จะยอมเป็นเจ้าชายนิทรา แล้วใช้เวลาที่ยังมีทั้งคืน ข่มตานอนหลับฝันไม่ยอมตื่น ให้รักเรายังยั่งยืนอยู่ในฝัน

 
กันยายน 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
8 กันยายน 2553
 

:: ถนนสายนี้มีตะพาบ โครงการ 15 :: ผีเยี่ยมไข้

:: ถนนสายนี้มีตะพาบ โครงการ 15 ::


:: ผีเยี่ยมไข้ ::


ฤาความผูกพัน ไม่จำกัดแค่เพียงระยะทาง





เรื่องเล่าเรื่องนี้ ผมคงบอกได้แค่เพียงว่าเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าความผูกพัน หรือความห่วงใยมีจริงเท่านั้น ส่วนเรื่องราวเหลือเชื่ออื่นๆนั้นขอให้ทุกท่านลองพิจารณาดูเอาตามแต่สิ่งที่ทุกคนคิด


         เรื่องราวเริ่มขึ้นเมื่อผมอายุเพียงไม่กี่ขวบราวๆปี 2527-2528 ผมก็จำไม่ได้แน่ชัด ปราจีนบุรียังคงเป็นเมืองที่เงียบเหงา เปล่าเปลี่ยว แม่ผมไม่สบายหลังจากที่กลับมาจากดูแล ตาเหลิม  ซึ่งเป็น พ่อของน้าสะใภ้  ซึ่งป่วยเป็น โรคตับแข็ง ที่ รพ.พระมงกุฎฯ แม่ผมซึ่งเป็นพยาบาลเพียงคนเดียวของครอบครัว ก็ได้ไปดูแล ตาเหลิม ซึ่งแม้จะเป็นเพียง พ่อ ของน้าสะใภ้ แต่เราก็สนิทกัน


         แม่อาการไม่ค่อยดีหลังจากที่กลับมาจากกรุงเทพฯ ป่วย จนกินอาหารไม่ได้และต้องได้รักษาตัวอยู่ที่ โรงพยาบาลประจำจังหวัด สมัยนั้น ยังเป็นโรงพยาบาลขนาดไม่ใหญ่นักเหมือนในปัจจุบัน ซ้ำภายในโรงพยาบาลก็ยังมีวังเก่า ของเจ้านายผู้บริจาคให้เป็นพื้นที่ของโรงพยาบาลเสียด้วย


      แม่บอกว่าคืนนั้น  แม่ลืมตาขึ้นมาประมาณสองทุ่ม รู้สึกร้อนอบอ้าว อย่างบอกไม่ถูก จึงถามน้าเก่ง คนเฝ้าไข้มา หิวหรือเปล่า  เสียง หมาก็เห่าหอน ขึ้นมาอย่างมากมาย พร้อมกับอากาศหนาวยะเยือกที่ค่อยๆ พร่างพรม


       แม่ก็หลับตาลง อีกครั้งเพื่อจะพักผ่อน และอ่อนแรงจากนอนหลับยาที่หมอให้  แต่แม่ก็รู้สึกกระสับกระส่ายจนนอนไม่ได้ อากาศที่เริ่มเย็นลงเรื่อยตามปกติยามค่ำคืน ราวกับหนาวเหน็บขึ้นมา ในยามที่ครึ่งหลับครึ่งตื่นนั่นเอง   แม่ลืมตาขึ้นมา เหมือนกับรู้สึกว่ามีใครจ้องมองอยู่ หากแต่พอลืมตาขึ้นมานั้น  สิ่งที่ทำให้แม่ตกใจแทบสะดุ้ง ก็คือ  พ่อเหลิมหรือ ตาเหลิม นั้น ยืนอยู่ข้างเตียง ที่แม่นอน ใส่ชุดคนไข้ของโรงพยาบาลพระมงกุฎฯ สีเขียวอ่อน มีตราและคำเขียนว่า โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าฯ เต็มเสื้อ เหมือนเสื้อโรงพยาบาลทั่วไป  เชือกผูกที่เสื้ออันบนสุดหลุดลุ่ยอยู่อย่างชัดเจน   ภาพที่เห็นไม่ได้ลางเลือน หรือเป็นเพียงเงาหากแต่ชัดเจนราวกับ พ่อเหลิมยืนอยู่ตรงนั้น แต่สิ่งที่มีแม่คิด คือ พ่อเหลิม มาได้อย่างไร ?


