ตอลสตอยมีแนวคิดแบบมนุษยนิยมและธรรมชาตินิยม เขาต่อต้านอำนาจรัฐ และอำนาจศาสนา รวมทั้งการถือครองกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินของบุคคล แต่บั้นปลายของชีวิตเขาก็กลับหันมาเลื่อมใสในคริสต์ศาสนาอย่างเคร่งครัด อุทิศบ้านของตนให้เป็นที่พักของนักแสวงบุญ และใช้ชีวิตอย่างชาวนา ตอลสตอย เสียชีวิตในปี ค.ศ.1910 อย่างเดียวดายที่สถานีรถไฟแห่งหนึ่ง ด้วยอาการปอดบวม - ค.ศ.2007 นิตยสาร Time ได้จัดอันดับ 10 วรรณกรรมที่ยิ่งใหญ่ตลอดกาล จากนักเขียนชั้นนำ 125 คน ผลปรากฏว่าได้แก่วรรณกรรมระดับโลกซึ่งเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง อาทิ “มาดามโบวารี” ของกุสตาฟ โฟแบร์, “การผจญภัยของฮัคเบอร์รี่ ฟินน์ “ ของมาร์ค ทวน,”โลลิต้า” ของวลาดิเมียร์ นาโบคอฟ, “แฮมเล็ต” ของเช็คสเปียร์ ฯ ใ นจำนวนนี้มีผลงานของ ลีโอ ตอลสตอย นักประพันธ์ชาวรัสเซีย ติดอันดับ 2 เรื่อง ได้แก่ “แอนนา คาเรนีน่า” ซึ่งครองอันดับที่ 1 และ “สงครามและสันติภาพ“ อยู่ในอันดับที่3 “สงครามและสันติภาพ” เป็นเรื่องที่กล่าวถึงเหตุการณ์ในรัสเซียสมัยสงครามนโปเลียน ช่วง ค.ศ.1805-1812 แต่ความโดดเด่นของนวนิยายเรื่องนี้ไม่ได้มีแค่ฉากการสู้รบในสงคราม หากแต่ลงลึกไปถึงจิตใจของผู้คนที่ประสบชะตากรรมจากสงคราม ตัวละครแต่ละตัวมีลักษณะเฉพาะตัวและพัฒนาการทางความคิดและพฤติกรรม ตอลสตอยเล่าเรื่องราวเหล่านี้ผ่านตัวละครต่าง ๆ ซึ่งเป็นตัวแทนของคนในสังคมรัสเซียในเวลานั้น โดยถ่ายทอดค่านิยมและคตินิยมของผู้คน ทั้งความกล้าหาญ ความทระนงองอาจ ของชายชาติทหาร การลุ่มหลงและบูชาในความรักของสตรี ความคิดแบบปัจเจกนิยม และความเคลือบแคลงในความเชื่อความศรัทธาที่เคยมี ตลอดจนสิ่งที่อยู่ก้นบึ้งในจิตใจของมนุษย์ทั้งด้านมืดและด้านสว่าง และเมื่อสงครามสิ้นสุดลงและสันติภาพกลับคืนมาแล้ว ตัวละครที่เหลืออยู่ต่างก็มีชีวิตตามวิถีแห่งตน บางคนแสวงหาความสงบสุข แต่บางคนก็โลดแล่นไปตามทิศทางที่ตนต้องการ การอ่าน สงครามและสันติภาพ จึงไม่ได้เป็นการอ่านงานวรรณกรรมที่มีความงดงามในด้านวรรณศิลป์ แต่เป็นการทำความเข้าใจมนุษย์ เข้าใจชีวิต และเข้าใจโลก ไปพร้อมกัน -

 See more at:

//www.truelife.com/detail/102231/guru#sthash.niuwMkw6.dpuf