นจักรยาน , ว่ายน้ำ เป็นต้น
ภาพจาก Slenderthai
ออกกำลังกายลดน้ำหนักแบบเวทเทรนนิ่ง
การ
ออกกำลังกายลดน้ำหนักแบบเวทเทรนนิ่ง
เป็นการออกกำลังกายที่เน้นการใช้กล้ามเนื้อ สร้างกล้ามเนื้อ เพื่อกระตุ้นการเผาผลาญพลังงานมากยิ่งขึ้น ยิ่งร่างกายของเรามีกล้ามเนื้อมากเท่าไหร่ ระบบการเผาผลาญพลังงานก็จะสามารถทำงานได้ดีมากเท่านั้น
ภาพจาก Women's Health
ออกกำลังกายแบบควบคู่
การ
ออกกำลังกายที่จะสามารถ
ลดน้ำหนักได้ดีมากที่สุด
คือการออกกำลังควบคู่คาดิโอ้และเวทเทรนนิ่งไปพร้อมๆกัน แนะนำว่าให้เริ่มจากการเล่นเวทกันก่อนสัก 20-30 นาที แล้วจึงค่อยมาเริ่ม
ออกกำลังกายแบบคาดิโอ้สัก 45 นาที เพราะการ
ออกกำลังกายแบบคาดิโอ้ อาจจะทำให้กล้ามเนื้อเมื่อยล้า ไม่สามารถยกเวทได้ดีเท่าที่ควร
ภาพจาก Corpina
ร่างกายก็จะเผาผลาญพลังงานได้ดีมากยิ่งขึ้นอีกด้วย หากทำอย่างต่อเนื่อง
รับรองว่าร่างกายจะกลับมากระชับ หุ่นเพรียวสวย บุคลิกภาพดี ควบคู่กับสุขภาพที่แข็งแรงอย่างแน่นอนจ้า