พระเจ้าสุริยวรมันที่1...สร้างปราสาทหินเขาพระวิหารอุทิศแด่บรรพบุรุษของพระองค์ที่มีถิ่นอาศัยอยู่ที่นี่
ศิลาจารึกศรีสุกรรม กัมสเตง ระบุว่า พระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 หรือพระเจ้าอาทิตยราชทรงสืบเชื้อสายมาจากราชวงศ์ไศเลนทร ตั้งแต่สมัยพระเจ้าโกณฑัญญะที่ 2 และพระเจ้าโกณฑัญญะชัยวรมันแห่งอาณาจักรฟูนัน ครั้นบุรพกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ทั้ง 2 พระองค์สวรรคตแล้ว ได้รับยกย่องขึ้นเป็นเทพเจ้าหรือพระอินทรแห่งเขาพระวิหารที่เรียกว่าศรีวฤทเธศวร ตั้งอยู่ที่ปราสาทบ้านสระกำแพงใหญ่ จังหวัดศรีสะเกษ เทวสถานสำคัญ 2 แห่งนี้ จารึกเขาพระวิหารสลักขึ้นเมื่อ พ.ศ. 1580 ยืนยันว่า ศรีราชปติวรมะแห่งอาวาธยปุระได้มอบหมายให้ศรีสุกรรม กัมสเตง เป็นผู้รักษาซ่อมแซมสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ไว้เป็นอย่างดีตลอดมา หลักฐานดังกล่าวนี้แสดงให้เห็นว่าอาณาจักรฟูนันมีความสัมพันธ์ในระบบเครือญาติกับอาณาจักรสุวรรณภูมิมาตั้งแต่สมัยเริ่มต้นประวัติศาสตร์ เพราะตระกูลของศรีสุกรรม กัมสเตงเป็นผู้จดพงศาวดารของพระมหากษัตริย์โบราณทั้งฝ่ายไศเลนทรวงศ์และฝ่ายจันทรวงศ์ และเก็บรักษาคัมภีร์ไว้ จึงทราบถึงการสืบเชื้อสายของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 ทั้งฝ่ายพระราชบิดาและฝ่ายพระราชมารดา
ด้วยเหตุนี้ศาสตราจารย์ ดี.จี.อี ฮอลล์ จึงกล่าวว่า พระเจ้าอาทิตยราช มิได้ยุติบทบาทของพระองค์เพียงแค่เสด็จไปอัญเชิญพระแก้วมรกต กวาดต้อนผู้คนกลับมาแล้วเฉลิมฉลองสมโภชพระแก้วมรกต 1 เดือนเท่านั้น แต่ปรากฏหลักฐานว่า กษัตริย์นักรบพระองค์นี้ได้ฉวยโอกาสในขณะที่อาณาจักรกัมพูชาเกดจลาจลระส่ำระสาย ฆ่าฟันแย่งชิงอำนาจกันวุ่นวายอยู่นั้น เสด็จนำกองทัพเรือไปยกพลขึ้นบกทางฝั่งตะวันออก เมื่อ พ.ศ. 1544 ต่อจากนั้นเริ่มต้นทำสงครามกลางเมืองอย่างยาวนาน ต่อจากนั้นหันปรามขับไล่ พระเจ้าชัยวรมันที่ 5 ลงจากราชบัลลังก์ ต่อจากนั้นหันไปกำจัด พระเจ้าอุทัยทิตยวรมันที่ 1 กษัตริย์หุ่นเชิดของพวกนับถือศาสนาพราหมณ์ แล้วบุกเข้าโจมตีพระเจ้าชัยวีระวรมัน จนหายสาบสูญ ตลอดระยะเวลา 9 ปี ที่พระองค์ทรงพิชิตพระราชาเขมรลงไปได้อย่างเด็ดขาด แม้ฝ่ายศัตรูต่างพากันประนาณว่า พระองค์เสด็จขึ้นนั่งบนราชบัลลังก์ด้วยอาคมดาบ แต่พระองค์ทรงอ้างถึงสิทธิอันชอบธรรมว่าพระราชมารดาของพระองค์ทรงสืบเชื้อสายมาจากพระเจ้าปทุมสุริยวงศ์ยโสวรมัน เจ้าฟ้าหญิงผู้สูงศักดิ์ที่แท้จริงในราชวงศ์ขอม พระองค์จึงเป็นผู้มีสิทธิเหนือราชบัลลังก์แต่เพียงผู้เดียว
นักประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่ต่างยอมรับกันว่า พระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 อาจมีเชื้อสายราชวงศ์กษัตริย์กรุงตามพรลิงค์ นับถือศาสนาพุทธนิกายมหายาน พระองค์ทรงนำลัทธิคัมภีร์แบบใหม่ ศิลปวิทยาการ ตลอดจนบรรดาคณาจารย์ เข้าไปเผยแพร่ปลูกฝังในอาณาจักรกัมพูชาเมื่อกลางพุทธศตวรรษที่ 15 แต่ก็มิได้รังเกียจศาสนาพราหมณ์ เพราะปรากฏว่าศรีศังกรบัณฑิต ทำหน้าที่ปุโรหิตประจำราชสำนัก พระองค์ทรงเริ่มต้นบูรณาการ
ปราสาทหินเขาพระวิหารอย่างขนานใหญ่ โดยนำแบบแปลนแผนผังระบบสถาปัตยกรรม วิศวกรรม เครื่องประดับลวดลายต่างๆ เนรมิตปราสาทหินขนาดใหญ่บนยอดเขาสูง 675 เมตร ประกอบด้วย โคปุระมหามณเฑียร มหหาปราสาท ภวาลัย อันงดงามอลังการเหมือนดังวิหารสวรรค์วิมาน สถานสถิตของพระเจ้า ศูนย์รวมแห่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์และความจงรักภักดีต่อพระบูรพกษัตริย์ทั้งฝ่าย สุริยวงศ์ และ ฝ่ายจันทรวงศ์ แหล่งที่มนุษย์สามารถขึ้นไปเฝ้าเทพเจ้าในแดนสวรรค์
ศาสตราจารย์ยอร์ช เซเดส์ มีความเห็นว่า พระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 หรือพระบรมนิวาณบท ได้สร้างปราสาทเขาพระวิหารขึ้น โดยได้รับคำสั่งจากเทพเจ้าคือ องค์ศรีลิขเรศวร พระองค์จึงทุ่มเทใช้เวลาก่อสร้างอยู่นานถึง 11 ปี แม้จะยังไม่สำเร็จเรียบร้อยบริบูรณ์ แต่สามารถสร้างกุย พวกคะแมร์ พวกข่า พวกไต พวกลาว พวกจาม พวกเวียต บังเกิดความจงรักภักดีความสมานฉันท์โดยผ่านสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และเกรงกลัวพระองค์ในฐานะกษัตริย์ผู้มีความสามารถในวิชาไสยศาสตร์ ดังปรากฏข้อความในจารึกเขาพระวิหาร เค. 380 เสาตะวันออก ระบุว่า
ด้วยความสามารถในทางจิตศาสตร์ ศรีศูรยวรมะเทวะ ได้อัญเชิญดวงวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของภัทเรศวรแห่งลิงคปุระ(พราหมณ์กัมพู ต้นราชวงศ์จันทรา ที่วัดภู ในแขวงจำปาศักดิ์ ประเทศลาว) ให้มาสิงสถิตอยู่ที่เขาพระวิหาร แล้วปรากฏพระองค์ให้คนทั้งปวงเห็นเด่นชัด ศูรยวรมะเทวะทรงรับสั่งให้คนทั้งปวงปฏิญาณว่า จะจงรักภักดีต่อศรีลิขเรศวรและศรีภัทเรศวร จักช่วยกันบำรุงรักษาสถานที่แห่งนี้ไว้ มิให้ผู้ใดมาทำลายได้
หลักฐานสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงสายสัมพันธ์ของราชวงศ์ไศเรนทรแห่งสุวรรณภูมิกับราชวงศ์กัมพูหรือราชวงศ์จันทราแห่งกัมพูชา ซึ่งพัฒนาการเคียงคู่กันมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าโกณฑัญญะที่ 1 อภิเษกสมรสกับพระนางนาคีโสมา สถาปนาอาณาจักรกัมพูชาเมื่อราวปลายพุทธศตวรรษที่ 5 ครั้นอาณาจักรฟูนันเจริญเติบโตมีกำลังกล้าแข็งขึ้น เชื้อพระวงศ์คะแมร์พื้นเมืองส่วนใหญ่มักเป็นพระญาติฝ่ายสตรีมีอิทธิพลขึ้นในราชสำนัก รวมกำลังชาวพื้นเมืองก่อกบฏแย่งชิงอำนาจของฝ่ายไศเลนทรวงศ์ จึงเกิดการแข่งขันชิงอำนาจทางการเมืองอย่างรุนแรงในรูปสงครามล้างเผ่าพันธุ์ โดยมีข้ออ้างความแตกต่างทางศาสนา เชื้อชาติ หรือสิทธิอันชอบธรรมตลอดมา
นักประวัติศาสตร์ ตั้งข้อสังเกตว่า เมื่อใดอำนาจทางการเมือง การทหาร หรือเกิดปัญหายุ่งยากขึ้นในอาณาจักรสุวรรณภูมิหรืออาณาจักรตามพรลิงค์ หรืออาณาจักรศรีวิชัย พวกราชวงศ์จันทรามักแย่งชิงอำนาจไปจากฝ่ายราชวงศ์ไศเลนทรได้สำเร็จทุกครั้ง แต่ในที่สุดก็ถูกกองทัพราชวงศ์ไศเลนทรของอาณาจักรสยาม-ลพบุรีบุกเข้าไปปราบปรามจนสงบราบคาบ แล้วแต่งตั้งเจ้าชายขอมคือลูกผสมระหว่างชาวสยาม-ลพบุรี กับชาวคะแมร์พื้นเมืองขึ้นเป็นกษัตริย์ปกครอง ดังปรากฏเรื่องราวชัดเจนในประวัติศาสตร์สัมพันธ์ เป็นต้นว่ารัชกาลพระเจ้าโกณฑัญญะที่ 2 แห่งอาณาจักรฟูนัน , พระเจ้าชัยวรมันที่ 2 แห่งอาณาจักรกัมพูชา , พระเจ้าราเชนทรวรมันที่ 2 สมัยพระนครวัดอันมีลักษณะคล้ายกับเอกชนฟ้องร้องแย่งชิงทรัพย์มรดกในระหว่างวงศาคณาญาติกันตลอดจนมาถึงกลางพุทธศตวรรษที่ 15
พระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 ตามพระราชประวัติเป็นที่ยอมรับกันว่าพระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ชาตินักรบผู้มีชื่อเสียงเกรียงไกรที่สุด และทรงเป็นนักก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ามหาราชขอมพระองค์ใด หลักฐานทางประวัติศาสตร์เท่าที่มีอยู่ในปัจจุบันพอสันนิษฐานได้ว่า พระองค์ทรงเป็นชนชาติผสมอย่างน้อย 3 ราชวงศ์คือ ราชวงศ์ไศเลนทร สยาม-กรุงตามพรลิงค์-ทวารวดี กรุงละโว้และราชวงศ์ไศเลนทร-ขอม-กรุงกัมพูชา ด้วยเหตุนี้ พระองค์จึงมีสิทธิอันชอบธรรมาเหนือราชบัลลังก์อาณาจักรศรีวิชัยได้อีกด้วย
ขอขอบคุณ //www.dhammachak.net/board/viewtopic.php?f=14&t=71&start=10