ผมลืมตาขึ้นในความมืดมิด หลับตาและลืมตาอย่างนั้น อยู่ สักสามสี่ครั้งแล้วก็ รู้ว่ามัน ไม่มี ประโยชน์เลย หลับตาและลืมต่าง มิต่างกัน ผมนิ่งไป อีกสักไม่กี่อึดใจ ผมก็รู้สึกเหมือนร่างกาย กระตุกวาบไปทั้งตัว แล้วแสงสว่าง ช่องทาง ก็ เหมือนปรากฏขึ้นผม ไม่แน่ใจว่าผม ลืมตาหรือหลับตา
ภาพแรกที่ผมเห็น ร่างกาย ผมเบาบาง โปร่งใส ยืนอยู่ในห้องห้องหนึ่ง ที่นี่ที่ไหน ผมค่อยๆระลึกถึงคำตอบ แต่ร่างกายผม ขับเอง เดินไปหาหญิงสาว วันสัก ยี่สิบปลายๆ บนเตียง ที่มีสายน้ำเกลือ ผมเหมือนจะรู้จักเธอ เธอมองหน้าผมอย่างตื่นตระหนก งงงุน แล้ว ข้อมูลต่างก็หลั่งไหลเข้ามาในหัวผม ผมคือวิญญาณ ของชายคนหนึ่งที่เพิ่งเสีย และกลับมาหา หลานที่เป็นคนพยาบาลดูแลผมมาโดยตลอด แต่เธอป่วยจากการดูแลผมมากไป จนต้องเข้ามานอนในโรงพยาบาล ที่บ้านเกิด ส่วน ผมนั้นก็สิ้นใจ แล้วก็กลับมาหาด้วยความเป็นห่วง ผมมองลูบแขนเธออีกครั้ง และอยากรู้ว่ามันเจ็บมากไหม และ อยากบอกขอบคุณที่รักและดูแลกัน แล้วร่างกายผมก็ กระตุกวูบ มีแต่ความมืดมิดอีกครั้ง
สายตาผม เริ่มปรับให้ชินกับแสงสว่างที่มีอยู่มากมาย ที่นี่ที่ไหนกัน เต็มไป ด้วย อุปกรณ์ อิเลคทรอนิคส์มากมาย คอมพิวเตอร์ หลอดทดลอง ตู้กระจก สัตว์ หรืออะไรสักอย่างในตู้นั้น ผม ไม่รู้ว่ามันคืออะไร ครั้งนี้ ตัวผมมิได้โปร่งใสอีกแล้ว หากแต่สวมชุดเสื้อกราวนด์ขาวยาว ทั้งตัว ผมรู้สึกสิ้นหวัง หดหู่ เหมือน ผมกำลังจะตาย เหนื่อยและ อ่อนแรง เจ้าหมาน้อยตัวหนึ่ง คาบเอาอาหารสังเคราะห์มาให้ ผม มันเป็นถุง อาหารเหลว ผมพยายามกินแต่ก็ไม่ไหว ลูบหัวเจ้าหมาน้อยตัวนั้น และเป็นห่วงมันเสียเหลือเกิน ว่า หากผมตายลงไปมันจะอยู่อย่างไร ผมรู้ว่ามันฉลาดพอที่จะอยู่ ในห้องนี้ ศูนย์การททดลองนี้ ที่เหลอเพียงมันกับผม หนึ่งคน กับหนึ่งตัว ลาก่อนนะเจ้าลูกรักของพ่อ เพื่อน ตัวสุดท้าย ...
ทั้งร่าง ผมกระตุกวูบอีกครั้ง...... คราวนี้ ร่างกาย ผมกลับไป โปร่งแสงอีกครั้ง ร่างกายสัมผัสถึงความหนาวเย็น ผมยืนแอบมอง แสงไฟส่องสว่างวับวาวจากบ้านหลังหนึ่ง บนยอดเขาแห่งหนึ่งที่รกร้างและไร้ผู้คนเต็มไปด้วยความเงียบเหงา และหนาวเหน็บจากหิมะ ที่ทับถม กันหนาแน่นพายุหิมะที่พัดโหมกระหน่ำ กระโชก จนแม้แต่ก้อนหินก็แทบจะปลิดปลิวไปกับสายลมที่พัดกระหน่ำ ไม่ลืมหูลืมตา ชายนักปีนเขาทั้งห้าคน ที่นั่งจับเจ่ารอความช่วยเหลือ ที่ไม่มีวันมาถึง ผม.... ไม่สิ ควรต้องบอกว่า ฉัน หรือ ดิฉันเสียมากกว่า เพราะ ร่างโปร่งแสงเย็นยะเยือก เช่นนี้ เพราะผมคือ จิตวิญญาณแห่งหิมะ สาวงามแห่งความหนาวเย็น มฤตยูแห่งความหนาวที่คอยปลิดชีวิตคน ด้วยความความเยือกเย็น ผมได้ยินเสียงกระซิบแผ่วเบา เป็น ประโยคบ้าง ไม่เป็น ประโยคบ้างจากชายทั้งห้าคนที่กำลังอ่อนแรงลงเรื่อยๆ และ นั่งรอความตาย จับความได้บ้างไม่ได้บ้าง เป็นประโยคบ้างไม่เป็นประโยคบ้าง "ไม่มีใครดีเกินไปเกินกว่าที่เราจะรักได้" เสียงอู้อี้จากชายคนหนึ่งกล่าวขึ้น โลกนี้อาจจะไม่มีปาฏิหาริย์มากพอสำหรับเราทุกคน" ชายอีกคนกล่าวขึ้นบ้าง การจากลาย่อมเศร้าโศกเสมอไม่ว่าจะจากกันด้วยดีหรือไม่........ ชายอีกคนกล่าวเสร็จแล้วเสียงก็เงียบไป เราทุกคนมีต่อมน้ำตา และนั่นแปลว่า ชีวิตอนุญาตให้เราร้องไห้ได้ ความตายย่อมน่าเศร้าหากใช้ชีวิตอย่างไม่คุ้มค่า แล้วเทียนเล่มสุดท้ายก็ดับลง ทุกสิ่งทุกอย่างตกอยู่ในความมืดมิด ผมรู้ว่า ชายทั้งหมดสิ้นลมแล้วจากความหนาวเย็น จาก ปิศาจหิมะตนนี้............ ร่างผมกระตุกอีกครั้ง
ผมตื่นขึ้นอีกครั้ง บนถนนสายเปลี่ยว มืดมิด ผมสะดุ้งตื่น ขึ้นมาบน รถโดยสาร ระหว่างทาง กรุงเทพ สระแก้ว ท่ามกลางความหนาวเหน็บของบรรยากาศยามค่ำคืน เสียงรถดังกระหึมในความเงียบ
พวงมาลัยในมือผมครางเสียงออดแอดมาให้ได้ยินเบาๆแรงสัมผัสจากพื้นที่ส่งต่อมายังพวงมาลัย ทำให้ผมต้องพยายามรีบระลึกให้ได้ว่าผมเป็นใคร อยู่ที่ไหน ผมเป็นคนขับรถ มองผ่านกระจกมองหลังไป เป็นรถโดยสาร มีชายคนหนึ่งรูปร่างผอมนอนคุดคู้อยู่หลังรถ เจ้าเปี๊ยกกระเป๋ารถเมล์คู่บุญของผม พระที่นั่งอยู่กลางรถ และชายหนุ่มคนหนึ่ง ที่นั่งเขียนอะไรบางอย่างลงบนสมุด...... บนถนนสายเปลี่ยว มืดมิด แล้วร่างผมก็ กระตุกอีกครั้ง
ผมลืมตาขึ้นมา พร้อมนั่งนึกว่าผมกำลังทำอะไรอยู่ ....รอบตัวมีชุดสีขาวละลานตามากมาย หญิงสาวที่ ยืน อยู่ตรงหน้าผม ยิ้มละมัย เธอสวมชุดสีขาวสะอาดตา พลิ้วไหว...
โอ๊ต โทรหาพี่มิกด้วยสิ บอกว่าเรากำลังจะแต่งงานแล้วนะ ถ้าเราไม่ได้พี่มิก สอนลีดส์จะได้แต่งงานกันไหมนี่ แล้ว เธอก็ หัวเราะเบาๆ มือผมกำอะไรบางสิ่งบางอย่างอยู่ในมือ อ้อ มันคือโทรศัพท์นั่นเอง
ตรืด......ตรืด......... เสียงโทรศัพท์ดังในหูผม และรอด้วยใจจดจ่อ พี่ชายผมจะรับเมือไหร่
ฮัลโหล...ครับ สวัสดีครับ เสียงพี่ชายที่คุ้นเคย ดังมาจากลำโพง
" พี่......ผม โอ๊ต นะคร้าบบบบ ..... จำผมได้ไหม" ผมกรอกเสียงเข้าไปในโทรศัพท์
" ได้ดิ โอ๊ต เหรอ.....เป็นไงสบายดีไหม?? " ผมได้ยินน้ำเสียงกระตือรือร้นของพี่ชาย
ผมจะบอกว่าผมจะแต่งงานแล้วนะพี่ แต่งกับ หยก ที่เป็นลีดส์คู่ผมไง เมษานี้นะครับพี่
พร้อมกับมองหน้า หญิงสาวที่กำลังจะเป็นคู่ชีวิตของผม เธอยิ้มและมองอย่างดีใจ
เสียงตอบออกมาตามสายโทรศัพท์ เอ่อ .... ดีใจด้วยว่ะ ดีใจจริงๆๆ
แล้วร่างกายผมก็กระตุกอีกครั้ง แต่มันไม่เหมือนเดิม แสงสว่างวาบและดับลง มีหญิงสาว ในชุด แบบญี่ปุ่น ผมนอนอยู่ท่ามกลางสายระโยงรยางค์ และ อยู่ในห้อง สีทึมๆ ตกแต่ง แบบ ตะวันออก และมีเครื่องอำนวยความสะดวกแบบล้ำยุค
สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับกลับมา สู่โลกแห่งความเป็น จริง ค่ะ เป็น อย่างไรบ้างค่ะ บริการ Recall Side Story
เธอยิ้มและพูดกับผมว่า ฝันถึงอะไรบ้างค่ะ ฝันดีไหมค่ะ กับ บริการของ Recall
.
เขียนงานตะพาบได้เข้ากับโจทย์ดีครับ แถมยังเป็นภาคต่อของงานเก่าของตัวเองจำนวนมากมายหลายเรื่อง .....
ปล. เรื่อง postcard น้องมิกทำเป็นภาพมาแปะที่บล็อกผมก็ได้ครับ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาส่งมาทางไปรษณีย์ .....