<<
เมษายน 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
15 เมษายน 2553
 
 
ละคร จับตายวายร้ายสายสมร ตอนที่ 12

ตอนที่ 12
เสือออกมานั่งอยู่ริมชายหาดกับแหวน แต่เขายังคงครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อ ตอนบ่ายอยู่ เพราะเขาเชื่อว่าไล่ตามคนร้ายไปติด ๆ จึงไม่น่าจะหนีรอดไปได้อย่างไร้ร่องรอยขนาดนั้น

“คุณคิดเรื่องเมื่อบ่ายนี้หรือคะ”

“ผมไม่เข้าใจว่าไอ้มือปืนมันรู้ได้ยังไงมันถึงได้ชิงลงมือตัดหน้า”

“ลงมือตัดหน้า ตัดหน้าใครหรือคะ”

เสือรู้ตัวว่าหลุดปากรีบกลบเกลื่อน “อ๋อ เปล่า คือผมหมายถึงว่า ไอ้มือปืนนี่มันไวจริง ๆ ขนาดผมวิ่งตามมันไปติด ๆ มันยังหลุดมือผมไปจนได้”

“แล้วคุณไปเกี่ยวอะไรกับเค้าคะถึงได้วิ่ง ตามไป”

“พอดีผมกำลังจะขึ้นห้องได้ยินเสียงเอะอะโวยวายก็เลยวิ่งขึ้นไปดู เห็นหลังมันไว ๆ ก็เลยไล่ตาม เสียดายจริง ๆ เกือบจะได้ตัวมันอยู่แล้วเชียว”

“ชั้นว่าคุณโชคดีมากนะคะที่ไม่ถูกยิงตายซะก่อน ถามจริง ๆ เถอะที่คุณวิ่งตามไปน่ะไม่กลัวหรือ”

“ไม่ ตอนนั้นรู้อย่างเดียวว่าต้องจับไอ้มือปืนนี่ให้ได้”

“คุณนี่น่าจะไปเป็นตำรวจนะ ดูหน่วยก้านไม่เลวเหมือนกันนี่”

“ผมเกลียดพวกมือปืน อยากรู้จริง ๆ ว่าหัวใจมันทำด้วยอะไร มันถึงยิงคนที่ไม่มีทางสู้ได้อย่างเลือดเย็น ทั้ง ๆ ที่เค้าไม่ได้ทำอะไรให้มัน”

แหวนอึ้งไปเล็กน้อย “บางทีมันอาจจะทำไปเพราะความจำเป็นก็ได้ค่ะ และอีกอย่าง ไอ้พวกที่ถูกฆ่ามันก็ไม่ใช่คนดีเหมือนกันนะ คะ หลายคนชั้นว่ามันเลวมากกว่าพวกมือปืน ด้วยซ้ำ”

“ดูคุณจะเข้าใจหัวอกพวกมือปืนเหลือเกินนะ ผมว่าผมเปลี่ยนอาชีพไปเป็นมือปืนบ้างดีกว่า”

แหวนฝืนยิ้มอย่างขมขื่น ระหว่างนั้นเสียงโทรศัพท์มือถือเสือดังขึ้น เสือดูเบอร์แล้ว ชะงักก่อนจะกดรับ เทพโทรฯมาสอบถามเสือถึงเรื่องของพิเชษฐ์ เสือลุกขึ้นยิ้มให้แหวนก่อนเดินเลี่ยงออกไปพูดโทรศัพท์ต่อ แหวนมองตาม อย่างสนใจ ระหว่างนั้นเสียงโทรศัพท์มือถือของแหวนก็ดังขึ้นบ้าง แหวนมองเห็นเป็นเบอร์พ่อจึงกดรับ

