กรรมเก่า คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ.เป็นเจ้าบทบาทเดิม จากนั้น การศึกษาอาศัยปรโตโฆสะ ซึ่งมีคติว่า "คนเป็นไปตามสภาพแวดล้อมที่ปรุงปั้น" และโยนิโสมนสิการ ซึ่งมีคติย้อนกลับว่า "ถ้าเป็นคนรู้จักคิด แม้แต่ฟังคนบ้าคนเมาพูด ก็อาจสำเร็จเป็นพระอรหันต์"
space
space
space
<<
กันยายน 2567
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
space
space
23 กันยายน 2567
space
space
space

การสังคายนาครั้งที่ ๑


 
235 ปฐมสังคายนา
 
     แม้ว่าท่านพระสารีบุตรได้แสดงตัวอย่างวิธีการทำสังคายนาไว้  ท่านก็ไม่ได้อยู่ที่จะทำงานนี้ต่อ เพราะว่าได้ปรินิพพานก่อนพระพุทธเจ้า   แต่ก็มีพระสาวกผู้ใหญ่ที่ได้ดำเนินงานนี้ต่อมาโดยไม่ได้ละทิ้ง กล่าวคือพระมหากัสสปเถระ  ซึ่งตอนที่พระพุทธเจ้าปรินิพพานนั้น   เป็นพระสาวกผู้ใหญ่ มีอายุพรรษามากที่สุด
 
     พระมหากัสสปเถระนั้น  ทราบข่าวปรินิพพานของพระพุทธเจ้า  เมื่อพระองค์ปรินิพพานแล้วได้ ๗ วัน ขณะที่ท่านกำลังเดินทางอยู่พร้อมด้วยหมู่ลูกศิษย์จำนวนมาก
 
     เมื่อได้ทราบข่าวนั้น   ลูกศิษย์ของพระมหากัสสปะจำนวนมากซึ่งยังเป็นปุถุชนอยู่  ก็ได้ร้องไห้คร่ำครวญกัน ณ ที่นั้นมีพระภิกษุที่บวชเมื่อแก่องค์หนึ่ง ชื่อว่าสุภัททะ  ได้พูดขึ้นมาว่า “ท่านทั้งหลายจะร้องไห้กันไปทำไม  พระพุทธเจ้าปรินิพพานนี้ก็ดีไปอย่าง คือว่า  ตอนที่พระองค์ยังอยู่นั้น พระองค์ก็คอยดูแลคอยกวดขัน  ตรัสห้ามไม่ให้ทำสิ่งโน้นสิ่งนี้  แนะนำให้ทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ พวกเราก็ลำบาก  ต้องคอยระมัดระวังตัว  ทีนี้พระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้วนี้  พวกเราคงจะทำอะไรได้ตามชอบใจ ชอบอะไรก็ทำ ไม่ชอบอะไรก็ไม่ทำ”  


     พระมหากัสสปเถระได้ฟังคำนี้แล้ว ก็นึกคิดอยู่ในใจว่า  พระพุทธเจ้าปรินิพพานไปใหม่ๆ แค่นี้  ก็ยังมีคนคิดที่จะประพฤติปฏิบัติให้วิปริตไปจากพระธรรมวินัย  ท่านก็เลยคิดว่าควรจะทำการสังคายนา

     ท่านวางแผนว่าจะชักชวนพระเถระผู้ใหญ่ ซึ่งเป็นพระอรหันต์ทั้งหลายที่มีอยู่สมัยนั้น ซึ่งล้วนทันเห็นพระพุทธเจ้า ได้ฟังคำสอนของพระองค์มาโดยตรง และได้อยู่ในหมู่สาวกที่เคยสนทนาตรวจสอบกันอยู่เสมอ  รู้ว่าอะไรเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า จะชวนให้มาประชุมกัน มาช่วยกันแสดง  ถ่ายทอด  รวบรวมประมวลคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า  แล้วตกลงวางมติไว้ ก็คือคิดว่าจะทำสังคายนา
 
     แต่เฉพาะเวลานั้น  ท่านต้องเดินทางไปยังเมืองกุสินารา แล้วก็เป็นประธานในการถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระ ในพระราชูปถัมภ์ของกษัตริย์มัลละทั้งหลาย
 
     เมื่องานถวายพระเพลิงเสร็จแล้ว  ท่านก็ดำเนินงานตามที่ได้คิดไว้ คือ ได้ชักชวนนัดหมายกับพระอรหันต์ผู้ใหญ่  เพื่อจะทำการสังคายนา  

