พลังงานสีเขียวและไขความลับ อุปนิสัยพื้นฐานของ...ชนชาติเยอรมัน ที่เอาชนะชาติอื่นได้อย่างยั่งยืน
สารคดีจาก BBC ของอังกฤษชุด Make me a German ซึ่งถ่ายทอดเรื่องราวของครอบครัวนักข่าวชาวอังกฤษ ที่ประกอบด้วยสามี ภรรยา และลูกน้อย ที่ยินดีจะไปใช้ชีวิตในเยอรมนี
(ภาพบน-กำแพงเบอร์ลิน อนุสรณ์ความอัปยศของมนุษย์ชาติในการแบ่งแยกคนเยอรมันเป็นสองฝ่าย หวังว่าพระสยามเทวาธิราชจะคุ้มครองประเทศไทยให้สามัคคีกันดังเดิม)
เพื่อค้นหาความลับว่า...อะไรที่ทำให้ประเทศนี้ประสบความสำเร็จทางด้านเศรษฐกิจได้ดีขนาดนี้
(เยอรมนีเป็นพี่เบิ้มของยุโรป ปัญหา Euro Zone ที่ยังประคับประคองกันได้อยู่ ก็อาศัยประเทศหลักอย่างเยอรมนี และยังเป็นผู้นำการส่งออกอันดับสามของโลกอย่างเครื่องไฟฟ้า เครื่องซักผ้า เบียร์
Mercedes Benz รถไฟฟ้าความเร็วสูง)
สองสามีภรรยาชาวอังกฤษได้ค้นพบว่า ระดับหนี้สินต่อครัวเรือนของคนเยอรมันอยู่ในระดับต่ำมากที่สุดในยุโรป ชาวบ้านทั่วไปนิยมใช้จ่ายด้วยเงินสดมากกว่าบัตรเครดิต
ธนาคารไม่อนุมัติบัตรเครดิตให้กันง่าย ๆ ในขณะที่ชาวเยอรมันก็ไม่ต้องการได้บัตรเครดิตง่าย ๆ เช่นกัน ทั้งยังสามารถออมเงินได้ 10% ของเงินเดือนแทบทุกคน
ผู้คนส่วนใหญ่มีเงินฝากในธนาคารเป็นกอบเป็นกำทำให้ระบบการหมุนเวียนของเงินกู้กับเงินฝากสมดุลกันได้ดี
คนเยอรมันไม่นิยมเอาบ้านหรือรถยนต์ไปจำนองเพื่อนำเงินมาทำธุรกิจ เพราะถือว่าเป็นความเสี่ยง
(ภาพบน-พลังงานบนดินโรงงานผลิตก๊าซชีวภาพBiogasและCBGใช้วัตถุดิบจากฟาร์มไร่ นาเกษตรกร มีทั่วประเทศ8000แห่ง จนเยอรมันกล้าประกาศที่จะไม่ใช้พลังงานนิวเคลียร์และลดการนำเข้าก๊าชธรรมชาติจากรัสเซีย)
(ภาพบน-รัฐสภาเยอรมัน สถานที่ส.ส และ ส.ว ออกกฏหมายด้านพลังงานทดแทนและเศรษฐกิจสีเขียวสำหรับเกษตรกร ที่นักการเมืองไทยทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น)
คนเยอรมันใช้เวลาทำงานต่อสัปดาห์น้อยกว่าคนในชาติอื่น ๆ ทั่วโลก แต่ได้ประสิทธิภาพมากกว่า
การทำงานล่วงเวลาถูกมองว่าเป็นสิ่งไม่เหมาะสม เนื่องจากการให้เวลากับครอบครัวหลังเลิกงานถือว่า
เป็นสิ่งสำคัญมาก