  แม่ขยับปากจะถาม ว่า พ่อเหลิมมาได้อย่างไร หากแต่เหมือนมีอะไรมาทำให้แม่พูดไม่ออก ราวกับถูกสะกด



ลองขยับตัวเองก็ไม่สามารถขยับได้  ทำได้เพียงจ้อง พ่อเหลิมอยู่อย่างนั้น


ตาเหลิมขยับปากเหมือนจะบอกว่าไม่เป็นไร  หรือ ไม่ต้องห่วง ไม่ต้องกลัว แต่ก็ไม่มีเสียงหลุดรอดออกมาแม้แต่เพียงเสียงเข็มตก



          สายตาที่ตาเหลิมมองแม่นั้น แม่บอกว่า สงสารแม่ แกมกังวล  มือที่แข็งแรงของตาเหลิม ค่อยๆลูบ ตามแขนที่แม่เข้าน้ำเกลือ แต่สิ่งที่แม่รู้สึก เหมือนเพียงแค่ลมพัดผ่านแผ่วเบา ตาขนลุกซู่ไปตามที่ตาเหลิมลูบ  ตาเหลิมยืนมองแม่อีกเพียงไม่นาน ก็หันหลังกลับจะเดินออกไปทางหน้าประตู แต่ตาเหลิมก็หยุดก่อนที่จะถึงหน้าประตูนั้น เพราะว่ามีแผ่นทองคำเปลวติดอยู่ที่บานประตูเหมือนห้องโรงพยาบาลทั่วไปสมัยผมยังเด็ก  ตาเหลิมเดินถอยหลังกลับมาแล้วเดินทะลุกำแพงด้านข้างห้อง ออกไปราวกับเป็นประตู  



แม่รู้สึกงุนงง และ สับสนอย่างบอกไม่ถู หากแต่มีชาชีพพยาบาลที่ร่ำเรียนมาก็ไม่ได้ทำให้แม่กลัวตกใจเกินเหตุ



เมื่อแม่ขยับตัวได้จึกหันไปถามน้าเก่งว่า  “เก่ง  เก่ง  นอนหรือ ยัง   หลับไปหรือยัง  ตะกี้เห็นอะไรไหม” 



น้าเก่งก็หันมาตอบว่า "ยังไม่นอนพี่ แค่ง่วง  หมามันหอนหนักเหลือเกิน แต่ตอนนี้มันเงียบไปแล้ว"



  "อืมไม่มีอะไรหรอก"   แม่ผมตอบ  " นอนเถอะ กลัวหรือเปล่าล่ะ "



"ไม่กลัวหรอกพี่ แล้วพี่ม่วยล่ะ กลัวไหม"    น้าผมถาม



แม่ไม่ตอบหากแต่ในใจทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นจนแม่ผลอยหลับไป






จนรุ่งเช้า คุณตาของผม เอาข้าวเช้ามาให้แม่กินตามปกติ เพราะแม่ผมไม่ชอบกินข้าวของโรงพยาบาล แล้วบอกว่าพ่อผมยังไม่ได้กลับมาจากกรุงเทพ นะ


แม่ก็เลย  ถามสวนขึ้นว่า  จะรอกลับพร้อมศพพ่อเหลิมเหรอ


คุณตาของผมตกใจ พร้อมงุนงง  ว่ารู้ได้อย่างไร 


แม่จึงเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟังตั้งแต่ต้น ว่าตาเหลิมมาได้อย่างไร และกลับไปยังไง


