|
|
ต่อ
พระเจ้าอเล็กซานเดอร์แห่งกรีกในสมัยนั้น เมื่อยกทัพมาที่อินเดียตอนเหนือได้ ก็นำเอาอารยธรรมของกรีกมาด้วย ก็คนกรีกในสมัยนั้น พระเยซูยังไม่เกิด ศาสนาคริสสต์ยังไม่มี คนกรีกในสมัยนั้น นับถืออะไร ? นับถือเทวดา เทวดามากมาย เขาเรียกกันว่าเทพเจ้าอะพอลโล เทพเจ้าวีนัส เทพเจ้าอะไรต่ออะไรเยอะแยะ ได้ยินชื่อกันอยู่บ่อยๆ เป็นเทพเจ้าของพวกกรีก เวลานี้ในกรุงเอเธนส์ ตามสถานที่โบราณเก่าๆ ล้วนเป็นวิหารของเทพเจ้าทั้งนั้น เขารักษาไว้ให้คนไปชม เพราะเขานับถือเทพเจ้า แล้วเขาปั้นรูปเทวดาไว้ไหว้
คนกรีกนับถือเทวดาถึงขนาดนั้น เช่นว่า หญิงสาวยังไม่มีสามี แล้วเกิดมีท้องอะไรขึ้นมา เขาไม่ว่าอะไร ก็บอกว่าเทวดาแอบไปหาเวลากลางคืน เลยแม่คนนั้นมีท้องขึ้นมา ไม่ใช่เรื่องเสียหาย เรื่องนี้แหละ เป็นต้นเหตุที่จะให้พูดว่า พระเยซูเป็นบุตรพระผู้เป็นเจ้า คือเมื่อศาสนาคริสต์เข้าไปถึงกรีก ก็คงจะตั้งปัญหาถามกันขึ้นว่า บิดาของพระเยซูเป็นใคร พระนางมาเรียตั้งท้องก่อนแต่งงาน ทีนี้ เขาก็เลยบอกว่าลูกของพระผู้เป็นเจ้า พวกกรีกก็รับ เชื่อ เพราะฐานมันมีอยู่แล้ว เลยก็เชื่อตามนั้น
รวมความว่าในประเทศกรีก นับถือเทวดา มีรูปเทวดาไว้กราบไว้ไหว้มากมาย ท่าทางต่างๆ เมื่องกองทัพของอเล็กซานเดอร์รุกขึ้นมาถึงอินเดีย ก็เอารูปเทวดามาไหว้ มาบูชา ชาวอินเดีย เห็นเข้าก็เป็นเรื่องตื่นเต้น
คนใดมีอำนาจ มีอิทธิพล คนอื่นก็เห็นว่าดีไปหมด ไปเห็นว่าพวกกรีกทำเข้าทีไหว้รูปเคารพ เขาก็เลยคิดทำรูปเคารพขึ้นในอินเดีย พวกศาสนาพราหมณ์ทำก่อน ศาสนาพุทธยังไม่ทำ ศาสนาพราหมณ์ เขาก็มีสิ่งที่เคารพ ๓ อย่าง เป็นใหญ่ เรียกว่า พรหมะ วิษณุ ศิวะ
“พรหมะ” หมายถึงผู้สร้างโลก
“พระวิษณุ” นี่ผู้ปราบปรามเรื่องเหตุร้ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโลก
“พระศิวะ” เป็นผู้รักษาโลกให้อยู่รอดปลอดภัย ดังปรากฏ ในเรื่องที่เราเคยอ่าน เช่น เรื่องรามเกียรติ์ พระวิษณุอวตารลงมาเกิดเป็นพระราม ปราบยุคเข็ญ ชาวอินเดีย เขานับถือ เทพเจ้าสำคัญ ๓ องค์ และยังมีเทพเจ้าย่อยๆ เล็กๆน้อยๆ มากมายรวมแล้วตั้ง ๓๐ โกฏิ ไม่ใช่น้อยๆ ๓๐๐ ล้าน มากเข้าไปอีก เมื่อเขาบูชาเทวดาแบบเดียวกับกรีก เขาก็จะทำรูปเทวดาไว้กราบไหว้ แต่ไม่รู้จะปั้นอย่างไร รูปพระอิศวรหน้าตาอย่างไรก็ไม่รู้ พระพรหมหน้าตาอย่างไรก็ไม่รู้ อย่าปั้นรูปท่านเลย เอาเครื่องหมายดีกว่าแทนพระอิศวร เขาก็ทำเครื่องหมาย เครื่องหมายพระอิศวร ก็คือ ศิวลึงค์ นั่นเอง
ใครไปวัดโพธิ์ก็เห็นปักไว้อันหนึ่ง คนชอบไปไหว้ ผู้หญิงก็ไปไหว้ไปบนบานศาลกล่าว เอาแป้งไปทาบ้าง เอาดอกไม้ไปบูชาบ้าง อะไรต่ออะไร นั่นแหละเขาเรียกว่า ศิวลึงค์ เป็นเครื่องหมายของพระอิศวร เขาปักไว้เป็นที่บูชาสักการะ
Create Date : 27 ธันวาคม 2564 |
Last Update : 14 เมษายน 2565 8:56:23 น. |
|
0 comments
|
Counter : 348 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|