     ต่อจากนั้นก็เป็นเรื่องของงานใหญ่แห่งการสังคายนา  ซึ่งมีการเตรียมการถึง ๓ เดือน ก่อนที่จะประชุมที่ถ้ำสัตตบรรณคูหา ณ ภูเขาชื่อเวภาระ  นอกเมืองราชคฤห์ ในพระราชูปถัมภ์ของพระเจ้าอชาตศัตรู
 
     ในการประชุมนี้ พระมหากัสสปเถระทำหน้าที่เป็นประธาน  โดยเป็นผู้ซักถามหลักคำสั่งสอน ซึ่งพระพุทธเจ้าเองทรงแบ่งไว้เป็น ๒ ส่วน เรียกว่า ธรรม ส่วนหนึ่ง และ วินัย ส่วนหนึ่ง
 
     ธรรม  คือ  หลักคำสอนว่าด้วยความจริงของสิงทังหลาย   พร้อมทั้งข้อประพฤติปฏิบัติที่พระพุทธเจ้าทรงแนะนำตรัสแสดงไว้โดยสอดคล้องกับความจริงนั้น
 
     ส่วน วินัย คือประมวลพุทธบัญญัติเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ในการเป็นอยู่ของภิกษุและภิกษุณี
 
     ด้วยเหตุนี้จึงเรียกพระพุทธศาสนา  ด้วยคำสั้นๆ ว่า ธรรมวินัย  การสังคายนาคำสอนของพระพุทธเจ้า จึงเป็นการสังคายนาพระธรรมวินัย
 
     ในการสังคายนาครังนี  มีการเลือกพระเถระ ๒ องค์ที่มีความโดดเด่นในการทรงจำพระพุทธพจน์ได้แม่นยำ และเชี่ยวชาญในแต่ละด้านของพระธรรมวินัย
 
     ฝ่ายธรรมนั้น   ผู้ที่ได้ฟังคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าอยู่ตลอดเวลา   เพราะติดตามพระองค์ไป อยู่ใกล้ชิด  เป็นผู้อุปัฏฐากของพระองค์   ก็คือพระอานนท์   ที่ประชุมก็ให้พระอานนท์เป็นผู้นำเอาธรรมมาแสดงแก่ที่ประชุม
 
     ส่วนด้านวินัย   พระพุทธเจ้าทรงยกย่องพระอุบาลีไว้ว่าเป็นเอตทัคคะ  ที่ประชุมก็คัดเลือกพระอุบาลีให้มาเป็นผู้นำในด้านการวิสัชนาเรื่องของวินัย
 
     เมื่อได้ตัวบุคคลเรียบร้อยแล้ว  พระอรหันต์ ๕๐๐ องค์ก็เริ่มประชุมกัน  จากนั้นก็ให้พระเถระทั้งสององค์นำพุทธพจน์มาสาธยายแสดงแก่ที่ประชุม  โดยประธานในที่ประชุมคือพระมหากัสสปะวางแนวการนำเสนอ  ด้วยการซักถามอย่างเป็นระบบ คือตามลำดับและเป็นหมวดหมู่
 
     พุทธพจน์  พร้อมทั้งเรื่องราวเกี่ยวข้องแวดล้อม  ที่นำมาสาธยายนี้  ถ้าเป็นครั้งพุทธกาล พระพุทธเจ้าก็ทรงรับรองด้วยพระองค์เอง   แต่ในการสังคายนาครั้งแรก   ก็ต้องอาศัยที่ประชุมพระอรหันตเถระทั้ง ๕๐๐ องค์  รับรองแทน  เมื่อได้มติร่วมกันเกี่ยวกับเนื้อหาในเรื่องใด  พระเถระในที่ประชุมก็สวดพร้อมกัน   เนื้อหาที่ผ่านการรับรองก็จะถือเป็นที่ยุติให้เป็นแบบแผนที่จะทรงจำถ่ายทอดกันต่อมา
 
     การประชุมเพื่อทำสังคายนาครั้งประวัติศาสตร์นี้ดำเนินอยู่เป็นเวลา ๗ เดือนจึงเสร็จสิ้น มีเรื่องราวปรากฏในพระวินัยปิฎก จุลลวรรค
 
 
 


Create Date : 23 กันยายน 2567
Last Update : 23 กันยายน 2567 18:50:06 น. 0 comments
Counter : 115 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
space

สมาชิกหมายเลข 6393385
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]






space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 6393385's blog to your web]
space
space
space
space
space