หลังจากงานศพตาเหลิมผ่านไป แม่อาการดีขึ้น และได้กลับไปที่ รพ.พระมงกุฎอีกครั้ง เพื่อไปขอบคุณที่ฝาก ตาเหลิมไว้ในการดูแลของ น้องพี่ๆๆพยาบาลที่ รพ.พระมงกุฎ   แม่ก็เลยเอ่ยถามว่า ใครเป็นคน อาบน้ำแล้วก็ห่อศพพ่อพี่จะขอบคุณเสียหน่อย  น้าพยาบาลก็ใจดีรีบตอบว่า หนูเองพี่มีอะไรไม่เรียบร้อยหรือเปล่า


อ๋อ ไม่มีไรหรอกจะขอบคุณ เอ่อ ถามหน่อยสิ วันนั้นพ่อพี่ใส่เสื้อสีอะไรเหรอวันที่เสีย เพราว่าที่ รพ.พระมงกุฎมีเสื้อหลายสี  จำได้ไหม    แม่ผมถาม


อ่อ จำได้สิพี่ ใส่เสื้อสีเขียว เชือกผูกตรงคอมันขาดเลยผูกไม่ได้ หนูจำได้แม่นมากเลยพี่  มีไรหรือเปล่าค่ะ  พยาบาลที่ ward ตอบ



ตาเหลิม หลังจากวิญญาณออกจากร่างแล้วก็ มาหาแม่อย่างไม่ต้องสงสัย ลักษณะอาการรูปลักษณ์ที่เห็นก็เป็นรูปลักษณ์ก่อนที่เสียชีวิต ตาเหลิมคงมาด้วยความห่วง ที่แม่ไม่สบายหลังจากที่ดูแลตนเอง เลยมาเยี่ยมและมาเพื่อบอกลา ว่าไปแล้วไม่ต้องห่วงนะ รีบหายไวๆๆ






ตาเหลิมยังมาหาลูกหลานอีกหลายครั้งหลายครา บางครั้งก็มาเพียงมือ มาแหย่ลูกสาวคนเล็กเล่น พอน้าสาวเห็นก็สะบัดผ้ากลิ้งหลุนเข้าไปใต้เตียงพอเปิดไฟไปดูก็ไม่มีอะไร  กระบี่นายร้อยของตาเหลิม หากไม่ใช่ลูกหลาน ก็ไม่มีใครกล้าหยิบจับ  เคยมีเพื่อนของน้องชายลองดี เอากระบี่มาเล่น  คืนนั้นนอนค้างที่บ้าน แทบไม่ได้นอนทั้งคืน มีคนเฝ้ามาดึงขาไม่ให้หลับให้นอนตลอดทั้งคืน จนเช้าต้องขอขมากันทีเดียว กระบี่นายร้อยเล่มนี้ผมก็เคยลองจับกับมือ หากแต่ก็ไม่เกิดอะไรที่แปลกประหลาด แล้วคุณล่ะ กล้าลองจับไหม




**********************************************


ลองเขียนครั้งแรกครับกับโครงการถนนสายนี้มีตะภาพ กม.15
กับประสบการณ์ที่ได้ยินจากปากคนที่เจอกับตนเอง
จะจริงตามนั้นหรือเปล่ก็ไม่ทราบได้ หรือจะเป็นเพียงฝัน หรือเคลิ้มไปกับยา หรือความป่วยไข้ แต่สถานะการณ์หลายอย่างก็บอกได้แต่เพียงว่า คงต้องใช้วิจารณญาณในการพิสูจน์กันเองครับ







Create Date : 08 กันยายน 2553
Last Update : 22 พฤศจิกายน 2553 16:47:37 น. 25 comments
Counter : 1617 Pageviews.  
 
 
 
 
เป็นเรื่องที่น่ากลัว แต่ไม่น่ากลัวครับ

รู้สึกถึงความห่วงใยผูกพันมากกว่า

ขอบคุณที่เขียนด้วยกันนะครับ

คราวหน้า ถ้าว่าง เชิญใหม่ครับ

วันที่ 23 นู่น

 
 

โดย: มนุษย์ต่างดาว..ผมยาว..ปากหวาน...ขอซักตัวได้ไหมครับ (เป็ดสวรรค์ ) วันที่: 8 กันยายน 2553 เวลา:22:05:17 น.  