พ่อโทรฯมาถามแหวนว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่า แหวนว่าไม่มีทุกอย่างเรียบร้อยดี ก่อนจะบอกว่าจะอยู่ที่รีสอร์ทอีกวันสองวัน ขณะที่เสือรายงานเทพว่ายังข้องใจอยู่ว่าทำไมมือปืนถึงลงมือตัดหน้าไปได้เหมือนรู้ว่าทางตำรวจกำลังต้องการตัวพิเชษฐ์อยู่ และว่าพรุ่งนี้เช้าจะเข้าไปรายงานที่ศูนย์บัญชาการ คุยเสร็จเสือก็หันกลับมา แหวนเองก็วางสายไปพอดีก่อนจะบอกว่าลูกค้าโทรฯมาสั่งดอกไม้ เสือจึงว่าลูกค้าโทรฯมาสั่งเฟอร์นิเจอร์เหมือนกัน แล้วทั้งคู่ก็ไม่สนใจเรื่องอะไรของอีกฝ่ายอีก มีเพียงความรักที่กำลังเบ่งบานอยู่ในหัวใจ

ที่อพาร์ตเมนต์อินคาโทรฯมาหาลิลลี่เพื่อจะนัดไปเที่ยวและกินข้าวด้วยกันอีก แต่ลิลลี่ปฏิเสธอ้างว่ามีงานรออยู่ที่ร้านมากมาย อินคาจะมารับไปส่งที่ร้าน ลิลลี่ก็ว่าไม่ต้อง ก่อนจะวางสายไปทันที ทำให้อินคาหงุดหงิดมาก หลังจากนั้นลิลลี่ก็ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์จ๊อดออกไปเที่ยวด้วยกันอย่างมีความสุข อินคารู้สึกว่าลิลลี่พยายามจะหลบหลีกเขาจึงโทรฯไปเช็กที่ร้านดอกไม้เพื่อความแน่ใจจึงได้รู้ว่าลิลลี่โกหก ขณะที่จ๊อดพา ลิลลี่ไปที่สวนรถไฟ

“คุณขี่รถพาชั้นวนซะรอบกรุงเทพฯ สุดท้ายก็มาลงเอยที่สวนรถไฟ”

“อย่าว่าผมเลยนะ ผมไม่รู้จะพาคุณไปเที่ยวไหนจริง ๆ กรุงเทพฯทุกวันนี้ถ้าไม่ใช่เดินห้างผมก็ไม่รู้ว่าคนเค้าไปไหนกัน หรือคุณอยากไปทะเลมั้ยล่ะ บางแสนก็ได้”

“ไม่ ชั้นว่าที่นี่ก็ดีแล้วล่ะ”

“แต่คุณต้องสัญญาอะไรกับผมอย่างนึงได้มั้ย”

“สัญญาอะไร”

“อย่าบอกใครนะว่าผมพาคุณมาเที่ยว ที่นี่”

“ทำไม”

“ก็มันเชยน่ะสิ ถ้าใครรู้เข้า ต้องอำผม ไปจนตายเลย อยู่ ๆ พาผู้หญิงมาเที่ยวสวนรถไฟ สุดเชยเลย”

“ชั้นไม่เห็นว่ามันจะเชยตรงไหนเลย ถ้าจะให้ดีนะ ชั้นว่าเราซื้อส้มตำไก่ย่างมากินจะครบสูตรกว่านะ”

“เอางั้นเหรอ งั้นก็ได้เลย คุณรอเดี๋ยวนะ”

จ๊อดกับลิลลี่นั่งกินไปหยอกล้อกันไปอย่างมีความสุข จนกระทั่งฝนตกลงมาแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว จ๊อดต้องไปเอาผ้าใบที่รถมากางเพื่อกันฝน ระหว่างนั้นเกิดฟ้าผ่าเสียงดัง ลิลลี่ตกใจกอดจ๊อดด้วยความตกใจ จ๊อดเองก็ตกใจกอดลิลลี่ไว้แน่นเช่นกัน พอลิลลี่รู้ตัวก็รีบผละออก

“ดูคุณกลัวมากนะ”

“ใช่ ในชีวิตชั้นไม่เคยกลัวอะไรเท่ากับตอนที่ฝนตกกับฟ้าผ่า”

ลิลลี่ทำหน้าจริงจัง จ๊อดหัวเราะ

“ตอนเด็ก ๆ ผมเดาว่าคุณต้องเป็นพวกลูกแหง่แน่ ๆ หรือไม่ก็ชอบวิ่งเล่นตอนฝนตกแล้ววันนึงฟ้าผ่าใส่ต้นมะพร้าว ลูกมันเลยตกใส่หัวคุณ คุณก็เลยกลัวฝังใจ ใช่มั้ย”

