|
|
จุดหมายของการมาทำวัตรสวดมนต์อยู่ที่ตรงนี้ ตรงที่ให้เรานึกถึงคุณงามความดีของพระผู้มีพระภาคเจ้า ทั้งพระธรรม พระสงฆ์ คนอื่นก็เหมือนกัน เช่น เหมือนกับว่าพ่อแม่ครูบาอาจารย์ของเรา ถ้าเราได้นึกถึงบ่อยๆ เราก็เกิดความสำนึกมีความรัก ความกตัญญูกตเวทีต่อท่าน แต่ถ้าเราไม่นึกถึงเลย เราก็เฉยๆ ไม่มีพันธะทางจิตใจในแง่ศีลธรรม เพราะไม่ได้นึกถึงท่านเหล่านั้น เพราะฉะนั้น การนึกถึงนี้เป็นเรื่องที่ดี ในกัมมัฏฐาน ๑๐ ประการ (อนุสสติ ๑๐) จึงได้มีบทอยู่ว่า พุทธานุสสติ ให้ระลึกถึงพระพุทธเจ้า ธัมมานุสสติ ให้ระลึกถึงพระธรรม สังฆานุสสติ ในระลึกถึงพระสงฆ์
เวลาเราไปอยู่ในป่าในดง บางทีก็มีความสะดุ้งหวาดกลัวเกิดขึ้นในใจ พระผู้มีพระภาคเจ้าก็สั่งว่า ถ้าเธอมี สะดุ้งหวาดเสียวเกิดขึ้น ให้นึกพระพุทธเจ้า ให้นึกว่า อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ฯลฯ พระในสมัยก่อนท่านสวดแล้วท่านรู้ เพราะคนในประเทศนั้นเขาพูดภาษามคธ ภาษาที่เราสวดกันนี้ เขาเรียกว่าภาษามคธ คือภาษาที่เขาให้พูดกันในแคว้นมคธ หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ภาษาบาลี คนในสมัยนั้น พอได้ยินคำว่า อะระหัง ก็เข้าใจความหมาย สัมมาสัมพุทโธ ก็เข้าใจความหมาย เพราะเป็นภาษาที่ชาวบ้านชาวเมืองเขาพูดกันทั่วๆไป เพราะฉะนั้น พระองค์จึงสั่งว่า เมื่อใดเธอมีความสะดุ้งหวาดเสียวเกิดขึ้น ก็ให้นึกถึงคุณของพระพุทธเจ้า อิติปิ โส ภะคะวา เป็นต้น หรือมิฉะนั้น ก็ให้รู้สึกถึงพระธรรมคุณว่า สวากขาโต ฯลฯ หรือนึกถึงคุณพระอริยสงฆ์ว่า สุปะฏิปันโน ฯลฯ ให้ว่าไปตามลำดับ ขณะที่เรานึกถึงใจเราก็นึกตามไป ความสะดุ้งกลัวจะหายไป
เพราะฉะนั้น เวลาใดความกลัวเกิดขึ้น เราก็จงนึกถึงพระพุทธเจ้า นึกถึงพระธรรม พระสงฆ์ จะช่วยให้จิตใจเราคลายจากความกลัว การนึกมันก็ได้ประโยชน์อย่างนี้ หรือในเวลาใดที่จิตใจเรามันตกต่ำ มีกิเลสบางประเภทเกิดขึ้นในใจ เช่น เกิดความโกรธ เกิดความเกลียด เกิดความริษยาขึ้นในใจ เรารู้ตัวว่าเรากำลังโกรธ รู้ว่ากำลังเกลียด กำลังริษยา เราก็นึกถึง พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ ความโกรธ ความเกลียด ความริษยานั้น ก็หายไปจากจากจิตใจของเรา อันนี้ เป็นเรื่องที่ได้ประโยชน์ เราจึงได้มาทำกันในรูปดังกล่าว และเราจะต้องศึกษาให้เข้าใจถ้อยคำทุกบท เช่นว่า บทว่า อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ อะไรนี่
เวลาเรามาสวดมนต์ไหว้พระ เราก็มีสถานที่เฉพาะ คือเรื่องเกี่ยวกับการปฏิบัติในทางจิตใจนี่ เราจะต้องมีเฉพาะเป็นที่ เช่น ในบ้านก็เป็นห้องพระ ซึ่งมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ อย่างน้อยก็องค์หนึ่ง บางทีก็หลายองค์ บางบ้านก็เรียกว่า “เล่น” มีมากมาย แต่ถ้าเอาไว้เป็นเครื่องสักการบูชา ก็เพียงสักองค์หนึ่ง แล้วเป็นห้องพิเศษ เมื่อใดมีความทุกข์ความเดือดร้อนใจ เราก็เข้าไปในห้องนั้น เหมือนกับว่าเป็นโบสถ์น้อยๆ ในครอบครัวของเรา เมื่อเราเข้าไปนั่งอยู่ในโบสถ์ใจก็นึกถึงพระพุทธเจ้า จิตก็จะได้สงบ เมื่อจิตสงบแล้ว เราก็จะได้ใช้จิตนั่นคิดค้นในเรื่องปัญหาที่ทำให้เกิดความทุกข์ ความเดือดร้อนต่อไป. อันนี้เป็นเรื่องที่มีอยู่ในบ้านเรา
ที่เรามีพระพุทธรูปไว้ในบ้าน ไม่ได้หมายความว่า พระพุทธรูปจะคุ้มครองเรา มิใช่อย่างนั้น แต่เรามีไว้เป็นเครื่องเตือนจิตสะกิดใจ ให้เรานึกถึงคุณงามความดีของพระผู้มีพระภาคเจ้า แล้วเราก็ไปกราบไปไหว้ เรามาตามวัดวาอาราม ที่ใดเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูป ซึ่งถือว่าเป็นรูปเปรียบ แทนคุณงามความดีของพระพุทธเจ้า เราก็นั่งลงกราบไหว้ด้วยความเคารพ ถือเป็นวัฒนธรรมและประเพณีของคนทั่วไป การกราบก็ต้องกราบให้ถูกต้อง ไม่ใช่กราบพอพ้นไป กราบก็ต้องกราบอย่างตั้งอกตั้งใจ แล้วก็นั่งสงบจิต.
Create Date : 24 ธันวาคม 2564 |
|
0 comments |
Last Update : 14 เมษายน 2565 8:29:42 น. |
Counter : 617 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|