 
 
 
 
 

โดย: Sleeping_prince วันที่: 8 กันยายน 2553 เวลา:22:08:44 น.  

 
 
 
สามารถมาก น้องชายชั้น..
 
 

โดย: poongie วันที่: 8 กันยายน 2553 เวลา:22:09:01 น.  

 
 
 
อารมณ์เหมือนคุณเป็ดสวรรค์เลยค่ะ ...
กลัวเล็กๆ แต่ว่าความผูกพันมาเป็นเรื่องใหญ่เลย

สำหรับตัวเองแล้วอ่ะค่ะ เราว่าถ้าเป็นสิ่งเร้นลับ
เป็นเรื่องเล่า และเรื่องราวของผุ้ใหญ่ที่เรารู้จัก เราจะ
ไม่กลัวเลยนะค่ะ เพราะถือว่าเราทำดีต่อกัน
เค้าอาจจะมาด้วยบางเรื่องบางอย่าง หรือว่าคิดถึงกัน
สื่อถึงกันไดแม้ว่าจะไม่ได้มีกายหยาบแล้วก็ตาม


ตัวหนังสือสวยมากค่ะ แถมภาพก็ทำให้
คิดอะไรตามได้หลายอย่างด้วยแน่ะค่ะ .. .อ่านไป
เพลินไปค่ะ ...


งวดก่อนแวะไปเม้นท์ที่บล็อกเรา .. ว่าจะตามมาดู
ภาพถ่าย ก็เปลี่ยนไปแล้วไม่เป็นไรค่ะเดี๋ยวเราตามอ่านนะค่ะ
 
 

โดย: JewNid วันที่: 8 กันยายน 2553 เวลา:22:26:11 น.  

 
 
 
อ่านเพลินเลยค่ะ
เคยมีนะคะประสบการณ์คล้ายๆแบบนี้
แต่ไม่เห็นตัวเหมือนคุณแม่ ได้ยินแต่เสียง

ตอนแรกคิดว่าหูแว่ว แต่เพื่อนที่นอนอยู่ด้วยกัน
บอกว่าก็ได้ยิน ไว้มีเรื่องผีอีก จะมาเล่าให้ฟังค่ะ


แอมอร
 
 

โดย: peeamp วันที่: 8 กันยายน 2553 เวลา:22:44:55 น.  

 
 
 
เค้ามาดีค่ะ ไม่ได้มาหลอกให้เรากลัว มาเพราะความห่วงใย

แหม..ไปตามอ่านตอนดึกๆ มันกลัวนะคะ แค่รูปประกอบก็สยองแล้ว

ปล.แสดงว่าคุณเจ้าชายนิทรา(ก็ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าอะไร) ทำงานสาธารณสุขใช่มั๊ย ถ่ายรูปสวยจัง

ไปก่อนดีกว่า อยู่นานไม่ได้ มันหลอน

ราตรีสวัสดิ์ค่ะ
 
 

โดย: kapeak วันที่: 8 กันยายน 2553 เวลา:22:46:56 น.  

 
 
 
สวัสดีครับคุณ Sleeping_prince

เมื่อกี๊เพิ่งไปอ่านเรื่องโครงการถนนสายนี้มีตะพาบของคุณ kapeak มา แล้วมาอ่าเรื่องหลอนๆ ที่บล็อกนี้อีก ดีนะที่ไม่ได้อยู่คนเดียว...ไม่งั้นได้ขนลุกแน่
 
 

โดย: NET-MANIA วันที่: 8 กันยายน 2553 เวลา:23:05:34 น.  