ลิลลี่ส่ายหน้า แววตามีความตื่นกลัวเมื่อนึกถึงอดีต

“มันยิ่งกว่าที่คุณพูดหลายร้อยพันเท่า”

“มากกว่านี้หลายร้อยพันเท่าเชียวเหรอ”

ลิลลี่พยักหน้ามองออกไปในสายฝน นึกถึงเหตุการณ์ตอนที่ต้องวิ่งหนีแบบไม่คิดชีวิตในครั้งนั้น

“คุณเชื่อมั้ย ชั้นเคยวิ่งโดยไม่หยุดทั้งคืนท่ามกลางฝนที่ตกหนักและเสียงฟ้าผ่า แล้วที่มันน่ากลัวกว่านั้นคืออะไรรู้มั้ย ถ้าชั้นหยุดวิ่งเมื่อไหร่มันหมายถึงว่าชั้นต้องตาย ชั้นต้องวิ่ง วิ่ง วิ่ง ทั้ง ๆ ที่หนาว ทั้ง ๆ ที่หิว ทั้ง ๆ ที่ขาไม่มีแรง วิ่งโดยที่ไม่รู้ว่าจะไปทางไหน ไม่เห็นอะไรนอกจากความมืด สายฝน เสียงฟ้าผ่า เสียงปืน สมองบอกอย่างเดียวว่าหยุดไม่ได้ หยุดไม่ได้”

จ๊อดมองลิลลี่อย่างเห็นใจทั้ง ๆ ที่ไม่ รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ ก่อนจะจับมือลิลลี่ขึ้นมาปลอบ

“แต่ตอนนี้คุณไม่ต้องกลัวแล้วนะ เพราะจากนี้ไปคุณจะมีผมอยู่เคียงข้างตลอดไป”

จ๊อดเช็ดน้ำตาให้ลิลลี่อย่างอ่อนโยน ลิลลี่มองหน้าจ๊อดอย่างตื้นตันพิงหน้าลงกับไหล่จ๊อด ด้วยความไว้วางใจ ทั้งสองอยู่ด้วยกันจนค่ำจ๊อดก็ขี่รถไปส่งลิลลี่ที่อพาร์ตเมนต์พร้อมกับหยอกล้อกันอย่างมีความสุข แล้วจ๊อดก็ขอขึ้นไปส่งลิลลี่ ลิลลี่ยอมตกลงแต่ขอให้อยู่แค่หน้าห้องเท่านั้น

“พรุ่งนี้ผมมารับคุณอีกนะ”

“อุ๊ย ไม่ได้แล้ว พรุ่งนี้ชั้นต้องทำงาน ขืนไปกับคุณอีกโดนพี่แหม่มด่าแน่”

“อย่างงั้นกินข้าวเย็นกัน ตกลงมั้ย”

“ถ้าเย็นก็โอเค”

“งั้นพรุ่งนี้ทุ่มนึงผมไปรับที่ร้านนะ”

“ตกลง” ลิลลี่ตบมือจ๊อด จ๊อดกำมือไว้ ทั้งสองสบตากัน ลิลลี่มองเขิน ๆ ก่อนจะบอกให้จ๊อดไปได้แล้ว

“ขอหอมแก้มหน่อย”

“ไม่ได้”

“นิดเดียว” จ๊อดทำอ้อน

ลิลลี่ยิ้มอายแต่เอียงแก้มให้ “งั้นก็ เร็ว ๆ”

จ๊อดจุ๊บแก้มลิลลี่ “นอนหลับฝันดีนะ”

“คุณก็เหมือนกัน”

จ๊อดหันเดินจากไป โดยมีลิลลี่โบกมือให้ก่อนจะหันมาหยิบกุญแจไขเข้าห้องไป แล้ว ลิลลี่ก็แทบช็อกเพราะอินคาแอบเข้ามารอเธออยู่ในห้องตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้

จบตอนที่ 12
เครดิต เดลินิวส์


Create Date : 15 เมษายน 2553
Last Update : 15 เมษายน 2553 13:06:40 น. 0 comments
Counter : 223 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 

Heavenworth
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมค่ะ
[Add Heavenworth's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com