หญิงสาวชาวอังกฤษผู้หนึ่งยังให้สัมภาษณ์ว่า ชีวิตในที่ทำงานที่นี่เขาจริงจังกันมาก ไม่มีการพูดคุย นินทา
ไม่อยากรู้อยากเห็นว่าใครเป็นแฟนใคร ใครเลิกกับใคร ใครจะไปออกเดทกับใคร
ไม่แม้แต่จะเล่าเรื่องละครทีวีที่ดูเมื่อคืน เลิกงานแล้วจะไปไหน จะไปทานดินเนอร์กับใคร ก็ไม่มีการพูดคุยกัน
การมาทำงานสายจะถูกมองว่าเป็นคนไม่รักษาสัญญา จะมาสายสามนาทีหรือสามสิบนาที ก็ถือว่าเป็นคนไม่มีคุณภาพเพราะขาดความเคารพต่อตัวเองและองค์กร
สองในสามของคุณแม่มือใหม่จะไม่ทำงานนอกบ้าน การบอกว่าเป็น Housewife ในประเทศอื่น ๆ อาจจะรู้สึกเขินอายเหมือนว่าตนเองไม่มีงานทำ แต่ที่นี่มีแต่ความภาคภูมิใจหากจะได้เป็น Housewife
รัฐบาลให้สวัสดิการดีกับคุณแม่ที่ต้องออกจากงาน ทั้งนี้ก็เพื่อต้องการให้แม่ได้เลี้ยงดูลูกด้วยตนเอง
การให้เวลากับลูกถือเป็นสิ่งสำคัญ
ในวันอาทิตย์ ร้านรวงทั่วไปตามแหล่ง Shopping จะปิดเงียบ เพื่อให้ผู้คนส่วนใหญ่มีเวลาอยู่กับครอบครัว เมื่อสถาบันครอบครัวแข็งแรงประเทศชาติก็จะแข็งแรง
ระดับองค์กร ในยามยากของเศรษฐกิจ บริษัทส่วนใหญ่ไม่ใช้วิธีการ Lay off พนักงาน ไม่นิยมการปลดคนงานออกแบบกระทันหัน เพื่อความอยู่รอดของบริษัท
อาจจะเรียกว่าเป็นวัฒนธรรมองค์กรไปเสียแล้วที่บริษัทจะเป็นห่วงความอยู่รอดของพนักงานก่อน เพื่อที่จะได้ช่วยกันประคองให้บริษัทอยู่รอด พนักงานยินดีที่จะถูกลดรายได้อย่างพร้อมเพียงกันเพื่อให้ทุกคนอยู่ได้และบริษัทอยู่รอด
สิ่งนี้จึงสะท้อนให้เห็นถึงการรักพวกพ้อง รักองค์กร และรักชาติในที่สุด สังเกตได้จากทีมชาติฟุตบอลของเยอรมนี จะไม่ค่อยมีดาวเด่นที่โด่งดังระดับโลก แต่ก็สามารถคว้าแชมป์โลกได้ถึง 3 สมัยด้วยทักษะการเล่นอย่างเป็นทีมเวิร์คมากกว่าความสำเร็จจากความสามารถเฉพาะบุคคล
ใช่เลยครับ การใช้ชีวิตแบบพอเพียง ประหยัด จริงจังในหน้าที่ มีระเบียบวินัย ตรงต่อเวลา มีความรับผิดชอบสูง รักครอบครัว รักพวกพ้อง รักชาติ
เหล่านี้ล้วนเป็นอุปนิสัยขั้นพื้นฐานที่คนส่วนใหญ่ในเยอรมนีได้ปฏิบัติสืบต่อกันมา โดยไม่จำเป็นต้องมี
ยุทธศาสตร์ใหม่ ๆ อะไรที่แปลกแหวกแนวมากระตุ้นเศรษฐกิจให้เฟื่องฟูอย่างที่ประเทศอื่น ๆ ชอบทำกัน
Credit : บุญชัย ปัณฑุรอัมพร - CEO Blogs กรุงเทพธุรกิจ