 
 
 
ลืมตอบที่ไปเม้นต์ถามไว้ในบล็อกผมเสียนี่

คุณ Sleeping_prince ความจำดีมากเลยนะครับ ขนาดไม่ได้มาปราจีนตั้งนานแล้ว ยังจำรายละเอียดได้แม่นยำ วัดที่ผ่านก่อนไปน้ำตกเขาอีโต้ก็มีวัดถ้ำเขาอีโต้ครับ แต่ที่เห็นผ่านๆ เหมือนตอนนี้ไม่มียักษ์ตรงทางเข้าแล้วนะ

ส่วนในภาพพานอรามาเป็นค่ายพรหมโยธีจริงๆ ครับ แม่นมากๆ

ศาลเจ้าแม่ทับทิมใหม่สร้างใกล้เสร็จแล้ว อยากไปถ่ายงิ้วเหมือนกันครับ ไว้สร้างเสร็จน่าจะมีงานฉลอง ถ้ามีโอกาสจะเก็บภาพมาฝากนะครับ
 
 

โดย: NET-MANIA วันที่: 8 กันยายน 2553 เวลา:23:13:36 น.  

 
 
 
สวัสดียามเช้าครับ

อ่านแล้วนึกถึงตอนเพื่อนผมตายไปปีนึง
แล้วกลับมาเข้าฝันผม
เขาก็แค่มาบอกว่า
ไปสบายแล้ว
ไม่ต้องห่วงอะไร

แบบนี้มาดี ไม่น่ากลัวครับ

แต่ตาเหลิมออกจะขี้เล่นเหมือนกันนะครับ แหะๆๆ









 
 

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 กันยายน 2553 เวลา:5:43:04 น.  

 
 
 
อรุณสวัสดิ์ค่ะ
แวะมาอ่านงานตะพาบค่ะ ท่านหญิงฯไม่เชื่อเรื่องผีแต่กลัวผีค่ะ เอ๊ะ.ยังไง
 
 

โดย: ท่านหญิงน่าเกลียด วันที่: 9 กันยายน 2553 เวลา:7:18:25 น.  

 
 
 
ครูจรัลท่านเสียที่ลำพูนครับ
บ้านท่านก็อยุ่ที่นั่นเช่นกันครับ

 
 

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 กันยายน 2553 เวลา:7:19:14 น.  

 
 
 
ทำไมยังไม่ได้ทำล่ะ ..

ตาเหลิมมาดึงขาทั้งคืนหรือไง..


ถ้าคิดจะลอก.. ขอบอกว่า..เสียใจ.. ส่งหัวหน้าไปแล้วคร๊าบ............
 
 

โดย: poongie วันที่: 9 กันยายน 2553 เวลา:7:53:47 น.  

 
 
 
แวะมาทักทาย และขอบคุณที่ไปเยี่ยมบล๊อกครับ....

จากบล๊อก...
เห็นด้วยอย่างมาก ว่าแหล่งท่องเที่ยวบ้านเรา
มักพัฒนาเป็นแหล่งโลกีย์ได้ดีมากๆ
แทนที่จะสงวนไว้ สำหรับ เที่ยว หรือพักผ่อน
หรือไม่ก็ ที่นั่นมักมีเจ้า..เสมอ.

 
 

โดย: wicsir วันที่: 9 กันยายน 2553 เวลา:8:23:56 น.  

 
 
 
สวัสดีครับน้องชาย

พี่มาอ่านตามคำเชิญชวน

ชวนตั้งแต่เมื่อคืนแน่ะ พอดีเปิดมาก็ดึกไปหน่อย เลยคิดว่าอย่างไรเสีย เช้าวันนี้ก็ต้องมา

น้องเขียนได้ดีเลยทีเดียว ดูเรื่องสั้นสัมพันธภาพ ก็รู้ได้ทันทีว่าเมืองไทยเรามีคนเขียนหนังสือที่เก่งอีกคน ไม่ทราบว่าเคยฝากผลงานตีพิมพ์ตามหน้านิตยสารต่างๆบ้างหรือยัง

ถ้ายัง ก็รีบลองหาสนามลงนะ เขียนเรื่องส่งนิตยสาร ถ้าได้ลงตีพิมพ์ ก็ได้ตังค์ เป็นความภูมิใจอีกอย่างหนึ่ง แต่เขียนลงบล็อก ไม่ได้ตังค์ ได้ความสุขใจ ได้มิตรภาพที่แสนดีจากเพื่อนดีๆในโลกไซเบอร์

ซึ่งบางครั้งพี่ว่ามันอิ่มเอมใจมากกว่าได้ตังค์อีก เลยแอบมาเขียนมากมายอยู่นี่ไง สุขใจที่ได้เล่า เราเกลาของเราเอง เป็นบรรณาธิการเอง อย่างไรก็ได้ลง ขออย่ามีคำหยาบคำต้องห้ามก็แล้วกัน

มีความสุขกับการงานประจำวัน และสิ่งที่รักมากๆนะครับ
 
 

โดย: ปลายแป้นพิมพ์ วันที่: 9 กันยายน 2553 เวลา:9:51:31 น.  

 
 
 
เรื่องแบบนี้ใครไม่เจอเองจะไม่ค่อยเชื่อนะคะ
สำหรับคนที่เคยเจอ คงรู้ว่าประสาทสัมผัสที่รับรู้ไม่ได้ปกติ
เหมือนกับมีช่องอะไรสักอย่างที่เปิดให้สื่อสารได้

มิกเขียนหนังสือเก่ง
เขียนบ่อยๆนะคะ พี่ชอบอ่านลายอักษรของมิกค่ะ
 
 

โดย: SevenDaffodils IP: 68.48.3.234 วันที่: 9 กันยายน 2553 เวลา:10:18:57 น.  

 
 
 
ฉันก็มีประสบการณ์ใกล้เคียงกัน เค้าว่าถ้าจิตเราผูกพันกับใครมากๆเราจะสัมผัสกับพลังหลังความตายได้

ขอบคุณที่แบ่งปันกันอ่าน
 
 

โดย: คล้ายดาว วันที่: 9 กันยายน 2553 เวลา:11:29:23 น.  

 
 
 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
 
 

โดย: kapeak วันที่: 9 กันยายน 2553 เวลา:11:57:09 น.  

 
 
 
สวัสดีค่ะ...

ตามมาบรื๋อแล้วค่ะ
อ่านตอนกลางคืนกลัวนอนไม่หลับ
มาตอนเที่ยงๆ บ่ายๆ แบบนี้ดีกว่า

ความผูกพันที่มีให้กันนะคะ
จะไปแล้วก็เลยมาร่ำลาซะหน่อย

หนึ่งอัพบล็อคเชียงใหม่แล้วค่ะ
ต้องรีบลงซะหน่อย
เดี๋ยวมีทริปใหม่ๆ อีกค่ะ

 
 

โดย: chenyuye วันที่: 9 กันยายน 2553 เวลา:13:30:52 น.  

 
 
 
เมื่อคืนว่าจะเข้ามาอ่านค่ะเพราะกำลังจะออกจากเน็ตพอดี แต่คิดว่ามาอ่านตอนกลางวันดีกว่า อยู่คนเดียวด้วยสิ เดี๋ยวหลอนแล้วจะนอนไม่หลับ อ่านจบแล้วขนลุกค่ะ...ผีเยี่ยมไข้...ของแท้


สวัสดีค่ะคุณSleeping
 
 

โดย: aenew วันที่: 9 กันยายน 2553 เวลา:13:33:07 น.  

 
 
 
มาแบบนี้ก็ดีนะคะ แต่ว่าเราก้กลัวนะ
 
 

โดย: magic-women วันที่: 9 กันยายน 2553 เวลา:14:29:40 น.  

 
 
 
ว้าววว สมาชิกใหม่ของตะพาบ อิอิ

ชอบภาพแรกจังค่ะ ดูวังเวงมาก
เห็นแล้วรู้สึกถึงความไม่เที่ยงของชีวิตจริงๆ

ทั้งน่ากลัว และหดหู่...

ถ้าได้เห็นวิญญานของคนที่เราัรักและรักเรามาหาแบบกายหยาบแบบนั้นก็หลอนเหมือนกันนะคะ ถึงแม้่เราจะรักเค้า หรือจะรู้ว่าเค้ามาแบบไม่มีอันตราย แต่ความกลัวก็ยังมีอยู่ดี นอกเสียจากมาในฝัน
ตอนที่คุณพ่อเสีย ฉัตรยังไปนอนบนเตียงของท่าน ตรงที่ท่านนอน...เพราะผู้ใหญ่ที่วัดบอกว่า่อย่ากลัวหรือกังวล ถ้าเราไม่นอนทับที่ท่าน ท่านจะห่วงว่า่ที่นอนนั้นไม่มีใครนอน อันนั้นน่ากลัวกว่า...ออิอิ

เลยยอมเสี่ยงกับความกลัวเป็นครั้งแรก...
นอนก็นอน อิอิ ^ ^'

เขียนบรรยายได้ดี ถาพประกอบก็เหมาะเหม็๋งกับบรรยากาศของความ"หนีไม่พ้น"ค่ะ

 
 

โดย: ณ ปลายฉัตร วันที่: 9 กันยายน 2553 เวลา:19:45:56 น.  

 
 
 
ไปเที่ยว.. เดชอุดมกัน..
 
 

โดย: poongie วันที่: 9 กันยายน 2553 เวลา:22:23:48 น.  

 
 
 
ดึกแล้ว ยังไม่กล้าอ่าน พรุ่งนี้ค่อยแวะมาใหม่ดีกว่า
 
 

โดย: ภูผา กะ วาริน วันที่: 9 กันยายน 2553 เวลา:22:41:22 น.  

 
 
 
อ่านแล้ว....รู้สึกถึงความผูกพัน ความห่วงใยที่มีให้กันดีคะ...ถ้าเจอแบบนี้...คงนอนไม่ค่อยหลับแน่ๆ คะ

ถ้าเป็นคนไข้ หรือคนอื่นๆ ที่ไม่สนิทก็ไม่ได้กลัวนะคะ ตอนพี่อยู่ รพ. ก็มีคนไข้เสียชีวิตในตอนทำงานเหมือนกันคะ...แต่ไม่เคยกลัวเลย....เพราะคิดว่าได้โลช่วยเหลือเขาจนถึงที่สุดแล้ว ....แต่จำได้ว่าตอนเรียนอยู่ปี 4 ไปฝึกงานในชุมชน แล้วเพื่อนเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตไปพร้อมกัน 2 คน.....พี่และเพื่อนๆ นอนไม่หลับไปหลายเดือนเลยคะ...ยานอนหลับยังเอาไม่อยู่
จริงๆ แล้ว ความกลัวมันเกิดจากจิตใจของเราคิดมากสารพัดเลยคะ..... ตอนนี้เวลาไปนอนที่ไหนคนเดียวก็ยังหวาดหวั่นเหมือนกันคะ
 
 

โดย: Maew-Tua-Lek วันที่: 9 กันยายน 2553 เวลา:23:05:16 น.  

 
 
 
ขอบคุณครับ..
ประสบการณ์ดี ๆ จากความผูกพัน
ผีน่ารักก็มีเนอะ
 
 

โดย: ไกลเกินใจสายเกินแก้ วันที่: 11 กันยายน 2553 เวลา:8:19:04 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

Sleeping_prince
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




แม้รูปจะไม่สวย เรื่องจะไม่เด่น แต่ขอสงวนลิขสิทธิ์ตาม พรบ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.2539 ห้ามละเมิดไม่ว่าการลอกเลียน นำรูป ข้อความที่เขียนไว้หรือส่วนหนึ่งส่วนใดในบล็อกแห่งนี้ ไปเผยแพร่อ้างอิง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล็อกนะครับ Instagram
New Comments
[Add Sleeping_prince's blog to your web]

MY VIP Friend

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com